ฤาษีกับชาวบ้าน ฤาษีตนหนึ่งมีฌานแก่กล้า สามารถหยั่งรู้อนาคตได้ อาศัยอยู่ในอาศรมใกล้กับหมู่บ้าน ชาวบ้านก็แวะเวียนกันมาปรึกษาหารือปัญหาชีวิตและการประกอบอาชีพ ฤาษีก็ให้แนวทางในการแก้ปัญหาด้วยวิถีทางแห่งปัญญา เมื่อชาวบ้านนำาแนวทางการแก้ปัญหาของฤาษีไปใช้ ผลปรากฏว่าปัญหาถูกแก้ไปได้อย่างดียิ่ง ฤาษีก็เป็นที่นับถือยกย่อง เคารพบูชาของชาวบ้าน อยู่มาวันหนึ่งฤาษีเข้าฌานสมาบัติก็หยั่งรู้ว่า คืนนี้ฝนจะตกหนัก และถ้าใครรับนำ้าฝนนี้ไว้ดื่มกินจะมีอาการผิดปกติ คือต้องเดินถอยหลัง ฤาษีเป็นห่วงชาวบ้านจึงตีระฆังเรียกประชุมชาวบ้านและแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่าคืนนี้ฝนจะตกหนัก ขอให้พวกเราอย่าได้รองนำ้าฝนไว้ดื่มกิน จะเกิดอาการผิดปกติต้องเดินถอยหลัง ตกกลางคืน คืนนั้นฝนตกหนักตามที่ฤาษีได้แจ้งชาวบ้าน แต่ชาวบ้านไม่เชื่อว่าดื่มกินนำ้าฝนแล้วจะมีอาการผิดปกติไปได้ เพราะชาวบ้านเคยดื่มกินนำ้าฝนมาหลายชั่วอายุคนแล้วยังไม่เคยมีใครผิดปกติจากการดื่มนำ้าฝน ชาวบ้านจึงรับนำ้าฝนไว้ดื่มกินกันถ้วนทั่วทุกตัวคน ผลก็คือชาวบ้านทุกคนเดินถอยหลัง เว้นจากฤาษีตนเดียวที่ไม่เดินถอยหลัง แนวทางการวิเคราะห์เพื่อประเทืองปัญญาบารมี
1. พิจารณาทางปทัสถานของสังคม(Social Norm) ฤาษีผิดปกติ ชาวบ้านปกติ เพราะคนส่วนมากปฏิบัติเหมือนกัน ความเป็นปกติ หรือความถูกต้อง มาจากความเห็นของคนส่วนมาก
2. พิจารณาตามหลักสัจธรรม ฤาษีเป็นคนปกติที่เดินไปข้างหน้า เพราะธรรมชาติสร้างตาให้มองเห็นทิศทาง อยู่ขา้ งหน้า ทั้งเดินทางได้ปลอดภัยเพราะตาเห็นว่าอะไรอยู่ที่ไหน หลบหลุมบ่อ ได้ชีวิตไม่มีอันตราย ส่วนชาวบ้านเดินถอยหลังไม่มีตา (ไม่มีปัญญา การรู้แจ้ง) ชาวบ้านจึงต้องตกหลุมตกบ่ออารมณ์ คือ รัก โลภ โกรธ หลง 3. เราจะเป็นคนส่วนน้อยที่ปฏิบัติถูกต้อง หรือเราเป็นคนส่วนมากที่ปฏิบตั ิไม่ถูกต้องตามสัจธรรม แต่ถูกต้องตามปทัสถานสังคม หรือความเห็นของคนบอดส่วนมาก 4. การศึกษาควรสร้าง “ความเห็นที่ถูกต้อง”(สัมมาทิฏฐิ) ให้เกิดขึ้นกับผู้มีการศึกษาทั้งหลาย ผูค้ นในสังคมจะได้อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ไม่มีใครต้องตกหลุมตกบ่อ 5. ถ้าใครเห็นผิด คนเห็นถูกก็ควรมีจิตเมตตา ให้สติให้เขารู้ตัว รู้ทัน รูป้ ัจจุบัน รู้หน้าที่ ที่ถูกต้อง ชีวติ จะได้เดินไปข้างหน้าโดยมีดวงตา คือ ความเห็นที่ถูกต้องเป็นเครื่องนำาทาง