India 1171



อินเดียตั้งอยูใ่ นภูมิภาคเอเชียใต้ มีพื้นที่กว้างเป็นอันดับ 7 ของโลก จนเรียกว่าเป็น อนุทวีป

มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศต่างๆ 6

ประเทศได้แก่ ภาคตะวันออกติดกับ บังกลาเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือติดกับ พม่า ภาคเหนือติดกับจีน เนปาล และ ภูฏาน ภาคตะวันตกติดกับ ปากีสถาน และ ทะเลอาระเบีย ภาคใต้ตดิ กับ ศรีลังกา และ มหาสมุทรอินเดีย นอกจากนี้ยงั มีดินแดนที่อยูใ่ นอาณัติ คือ หมู่เกาะอันดามัน

 เมืองหลวงของอินเดียคือ

กรุงนิวเดลี และยังเมืองสำาคัญอื่นๆ อีก เช่น มุมไบ ชือ่ เดิม คือ บอมเบย์ เป็นศูนย์กลางทางการค้า,การเงิน และการคมนาคม ถือได้วา่ เป็นเมืองท่าที่สำาคัญของอินเดีย บังกาลอร์ เป็นเมืองศูนย์กลางของอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชนั้ สูง ถือได้วา่ เป็น Silicon Valley ของอินเดีย เป็นต้น

 สำาหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

ได้แก่ เมืองอัคระหรือ อักรา ที่เป็นที่ตั้งของทัชมาฮาล และเมืองพุทธคยา รัฐพิหาร ที่เป็นสถานที่สำาคัญทางพุทธศาสนา ภาษาที่ใช้ในรัฐพิหาร คือ ภาษาฮินดี

 มีประชากรมากเป็นอันดับ 2

ของโลก(พันกว่าล้านคน) รองจากจีน  มีอัตราการเพิ่มของประชากรสูง(1.4 % )  ประชากรมีการกระจายรายได้ไม่ทั่วถึง(25%เป็นคนจนอยู่ในชนบท) มีคนชั้นกลางมากกว่า 200 ล้านคน  ส่วนใหญ่มีเชื้อชาติอินโด-อารยัน(72 % ) ที่เหลือเป็น ดราวิเดียน (25%) มองโกลอยด์ ฯลฯ

อินเดียนั้นใช้ภาษาฮินดีเป็นภาษาประจำาชาติ สำาหรับภาษาอังกฤษนัน้ เป็นภาษาในวงราชการและธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีภาษาท้องถิน่ ซึ่งถือเป็นภาษาราชการอีก 14 ภาษา เช่น ภาษาเบงกาลี เตลูกู ทมิฬ เป็นต้น 

ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาฮินดู (80.5) มุสลิม(13.4) คริสต์ ฯลฯ



 อินเดียมีระบอบการเมืองเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภา

ส่วนระบบการปกครองเป็น สาธารณะ  ด้านประมุข ของประเทศ มี ประธานาธิบดี เป็นประมุข



ใช้นโยบาย Look East ดำาเนินนโยบายเศรษฐกิจและการค้าแบบค่อยๆเปิดเสรีทางการค้า(เริม่ ปี 2534)ภายหลังได้รบั เอกราช แต่ยังเป็นนโยบายแบบค่อนข้างระมัดระวัง

 โดยเน้นนโยบายการค้าต่างประเทศ เป็นกลไก

ผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วย การเพิ่มการจ้างงานในเขตเมืองและชนบทรวมทั้ง การเพิ่มเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งตลาดการค้าโลก

จากปีพ.ศ. 2548 นั้น อินเดียมี GDP 735.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้เฉลี่ยต่อหัว 530 เหรียญสหรัฐฯ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 7.5 % ทุนสำารองเงินตราต่างประเทศ 145 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อ 4.4 %

Look East สอดคล้องกับไทย ทีใ่ ช้มาตรการ Look West มีลักษณะเกื้อหนุนกัน

 ด้านเศรษฐกิจ ใช้มาตรการ

 มีความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆด้วย เช่น  เขตการค้าเสรี

ภาษา วัฒนธรรม ขนบประเพณี

Strengths Weaknesses Opportunities Threats



พื้นที่  ประชากร  ทำาเลที่ตั้ง  ภาษาอังกฤษ

 ความหลากหลายของเชื้อชาติ และศาสนา  การแบ่งชนชั้นวรรณะ  ความแตกต่างด้านกฎเกณฑ์

ระหว่างรัฐ และ รัฐบาลกลาง  ปัญหาคอรับชั่น  โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง

 จำานวนประชากร 

การเปิดประเทศและการใช้ นโยบายการค้าเสรี  เศรษฐกิจอินเดียมีอต ั ราการเติบโต  นักธุรกิจอินเดียรุ่นใหม่ มีทัศนคติที่ดี กับนักลงทุนต่างชาติ



ความแตกต่างในกฎระเบียบ ของ แต่ละรัฐ  ระบบราชการในอินเดียยังไม่โปร่งใส และค่อนข้างล้าสมัย  กฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย  การจัดเก็บภาษีนำาเข้า  ราคาสินค้าไม่ได้เป็นไปตามกลไกตลาด

- อัญมณีและกึ่งอัญมณี -

ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ - เสื้อผ้าสำาเร็จรูป - เคมีภัณฑ์ – เวชภัณฑ์ - เครื่องหนัง

ปิโตรเลียม นำ้ามันดิบ อัญมณีและกึ่งอัญมณี เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร เหล็ก ปุย ๋

ตลาดหลักของอินเดีย สหรัฐอเมริกา

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ

เยอรมนี จีน

ฮ่องกง

ญี่ปุ่น

เบลเยี่ยม สิงคโปร์

GSP (Generalized System of Preference)

อินเดียเป็นประเทศอับดับ1 ที่ส่งออกสินค้า อัญมณีและเครื่องประดับ ไปสหรัฐฯ แต่ในปัจจุบันอินเดียได้ถูกตัดสิทธิพเิ ศษ GSP จากสหรัฐฯ เนื่องจาก สินค้าเข้าหลักเกณฑ์ ถูกตัดสิทธิ GSP ตามเงื่อนไขที่สหรัฐฯ กำาหนดในปีนี้

เสื้อผ้าสำาเร็จรูปและสิ่งทอจะได้รับ GSP แต่สมาชิก EU 12 ประเทศยังหวั่นเกรงว่า สิ่งทอจากอินเดียจะมาทำาลาย อุตสาหกรรมสิ่งทอภายในของตน

เจรจาด้านการค้าและการร่วมมือ ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในกลุ่มสมาชิก เช่น

WTO

องค์การการค้าโลก

(Asia-Pacific Economic Cooperation ) : APEC

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซีย-แปซิฟิค