-
Espresso ที่ดีเวลาเสริฟต้องร้อน มีฟองสีทองปกคลุมทั่วทั้งแก้ว มีกลิ่นหอมรุนแรง ที่สำาคัญ ไม่มีแบบเย็น เอสเปรสโซ่จะถูกเสิร์ฟในแก้ว ขนาดเล็ก ปริมาณเพียง 1-2 ออนซ์ เท่านั้น ถ้า นอกจากนี้ไม่ใช่แล้ว รสชาติกาแฟและกลิ่นที่ดีทสี่ ุดจะอยู่เพียง 5 นาทีหลังจากนำ้ากาแฟไหลจากเครื่อง หลัง 5 นาที รสชาติจะค่อยๆเปลี่ยนไป การดื่มแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆต้องดื่มทันทีที่เสริฟ และดื่มให้หมดภายในชอตเดียว ไม่ ต้องเติมนำ้าตาล หรือนม เมื่อนำ้ากาแฟเข้าปากแล้วอย่าเพิ่งกลืน ให้อมไว้ในกระพุ้งแก้มก่อนสักครู่ แล้วค่อยๆ กลืนลงท้อง กลิ่นกาแฟและรสชาติจะคงอยู่ในปาก ประมาณ 30 นาที *หลังจ าก นั ้น คว รล ้า งปา กด ้ว ยน ำ้าเป ล่ า ห รื อน ำ้า ชา ดั บก ลิ่ นไ ม่ พึ ง ประสง ค์ ของ กา แฟ สำาหรับผุ้ที่เริ่มดื่ม อาจจะผสมนำ้าตาลไป 1 ช้อนโต๊ะแล้วค่อยๆจิบก็ได้ รสชาติจริงๆ จะขมนำา แต่หวานชุม่ คอ ภายหลัง เหมือนรสคาราเมล
- คาปูชิโนที่ดี ให้ดูที่ฟองนม ที่หนา ละเอียด นุ่ม *ทดสอบคุณภาพการตีฟองนมได้ โดยใช้ช้อนตักฟองนมขึ้นมาแล้วควำ่าช้อนลง ฟองนมที่ดีจะไม่ หล่นจากช้อน - คาปูชิโนนิยมกินร้อนๆ ในหน้าหนาว ก่อนทานเอามืออังถ้วยประคองขึ้นมารับไออุ่น - เลือกโรยหน้าด้วย โกโก้ หรือ ชินาม่อน เล็กน้อยเพิ่มความหอมเวลายกขึ้นดื่ม - ไม่ควรใช้ช้อนคนฟองนมจนแตก หากต้องการละลายนำ้าตาลให้ คนเบาๆไม่ให้ฟองนมหายไป - การกินค่อยๆยกซด ให้นำ้ากาแฟผ่านฟองนม เมื่อทานหมดแล้วยังเหลือฟองนมและผงโรยหน้า ก้นถ้วย - การทานจริงๆไม่นิยมใส่นำ้าตาล เพราะนมที่ทำาการสตรีมแล้วจะมีไขมันความหวานธรรมชาติ ออกมาอยู่แล้ว - คาปูชิโนจะทานในมื้อเช้า เพราะนมทำาให้หนักท้อง ไม่เมหือนเอสเปรสโซที่นิยมกินหลังอาหาร เพื่อล้างปาก - คาปูชิโนเย็น ให้เลือกทานลาเต้เย็นแทน เพราะฟองนมเย็นๆนั้นชวนแหวะมากๆ กรณี Ca fe ' L att e ให้ใ ช้ วืธ ีทา นแ บบเ ดี ยว กั น -ไม่ควรใช้ชอ้ นคนลายลาเต้ที่บาริสต้าทำาให้ เพราะเป็นการดูถูกบาริสต้า ที่ตั้งใจทำาลายนั้นขึ้นมา
- มอคค่าเป็นกาแฟที่ผสมชอกโกแลตซอส เหมาะสำาหรับคนที่ไม่ชอบรสขมกาแฟมากนัก - ปกติมอคค่าจะมีวิปปิ้งครีมโปะหน้าเพิ่มความหอมมันให้กาแฟ แต่ใครไม่ทานไม่ใส่ก็ได้ - การดื่ม ห้ามใช้ช้อนคนวิปปิง้ ครีมผสมเข้ากับเครื่องดื่ม ให้ใช้ช้อนตักทานเป็นคำาๆ ควบคู่กับดื่ม กาแฟ - มอคค่าไม่จำาเป็นต้องใส่นำ้าตาลเพิ่ม เพราะชอกโกแลตซอสจะหวานอยู่แล้ว - มอคค่าทานคู่กับบราวนี่ หรือเค้กชอกโกแลตจะเข้ากันมากที่สุด