Technique For Collecting Data

  • November 2019
  • PDF

This document was uploaded by user and they confirmed that they have the permission to share it. If you are author or own the copyright of this book, please report to us by using this DMCA report form. Report DMCA


Overview

Download & View Technique For Collecting Data as PDF for free.

More details

  • Words: 468
  • Pages: 33
เทคนิคการรวบรวมข้อมูล 1. ประเภทของข้อมูล 2. ปั จ จั ย สำ ำ คั ญ ในกำรรวบรวมข้ อ 3. ขัน ้ ตอนกำรรวบรวมข้อมูล มูล 4. วิธีกำรรวบรวมข้อมูล 5. กำรสร้ำงเคร่ อ ื งมือในกำรรวบ

ประเภทของข้อมูล

 แบ่งตามแหล่งที่มา เช่น ปฐมภูมิ (Primary data) ทุติยภูมิ

(Secondary data)  แบ่งตามลักษณะตัวเลข เช่น ไม่ต่อเนื่อง (discrete data) ต่อเนื่อง (continuous data)  แบ่งตามลักษณะข้อมูล เช่น คุณภาพ (qualitative data) ปริมาณ (quantitative data)

ปัจจัยสำำคัญในกำรรวบรวมข้อมูล การตั้งนิยามศัพท์ ความถูกต้อง การจดบันทึกตัวเลข วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ระยะเวลาในการเก็บขอมูล

ขั้นตอนกำรรวบรวมข้อมูล กำาหนดตัวแปรที่ต้องศึกษา กำาหนดข้อมูลและตัวชี้วัด กำาหนดแหล่งข้อมูล เลือกวิธีรวบรวมข้อมูล ทดสอบเครือ่ งมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลจริง

วิธีกำรรวบรวมข้อมูล ข้อมูลที่มีอยูแ่ ล้ว ข้อมูลที่ได้จากการสังเกต ขัอมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ ข้อมูลที่ได้จากการตอบของผู้ตอบแบบสอบถามเอง

วิธีกำรสังเกต

 แบบเป็นทำงกำร/มีโครงสร้ำง

กับแบบไม่เป็นทำงกำร/ไม่มีโครงสร้ำง (formal/structural and informal/ unstructured observation)  แบบมีส่วนร่วม และไม่มีส่วนร่วม (participatory and nonparticipatory observation)  แบบควบคุม และแบบปล่อยให้เป็นธรรมชำติ (laboratory and field observation)

หลักกำรสังเกต  ต้องเป็นระบบ  ต้องเจำะจง  ต้องเป็นกลำง  ต้องทำำให้เป็นเชิงปริมำณ  ต้องจดบันทึกทันที  ต้องรอบรู้เรื่องที่สังเกต  ต้องตรวจสอบซำ้ำได้

ข้อจำำกัดของกำรสังเกต  สังเกตให้ครบถ้วนทำำได้ยำก  อำจเกิดปัญหำกำรลำำเอียง หรือกำรเสแสร้ง  ขึ้นอยู่กบั ทักษะของผูส้ ังเกตค่อนข้ำงมำก  อำจมีเหตุกำรณ์ไม่คำดฝันระหว่ำงกำรสังเกต  พฤติกรรมเล็กๆน้อยๆอำจสังเกตได้ยำก  ใช้เวลำ และค่ำใช้จ่ำยมำก

กำรสัมภำษณ์

 กำรสัมภำษณ์รำยบุคคล (Individual Interview)  กำรสัมภำษณ์เป็นกลุ่ม (Group Interview)  กำรสัมภำษณ์แบบมีโครงสร้ำง (Structured Interview)  กำรสัมภำษณ์แบบไม่มีโครงสร้ำง (Unstructured Interview)  กำรสัมภำษณ์แบบหยัง่ ลึก (Depth Interview)  กำรสัมภำษณ์แบบเน้นจุด (Focus Group)  กำรสัมภำษณ์ทำงโทรศัพท์ (Telephone Interview)

หลักการสัมภาษณ์ ขัน ้ เตรียมกำร ขัน ้ สัมภำษณ์ กำรปิดกำรสัมภำษณ์

ขั้นเตรียมการ

 กำำหนดวัตถุประสงค์กำรสัมภำษณ์ให้ชัดเจน  เตรียมเครื่องมือช่วยกำรสัมภำษณ์ให้พร้อม  พนักงำนสัมภำษณ์  ผูใ้ ห้สัมภำษณ์  เตรียมพื้นที่  พำหนะ อำหำร และกำรเงิน

ขั้นสัมภาษณ์ กำรแนะนำำตัว และสร้ำงควำมคุ้นเคย กำรเริ่มสัมภำษณ์ กำรบันทึกผล

การปิดการสัมภาษณ์ กำรกล่ำวขอบคุณ กำรตรวจสอบข้อมูล

กำรสร้ำงเครื่องมือ ประเภทของเครื่องมือ ขัน ้ ตอนในกำรสร้ำงเครื่องมือ ลักษณะเครื่องมือที่ดี

ประเภทของเครื่องมือ  แบบประกอบกำรสังเกต (Checklist)  แบบประกอบกำรสัมภำษณ์ (Interview schedule or guide)  แบบสอบถำม (Questionnaire)  แบบประเมินค่ำ (Rating scale)  แบบสังคมมิติ (Sociometric techniques)  แบบทดสอบ (Test)

แบบประกอบกำรสังเกต (Checklist) รำยกำรเคร่ อ ื งใช้ในครัวเรือนของก ลุม ่ ตัวอย่ำง ……….1. วิทยุ ……….2. โทรทัศน์สี ……….3. ตู้เย็น ……….4. พัดลม ………..5. เตำแก๊ส ฯลฯ

แบบประกอบกำรสังเกต (Checklist)2 พฤติกรรมของผู้นำำในกำรประชุมกลุ่ม วันที่……..เดือน…………..พ.ศ……เวลา………..ที่สังเกต พฤติกรรม จำานวนครั้ง หมายเหตุ 1. แสดงความคิดเห็น 2. ชีน้ ำาความคิด 3. กระตุ้นสมาชิกให้ แสดงความคิดเห็น

แบบประกอบกำรสัมภำษณ์ (Interview schedule) ส่วนท่ี 1 หัวข้อการวิจัย คำาชีแ ้ จงวัตถุประสงค์การวิจัย ส่วนท่ี 2 ข้อมูลในส่วนของเน้ือหาการวิจัย ส่วนท่ี 3 ข้อมูลทางด้านเศรษฐสังคมของกลุ่มตั วอย่าง

แบบประกอบกำรสัมภำษณ์ (Interview guide)

แบบไม่มีโครงส ร้าง

แบบสอบถำม (questionnaire)  เป็นเครื่องมือที่มีโครงสร้ำงคล้ำยกับแบบสัมภำษณ์แบบมีโครง

สร้ำง  มีคำำชี้แจงที่ละเอียดชัดเจน (ผูต้ อบสำมำรถเข้ำใจ ตอบเองได้)  คำำถำมเป็นภำษำที่เข้ำใจง่ำย ชัดเจน  ถ้ำเป็นแบบสอบถำมทำงไปรษณีย์ต้องมีที่อยู่ส่งกลับที่ชัดเจน

แบบประเมินค่ำ (Rating scale) แบบใช้ตัวเลข แบบไม่ใช้ตัวเลข

แบบใช้ตัวเลข ท่ำนพอใจกับนำยกรัฐมนตรีคนปั จจุบันเพียงใด? 1

2

3

4

5

แบบไม่ใช้ตัวเลข

ท่านพอใจกับนายกรัฐมนตรีคน ปั จจุบันเพียงใด? ……………………………………… (ตอบตามความคิดเห็นของท่าน)

แบบสังคมมิติ (Sociometric Technique) การสร้างภาพสังคม (Sociogram)

ท่ำนชอบทำำงำนกับใครมำกท่ีสุ ด? นิพน นิกร

ธ์

มำลั ย

วิชัย

มะลิ

แบบทดสอบ (Test) เป็ นกำรวัดควำมสำมำรถทำงสมอง (intellectual ability)

ขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือ1  แจกแจงประเด็นสำำคัญและข้อมูลที่ต้องกำรจำกวัตถุประ

สงค์ของกำรวิจัย  กำำหนดตัวแปรที่ต้องกำรจะวัดจำกประเด็นสำำคัญ

ขั้นตอนในการสร้างเครือ่ งมือ2 • กำาหนดตัวชีว้ด ั ของตัวแปรท่ีต้องก ารศึกษา • กำาหนดเกณฑ์ในการวัด

ขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือ3 • กำาหนดวิธีท่ีจะใช้วัด • ร่างคำาถามท่จี ะใช้ในการวัด

ลักษณะของเครือ่ งมือที่ดี 1 มีควำมตรง (Validity) 2. มีควำมเที่ยง (Reliability) 3. มีควำมยำก-ง่ำยพอเหมำะ (Difficulty) 4. มีอำำนำจจำำแนก(Discrimination Power) 5. ใช้ง่ำย (Usability)

มีความตรง (Validity) วัดควำมรู้ knowledge

ได้ควำ knowledge มรู้ ได้ควำมคิดเห็น opinion

1. กีฬาเอเช่ียนเกมส์ครัง้ท่ี 14 จะจัดขึ้นท่ีประเทศใด? 2. กีฬาเอเช่ียนเกมส์ครัง้ท่ี 14 ควรจะจัดขึ้นท่ีประเทศใด?

มีความเที่ยง (Reliability)

วัดก่ีครัง้ยังได้ผลเหมือนเดิม สอบครัง้ท่ี1 นักศึกษา 100 คน สอบตก 20 คน

สอบได้ 80 คน

นำานักศึกษากลุ่มท่ีสอบได้ 40 คน กลุม ่ ท่ีสอบตก 10 คน มาสอบครัง้ท่ี 2 สอบครัง้ท่ี2 นักศึกษา 50 คน สอบตก 11 คน

สอบได้ 39 คน

มีความยาก-ง่ายพอเหมาะ (Difficulty) ข้อสอบง่ำย นักศึกษำเข้ำสอบ 100 คน ได้ A ทุกคน ข้อสอบยำก นักศึกษำเข้ำสอบ 100 คน ได้ C 5 คน D 80 คน F 15 คน ข้อสอบท่ด ี ี นักศึกษำเข้ำสอบ 100 คน ได้ A 15 คน B 35 คน C 35 คน D 15 คน

อำานาจจำาแนก (Discrimination Power) เด็กเรียนดี สอบได้ เด็กเรียนไม่ดี สอบไม่ได้

Related Documents