Brand New Sunset

Brand New Sunset You’re F@%kin Rock !!

ในความเคลื่อนไหวแวดวงพั้งค์ร็อคในบ้านเราช่วงนี้มันก็เงียบจนน่าใจหาย ไม่รู้เ พราะสาเหตุอันใดเหมือนกัน หรือว่ามัวแต่ไปเสพแต่ของนอก

หรือมัวแต่ภาวนาว่าเมื่อไหร่วงขวัญใจตูจะมาฟ่ะ ฮา ! ฮา ! ฮา ! ขอบอกครับขอบอก ไปซื้อหวยบนดินหรือแทงบอลชุดยังจะมีโอกาสมากกว่า มีสิทธิ์ลุ้นเห็นผลทันตาพ่อแม่พี่น้อง สำาหรับผู้ที่ติดตามงานประเภทอัตคัดอดสูดูกันเองเป็นประจำา คงรู้แล้วสิน่ะว่าคราวนี้ผมเหน็บวงอะไรมาชำาแหละพลางนินทา หากผู้ที่ไม่เคยก้าวเท้าออกมาจากกระดอง ก็ขอโปรดทำาความรู้จักกับยอดวงพั้งค์ร็อคสายเลือดไทยวงนี้เอาไว้เสียเถิด

จะว่าไปแล้วตามความเห็น (ของผม) พร้อมทั้งชะเมียงมองบรรดาวงที่เกิดขึ้นมาในวงการพั้งค์ร็อคบ้านเราแบบกระปิดกระปอย ก็เห็นจะมีวง Brand

New Sunset นี่แหละ เข้าตาอย่างจัง นับตั้งแต่พวกเขาสถาปนาตัวเองเมื่อปีพ.ศ. 2545 ภายใต้สังกัดขนาดย่อมของนายหัว “มี่” ณ New Destiny Record (ซึ่งค่ายนี้ก็อุดมไปด้วยวงพั้งค์ร็อคสุดจ๊าบอยู่หลายวง อาทิ Stage Clear, The Namesake Vendetta, Young Sing) กับงานแสดงครั้งแรกที่เห็นพวกเขาย่างกรายขึ้นมาก็เมื่องาน Hardcore Punk Fest เมื่อกลางปี 2545 ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ ขอบอกความจริงว่า เห็นครั้งแรกก็อดสบปรามาสตามกมลสันดานคนไทยนิยมของนอกว่า “มันจะไหวเร้อออ” “มันแจ๋วจริงเหรอฟ่ะ”

กับอีกร้อยแปดคำาถามที่ชอบเห็นแค่เปลือกแล้วนำาไปเยาะเย้ยอย่างดูแคลน แต่ทว่ามีลูกพี่ที่น่าเคารพในคราบที่น่ากระทืบพร้อมกันมากระซิบข้างหู “นี่แหละ The

Next Big Thing” เอางั้นเลยเหรอ ???

หลังจากงานนั้นเป็นต้นมาก็ได้ประจักษ์ ชายหนุ่มร่างงามนิสัยขี้เล่นทั้งสี่ก็ทำาเอาผมต้องขอกรีดเลือดสมัครเป็นสาวกระดับเดนตายของพวกเขาในทันที ขอแนะนำากันเป็นรายบุคคล เผื่อวันไหนคุณมีโอกาสไปดูพวกเขาเล่นกันแบบตัวเป็น ๆ

“ชาย” กับกีตาร์ Gibson คูใ่ จรับหน้าที่ร้องพร้อมวาดลวดลายบนเส้นหกสาย นอกจากลีลาและฝีมือการเล่นระดับไม่อายใครแล้ว

เบื้องหลังเขาคือบริกรบนที่สูงของสายการบินแห่งหนึ่ง ไป ๆ มา ๆ ในโซนเอเชียมีโอกาสได้เห็นโลกภายนอกอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะสาวต่างแดน เอ้ยย !! ไม่ใช่ มีโอกาสไปเลือกซื้ออุปกรณ์ดนตรีมาเสริมความแข็งแกร่งของซาวนด์ดนตรีให้แน่นกว่าเดิม จัดว่าเป็นคนที่ทุ่มเทอย่างมาก ขยันซ้อม วันไหนซาวนด์ออกมาไม่ดี ไม่ได้ดั่งใจ อารมณ์ของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับสตรีประจำาเดือนไม่มายังไงยังงั้น !!!

“ตูน” อดีตนักร้องนำาวง Hydrophobic (ถ้าจำาไม่ผดิ ) กับบทบาทหวดทุกอย่างที่เกิดเสียง

การหวดแสนร์ของเขาคงจะเป็นที่ถูกใจเหล่าซาดิสต์ชนไม่มากไม่น้อย ว่างจากการซ้อมหรือทำางานจะไปบริหารร่างกายด้วยแอดโดมิไนเซอร์เป็นประจำา ประมาณว่า รูปหล่อร่างงาม มีชัยไปกว่าครึ่ง ที่สำาคัญเซนท์ซิทีฟในเรื่องความรักค่อนข้างแรงอย่าบอกใคร ช่างขัดกับบุคลิกบ้าพลังอย่างยิ่ง

“ยุทธ” ไอ้หนุ่มผมเป๋ร่างท้วมผู้พิศมัยการดึงลวดห้าสาย (บางเวลาก็ชอบนึกว่าตัวเองเป็นจา พนม จะกระโดดข้ามรถ ฮา ฮา)

แม้ว่าเวลาอยู่บนเวทีเขามักจะไม่ค่อยออกลูกมากนัก เป็นคนพูดน้อย แต่ชอบเหลือกเกินกับการรับมุขฮาของสมาชิกในวง นี่แหละเขาเรียกว่า ภาระอันยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมกับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ สมาชิกสุดท้อง “กาน” หนุ่มน้อยอ้วนถ้วนไซส์โดเรมอน เข้ามาเติมเต็มในภาคริทึ่มกีตาร์ พร้อมการแหกปากสะเด่าทรวง จัดว่าเป็นคนอารมณ์ขัน คุยสนุก กินจุ อย่างแรง เมื่อใดที่ทำาหน้าที่บนเวที ลูกบ้ามีเหลือเฟือ ทั้งสี่หนุ่มต่างได้รับอิทธิพลมาจากแนวดนตรีหลายหลาก ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดคอร์ พั้งค์หัวหนาม, เมทัลคอร์เลือดสาด, เดธเมทัล กระชากไส้ จนถึง อีโม สครีมโม ยอดนิยม แต่ทแี่ น่ ๆ งานเพลงของพวกเขามีกลิ่นอายความเป็นเฮฟวี่เกือบร้อยเปอร์เซนต์ ในแบบที่พวกเขาโปรดปราน อาทิ Gun “n” Roses,

Metallica , Slayer และ Ozzy Osborne หลังจากก่อร่างสร้างตัวกันได้เป็นมั่นเหมาะ BNS เข็นอัลบั้มเต็มชุดแรก “Pick You Up When You’re Falling Down” ที่ผมขอยกให้เป็นสุดยอดงานพั้งค์ร็อคเลือดสยามประจำาปี พ.ศ.2546 และตลอดกาล (ที่หากค่ายยักษ์ใหญ่ได้ฟัง ต้องมีจีบเข้าค่าย) ออกมาในรูปแบบ Do It

Yourself (D.I.Y.) โดยไม่ต้องง้อระบบการตลาดให้เสียเอกลักษณ์วง ไม่ต้องปล่อยทีเซอร์แหย่ความอยาก ในจำานวนการปั๊มรอบแรกเพียงแค่ 200 แผ่น ไม่นานมันก็หมดไปพร้อมกับความฮือฮากระตู้ฮู้

แม้ว่าอัลบั้มนี้จะมีเพียงแค่ 8 เพลง และออกงานมาตั้ง 2 ปีเข้าไปแล้ว ขอบอกว่าทุกวันนี้ผมยังต้องหยิบมาฟังทุกครั้งด้วยความจ๊าบของซาวด์

รวมถึงความอัจฉริยะด้านการเรียบเรียงดนตรีด้วยตัวพวกเขาเอง ทุก ๆ เพลงจะมีท่อนริฟฟ์กีตาร์สุดเริด่ อลังการ ท่อนโซโล่ไม่ถึงกับสวมวิญญาณกีตาร์ฮีโร่ แต่ “ชาย” เลือกจังหวะในการประสานได้อย่างเหมาะเจาะ และที่สำาคัญของวงดนตรีแนวเฮฟวี่ พั้งค์ร็อค คือทีมเวิรค์ต้องเยี่ยม

และในระหว่างการต่อเพลงแต่ละครั้ง BNS มักจะหยิบท่อนริฟฟ์เด่น ๆ มาหลอกล่อผู้ชมอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็น REIGN IN BLOOD ของ

Slayer หรือจะเป็นเพลงคัฟเวอร์ Crazy Train ของป๋า Ozzy ที่เรียกเสียงเฮแฟนพันธุ์แท้ได้ดี ที่สำาคัญการนำามาเรียบเรียงใหม่ของพวกเขาเคยทำาให้ Mr. Takaho นักร้องนำาวง Unholy Grave (โคตรวง Grind Core จากญีป่ ุ่น) ที่เคยมีโอกาสมายืนดูพวกเขาเล่นถึงกับออกปากชม Nice Arrange !! ไม่ขาดปาก นี้ไม่นับรวมวงจากประเทศนอกอีกหลายวงที่ BNS มีโอกาสเล่นเป็นวงเปิดให้ ใครเจอ ใครได้ฟังถึงกับสะอึก ทึ่งในฝีมือกันเป็นแถบ อดภูมิใจไม่ได้นแี่ หละ Made In Thailand ของแท้โว้ย ด้วยพลังงานอันมหาศาลในการเล่นแต่ละครั้ง การเล่นเข้าขาแบบไร้ที่ติ ย่อมสะท้อนให้เห็นชั่วโมงบินอันโชกโชน BNS ผ่านการเล่นสดมาในระดับครึ่งร้อยโชว์เข้าไปแล้ว !!! เรียกว่างานเล็กงานใหญ่บรรดาโปรโมเตอร์ต้องจองตัว ซึ่งพวกเขาก็ไม่เคยอิดออดหรือเล่นตัวเรียกค่าจ้างเหมือนบรรดาซุปเปอร์สตาร์จอมปลอม ขอให้ได้ไปพบเพื่อน ๆ แฟนเพลง เพียงเท่านี้พวกเขาก็เล่นชนิดลืมโลกกันไปข้าง

ความน่าสนใจในตัวพวกเขามีอีกเยอะ และผมโคตรจะนับถือพวกเขาอย่างจริงใจ คือ ยึดมั่นความเป็น D.I.Y. Punk Rock

การปฏิเสธที่จะขายวิญญาณให้กับค่ายยักษ์ใหญ่ไร้จรรยาบรรณ รวมถึงการวางตัวนอบน้อมไม่กร่างเหมือนว่า “ข้าแน่” มีฝีมือ นี่แหละคือสิ่งที่ศิลปินบ้านเรานั้นขาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย

นินทามาเสียยืดยาว ดูเหมือนเขียนเชียร์กันออกนอกหน้า แต่ต้องขอทำาความเข้าใจกันไว้ว่า วงดนตรีระดับนี้ (ระดับชนชั้นใต้ดิน) นาน ๆ

ถึงจะมีผดุ ออกมาท่ามกลางวงการดนตรีที่ถูกมัดไว้ด้วยค่ายใหญ่ไม่กี่เจ้า นีแ่ หละของจริงที่ทุกคนควรหามาฟังไว้ประดับหัวนอนกันทุกครัวเรือน รับประกันความมันส์ แล้วคุณจะติดใจ พร้อมทั้งยกตำาแหน่งสุดยอดพั้งค์ร็อคเลือดสยามให้กับวงนี้เลย สนใจพูดคุยกับพวกเขาทางจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ หรือสอบถามหาผลงานร่อนไปหากันได้ที่ [email protected] หรือเช็คข่าวพวกเขาที่ http://www.brandnewsunset.rocks.it หรือ http://www.newdestinyrec.com หมายเหตุ : อัลบั้มชุดที่ 2 ของ BNS ใกล้ออกมาเขย่าวงการอีกครั้ง พร้อมการเปลี่ยนแปลงตำาแหน่งภายในวง เรียกว่าเห็นแล้วต้องช็อก