1
﴿ ول قد آتينا لقمان الحكمة أن اشكر لل ه وم ن يشك ر فإنم ا يشك ر لنفسه سورة
﴾ ومن كفر فإن الله غني حميد 12 لقمان
“12. และโดยแน่นอน เราได้ให้ฮิกมะฮฺแก่ลุกมานว่า จงขอบพระคุณต่ออัลลอฮฺ และผู้ใดขอบคุณ แท้จริงเขาก็ขอบคุณตัวของเขาเอง และผู้ใดปฏิเสธ แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงพอเพียงและทรงได้รับการสรรเสริญ ”
2
كان لقمان ابن أخت: قال وهب بن منبه أيوب . ذكر أنه كان ابن خالة أيوب: وقال مقاتل วะฮบฺ อิบนุมุนับบิฮฺ กล่าวว่า ลุกมานเป็นลูกชายของพี่สาว(หรือน้องสาว)ของท่ านนบีอัยยูบ มุกอติล กล่าวว่า มีรายงานว่า ลุกมานเป็นลูกชายน้าสาว(หรือป้า)ของท่านนบีอัย ยูบ
3
. كان قاضيا في بني إسرائيل: قال الواقدي كان لقمان أسود من سودان: وقال سعيد بن المسيب . مصر ذا مشافر أعطاه ال الحكمة ومنعه النبوة อัลวากิดียฺ กล่าวว่า ลุกมานเคยมีตำาแหน่งเป็นผู้พิพากษาในวงศ์วานบนีอิสรออีล สะอี๊ด อิบนุลมุซัยยิบ กล่าวว่า ลุกมานเป็นคนผิวดำาจากดินแดนซูดาน(ดินแดนแห่งผู้ผิวดำา)แ ห่งอียิปต์ ริมฝีปากใหญ่หนา อัลลอฮฺ ทรงประทานวิทยปัญญา แต่ไม่ให้เป็นนบี 4
جمهور أهل التأويل على أنه كان وليا: قال القرطبي وقال بنبوته عكرمة والشعبي، ولم يكن نبيا อัลกุรฏุบีย์ กล่าวว่า ส่วนมากในบรรดานักปราชญ์อธิบายความหมายอัลกุรอาน เห็นว่า ลุกมานเป็นแต่เพียงวลี(คนซอลิฮฺ) และไม่ได้เป็นนบี แต่สำาหรับอิกริมะฮฺและชะอฺบีย(ฺ บรรดาตาบิอีน) เห็นว่า เป็นนบี
5
قرأت من حكمة لقمان: قال وهب بن منبه أرجح من عشرة آلف باب
วะฮบฺ อิบนุมุนับบิฮฺ กล่าวว่า ฉันเคยได้อ่านจากคำาปรัชญาของลุกมาน มากกว่าหมื่นหัวข้อ 6
دخ ل لقمان عل ى داود علي ه الس لم يس رد الدروع وق د لي ن ال له فلم ا أتمه ا لبسها، الحدي د فأراد أ ن يس أله فأدركت ه الحكم ة فس كت الصمت حكمة وقليل فاعله: فقال، نعم لبوس الحرب أنت: وقال .
ลุกมานเคยเข้าไปหาท่านนบีดาวู้ด ขณะที่ท่านนบีดาวู้ดกำาลังสร้างเกราะซึง่ อัลลอฮฺทำาให้เหล็กเป็นสิ่งอ่อน สำาหรับเขา ลุกมานมีความอยากที่จะถามท่านนบีดาวู้ดในสิ่งที่กำาลังทำาอยู่ แต่วิทยปัญญาระงับให้ลกุ มานนิ่งเฉย เมื่อท่านนบีดาวู้ดสร้างเกราะสำาเร็จ ท่านได้สวมเกราะและกล่าวว่า “เสื้อเกราะนี้ดีเยี่ยมสำาหรับการสู้รบ” ลุกมานจึงกล่าวว่า 7
﴿ وإذ قال لقمان لبنه وهو يعظه يا بني ل تشرك بالله إن الشرك لظلم 13 سورة لقمان
﴾ عظيم
“13. และจงรำาลึกเมื่อลุกมานได้กล่าวแก่บุตรของเขา โดยสัง่ สอนเขาว่า โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าได้ตั้งภาคีใดๆ ต่ออัลลอฮฺ เพราะแท้จริงการตั้งภาคีนั้นเป็นความผิดอย่างมหั นต์โดยแน่นอน”
8
﴿ وو صينا الن سان بوالد يه حملته أمه وهن ا عل ى وه ن وفص اله ف ي عامين أن اشك ر ل ي ولوالدي ك إل ي المصير 14 ﴾
“14. และเราได้สั่งการแก่มนุษย์เกี่ยวกับบิดามารดาของเขา โดยที่มารดาของเขาได้อุ้มครรภ์เขา อ่อนเพลียลงครั้งแล้วครัง้ เล่า และการหย่านมของเขาในระยะเวลาสองปี เจ้าจงขอบคุณข้า และบิดามารดาของเจ้า ยังเรานั้นคือการกลับไป” 9
﴿ وإن جاهداك على أن تشرك بي ما ليس لك ب ه عل م فل تطعهم ا وص احبهما في الدنيا معروفا وابتع سبيل من أناب إلي ثم إل ي مرجعك م فأنبئك م بم ا كنتم تعملون
“15. และถ้าเขาทั้งสองบังคับเจ้าให้ตั้งภาคีต่อข้า โดยทีเ่ จ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น เจ้าอย่าได้เชื่อฟังปฏิบัติตามเขาทั้งสอง และจงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำาความดี และจงปฏิบัติตามทางของผูท้ ี่กลับไปสู่ข้า และยังเรานั้นคือทางกลับของพวกเจ้า ดังนั้น ข้าจะบอกแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำาไว้”
15 ﴾
10
﴿ يا بني إنها إن تك مثقال حبة من خردل فتكن في صخرة أو في السموات أو في الرض يأت ﴾ بها الله إن الله لطيف خبير
“16. โอ้ลูกเอ๋ย แท้จริง (หากว่าความผิดนั้น)มันจะหนักเท่าเมล็ดผักสักเมล็ดห นึง่ มันจะซ่อนอยูใ่ นหิน หรืออยู่ในชั้นฟ้าทัง้ หลาย หรืออยูใ่ นแผ่นดิน อัลลอฮฺก็จะทรงนำามันออกมา แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงรอบรูย้ ิ่ง” 11
12
﴿ يا بني أقم الصلة وأمر بالمعروف وانه عن المنكر واصبرعلى ما أصابك 17 ﴾ إن ذلك من عزم المور
“17. โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าจงดำารงไว้ซึ่งการละหมาด และจงใช้กันให้กระทำาความดี และจงห้ามปรามกันให้ละเว้นการทำาความชัว่ และจงอดทนต่อสิ่งที่ประสบกับเจ้า แท้จริง นั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่นมั่นคง” 13
14
﴿ ول ت صعر خدك للناس ول تمش في الرض مرح ا إ ن الل ه ل يحب 18 ﴾ كل مختار فخور
“18. และเจ้าอย่าหันแก้ม(ใบหน้า)ของเจ้าให้แก่ผู้คนอย่ างยะโส และอย่าเดินไปตามแผ่นดินอย่างไร้มรรยาท แท้จริง อัลลอฮฺมิทรงชอบทุกผู้หยิ่งจองหองและผู้คุยโวโอ้อ
15
﴿ واقصد في مشيك واغضض من صوتك إن أنكر الصوات لصوت 19 ﴾ الحمير
“19. และเจ้าจงก้าวเท้าของเจ้าพอประมาณ และจงลดเสียงของเจ้าลง แท้จริง เสียงที่น่าเกลียดยิ่ง คือเสียง(ร้อง)ของลา”
16
17
عن أبي هريرة .قال :قال رسول ال ( إذا سمعتم صياح الديك ة فأسألوا ال من فضل ه فإنها رأت ملكاً ،وإذا سمعتم نهيق الحمار فتعوذوا بال من الشيطان فإنها رأت شيطاناً ) رواه مسلم
18
﴿ ياأيه ا الذي ن آمنوا قوا أنفسكم وأهليكم نارا ً وقودها الناس والحجارة عليه ا ملئك ة غلظ شداد ليعصون الل ه ماأمرهم ويفعلون مايؤمرون โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย พวกเจ้าทั้งหลายจงคุ้มครองตัวของพวกเจ้า และครอบครัวของพวกเจ้า ให้พ้นจากไฟนรก 6 سورة التحريم เพราะเชื้อเพลิงของมันคือมนุษย์และก้อนหิน มีมลาอิกะฮฺผู้แข็งกร้าวและรุนแรง คอยเฝ้ารักษามันอยู่ พวกเขาจะไม่ฝ่าฝืนอัลลอฮฺ ในสิ่งทีพ่ ระองค์ทรงบัญชาแก่พวกเขา และพวกเขาจะปฏิบัติที่ถูกบัญชา
﴾
19
20
. علموهم وأدبوهم: قال علي بن أبي طالب
อะลี อิบนุอบีฏอลิบ ร่อฎิยัลลอฮุอนั ฮุ กล่าวว่า จงสอนพวกเขา และอบรมพวกเขา 21
حافظوا: قال اب ن مس عود رض ي ال عنه عل ى أبنائك م ف ي الص لة وعودوه م الخي ر فإن الخير عادة อับดุลลอฮฺ อิบนิมัสอู๊ด กล่าวว่า จงดูแลลูกหลานของพวกท่านตอนทำาละหมาด และจงอบรมให้ลูกหลานของพวกท่านเคยชินกับค วามดี เพราะความดีนั้นย่อมเป็นธรรมชาติของมนุษย์ 22
: لم وس ه علي كلك م راع وكلك م مسؤول " عن رعيته؛ المام راع ومس ؤول ع ن رعيت ه ،والرجل راع ف ي أهل ه ومس ؤول عن رعيته ،والمرأة راعية في بيت زوجه ا ومس ؤولة ع ن رعيتها، والخادم راع ف ي مال سيده ومس ؤول ع ن رعيت ه ،وكلكم راع ومس ؤول ع ن رعيته
23
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ทุกคนในหมู่พวกท่านเป็นผู้รับผิดชอบ และทุกคนในหมู่พวกท่านต้องถูกสอบสวนต่อความรับผิดชอบของเขา ผู้นำาเป็นผู้รบั ผิดชอบและต้องถูกสอบสวนในความรับผิดชอบของเขา สามีเป็นผู้รบั ผิดชอบในครอบครัวของเขาและเขาต้องถูกสอบสวนในความรั บผิดชอบของเขา ภรรยาเป็นผู้รับผิดชอบในครอบครัวของสามีของนางและนางต้องถูกสอบสว นในความรับผิดชอบของนาง และผู้รับจ้างเป็นผู้รบั ผิดชอบในทรัพย์สินของผู้จา้ งและเขาต้องถูกสอบสวนใ นความรับผิดชอบของเขา และชายคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านเป็นผู้รับผิดชอบในทรัพย์สมบัติของบิ ดาของเขา และเขาต้องถูกสอบสวนในความรับิดชอบของเขา ดังนั้น ทุกคนในหมู่พวกท่านเป็นผู้รบั ผิดชอบ 24 และทุกคนต้องถูกสอบสวนในความรับผิดชอบของเขา”