Born To Be

  • November 2019
  • PDF

This document was uploaded by user and they confirmed that they have the permission to share it. If you are author or own the copyright of this book, please report to us by using this DMCA report form. Report DMCA


Overview

Download & View Born To Be as PDF for free.

More details

  • Words: 1,307
  • Pages: 18
หมอบ้านนอก

เรื่องผีๆ เมื่ออาจารย์ใหญ่ตามไปเยี่ยมถึงหอ เรื่องเหม็นๆ เมื่อต้องตรวจ ฉี่ และ ขี้ ตัวเอง เรื่องฮาๆ กับอาจารย์หมอและก๊วนเพื่อน เรื่องโหดๆ กับการเรียนและการสอบสุดหิน

born to be

เกิดมาเพื่อเป็น เกิดมาเพื่อเป็น หมอ ใคร? อยากเป็นหมอ ใคร? กำลังเรียนหมอ

ใคร? ที่ต้องไปหาหมอ

ใคร? อยากให้ลูกเป็นหมอ

หมวดจิตวิทยาทั่วไป 149.ISBN : 978-974-349-157-3

9789743491573

149.-

ใคร? อยากมีแฟนเป็นหมอ

ต้องอ่าน!!!

เกิดมาเพื่อเป็นหมอ ตุลาคม 2551 จำนวนหน้า 176 หน้า ราคา 149 บาท

เขียนโดย : หมอบ้านนอก บรรณาธิการที่ปรึกษา : ภีรพล คชาเจริญ บรรณาธิการ สนพ. : สุรัสวดี วงศ์จันทร์สุข ฝ่ายขาย : นพไพสิทธ์ พรรณโภชน์ ออกแบบปก/รูปเล่ม : ธงชัย จันทร์นวล, วรวิทย์ แซ่อึ้ง ภาพประกอบ : ธงชัย จันทร์นวล บายยัวร์เซลฟ์ พับลิชชิ่ง By Yourself Publishing 119/272 หมู่ 8 ซ.รัตนาธิเบศร์ 18 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ. นนทบุรี 11000 Tel. 02 525 5033, 39 แฟกซ์ 02 580 4654 เลข ISBN 978-974-349-157-3 ข้อมูลบรรณานุกรม พิมพ์ที่ : บริษัท เอส.เอ็ม.เค.พริ้นติ้ง จำกัด จัดจำหน่าย : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) SE-EDUCATION PUBLIC COMPANY LIMITED อาคารเนชั่นทาวเวอร์ ชั้น 19 เลขที่ 1858/87-90 ถ.บางนา-ตราด บางนา กรุงเทพฯ 10260 Tel. 0-2739-8222, 0-2739-8000 Fax. 0-2739-8356-9 http://www.se-ed.com สงวนลิขสิทธิ์ เนื้อหา และภาพประกอบในเล่ม ห้ามลอกเลียน ไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ของหนังสือเล่มนี้ นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็น ลายลักษณ์อักษร จากสำนักพิมพ์ บายยัวร์เซลฟ์ พับลิชชิ่ง

คำ (แนะ) นำ ชีวิตหมอๆ การเป็นหมอนั้นมันไม่ง่ายและสบายเหมือนที่คนทั่วไปคิด พอได้มา เป็นหมอซะเองถึงได้รู้ว่าอะไรๆ มันไม่ง่ายอย่างที่ใครๆเข้าใจ และแม้แต่ ตัวผมเองก็เคยเข้าใจแบบนั้นมาก่อนเช่นกัน เพราะนอกเหนือจากตัวโรคแล้ว หมอยังต้องเจอกันผู้คนที่เป็นโรคอีก มากมาย ซึ่งมาในลักษณะต่างๆ กัน และมีความเข้าใจกับความต้องการที่ ต่างกัน บางคนยิ้มให้เรา ให้เกียรติเราในฐานะที่เป็นแพทย์ แม้เราจะอายุ น้อยกว่าลูกของเขา แต่คนไข้และญาติบางคนก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น เห็นเรา เป็นเพียงผูใ้ ห้บริการทีต่ อ้ งทำตามหน้าทีเ่ ท่านัน้ ไม่ใช่ผทู้ คี่ อยช่วยเหลือเขา ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องมาขอบใจ (ไม่พอใจก็ลาออกไปซิ) และถึงบางครั้ง มันจะทำให้เราเหนื่อยใจมาก แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่า นั่นเป็นเพราะ “หมอเคยเป็นคนไข้ แต่คนไข้ไม่เคยเป็นหมอ” ดังนั้นหมอจึงเข้าใจความรู้สึกของคนไข้ แต่คนไข้และญาติอาจจะไม่ เข้าใจหมอ ต่อให้อธิบาย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม แม้จะชักแม่น้ำทั้ง 5 จนถึง มหาสมุทรก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเหน็ดเหนื่อยก็ยังมีเรื่องน่าชื่นใจให้เรา จดจำอยูเ่ รือ่ ยๆ หากว่าคุม้ ค่ากับความเหนือ่ ยทีเ่ ราลงทุนลงแรงไป คุณไม่มี สิทธิ์คิดว่ามันไม่คุ้ม เพราะชีวิตคนแม้จะต้องลงทุนและทุ่มเทสักเพียงไร ก็ตอ้ งทำเท่าทีโ่ อกาสและสถานการณ์จะเอือ้ อำนวย ห้ามคิดว่าไม่คมุ้ เด็ดขาด

มันไม่ใช่แค่ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน แต่มันเต็มไปด้วยการคิดการ ตัดสินใจ มีความเครียดความกดดัน ชีวิตคนไข้ และความคาดหวังอัน มหาศาลของคนไข้และญาติอยู่ในนั้น คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดกันอยู่ว่า เป็นหมอนัน้ สบาย รายได้ดี แต่เขาอาจจะเปลีย่ นความคิดถ้าเคยเป็นคนไข้ หรือไปเยี่ยมญาติในโรงพยาบาล หากมีลูกหรือญาติที่ต้องมาเรียนหมอ ไม่ว่าจะที่โรงเรียนแพทย์ไหนๆ ก็ตาม เพราะจะได้เห็นการเรียนของนักเรียนแพทย์ ว่าวันๆ ต้องทำอะไรบ้าง ทำไมถึงเห็นหมอเกือบตลอดเวลา (หมอเอาเวลาที่ไหนไปนอนกันวะ) บางคนอยากจะเอ็นทรานซ์เข้าเรียนหมอ เพราะอยากรวย แต่พอ เห็นสภาพการเรียนของเราแล้ว เปลี่ยนใจไปเรียนอย่างอื่นเลยก็มี ซึ่งก็ ถือว่าทำถูกแล้ว ถ้าอยากสบาย อยากรวย ต้องไม่เป็นหมอ และถึงแม้ ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใจว่าหมอเหนื่อยแค่ไหน แต่พวกเราก็ “ภูมิใจ” ที่ได้ทำหน้าที่นี้ อยากให้ทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ได้เห็นชีวิตการเรียนของพวกเรา จะได้เข้าใจหมออย่างเรากันมากขึ้น ขอบคุณครับ หมอบ้านนอก

20

28

32

ขึ้นปี 2

ขึ้นปี 1

พี่ปี 3

รับน้อง

น้องไหม่ สารบัญโรงเรียนหมอ

58

82

98

140

156

หมอมือไหม่

จบเสียที

ปี 5

ข้ามฟากมาปี 4

ปี 6 Extern

124

160

ขึ้นปี 2

หลังจากผ่านการเรียนแบบสบายๆ และการทำกิจกรรมสนุกๆ ในปี 1 และผ่านการปิดเทอมอันยาวนานถึง 3 เดือน ก็ได้เวลาเปิดเทอมขึ้นปี 2 ซะที วิชาที่เรียนส่วนใหญ่ก็เป็นวิชาคณะ และจะเริ่มเข้าสู่การเรียน ที่ยากของจริง หรืออาจเรียกได้ว่ายากแบบนรกชัดๆ เพราะบางเรื่อง เป็ น เรื่ อ งที่ เ ราไม่ เ คยรู้ ม าก่ อ น ส่ ว นกิ จ กรรมนอกหลั ก สู ต รในปี นี้ นั้ น ก็ ถื อ ว่ า น้ อ ยมากๆ เมื่ อ เที ย บกั บ ปี อื่ น ๆ เนื่ อ งจากรุ่ น พี่ เ ค้ า ยั ง มี ค วาม เมตตาสงสารอยู่บ้างกับการที่ปี 2 อย่างเราเพิ่งจะได้เรียนวิชาคณะของ จริง ต้องอาศัยการปรับตัวพออยู่สมควร สำหรับการเรียนจะแบ่งเป็น 2 เทอม เหมือนตอนปี 1 เช่นกัน เทอมที่ 1 เรียน Human Gross Anatomy I, Human Gross Anatomy II, Human Gross Anatomy III, Human Microscopic Anatomy I, Basic Medical Biochemistry I, Basic Medical Biochemistry II, Community Medicine I

เทอมที่ 2 เรียน Ballroom dance, Human development, Human Microscopic Anatomy II, Human neuroanatomy I, Human neuroanatomy II, Medical genetics, Medical Physiology I, Medical Physiology II, Field practice in Community Medicine การเรียนจะเน้นการเรียนรู้เนื้อหาที่มีความสัมพันธ์และสอดคล้องกัน ระหว่างวิชาพื้นฐาน 3 วิชา คือ กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา และชีวเคมี ขึ้นปี 2 ล่ะนะ >>> Human Gross Anatomy I, Human Gross Anatomy II, Human Gross Anatomy III เป็นวิชาพื้นฐานที่สำคัญของการเริ่มต้นที่จะเข้ามาศึกษาวิชาแพทย์ แขนงต่ า งๆ สามตั ว นี้ เ ป็ น การเรี ย นต่ อ เนื่ อ งกั น ไปโดยเรี ย นกั บ ร่ า ง อาจารย์ใหญ่ สำหรั บ นั ก ศึ ก ษาแพทย์ ทุ ก คนที่ อ ยากจะเป็ น แพทย์ ใ นอนาคต (เพราะถ้าอยากเรียนแพทย์เพื่อที่ว่าจบไปจะได้ขายอาหารเสริมได้ง่าย ขึ้นก็จงอย่าได้เสียเวลามาเรียนตั้ง 6 ปีเลย) จำเป็นต้องรู้จักทุกส่วนที่ เป็นองค์ประกอบของร่างกาย เรียนรู้การทำงานและตำแหน่งของอวัยวะ ต่างๆ ในสภาพที่เป็นปกติก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานความรู้ก่อนจะไปเรียน ถึงความผิดปกติที่เกิดจากโรคต่างๆ ซึ่งพวกเรามักจะเรียกกันว่า Gross เพือ่ ให้สนั้ และง่ายต่อการเรียก เวลาใครถามว่าไปไหน ก็จะตอบว่าไปเรียน Gross นั่นเอง 60

ความรูด้ า้ นกายวิภาคศาสตร์จะสมบูรณ์นนั้ ต้องอาศัยการชำแหละศพ หรือร่างอาจารย์ใหญ่ ซึ่งจะแบ่งเป็น 6 คนต่อร่างอาจารย์ใหญ่ 1 ร่างหรือ 1 โต๊ ะ ในครั้ ง แรกที่ เ รี ย นจะต้ อ งค่ อ ยๆ ลอกหนั ง ออก เพื่ อ ศึ ก ษา เส้นประสาทใต้ผิวหนัง เนื่องจากผมไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และ อาจมือหนักไปหน่อย ทำให้ลอกหนังลึกเกินไป จึงหาเส้นประสาทส่วนนี้ ไม่เจอ หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนในกลุ่มให้ หาอีกเลย สำหรับคนที่เพื่อนต่างพากันประชดว่าโคตรจะขยันอย่างผมแล้ว กลับ ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีอะไรเลย และทำให้ผมต้องรับหน้าที่อันสำคัญก็คือ การเลาะไขมันออกจากร่างอาจารย์ใหญ่ ซึง่ เป็นงานทีท่ กุ คนไม่มใี ครอยาก ทำ ถ้าพ้นหน้าที่นี้แล้ว ก็ทำได้เพียงคอยนั่งดูเพื่อนทำต่อ หรืออ่านวิธีทำ ตามหนังสือให้เพื่อนทำตาม หรือไม่ก็คอยร้องเพลงหรือเล่าเรื่องตลกให้ มันฟัง แต่ก็มีเพื่อนๆ โต๊ะอื่นหลายคนที่หาเจอเลยต้องไปขอเค้าดู

61

ขึ้นปี 2

วิชากายวิภาคศาสตร์จงึ ถือเป็นวิชาพืน้ ฐานขัน้ ต้นสำหรับแพทย์ทกุ คน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า วิชานี้จะเรียนกันเฉพาะแพทย์เท่านั้น นักศึกษา สาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพก็ยังต้อง เรียนรู้วิชานี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทันตแพทย์ที่เน้นหนักเฉพาะส่วนหัว และลำคอ กายภาพบำบัดเน้น แขน ขา สันหลัง กล้ามเนื้อหลัง ซึ่งใน ส่วนต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น พวกเขายังต้องเรียนรู้ให้มากกว่านักศึกษา แพทย์ดว้ ยซ้ำไป และยังมีนกั ศึกษาพยาบาลทีต่ อ้ งมาเรียนร่วมกับพวกเรา ด้วยเช่นกัน และอาจทำให้ใครหลายๆ คนพบรักในห้องเรียนได้

หลังจากเรียนจบในแต่ละส่วน จะมีการสอบเก็บคะแนน ซึ่งก่อนสอบ บรรดาผมและเพื่อนๆ ทั้งหลายก็จะมีดอกไม้บ้าง พวงมาลัยบ้างมาไหว้ ขอพรจากอาจารย์ใหญ่ ขอให้ได้คะแนนสอบดีๆ อย่าได้สอบตกเลย การสอบในวิชา Human Gross Anatomy ทุกคนจะอ่านหนังสือกัน หนักมาก เนื่องจากเนื้อหาที่มาก เป็นเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และการ สอบเองก็ยังมีหลายส่วน ทำให้เราต้องมาดูและท่องตำแหน่งของอวัยวะ หรือเส้นเลือดต่างๆ ว่าตรงไหนเรียกว่าอะไร ทำหน้าที่อะไร และอะไรต่อ มิอะไรอีกมากมายที่ต้องท่องและจำเพื่อนำไปสอบ ลักษณะการสอบคือ จะมีทั้งข้อสอบที่เป็นตัวเลือก ข้อสอบบรรยาย และข้อสอบที่เรียกว่า OSCE หรือ Lab กริ๊ง คำว่า Lab กริ๊ง มีที่มาจาก เสียงนาฬิกาจับเวลานัน่ เอง โดยการสอบในส่วนนีน้ นั้ จะมีการนำเอาอวัยวะ กล้ามเนือ้ เส้นเลือดและเส้นประสาทต่างๆ มาผูกติดกับป้ายคำถาม เช่นว่า กล้ามเนื้อมัดนี้ ชื่ออะไร ทำหน้าที่อะไร เลี้ยงโดยเส้นประสาทเส้นไหน โดยจับเวลาเป็นข้อๆ ข้อละประมาณ 40 วินาที หลังจากหมดเวลา จะมีเสียงสัญญาณกริง่ ดังกริง๊ ซึง่ เป็นทีม่ าของ Lab กริ๊ง โดยหากหมดเวลาแล้วเราจะไม่สามารถกลับมาทำในข้อเดิมได้อีก นับได้ว่าการสอบในส่วนนี้กดดันและเจ็บปวดหัวใจเป็นที่สุด มักจะเป็น ส่วนที่นักศึกษาแต่ละคนทำคะแนนได้น้อยที่สุดด้วย เพราะนอกจากจะ ตกใจจนเกือบลืมคำตอบทุกครั้งที่เสียงกริ่งดังขึ้น เนื่องจากต้องคิดคำ ตอบให้ออกในเวลาที่จำกัด บางครั้งกำลังจะนึกออก พอเสียงกริ่งดังขึ้น อารามตกใจ ก็ทำให้ไอ้ที่กำลังจะนึกออก กลายเป็นนึกไม่ออกไปซะงั้น 62

ในการเรียนส่วนต่อมาคือ ส่วนที่เกี่ยวกับแขน-ขา อาจารย์ผู้สอนจะ เน้นการเรียนรูท้ เี่ กีย่ วกับกล้ามเนือ้ เส้นเลือด และเส้นประสาท ซึง่ ส่วนนีจ้ ะ มีความแตกต่างระหว่างเพศชายกับเพศหญิงอีก คือกล้ามเนือ้ ของเพศชาย จะเห็นชัดเจนกว่าของเพศหญิง อีกทั้งเส้นเลือดก็เห็นได้ชัดเจนกว่า หรือ แม้แต่ในเพศเดียวกันก็มบี างอย่างทีแ่ ตกต่างออกไป เช่น อาจารย์ใหญ่ของ ผมท่านมีพยาธิสภาพที่หลัง คือหลังโก่ง ซึ่งทำให้การชำแหละร่างยากขึ้น ไปอีก แต่ยงั ไงก็ตอ้ งกราบขอบพระคุณท่านทีบ่ ริจาคร่างกายเพือ่ เป็นวิทยา ทานอันสูงสุดให้พวกผมได้เรียนรู้กัน สำหรับวิชานี้เป็นพื้นฐานสำคัญมากของคนที่จะต้องไปเรียนวิชาที่ ต้องผ่าทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะศัลยกรรม ศัลยกรรมกระดูก หรือแม้แต่ สูตินรีเวชกรรมก็ตาม เพราะเหมือนเรามาเรียนแผนที่ของร่างกายมนุษย์ เพราะถ้าเราไม่รู้จักแผนที่จะเดินทางถูกได้ยังไง ก็เหมือนกับการลงมีดก็ ต้องลงให้ถูกตำแหน่งด้วยเช่นกัน และต้องระวังไม่ให้ไปถูกส่วนที่เราไม่ ต้องการ เช่น เส้นเลือดหรือเส้นประสาทขนาดใหญ่นั่นเอง 63

ขึ้นปี 2

ผลการสอบหรือครับ ตกกันกระจาย และร้องไห้กันระงม เนื่องจาก บางคนเคยเรียนและทำคะแนนได้ดี บางคนสอบได้ที่ 1 ที่ 2 ของโรงเรียน ประจำจั ง หวั ด ชี วิ ต นี้ ไ ม่ เ คยสอบตกมาก่ อ น แต่ ต้ อ งมาสอบตกที่ นี่ คิดดูเอาเองก็แล้วกันว่า มันเจ็บปวดแค่ไหน แต่สำหรับผมสามารถผ่าน มันมาได้โดยที่คะแนนไม่ได้น่าเกลียดอะไร เนื่องจากอยู่กลุ่มเดียวกับ เพื่อนที่ทั้งเก่งและใจดี โชคดีที่มันคอยช่วยติวให้ตลอด โดยเฉพาะช่วง ก่อนสอบ รวมถึงความสามารถเฉพาะตัวในการอ่านหนังสือในคืนสุดท้าย ก่อนสอบโดยไม่ได้นอน จึงได้ความจำระยะสั้นมาช่วยให้รอดตัวไปได้ ทุกครั้ง

หลังจากที่ศึกษาครบทุกส่วนแล้ว ทางคณะแพทยศาสตร์จะมี “พิธี พระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่” เพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้อุทิศร่างกาย ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังต่อไปในภายหลัง สำหรั บ ความรู้ สึ ก ของผม ผมรู้ สึ ก เคารพรั ก ผู ก พั น และนั บ ถื อ อาจารย์ใหญ่มาก ถึงแม้วา่ จะไม่เคยพบกันมาก่อน มาพบกับท่านครัง้ แรก ในพิธีทำบุญอาจารย์ใหญ่ก่อนที่จะเริ่มเรียน และทำการชำแหละร่างของ ท่าน ในวันนั้นผมรู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของท่าน ที่ท่านเสียสละอุทิศ ร่างกายให้พวกผมได้ศึกษา และขอขอบพระคุณญาติของท่าน ที่เห็นด้วย กับการบริจาคร่างของท่านเพื่อให้การศึกษากับวงการแพทย์ ถ้าถามผม ว่ากลัวอาจารย์ใหญ่ไหม คิดเอาเองละกันครับ วันแรกที่เรียนนี่ หน้าซีด คลื่นเหียน วิงเวียน เหมือนจะเป็นลม ต้องไปหาเก้าอี้ ไปนั่งพิงผนังห้อง แล้วเอาหน้าไปจ่อกับพัดลมขนาดใหญ่ที่ทางภาควิชาจัดไว้ให้ในห้อง เหมือนกับว่าอาจารย์จะรู้ว่ามันต้องมีไอ้ลูกศิษย์ประเภทนี้ โผล่ออกมา ซักคนสองคนแน่นอน ในช่วงแรกๆ ที่เรียนทุกคนก็ใจซื่อมือสะอาด ใส่ถุงมือตอนที่ชำแหละ ร่างอาจารย์ใหญ่ เสื้อกาวน์ยาวที่ใช้ใส่เวลาชำแหละก็ต้องส่งซักมันทุก วัน แต่พอนานๆ ไป ความเป็นผู้ดีเริ่มหายไป หันมาใช้มือเปล่ากันบ่อยขึ้น ยิ่งเสื้อกาวน์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทิ้งมันไว้ในล็อกเกอร์นั่นแหละ พอถึงเวลา เรียนก็หยิบจากล็อกเกอร์มาใส่ใหม่ เรื่องซักน่ะเหรอครับ แทบจะเดือนละ ครั้งเลยทีเดียว บางทีถึงขนาดที่ว่ากำลังชำแหละร่างอาจารย์ใหญ่อยู่ ถ้าเกิดหิวขึ้นมา ก็ลงไปซื้อขนมหรืออาหารใต้ตึกคณะกิน เสร็จแล้วก็ ขึ้นมาทำต่อ หรือแอบซื้อมากินในห้องด้วยเลย ไอ้ความรักสะอาดในตอน แรกมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ 64

เรื่องลับๆ ที่ ไม่อยากเข้าใจ ในระหว่างเรียน Human Gross Anatomy นั้น การอ่านหนังสือแต่ เพียงอย่างเดียว โดยทีไ่ ม่ได้ดขู องจริงเปรียบเทียบนัน้ แทบจะไม่มปี ระโยชน์ อะไรเลย เพราะฉะนัน้ เพือ่ การเรียนรูท้ สี่ มบูรณ์แบบจะต้องมีการนำชิน้ ส่วน ของอาจารย์ใหญ่กลับมาท่องที่ห้องด้วย ซึ่งเพื่อนๆ ก็มักจะทำกันแบบนี้ ทุกคน และทำกันแบบนีม้ าหลายรุน่ แล้ว และแต่ละคนก็จะพบเรือ่ งแปลกๆ ที่เกิดตามหลังจากที่นำของเหล่านี้กลับมาที่ห้อง เริม่ จากคนใกล้ตวั ก่อนละกัน ไม่ใช่ใครหรอกครับ ก็ผมเองนีแ่ หละ ทีเ่ อา กระดูกอาจารย์ใหญ่กลับมาทีห่ อ้ งด้วยเหมือนกัน วันนัน้ หลังจากกลับจาก เรียนผมก็นำกระดูกส่วนขาของอาจารย์ใหญ่กลับมาที่ห้องด้วย แล้วก็ไป เที่ยวห้างสรรพสินค้ากับเพื่อนๆ ตามประสาเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป ที่ตอน นี้เริ่มแก่แล้ว ขากลับก็ซื้อของกินติดมือกลับมาพอสมควร กว่าจะกลับ ถึงหอก็ประมาณ 5 ทุม่ แล้ว อาบน้ำและทำโน่นทำนีอ่ กี พักใหญ่ พอเข้านอน ก็ปาเข้าไปเกือบจะตี 2 แต่ไม่ได้นอนจริงๆ หรอกครับ ไม่ได้หลับมัน เลยทัง้ คืน ได้ยนิ เสียงเหมือนคนรือ้ ถุงขนมทัง้ คืน เข้าใจความหมายของคำว่า นอนตะแคงตัวแข็งทือ่ ได้อย่างดีกค็ ราวนีแ้ หละครับ เหงือ่ แตกไปทัง้ ตัวยังกับ อาบน้ำมาใหม่ มันทรมานสุดๆ เลยครับ แต่พอวันรุง่ ขึน้ ผมไปซือ้ พวงมาลัย มากราบกระดูกของท่าน หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ยินเสียงอะไรอีกเลย

75

ขึ้นปี 2

แทนทันที ไม่ต้องสงสัยนะครับว่า เราเอากบนั้นไปทิ้งที่ไหน ไม่มีใครเค้า เอาไปผัดเผ็ดหรอก ถึงจะอยากทำอย่างนั้นก็ตาม ก็มันโดนฉีดยาไปแล้ว ใครจะไปกินลง ถึงจะบ้าแต่ก็กลัวตายเหมือนกันนะเว้ย

หรือผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ บางคนอาจสงสัยนะครับว่ามันโดน แบบนี้แล้วมันทำอะไรกับกระดูกชิ้นนั้น มันเอาไปคืนหรือมันยังเอามา ท่องต่อ ไม่ได้เอาไปคืนหรอกครับ เพราะกลัวสอบตกมากกว่ากลัวผี แต่ก็ ไม่แน่เหมือนกันนะครับ เพราะว่าครัง้ นีไ้ ด้ยนิ แต่เสียง แต่ถา้ เจอเป็นตัวละก็ ขอบาย ตกเป็นตก ทางใครทางมันละกันนะครับอาจารย์ใหญ่ หรื อ เรื่ อ งที่ ช วนให้ น่ า สงสั ย ของผมอี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ที่ จ ะเล่ า ต่ อ ไปนี้ ต้องขออธิบายก่อนว่า ในการเรียนวิชา Human Gross Anatomy นั้น แต่ละกลุ่ม ซึ่งมีทั้งหมดหกคนนั้น จะได้รับมอบร่างอาจารย์ใหญ่หนึ่งร่าง และชุดโครงกระดูกอีกหนึ่งร่าง ซึ่งอาจารย์ใหญ่ของผมนั้นท่านเป็นพระ และอาจารย์ใหญ่ที่เป็นชุดโครงกระดูกนั้นมียศเป็นร้อยตรี ในระหว่าง เรียนนัน้ ผมไม่เคยซือ้ พวงมาลัยมาไหว้อาจารย์ใหญ่ทเี่ ป็นพระเลย ไหว้แต่ อาจารย์ใหญ่ที่เป็นชุดโครงกระดูก ก็สืบเนื่องมาจากเสียงค้นถุงขนมใน คืนนัน้ จนผมไม่ได้นอนนัน่ แหละครับ ในขณะทีเ่ พือ่ นอีกคนหนึง่ ไหว้เฉพาะ อาจารย์ใหญ่ที่เป็นพระ แต่ไม่เคยไหว้อาจารย์ใหญ่ที่เป็นชุดโครงกระดูก ตรงข้ามกันกับผมเลย และในคืนเดียวกันนั้น ผมก็ฝันเห็นพระรูปหนึ่งที่มี ร่างผอมๆ นอนโดยเอาเท้าพาดคอผมไว้โดยไม่พูดอะไรซักคำ จนทำให้ สะดุ้งตื่นกลางดึกเลยครับท่าน ต้องเปิดไฟนอนมันทั้งคืน พอรุ่งขึ้นมาเล่า ให้เพื่อนฟังเพื่อนบอกว่า มันก็ฝันเห็นคนใส่ชุดตำรวจเดินมาหามันในงาน แห่งหนึ่งที่จัดขึ้นในวัดเหมือนกัน สรุปก็คือ ต้องรีบพากันไปซื้อพวงมาลัยมาขอขมาท่านทันที หลังจาก นัน้ ผมกับเพือ่ นก็ไม่เคยฝันเห็นท่านทัง้ สองอีกเลย หวังว่าผลของการทีท่ า่ น บริจาคร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการเรียนการสอนของพวกผม คงนำท่านทั้งสองและอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆ ไปสู่ภพภูมิที่ดี 76

มีเพื่อนอีกคนหนึ่ง นำกระดูกอาจารย์ใหญ่กลับหอเหมือนกัน แต่ ระหว่างทางขอแวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนจะกลับหอ ซึ่งก็เป็นเวลาค่ำมืดแล้ว เนื่องจากพึ่งจะเลิกเรียน ทั้งๆ ที่ไปกันสองคนแต่คนขายกลับถามว่าไม่ สั่งให้เพื่อนอีกคนที่มาด้วยเหรอ แถมเมื่อกลับมาหออาบน้ำนอนแล้ว จู่ๆ เพื่อนคนนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเอง แล้วก็มองเห็นผู้หญิงผมยาวยืนอยู่ที่ ปลายเท้า จ้องมาที่เพื่อนคนนั้น แล้วก็เดินข้ามเพื่อนคนนั้นไปไหว้พระที่ อยู่ด้านในเลยเพื่อนคนนั้นไป

77

ขึ้นปี 2

หรื อ เพื่ อ นอี ก คนหนึ่ ง ที่ อ าศั ย อยู่ ค นละหอกั บ ผม มั น ก็ น ำเอาโครง กระดูกอาจารย์ใหญ่กลับมาที่หอเช่นกัน แต่เจ้าของหอไม่รู้เรื่อง ว่าเพื่อน ผมนำกระดูกกลับมาด้วย อยู่ดีๆ เจ้าของหอก็มาถามว่าเอาอะไรแปลกๆ กลับมาด้วยหรือเปล่า อยากรู้ใช่ไหมครับว่าทำไมเจ้าของหอถึงรู้ ก็เพราะ เจ้าของหอเห็นคนเดินออกจากห้องเพื่อนผมบ่อยครั้งมาก ในช่วงนั้น ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน หรือแม้แต่ช่วงกลางวันที่เพื่อนคนนั้นไป เรียน แล้วทิ้งกระดูกไว้ที่หอ เจ้าของหอก็ยังเห็นคนเข้าออกอยู่ดี แถมท่าน ยังใจดีมาเข้าฝันเจ้าของหออย่างเสร็จสรรพ ว่าตัวท่านเป็นใครมาอยู่ตรง นี้ได้ยังไง เจ้าของหอถึงกับขอร้องเพื่อนคนนั้นว่า คราวหน้าคราวหลังอย่า นำติดมือกลับมาได้ไหม นี่ถือว่ากรุณาแล้วนะครับ เพราะถ้าผมเป็นเจ้า ของหอ อาจจะต้องเชิญเสด็จเพื่อนคนนั้นให้ไปหาที่อื่นอยู่ไกลๆ ไปเลย ดีกว่า

และหลังจากทีผ่ หู้ ญิงคนนัน้ ไหว้พระเสร็จ ก็เดินกลับออกไปเอง ซึง่ อาจ จะเป็นเพราะพระท่านทราบในความปรารถนาดีของอาจารย์ใหญ่ท่านนั้น ที่บริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา จึงอนุญาตให้อาจารย์ใหญ่ท่านนั้นเข้าไป กราบนมัสการได้โดยง่าย ดีที่เพื่อนคนนั้นไม่ใช่คนที่ตกใจอะไรง่ายๆ หรือ เป็นเพราะมันกลัวจนทำอะไรไม่ถูก หรือหนีไปไหนไม่ได้ก็ไม่รู้ เพราะถ้า เป็นผมคงกลัวจนเตลิดเปิดเปิงไปแล้ว พิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ ใหญ่ เมื่อสิ้นสุดการศึกษาและเราได้เรียนวิชาที่ต้องชำแหละร่างอาจารย์ ใหญ่จนจบแล้ว ก็จะมีการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านและระลึกถึงพระคุณของท่านที่ได้มอบร่างกายเพื่อ การศึกษา จนถึงวาระที่ต้องสิ้นสุดหน้าที่แห่งการเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ยัง ประโยชน์แก่การศึกษาของนักศึกษาแพทย์แต่เพียงเท่านี้ สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่นั้น ถือว่าเป็นงานใหญ่ สำหรับพวกเราเลยทีเดียว เนื่องจากนักศึกษาแพทย์ปี 2 อย่างพวกเรา ต้องทำการเขียนโครงการ จัดทำงบประมาณ และดำเนินการในทุกๆ เรื่อง เองทั้งหมด โดยมีอาจารย์คอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และต้องทำให้ ถูกแบบแผนของพิธีการอย่างเคร่งครัด สำหรับงานที่พวกเราต้องทำกันก็มีตั้งแต่ การจัดการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้สนใจได้เข้าร่วมงาน การออกหนังสือเพื่อ เชิญข้าราชการชัน้ ผูใ้ หญ่ แขกผูม้ เี กียรติ และอาจารย์ของคณะเข้าร่วมงาน การส่งบัตรเชิญ และหมายกำหนดการให้แก่ญาติของอาจารย์ใหญ่ทราบ เพื่อตอบรับการเข้าร่วมงาน การดำเนินการจองและจัดสถานที่จัดงาน 78

บางส่วนก็ทำการซ้อมพิธกี าร ซึง่ มีทงั้ การกล่าวสุนทรพจน์ การอ่านกลอน การกล่าวคำไว้อาลัย และการกล่าวคำสดุดี และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ที่ผมก็จำไม่ได้ และยุ่งยากไปหมด ซึ่ ง ส่ ว นพิ ธี ก ารนี้ แ หละที่ ดู จ ะยุ่ ง ยากที่ สุ ด ซึ่ ง เพื่ อ นก็ เ ห็ น ถึ ง ความ สามารถของผมดี จึงบอกว่า มึงไม่ต้องยุ่งหรอก ไปล้างถ้วยล้างจานดีกว่า ไป คนอย่างผมเหรอจะรู้สึกรู้สมอะไร ก็คงจะจริงอย่างมันว่า เพราะงาน แบบนี้เหมาะกับผมที่สุดแล้ว และถึงแม้จะทำในส่วนไหนก็ตาม ถ้าเราตั้ง ใจทำในส่วนของเราให้ดีเพื่ออาจารย์ใหญ่ จะอยู่ตรงจุดไหนก็ไม่เป็นไร

79

ขึ้นปี 2

การเตรียมสถานที่และอาหารเพื่อรองรับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งเพื่อนทุกคน ต่างมีหน้าที่กันหมด และต่างก็เต็มใจมาช่วยงานกันอย่างเต็มที่ แม้แต่ คนที่โดดเรียนและโดดงานอื่นๆ เป็นประจำอย่างผมก็ตาม ยิ่งใกล้ถึงวัน งานดูเหมือนทุกอย่างมันวุน่ วายไปหมด แต่ละคนต่างทำหน้าทีข่ องตนเอง บางคนก็ไปช่วยกันจัดเรียงเก้าอี้ บางคนก็ไปช่วยกันจัดผ้าม่านเพื่อติด แขวนรอบกำแพงวัด บางคนก็ไปช่วยกันจัดดอกไม้ ซึ่งจะต้องจัดทั้งหน้า โลงศพที่บรรจุร่างอาจารย์ใหญ่ บริเวณรอบๆ ที่นั่งของประธานในงาน และบริเวณโดยรอบเมรุที่ใช้พระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่และบันได ทางขึ้น บางคนก็ไปทำความสะอาดห้องน้ำ บางคนก็ไปกวาดลานวัด และจัดสถานที่เพื่อใช้ในการจอดรถ

และเมื่อวันงานมาถึง ก็จะจัดงานนี้ ณ วัดแห่งหนึ่งที่ได้ติดต่อและ เตรียมงานไว้ตงั้ แต่แรก ซึง่ เป็นงานพระราชทานเพลิงศพ เพือ่ เป็นเกียรติแก่ อาจารย์ใหญ่ทกุ ท่าน เมือ่ เจ้าหน้าที่ สำนักพระราชวังนำไฟพระราชทานมา ถึง ทุกคนยืนตรงให้ความเคารพ พระสงฆ์เริม่ สวดมนต์ พิธกี ารเผาศพเริม่ ขึน้ ผูม้ าร่วมงานทุกท่านก็จะค่อยๆ ทยอยเดินเข้ามาวางดอกไม้จนั ทน์บนพาน ที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพสีขาว ที่ตกแต่งประดับประดาดอกไม้ไว้อย่างสวยงาม เมื่อแขกคนสุดท้าย วางดอกไม้จันทน์เรียบร้อยก็นับได้ว่าพิธีพระราชทาน เพลิงศพนัน้ สิน้ สุดลงแล้ว และหวังว่าดวงวิญญา ณ ของอาจารย์ใหญ่ทกุ ท่าน คงได้ไปเสวยสุขอยู่ในสัมปรายภพ (ภพหน้า) ที่ดีเบื้องหน้าทั่วกันทุกท่าน และพวกเราจะไม่ขอลืมความดีของท่านอาจารย์ใหญ่ในครั้งนี้เลย เนื่องจากเราช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ และมีการวางแผนงานมาดี ถึงแม้จะมีเหตุติดขัดบ้างเล็กน้อยก็สามารถแก้ไข และสามารถจัดงานจน สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยฝีมือของนักศึกษาแพทย์ปี 2 อย่างพวกเรา คิดถึง เรื่องในตอนนั้นแล้วมันช่างน่าภูมิใจจริงๆ

80

Related Documents

Born To Be Wild
July 2020 18
Born To Be
November 2019 26
Born To Be Alive
November 2019 29
Born To Be Army Slaves
June 2020 22
Born To Be Alive Planete
April 2020 12