การ Pretreatment สิ่ งทอ
บทที่ 2 การฟอกขาวและการทํามัน เส้นใยสิ่ งทอ
• เป็ นกระบวนการ treatment วัสดุส่ิ งทอกอนทํ ากระบวนการอืน ่ ่ เช่น การยอม หรื อ พิ ม พ หรื อ ตกแต งสํ า เร็ จ ต อไป ้ ่ ่ ์ • การทําความสะอาด (Scouring) • การฟอกขาว (Bleaching) • การชุบมัน (Mercerization) • ทัง้ สามกระบวนการเป็ น wet process
เอกสารประกอบการสอนคม 362 กระบวนการทางเคมีส่ิ งทอ โดยรศ.ดร.อรุณี คงดี อัลเดรด
2
1
การฟอกขาว (bleaching) 2.1 วัตถุประสงค ์ • เพือ ่ กําจัดสี ทีม ่ อ ี ยูตามธรรมชาติ ในวัสดุออก ่
2.2 วิธก ี ารฟอกขาว • การตากแดด • แช่ในสารละลายดางที ม ่ อ ี ยูในธรรมชาติ (ใช้ในอดีต) ่ ่ • ใช้ สารเคมี ซึง่ ให้ผลรวดเร็วกวา่ แตขณะเดี ยวกันก็ทาํ ่ ให้เส้นใยเปื่ อยสูญเสี ยความแข็งแรงได้ 3
สารฟอกขาว กลุม 1 Chlorine Oxidants Sodium hypochlorite Sodium chlorite Sodium dichloroisocyanurate กลุม 2 Inorganic peroxide Oxidants Hydrogen peroxide Ozone Sulfur dioxide Sodium perborate Potassium permanganate Sodium percarbonate Sodium bromate Sodium bromite Potassium peroxydiphosphate Ammonium perdisulfate Ammonium hydrogen permonosulfate Tetra-acetylethylenediamine / hydrogen peroxide
สูตรเคมี NaOCl NaOCl2 N,N’-dichloro compound H2O2 O3 SO2 NaBO2.H2O2.3H2O KMnO4 Na2CO3.3H2O2 NaBrO3 NaBrO2 K4P2O8 (NH4)2S2O8 NH4HSO5 Generates CH3CO-OOH
4
สารฟอกขาว กลุม 3 Organic peroxide Oxidants Peracetic acid Peroxydodecanedionic acid Tetra-acetylethylenediamine / hydrogen peroxide กลุม 4 Reductant Sulfur dioxide Sulfuric acid Sodium bisulfite Sodium sulfite Sodium hydrosulfite (Sulfoxylate, dithionite) Sodium formaldehyde sulfoxylate (sodium hydroxylmethanesulfinate) Sodium borohydride Thiourea dioxide (formamidine sulfonic acid) Sodium sulfinate Trisodium trithioisocyanurate / hydrogen peroxide
สูตรเคมี
Oxidative bleaching agents Peroxide system Hydrogen peroxide Sodium peroxide Sodium perborate Peracetic acid
CH3CO-OOH HOO-CO-(CH2)10-COOH Generates CH3CO-OOH SO2 H2SO4 NaHSO3 NaH2SO3 NaO2SSO2Na HOCH2SO2Na NaBH4 H2NC(=NH)SO2H HSO2Na Generates HSO2Na
Chlorine system Bleaching powder Sodium hypochlorite Sodium chloride
Reductive bleaching agents Sulfur dioxide Sodium hydrosulphite Sulphoxylates Sodium bisulphite 5
2.3 สูตรของสารละลายทีใ่ ช้ในการฟอกขาว
6
2.4 สารฟอกขาวทีส ่ ํ าคัญ
• สารฟอกขาว • บัฟเฟอร ์ • สารลดแรงตึงผิว • สารจับโลหะ เช่น ซิลเิ กต ฟอสเฟต ออกซาเลต ซึง่ จะ ไปจับกับไอออนของโลหะเพือ ่ ป้องกันการเกิดฟรีแรดิกล ั ทีจ ่ ะ เขาไปทํ าลายเส้นใย ้ • สารทําให้ขาว (optical brightening agent) เติมใน บางสูตร • สารฟอกขาวบางสูตรเรียกวา่ เมทัลซอลท ์ จากการมี โซเดียมไฮดรอกไซด ์ แอมโมเนีย โซเดียมไนเทรต เป็ น ส่วนประกอบ 7
2.4.1 ไฮโดรเจนเพอรออกไซด ์ ์ • เป็ นสารออกซิไดซที ่ ิยมใช้ในการฟอกเส้นใยมากทีส ่ ุด ์ น
• แตกตัวไดดี ่ ค ี าพี ่ เี อช 11.5 ้ ในสารละลายทีม ่ เอชสูง เช่นทีพ ซึง่ สามารถปรับดวยโซเดี ยมไฮดรอกไซดและโซเดี ยม ้ ์ คารบอเนตสํ าหรับฝ้าย แอมโมเนียและเตตราโซเดียมไพโร ์
ฟอสเฟตสํ าหรับเส้นใยขนสั ตว ์ ไฮโดรเจนเพอรออกไซด แตกตั ว ์ ์ ให้ไฮโดรเจนไอออน และเพอรไฮดรอกซิ ลไอออน (HOO-) ์ แตการฟอกที ภ ่ าวะนี้จะทําให้ฝ้ายเกิดความเสี ยหายได้ ่ 8
การใช้สารกลุมเพอร แอซิ ด เช่น กรดเพอรอะซี ตก ิ ช่วยในการ ่ ์ ์ ฟอกขาว และมีกรดซัลฟุรก ิ เป็ นตัวเรงปฏิ กริ ย ิ าความขาวของเส้นใย ่ ฝ้ายดวยไฮโดรเจนเพอร ออกไซด ได ิ า่ํ ้ ้ ่ อุณหภูมต ์ ์ ที H2O2 + CH3COOH
H2SO4 CH3CO-O-OH + H2O
2.4.2 สารประกอบไฮโปคลอไรท ์ • เป็ น สารออกซิไดซที ์ ร่ ุนแรง • ใช้ฟอกขาวไดดี ี่ ณ ุ หภูมต ิ า่ํ มีความเสถียรทีพ ่ เี อช 10 ้ ทอ • โซเดียมไฮโปคลอไรทอยู ในรู ป ของเหลว ์ ่ • แคลเซียมคลอไรทอยู ในรู ปของแข็ง ์ ่ • สารประกอบคลอไรทจะแตกตั วให้ ก๊าซคลอรีน และ ์ ไฮดรอกซิลไอออนทีท ่ าํ ให้เกิดการฟอกขาวได้ • การเติมกรดเพือ ่ ลดคาพี ่ เอชให้อยูในช ่ ่ วง 5.0–8.5 จะทําให้เกิดกรดไฮโปคลอรัส
NaOCl
H2O2 HOO-
OH- + O*
เพอรไฮดรอก์ ซิลไอออน
แอคทีฟออกซิเจน
NaHO2
Na+ + HOO-
2H2O2
2H2O + O2
NaCl + H2O + O2
RNHCl + H2O2
R-NH2 + HCl + O2
9
10
• ทีพ ่ เี อช 10.5 – 11.5 ไฮโดรเจนเพอรออกไซด แตกตั ว ์ ์ กลายเป็ นออกซิเจนไดอย ว ้ างรวดเร็ ่
H2O + O* + X kcal การสลายตัวตามปกติ H+ + HOO-
+ H2O2
คลอรามีน
ปฏิกริ ย ิ าการฟอกขาวของไฮโดรเจนเพอรออกไซด ์ ์ H2O2
• การฟอกขาวดวยสารประกอบไฮโปคลอไรท จะทํ าให้เส้นใย ้ ์ เปื่ อยงายและมี สีเหลือง โดยเฉพาะกับเส้นใยโปรตีนหรือไนลอน ่ • หลังการฟอกจึงตองล างคลอรี นทีต ่ กค้างออกดวยสารรี ดวิ ซ ์ ้ ้ ้ เช่น โซเดียมไบซัลไฟท ์ โซเดียมไทโอซัลเฟต หรือ ไฮโดรเจนเพอรออกไซด บสภาพให้ผามี ้ ้ ความเป็ นกลาง ์ ์ แลวปรั เรียกวา่ การตานคลอรี น (anti-chlor) ้ • จะเกิดปฏิกริ ย ิ าขึน ้ ระหวางแอคที ฟคลอรีน และคลอรามีน ่ (RNHCl ซึง่ เกิดขึน ้ จากการทีเ่ ส้นใยโปรตีนทําปฏิกริ ย ิ ากับ สารประกอบไฮโปคลอไรท)์ กับไฮโดรเจนเพอรออกไซด ์ ์
• ทําให้ผาฝ ม สารเพิม ่ ความคงตัว ้ ้ ายเสี ยหายจึงตองเติ ้
การแตกตัวในนํ้า ปลดปลอยแอคที ฟออกซิเจน ่ ในการฟอกขาว ปลดปลอยสารฟอกขาว ่ ในสภาวะดาง ่ การสลายตัวให้ก๊าซ ออกซิเจน ไมเกิ ่ ดการฟอกขาว 11
(stabilizer) เช่น EDTA หรือโซเดียมซิลเิ กต หรือกรดเพอร ์ ิ าการแตกตัวเกิด อะซีตก ิ ทีม ่ ก ี รดซัลฟุรก ิ เป็ นตัวเรง่ เพือ ่ ให้ปฏิกริ ย ช้าลง • โดยทัว่ ไปจะใช้สารเพิม ่ ความคงตัว 10–20 % ของปริมาณ ไฮโดรเจนเพอรออกไซด ที ์ ์ ใ่ ช้
12
2.4.4 คลอรีนไดออกไซด ์
2.4.3 สารประกอบคลอไรท ์ สารประกอบคลอไรท ์ เช่น โซเดียมคลอไรท ์ มีลก ั ษณะเป็ นของแข็ง ่ ลายตัวงายแล วทํ สามารถกอให ่ ้ า ่ ้เกิด คลอรีนไดออกไซด ์ (ClO2) ทีส ้ ให้เกิดการฟอกขาวขึน NaOCl2 +
H+
HClO2 +
ClO2 +
+
5e-
Cl-
คลอรีน ไดออกไซด ์
• กัดกรอนโลหะ ทีเ่ ป็ นส่วนประกอบของเครือ ่ งจักรได้ ่
• การฟอกขาวดวยโซเดี ยมคลอไรททํ ่ เี อช 3.5–4.0 ใน ้ ้ พ ์ าไดที สารละลายบัฟเฟอร ์ เช่น โซเดียมไดไฮโดรเจนฟอสเฟต การฟอก ฝ้ายทีพ ่ เี อชในช่วง 1.76–6.05 ที่ 20C • การฟอกขาวดวยคลอรี นไดออกไซดทํ ้ ์ าให้เกิด ออกซีเซลลูโลส
Na+
5HClO2 4 ClO2 + HCl + 2H2O 4H+
• เกิดขึน ้ ระหวางกระบวนการฟอกขาวเป็ นสารอันตราย ่
(oxycellulose) ไดง้ าย ่ • ออกซีเซลลูโลสเกิดจาก ปฏิกริ ย ิ าออกซิเดชัน ของเซลลูโลสเมือ ่
+ 2H2O
ฟอกขาวดวยสารกลุ มออกซิ แดนทเช ้ ่ ์ ่ นกัน • ทําให้ หมูไฮดรอกซิ ล ของเซลลูโลสกลายเป็ น หมูอั ่ ่ ลดีไฮด ์ คีโตน และคารบอกซิ ล ์ 13
Oxycellulose
14
2.4.5 Peracetic acid H O
O
O
O
O H
O
O H
O H
O
O
O
O H
O
H
O
H O
H O
H O
H O
H O
• เป็ นสารออกซิไดซที ่ รง ์ แ • เป็ นสารออกซิไดซที ่ ป ี ระสิ ทธิภาพสูงกวาคลอรี นและคลอรีน ่ ์ ม ออกไซด ์ O
O
O
H C O
O
O H O
O C O H
O
O
O
H O
ขอดี ้ •เป็ นมิตรตอสิ ่ ่ งแวดลอม ้
O H O O C O
O C O H
•ฟอกขาวเส้นใยไนลอนไดดี ้ •ทําให้เส้นใยขาวมากและเส้นใย ไมเสี ่ ยหาย
• สามารถตรวจสอบการเกิดออกซีเซลลูโลสไดจาก ้ - การลดลงของความหนืดของสารละลาย - การลดลงของความแข็งแรงของเส้นใย - การเพิม ่ ขึน ้ ของจํานวนหมูคาร บอนิ ล ่ ์ 15
ขอเสี ้ ย • ความเขมข ้ นสู ้ งถึง 35-40% ทําให้ระเบิดได้ • ราคาแพงเมือ ่ เทียบกับH2O2
• ความเสถียรตํา่ กวาH ่ 2O2
16
เปรียบเทียบขอดี างชนิ ด ้ ขอเสี ้ ยของการฟอกขาวดวยสารต ้ ่ สารฟอกขาว
ขอดี ้
ขอเสี ้ ย
ไฮโดรเจนเพอรออกไซด ์ ์ ผ้าเกิดการเหลือง (yellowing)
สารประกอบ ไฮโปคลอไรท ์
สารประกอบคลอไรท ์
ค้นการฟอกขาวดวย ้ sod. bisulfite
ใช้กับเส้นใยโปรตีนได้ ไมเป็ ่ นพิษ ปลอดภัยตอ ่ สิ่ งแวดลอม ้ ราคาถูก ประสิ ทธิภาพการฟอกสูง ใช้งานงาย ่ ไมทํ ่ าให้ผ้าเป็ นรู ไมทํ ่ าลายเส้นใยเซลลูโลส ประสิ ทธิภาพการฟอกสูง ใช้งานในสภาวะกรด
ทําให้ผ้าเป็ นรู (pinholes) ไดถ ้ านํ ้ ้าทีใ่ ช้ฟอกมีไอออน ของเหล็กปนอยู่ กัดกรอนผิ วหนัง ่ ทําให้เกิดการติดไฟได้ ่ ด ั กรอน ให้ก๊าซทีเ่ ป็ นพิษทีก ่ โลหะ เนื้อเยือ ่ รางกาย ่ ใช้กับเส้นใยโปรตีนไมได ่ ้ เกิดการสลายตัวอยางรวดเร็ ว ่ ในขณะการเก็บรักษา มีกลิน ่ ฉุ น ใช้กับเส้นใยโปรตีนไมได ่ ้ ให้ก๊าซทีเ่ ป็ นพิษทีก ่ ด ั กรอน ่ โลหะ เนื้อเยือ ่ รางกาย สูง ่ มาก เกิดมลภาวะจากก๊าซคลอรีน 17
18
Typical recipe for BATCH production Hydrogen peroxide (35% by weight) Sodium silicate
1‐2 % (owf)
T= 85 – 90 C
2 % (owf)
T = 1 – 6 hr
Sodium hydroxide Soda ash (Sodium carbonate)
0.25 % (owf) 1 % (owf)
Typical recipe for semi-continuous production Hydrogen peroxide (35% by weight) Sodium silicate Sodium hydroxide Soda ash (Sodium carbonate)
2 – 8 % (owf)
T= 85 – 90 C
3 % (owf)
T = 1 – 6 hr
0.4 – 0.6 % (owf)
pH 10.5 – 11.5
0.8 – 6 % (owf)
19
20
Process curve of single stage cotton scouring & bleaching process
21
22
2.5.1 ผลของความเขมข ้ น ้ NaOH ตอลั ่ กษณะเส้นใยฝ้าย
2.5 การทํามันหรือการชุบมัน (Mercerization) • John Mercer จด สิ ทธิบต ั ร กระบวน การเมอรเซอไรเซชั นในปี 1890 ์ • แช่ใน NaOH soln เขมข ้ น ้ 16 – 24 % • การชุบมันสามารถทําหลังจาก desizing • การชุบมันสามารถทําหลังจาก desizing และscouring • การชุบมันสามารถทําหลังจาก bleaching • การชุบมันสามารถทําหลังจาก dyeing
NaOH
Behavior of cotton fiber
15 deg
No change
16 – 18 deg
In complete untwisting
26 deg
Rapid untwisting
35 deg
Untwisting followed by swelling
40 deg
Untwisting and swelling together
Stage
John Mercer (1791 – 1866)
23
24
Relationship between degree Baume and percent Degree Baume at 15° C
Percent NaOH
10 12 14 16 18 20 22 24 26 28 30
6.57 8.00 9.50 11.60 12.68 14.36 16.09 17.87 19.70 21.58 23.50
2.5.2 Mercerization are two types: 1. Tension mercerization ‐ The purpose of mercerization is to increase luster of cotton fibers ‐ The fibers untwists and swells, lumen becomes rounder in cross section and it gains luster. Dye affinity and Chemical reactivity increase. Fabric becomes stronger and smoother. 2. Slack mercerization ‐ Not as lustrous as tension method ‐ Elongation and recovery properties improve and thus have been used to produce comfort stretch garments and fabric bandages, which need to conform to body shapes
25
26
2.5.3 กลไกการชุบมัน H2 O OH
Na+ OH
OH
Cellulose
HO
เติมNaOH solution
Na+ HO
OH HO
Na+
OH Na+ Na+ OH
Alkali Cellulose (sod. Cellulosate)
HO
HO
HO Na+
OH
Na+
H2 O H2 O
H2 O H2 O H2 O
O-Na+ O-Na+
Na+OH2 O Na+ONaO
Na+OO-Na+
H2 O
O-Na+
H2 O H2 O H2 O
H2 O
H2 O
H2 O
OH
O-Na+
H2 O
+ H2O Na O
Na+OH2 O
OH
H2 O
OH
HO
H2 O O-Na+
HO
H2 O
HO HO
H2 O
OH
O-Na+
เสนใยพองตัวและไมหดตัวกลับ
C6H7O2(OH)3 + NaOH C6H7O2(OH)2(ONa)
H2 O H O 2 O-Na+
H2 O
H2 O
ลางน้ําและทําใหแหง
OH Na+
H2 O
H2 O
H2 O Na+O-
OH OH + Na
H2 O
Cellulose I
โมเลกุลน้ําแพรเขาไป ภายในเสนใย
Alkali Cellulose I
H2O C6H7O2(OH)3 + NaOH
H2 O H2 O H2 O
Cellulose II 27
28
2.6 NH3 treatment
Estimation of Mercerization
Adsorption of Ba(OH)2
29
2.7 การtreatment พอลิเอสเทอร ์
30
Wt. reduction
• มีการปรับปรุงดานการสั มผัสโดยการลดนํ้าหนัก(weight reduction) ้ ดวย NaOH เนื ่ อ งจาก NaOH เขาไปทํ าลาย ester linkage ้ ้ • ผาพอลิ เอสเทอรหลั ่ นไปดังนี้ ้ ์ ง treatment มีสมบัตเิ ปลีย - สั มผัมนุ่ ม - ทิง้ ตัวดี - มีความเงางามคลายไหม ้
5-10 10-20 % 30 %
ลักษณะของเส้นใยพอลิเอสเทอร ์ พืน ้ ผิวขรุขระ พืน ้ ทีภ ่ าคตัดขวางเส้นใยลดลง ผาบางเบา ทิ ง ้ ตั ว ดี ้ พืน ้ ผิวขรุขระมากขึน ้ พืน ้ ผิวขรุขระมากขึน ้ เป็ นแองลึ ่ กทําให้สะทอน ้ แสงไดดี ้
ลักษณะการสะทอนของ ้ แสงขึน ้ อยูกั ่ บลักษณะ ภาคตัดขวางของเส้นใย 31
32