..
เทศกาลทีไรเป็นอันต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกือบทุกครั้ง ครั้งนี้นานหน่อย บริษัทหยุดให้หนึ่งวัน แอบหยุดเองหนึ่งวัน และรวมวันเสาร์อาทิตย์ ได้สี่วันเต็ม ๆ กลับบ้านดีกว่าอยู่กรุงเทพฯ ชีวิตคนกรุงเทพฯที่หลาย ๆ คนบอกว่าถ้าว่างก็จะ ไปดูหนัง เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า แต่สำาหรับคนต่างจังหวัดอย่างเรามีเวลา กลับไปเที่ยวบ้านดีที่สุด ได้เจอครอบครัว ญาติพี่น้อง และได้ทำาอะไรกินอร่อย ๆ มาดูกันว่าวัน ๆ ของคนต่างจังหวัดเค้าทำาอะไรกันดีกว่า ผู้สูงอายุ ในที่นี้คือพ่อและแม่ของเราเอง ทุก ๆ วันทำาอะไร แม่ก่อน ตื่นนอนแต่ เช้า คำาว่าเช้าของต่างจังหวัดคือตีสามหรือไม่ก็ตีสี่ ตืนแล้วจ้า มาหุงข้าวให้ลูก อย่างเราที่นอนอย่างเมามันส์กิน แล้วก็นั่งกินหมากปากแดงอีกประมาณสอง ชั่วโมง ตามด้วยการทำากับข้าว สำาหรับแม่เช้าทำากับข้าวเพียงอย่างเดียว และกิน กับข้าวนี้สองมื้อ คือเช้าและกลางวัน ส่วนอาหารเย็นเดี๋ยวคิดกันใหม่ ไม่เกินเจ็ โมงเช้ากินข้าวเช้า จากนั้นก็เตรียมตัวไปสวน ทำางานสวนตามอัธยาศัย กลับมา บ้านประมาณ 11:30 “หิวจ้าหิว” แม่บอก มาถึงก็กินข้าวกลางวัน เที่ยงก็เข้าบ้านดู ข่าวนิดหน่อย ตามด้วยเอนหลัง เรียกง่าย ๆ ว่านอนกลางวัน บ่ายโมงครึ่งก็ตื่น ไปสวนรอบบ่าย ที่สวนแม่คงจะคิดได้ว่าจะกินอะไรตอนเย็น ๆ ประมาณ 17:00 กลับมาพร้อมผัก ผลไม้ เนื่อปลา พริกสวน ดอกกระเพรา เห็นก็เดาออกว่าคงจะ แกงปลา หน้าที่เราคือตำานำ้าพริกแกง ก็เอาทุกอย่างที่แม่เก็บมาใส่ครกหิน ตำา ตำา ตำา ให้ละเอียด ใส่กะปิดนิดหน่อย ระหว่างนี้แม่ก็นั่งเคี้ยวหมากตามปกติ นำ้าพริก เสร็จแล้ว แม่บอกว่าอย่าลืมใส่กระเทียม เรือ ่ งกระเทียมเนี่ยเป็นความหลังฝังใจ ทุก ๆ คนในครอบครัว เพราะสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยนั้นก็กลับมาบ้านแบบ เดียวกันนี้แหละ แม่ก็สั่งให้ตำานำ้าพริกแกงเขียวหวานไว้ให้ด้วย เราก็ตำาให้กะว่า ใส่ทุกอย่างแล้วใส่ถุงไว้ให้แม่ ก็กลับไปกรุงเทพฯ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน อาทิตย์ หนึ่งผ่านไปเกิดนึกขึ้นได้ โทรกลับมาบอกแม่ว่าลืมใส่กระเทียม แต่แม่บอกว่ากิน จนขี้ออกหมดแล้ว และแม่ก็จำาได้จนถึงทุกวันนี้ ต้องเตือนทุกครั้งเวลาสั่งให้ตำา นำ้าพริกต่าง ๆ กลับมาที่นำ้าพรกเสร็จแล้ว เตรียมผักแล้ว ไปเก็บใบมะกรูดหลัง บ้านมาหั่นละเอียด ๆ เตรียมให้ เชิญแม่มาทำาแกงได้แล้ว แม่ก็มาแกงให้ เสร็จ เรียบร้อยก็นำาขึ้นโต๊ะ พ่อกลับมานานแล้ว ก็เชิญกินอาหารเย็นได้ ที่บ้านใครหิวก็ กินได้เลยนะ ไม่มีใครมานั่งรอใคร กินแล้วก็ตอ ้ งล้างชามเอง ไม่มีการแช่นำ้าไว้ แล้วรอคนมาล้าง จากนั้นก็อุ่นอาหารอื่น ๆ ที่คาดว่าจะกินได้วางไว้ เป็นอันเสร็จ พิธีการตอนเย็น ใครใคร่กิน กิน ใครใคร่นอน นอน แล้วก็เป็นเวลาของการคุย สังสรรค์กันภายในครอบครัว เวลากินข้าวไม่มท ี ีวีดู เวลาดูทีวีไม่คุย จากนั้นแม่ก็ กินข้าว อาบนำ้า และไปนอนให้ทีวีดู วันนี้กิจกรรมของแม่ก็มีประมาณนี้ สำาหรับพ่อ ไม่มีอะไรมากตัดเรือ ่ งทำาอาหารไปคืองานของพ่อ พ่อตื่นเช้ากินกาแฟ แล้วไปตลาดเข้าสภาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วะกลับมากินอาหารเช้าที่บ้าน ประมาณเจ็ดโมงเช้า จากนั้นก็มุ่งหน้าไปสวนเช่นกัน สวนของพ่อและสวนของ แม่คนละสวนกันนะ มาถึงตอนนี้รายได้ของทั้งคู่ก็แยกกัน พ่อนั้นทำางานเก็บเงิน ซื้อยารักษาตนเอง พ่อเป็นถุงลมโป่งพอง เมื่อไปตรวจครั้งล่าสุดปอดพ่อใช้ได้ เพียง 35% เท่านั้น หลาย ๆ ท่านที่มีบิดาหรือเพือ ่ น ๆ สูบบุหรี่ขอให้ระวังโรคนี้ให้ ดีเพราะถุงลมที่โป่งไปแล้วจะไปดันถุงลมที่ดีให้ทำางานไม่ได้ พ่อหยุดสอบบุหรี่ -1-
ตั้งแต่อายุ 55 ปี แต่ผลจากการที่สูบต่อเนื่องเป็นเวลานานเพิ่งมาเห็นเป็นรูป ธรรมเมือ ่ พ่ออายุได้ประมาณ 65 ปี คุณหมอให้พอ ่ งดกินของหวาน คาดว่าคุณ หมอเห็นแนวโน้มของนำ้าตาลในเลือดของพ่อ จึงให้งด แต่ในชีวิตประจำาวันพ่อก็ เรียกร้องกินของหวานอยู่ดี แต่น้อยลงไปเยอะแล้ว ชีวิตพ่อผูกพันกับลูกและ หลาน พ่อยังคอยแนะนำาลูก และไม่พอใจเมื่อลูกไม่ทำาตาม แต่เนื่องจากสภาพ ร่างกายไม่พร้อมทำาให้ทำาเองไม่ได้ ถ้าโมโหจัด ๆ ก็จะหอบ หลานเคยทำาท่าตอนปู่ หอบให้ดู น่ากลัวมาก ไม่อยากให้พ่อไปไหนมาไหนคนเดียว แต่พ่อก็ดื้อเกินกว่า จะฟัง เราก็ได้แต่หวังว่าพ่อจะไม่เป็นอะไรมากไปกว่านี้ โชคดีอีกอย่างคือพ่อเรา อยู่ต่างจังหวัดอากาศดี ทำาให้ถึงแม้จะใช้ปอดได้น้อย แต่อากาศที่เข้าไปในปอดก็ เป็นอากาศที่บริสุทธิ์ ทำาให้พอ ่ ยังดูแข็งแรง และร่างกายออกท้วมนิด ๆ พ่อไป สวนตอนเช้า กลางวันกลับมากินข้าวที่บ้าน นอนกลางวัน และไปสวนอีกครั้ง ตอนบ่าย แล้วกลับมาบ้านตอนเย็นทุกวัน บางวันพ่อก็เตรียมตัวไปค้างบ้านสวน เพราะเดี๋ยวนี้มีคนมาขโมยของที่สวน เช่น ก๊อกนำ้า สายไฟ เพือ ่ เอาทองแดง ก็คง เหมือนชุมชนอื่น ๆ ที่ของหายเหมือนกัน สำาหรับสายไฟเคยมีคนมาลักตัดไปขาย คิดว่าครั้งหนึ่ง ส่วนที่บ้านสวนเคยมีคนไปเปิดหลังคาเพื่อขโมยของในบ้านเช่น กัน พ่อก็เลยต้องการไปเฝ้า สำาหรับเราห่วงพ่อมากกว่า สมบัติถ้าไม่ตายเดี๋ยวก็ หาซื้อใหม่ได้ แต่ชีวิตพ่อเราไม่อยากเสี่ยง แต่เชื่อเหอะพูดไปพ่อก็ดื้อหวงของ มากกว่าห่วงชีวิตตนเอง ต้องไปเฝ้าเกือบทุกวัน ถ้าหลานมานอนด้วยพ่อก็ไม่ได้ ไปเพราะห่วงหลาน ทำาให้เราเห็นว่าชีวิตที่ผูกพันกับวัตถุมาก ๆ ทำาให้เราเป็น ทุกข์จริง ๆ จากพ่อกับแม่ก็ถึงตัวเรา มาบ้านก็เปิดสำาหรับกับข้าวก่อนว่ามีอะไรกินบ้าง แล้ว ก็กินให้อิ่ม จากนั้นก็เดินสำารวจในบ้าน ตามด้วยนอกบ้าน ฝุ่นเยอะจริง ๆ จาก นั้นก็จัดการกับฝุ่นในบ้านโดยการกวาด กวาด ออกไป จากนั้นก็พัก และคิดเมนู อาหาร เห็นมั้ยไม่ได้ทำางานก็คิดแต่เรื่องกินอย่างเดียว จากนั้นก็มานั่งคุยกับลูกพี่ ลูกน้องว่าจะกินอะไรดีวันนี้ กินอะไรดีวันพรุ่งนี้ กิจกรรมหลักคือกิน พอคิดเรื่อง กินเรียบร้อยก็ตามด้วยทำาความสะอาดบ้าน ก็กวาดฝุ่นออกไปให้หมด คำาว่าหมด หมายถึงเราคิดว่าหมดแล้ว เรื่องจริงอาจยังตกค้างอยู่ก็ได้ แม่มาเห็นก็บอกว่า กวาดอย่างเดียวไม่สะอาดหรอกต้องถูด้วย เป็นอันว่าได้ถูบ้านตามระเบียบ สำาหรับครัวนั้นสองสามวันจะถูกที สำาหรับบริเวณที่นอนในบ้านนั้นแม่ทนไม่ ไหวเมื่อไรแม่ก็จะถูซักที บ้านนี้เป็นสมบัติของพ่อกับแม่โดยทั้งสองคนแบ่งกัน ทำาความสะอาดดังนี้ ในครัวแม่ทำา ในบ้านพ่อทำา พื้นที่ในบ้านนั้นเป็นสามเท่า ของพื้นที่ครัว ชั้นสองไม่ต้องทำาเพราะไม่มีคนอยู่ พ่อก็เหนื่อยแค่ชั้นหนึ่งอย่าง เดียว กลับมาถึงบ้านไม่เคยไปสวน พอทำาอาหารเรียบร้อยก็หยิบงานทีร ่ ับปากเจ้า นาย รับปากลูกน้อง รับปากกับตนเองออกมาทำา นี่คือชีวิตทุก ๆ วันของเรา จุดสังเกตจุดหนึ่งที่เขียนมาทั้งหมดจะเห็นว่าพ่อแม่และตัวเราใช้เวลาเกือบทั้ง วันทำาสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ กิจกรรม พ่อ แม่ เรา 6 6 6 การทำางาน 0 3 1 ทำาอาหาร 1.5 1.5 1 กินอาหาร -2-
คุยกัน ดูทีวีกลางวัน นอนกลางวัน ดูทีวีกลางคืน นอนกลางคืน ทำากิจกรรมเพือ ่ สังคม อยู่กับตัวเอง
1 1 1 1.5 6 2
1 1 1 1 6 0
1 2 0 1 8 0
4 24
3.5 24
4 24
ตัวเลขที่เขียนขึ้นเป็นตัวเลขประมาณการเท่านั้น ยิ่งเวลาที่นอนและทำากิจกรรม ของเราลดลงมากเท่าไร แสดงว่าเราจะมีเวลาอยู่กับตนเอง และคิดเรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้นเท่านั้น เมือ ่ ใดก็ตามที่เราบอกว่าไม่มีเวลาลองทำาตารางงานแบบนี้ดูจะ เห็นเวลาที่เราจะสามารถนำามาใช้ได้ทันที
-3-