15 : 19,001 ล้านบาท โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ได้มีการเบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 15,422 ล้านบาท โดยโครงการมีการเบิกจ่ายคิดเป็นร้อยละ 57 ของงบประมาณที่ จัดสรรสู่สถานศึกษา โครงการนี้เป็นโครงการที่สนับสนุนให้นักเรียนทุกคนเรียนฟรี 15 ปี ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับ ม. 6 โดยมีหลักการและเหตุผล เพือ ่ สร้างโอกาส ทางการศึกษาให้นักเรียนทุกคนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม อีกทั้งเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจโดยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง เป็นการเพิม ่ กำาลังซื้อ ภายในประเทศ เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำาหรับรายการหนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครือ ่ งแบบนักเรียน และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่ภาครัฐให้การสนับสนุน
นักเรียนในสายสามัญและอาชีพ ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับ มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำานวนกว่า 12 ล้านคน ใน 40,000 โรงเรียนทั่วประเทศ
ได้โอนงบประมาณผ่านสถานศึกษาและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นค่าหนังสือ เครือ ่ งแบบนักเรียนอุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จ่ายกิจกรรม พัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยนักเรียนและ ผู้ปกครองรับเงินสด สำาหรับค่า เครื่องแบบนักเรียนคนละ 2 ชุด และอุปกรณ์การเรียนคนละ 1 ชุด ซึ่งผ่าน ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในเรื่องของงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เมือ ่ วันที่ 13 มกราคม 2552 เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าเล่า เรียนเพิ่มเติมสำาหรับการศึกษาของเอกชนหนังสือเรียนอุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียนและกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามแผนงานเสริม สร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงด้านสังคมโครงการสนับสนุน การจัดการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 15 ปี โดยแบ่งเป็น -
ค่าหนังสือเรียน 4,203,370,800 บาท
-
ค่าอุปกรณ์การเรียน 1,531,983,800 บาท
-
ค่าเครือ ่ งแบบนักเรียน 3,158,678,100 บาท
-
ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 2,117,506,400 บาท 11,011,539,100
ซึ่งแต่ละรายการมีรายละเอียดดังนี้ 2 1.1 ระดับก่อนประถมศึกษาใช้หนังสือเสริมประสบการณ์สำาหรับเด็ก ปฐมวัย 1.2 ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาใช้หนังสือเรียนทั้ง 8 กลุม ่ สาระ ทุกระดับชั้น 2. ประกอบด้วยแบบฝึกหัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับประถม ศึกษา ประกอบด้วย คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ สมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด เครือ ่ งมือเรขาคณิต วัสดุฝึก ICT (CD) สำาหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และกระดาษ A4 สีเทียน ดินนำ้ามันไร้สารพิษ ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่จำาเป็นสำาหรับ นักเรียนทั้งสิ้น 1.
3.
4.
ประกอบด้วย เสื้อ/กางเกง/กระโปรง คนละ 2 ชุด / ปี ในกรณี นักเรียนมีชุดนักเรียนเพียงพอแล้ว สามารถซื้อเข็มขัด รองเท้า ถุงเท้า ชุดลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด/ชุดกีฬาได้ แต่ถ้าเป็นกรณีการจัดซื้อชุด นักเรียนที่ต่างไปจากชุดนักเรียนปกติและราคาสูงกว่าที่กำาหนด วงเงินดังกล่าวอาจซื้อได้เพียง 1 ชุด เป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่สถานศึกษาจัดขึ้นประกอบไปด้วย กิจกรรมทั้ง 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.กิจกรรมวิชาการ 2.กิจกรรมคุณธรรม/ ลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด 3.ทัศนศึกษา 4.การบริการสารสนเทศ/ICT โดยผู้ที่มีส่วนร่วมในการพิจารณาครั้งนี้มีอยู่ทั้งหมด 4 ฝ่ายด้วยกัน ได้แก่ ฝ่ายผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนชุมชนและผู้แทน กรรมการนักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผล การพิจารณาต้องไม่เป็นการรอนสิทธิ์ของเด็กยากจนและด้อยโอกาสที่ พึงจะได้รับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีรายละเอียดดังนี้ 1. ที่จัดเพิ่มเติมจากการเรียนปกติ เพือ ่ ให้ นักเรียนทุกคนได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ ส่งเสริมเด็กเก่งให้มีความเป็นเลิศและแก้ไขข้อบกพร่องของนักเรียน เรียนอ่อนให้มีศักยภาพสูงขึ้น
เช่น ค่ายวิทย์ คณิตคิดสนุกค่ายทักษะชีวิต ค่ายภาษาพาเพลิน (แก้ ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้) เป็นต้น โดยกำาหนดให้ดำาเนินการ กิจกรรมดังกล่าวปีละ 1 ครั้ง 2. / / / เป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมค่านิยมที่ดีงามและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยแบ่งได้ดังนี้ 2.1 เช่น ค่ายเด็กดีของชุมชน ค่ายรักษ์โลก ค่ายรักษ์สัตว์ ค่ายยุวชนคนดี 2.2 / / เป็นกิจกรรมภาคปฏิบัติในการ เรียน โดยให้นักเรียนได้เรียนรูจ ้ ากประสบการณ์จริง อีกทั้งยังได้ฝึกทักษะ การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ในการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นหมู่คณะ เช่น การเดินทางไกล การอยู่ค่ายพักแรม การผจญภัย (ไต่เขาปีนต้นไม้ ) เป็นต้น ซึ่งกำาหนดให้ดำาเนินการกิจกรรมดังกล่าวปีละ 1 ครั้ง 2.3 เป็นกิจกรรมศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ตรงให้กับ นักเรียนที่เพิ่มเติมจากการเรียนในห้องเรียนเพื่อให้นักเรียนมีความรู้ และประสบการณ์อย่างกว้างขวาง โดยกำาหนดให้ดำาเนินการดังกล่าวปี ละ 1 ครั้ง 2.4 ICT เป็นกิจกรรมการให้บริการ ICT คอมพิวเตอร์ แก่นักเรียนเพิ่มเติมจากการเรียนคอมพิวเตอร์พื้น ฐานตามหลักสูตรปกติ เช่น การให้บริการสืบค้นความรู้ผ่านระบบ อินเตอร์เน็ตการให้บริการคอมพิวเตอร์ในการจัดทำาสื่อรายงาน การนำาเสนอข้อมูล รวมถึงการออกแบบสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรม คอมพิวเตอร์ โดยกำาหนดให้ดำาเนินการกิจกรรมดังกล่าว 40 ชั่วโมง/ ปี/คน ทั้งนี้ยังมีงบประมาณกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนต่อนักเรียน 1 คน แบ่งออกได้ดังนี้ - ก่อนประะถมศึกษา 215 บาท /ภาคเรียน - ประถมศึกษา 240 บาท /ภาคเรียน - มัธยมศึกษาตอนต้น 440 บาท/ภาคเรียน - มัธยมศึกษาตอนปลาย 475 บาท/ภาคเรียน
ให้เสร็จสิ้นภายใน 16 พฤษภาคม 2552 (ก่อนเปิดเทอมปีการศึกษา 2552)
ความคืบหน้าของโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพนั้น ยังมีอีก 1% ที่ยังไม่ได้สั่งซื้อตำาราเรียน เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่อยู่พื้นที่ห่างไกล ซึ่งตอน นี้ได้เร่งรัดให้ สพฐ. สั่งการไปยังสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้เร่งดำาเนิน การแล้ว สำาหรับโรงเรียนในสังกัด สพฐ. มีโรงเรียนที่ได้รับมอบตำาราเรียน ครบทั้ง 8 กลุม ่ สาระ จำานวน 10,174 โรงเรียน คิดเป็น 50% ของโรงเรียนทั้งหมด มีโรงเรียนที่ได้รับมอบตำาราเรียนบางส่วน จำานวน 3,902 โรงเรียน คิดเป็น 20% ของโรงเรียนทั้งหมด ส่วนเงินบริจาคสละสิทธิ์มีแล้ว 40 ล้านบาท โดยการเชิญ ชวนให้นักเรียนและผู้ปกครองสละสิทธิ์เงินค่าเครื่องแบบนักเรียนและ อุปกรณ์การเรียนด้วยความสมัครใจเพือ ่ นำาเงินไปช่วยพัฒนาคุณภาพการ ศึกษาแก่โรงเรียนในสังกัด สพฐ. จำานวน 591 โรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็น โรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐาน อยูใ่ นถิ่นห่างไกล ทุรกันดาร สำาหรับวิธีการสละ สิทธิ์ ซึ่งจากเดิมที่ ศธ.ใช้วิธีการให้ผู้ปกครองหรือนักเรียนลงลายมือชือ ่ เพื่อ บริจาคเงิน สำานักงบประมาณได้ขอให้ ศธ. ปรับวิธีการดำาเนินการ โดย เปลี่ยนเป็นการมอบเงินให้แก่ผู้ปกครองไปก่อน และให้ผู้ปกครองแสดงความ จำานงบริจาคเงินส่วนนี้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ตอ ้ งดำาเนินการใหม่ ส่งผลให้ผู้ ปกครองเกิดความยุ่งยากในการดำาเนินการ จึงทำาให้ตัวเลขผู้สละสิทธิ์หายไป ส่วนหนึ่ง
1. นักเรียนสังกัดสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับ การสนับสนุนรายการหนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน และกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม 2. นักเรียนมีความพร้อมที่จะเรียน เนื่องจากได้รับการสนับสนุน หนังสืออุปกรณ์การเรียน และเครื่องแบบนักเรียนครบทุกคน 3. สถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น 4. ผู้ปกครองนักเรียนได้รับการบรรเทาภาระค่าครองชีพ เนื่องจากลด ค่าใช้จ่ายในเรื่องหนังสือแบบเรียน อุปกรณ์การเรียน เครือ ่ งแบบนักเรียน กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สามารถนำาเงินส่วนนี้ไปใช้ในชีวิตประจำาวัน ในเรื่องอื่นๆ ได้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้สำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ.) สำานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) และสำานักงานคณะ กรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ไปคิดระบบป้องกันเรื่องนี้ โดยอาจกำาหนดให้ ผู้ปกครองต้องนำาใบเสร็จ หรือชุดนักเรียนที่ซื้อมายืนยันกับโรงเรียน รวมทั้ง ให้คิดระบบติดตามตรวจสอบด้วย โดยอาศัยกลไกของสำานักงานเขตพื้นที่การ
ศึกษา และผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนั้นจะให้มีการรณรงค์ให้นักเรียนที่สามารถช่วยตัวเองได้สละ สิทธิ์ในการรับเงินค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน โดยมีเป้าหมายว่า จะ นำาเงินที่เหลือจากการสละสิทธิ์ไปใช้พัฒนาโรงเรียนด้อยโอกาส และยากจน ทั่วประเทศ
สำานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โทร. 0-2280-2935, 0-2281-1956, 0-2282-1319 และ 0-2288-5853 www.obec.go.th : http://www.chuaichart.com/projects/free-education www.moe-news.net/index.php?option=com_content&task=view&id=1251&Itemid=&Itemid=&catid=12 http://www.showded.com/myprofile/mainblog.php?user=beerredhead&jnId=118288