บทที่ 1 ความรูเบื้องตนเกี่ยวกับการบัญชี
1
วิวัฒนาการทางการบัญชี P.1 • ยุคแรก (ระยะที่1) กอนศริสตกาล – ตนศตวรรษที่ 17 • ยุคสอง (ระยะที่2) ศตวรรษที่ 17 – ตนศตวรรษที่ 20 • ยุคสาม (ระยะที่3) ศตวรรษที่ 20 – ปจจุบัน
2
1
วิวัฒนาการทางการบัญชี P.1 ยุคแรก (ระยะที่1) กอนศริสตกาล – ตนศตวรรษที่ 17 • การบัญชีกําเนิดกวา 4,000 ป ในยุคเมโสโปเตเมีย – จัดทําบัญชีคาแรง บัญชีสินคา คาภาษีอากร • เกิดหลักการบัญชีคู – ป ค.ศ.1494 “ลูกา ปาซิโอลิ” (Luga Pacioli) ถือเปน “บิดาแหงหลักการบัญชีค”ู
3
วิวัฒนาการทางการบัญชี P.2 ยุคสอง (ระยะที่2) ศตวรรษที่ 17 – ตนศตวรรษที่ 20 • เกิดการปฏิวัตอิ ุตสาหกรรม ในประเทศอังกฤษ - “การใชเครื่องจักรกล” • เกิดบัญชีตนทุน - คิดตนทุนสินคา วิเคราะหตนทุน • มีการลงทุนกันมากขึ้น - เกิดแนวคิด “กิจการแยกตางหากจากเจาของ” – เพื่อทราบใครลงทุนเทาไหร ทราบสิทธิสวนไดเสีย มีการจัดทํารายงาน ทางการเงิน - เกิดการพัฒนาเปนรูปแบบบริษัท • เกิดการตรวจสอบบัญชี - เจาของตองการหลักประกันความถูกตอง
4
2
วิวัฒนาการทางการบัญชี P.2 ยุคสาม (ระยะที่3) ศตวรรษที่ 20 – ปจจุบัน • เกิดการปฏิวัติเทคโนโลยีสมัยใหม – “คอมพิวเตอรและการสื่อสาร” เขามามี บทบาทมากขึน้ ทําใหขอมูลธุรกิจดานตางๆ มีความถูกตองและรวดเร็ว มากขึ้น • เกิดประโยชนตอการนําขอมูลทางบัญชีไปใช “การวางแผนและตัดสินใจ”
5
สถาบันและองคกรวิชาชีพ P.3 1. สภาวิชาชีพบัญชี (Federation of Accounting Professions) http://www.fap.or.th
6
3
สถาบันและองคกรวิชาชีพ P.3 1. สภาวิชาชีพบัญชี (Federation of Accounting Professions) http://www.fap.or.th
มีหนาที่ 1. ใหความรู / สงเสริมการศึกษาดานบัญชี 2. กําหนดมาตรฐานการบัญชี / มาตรฐานการสอบ 3. ควบคุมผูประกอบวิชาชีพบัญชี (รับขึ้นทะเบียน / ออกใบอนุญาต / เพิกถอน) 4. รับรองปริญญาดานบัญชี ของสถาบันการศึกษา 5. ดูแลดานตางๆที่เกี่ยวของกับวิชาชีพบัญชีของประเทศไทย 7
สถาบันและองคกรวิชาชีพ P.4 2. กรมพัฒนาธุรกิจการคา (Department of Business Development) www.thairegistration.com
มีหนาที่ – ดูแลใหเปนไปตาม พ.ร.บ.บัญชี 2543 / นําสงงบการเงิน 8
4
สถาบันและองคกรวิชาชีพ P.4 3. ตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand) www.set.or.th
มีหนาที่ –ออกกฎเกณฑ / กํากับดูแลบริษัทมหาชนจํากัด 9
สถาบันและองคกรวิชาชีพ P.4 4. ธนาคารแหงประเทศไทย (Bank of Thailand) www.bot.or.th
มีหนาที่ – ดูแล / ควบคุมธนาคารพาณิชยและสถาบันการเงิน 10
5
สถาบันและองคกรวิชาชีพ P.4 5. กรมตรวจบัญชีสหกรณ (Cooperative Auditing Department) www.cad.go.th
มีหนาที่ – ดูแล / ควบคุมการจัดทํางบการเงินสหกรณ 11
สถาบันและองคกรวิชาชีพ P.4 6. กรมสรรพากร (Cooperative Auditing Department) www.rd.go.th
มีหนาที่ – ดูแล / ควบคุมการจัดเก็บภาษี 12
6
พระราชบัญญัติการบัญชี P.4 1. พระราชบัญญัติการบัญชี 2543 (P.4) 2. พระราชบัญญัติการบัญชี 2547 (P.7)
13
พระราชบัญญัติการบัญชี 2543 P.4 1.กําหนดผูทําบัญชี ? – “นิติบุคคล” – เมื่อไหร ? 1. หางหุนสวนจํากัดจดทะเบียน – เริ่มวันจดทะเบียน 2. บริษัทจํากัด – เริ่มวันจดทะเบียน 3. บริษัทมหาชนจํากัด – เริ่มวันจดทะเบียน 4. นิติบุคคลที่ตั้งตามกฎหมายตางๆประเทศที่ประกอบการในไทย – เริ่มวันเขามาประกอบการในไทย 5. กิจการรวมคา ตามประมวลรัษฏากร – เริ่มวันจดทะเบียน P.5/L.1 บุคคลธรรมดา / หางหุนสวนที่ไมไดจดทะเบียน ไมตอ งจัดทําบัญชี 14
7
พระราชบัญญัติการบัญชี 2543 P.5 2. กําหนดความรับผิดชอบของผูมีหนาที่ทําบัญชี 2.1 ตองมีการจัดทําบัญชี 2.2 ตองสงมอบเอกสาร 2.3 ตองมีการปดบัญชี 2.4 ตองมีการจัดทํางบการเงิน และไดรับความเห็นชอบจากผูสอบบัญชี 2.5 ตองเก็บรักษาบัญชี และเอกสารประกอบ อยางนอย 5ป 2.6 ตองจัดใหมีผูทําบัญชี 2.7 ตองดูแลความถูกตองในการจัดทําบัญชี 15
พระราชบัญญัติการบัญชี 2547 P.7 • • •
ใชเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2547 ทําใหเกิด “สภาวิชาชีพบัญชี” พรบ.บัญชี47 กําหนดใหนิตบิ ุคคลที่ประกอบกิจการ 1.ดานสอบบัญชี 2. ดานทําบัญชี 3.ดานวิชาชีพบัญชีอื่น ตองอยูใน 3 เงื่อนไข 1.นิติบุคคลตองจดทะเบียนตอสภาวิชาชีพบัญชี 2.นิติบุคคลตองจัดใหมีหลักประกันเพื่อความรับผิดชอบตอบุคคลที่ 3 3.ดานกิจการผูป ระกอบการวิชาชีพสอบบัญชีตองรวมกันรับผิดชอบกับ ผูสอบบัญชีและกิจการ (จากในขอ2.) 16
8
ความหมายการบัญชี P.9 “ศิลปะของการเก็บรวบรวม บันทึก จําแนก และทําสรุปขอมูลอัน เกี่ยวของกับเหตุการณทางเศรษฐกิจในรูปตัวเงิน ผลงานขั้นสุดทายของ การบัญชีคือการใหขอมูลทางการเงิน ซึ่งเปนประโยชนแกบุคคลหลาย ฝาย และผูที่สนใจในกิจกรรมของกิจการ” การทําบัญชี
การใหขอมูลทางการเงิน
การเก็บรวมรวม (collection) การบันทึก (Recording) การจําแนก (Classifying) การสรุปขอมูล (Summarizing)
ผูใชภายในกิจการ ผูใชภายนอกกิจการ 17
ผูทําบัญชี vs นักบัญชี P.10 ผูทําบัญชี รวบรวม บันทึก จําแนก สรุปผล ใหออกมาเปนงบการเงิน Bookkeeper
vs
นักบัญชี Accountant
รวบรวม บันทึก จําแนก สรุปผล ใหออกมาเปนงบการเงิน + วิเคราะห / พยากรณ / วางระบบบัญชี 18
9
ประโยชนของการบัญชี P.11 1. 2. 3. 4. 5. 6.
ชวยใหเจาของสามารถควบคุมสินทรัพยกิจการได ชวยใหทราบผลการดําเนินงานในรอบระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง ชวยใหทราบฐานะทางการเงิน ณ วันใดวันหนึ่ง เปนขอมูลเพื่อใชในการวางแผนและตัดสินใจ เปนขอมูลตามลําดับกอนหลัง จําแนกประเภทของรายการคา เพื่อใหถูกตองตามกฎหมาย (พรบ.)
19
ผูใชขอมูลทางบัญชี P.12 ผูใชภายใน (Internal User) 1. เจาของกิจการ 2. ผูบริหาร 3. พนักงาน/ลูกจาง
ผูใชภายนอก (External User) 1. เจาหนี้ 2. นักลงทุน 3. ลูกคา , Suppliers
4. คูแขง 5. รัฐบาล 6. บุคคลทั่วไป 20
10
รูปแบบของกิจการ (Form of Organization) P.13 แบงตามลักษณะการดําเนินงาน 1. กิจการใหบริการ – “ธุรกิจใหบริการ (Service Business)” 2. กิจการซื้อมาขายไป – “ธุรกิจพาณิชยกรรม (Merchandising Business)” 3. กิจการผลิตสินคา – “ธุรกิจอุตสาหกรรม (Manufacturing Business)” แบงตามลักษณะการจัดตั้ง 1. กิจการเจาของคนเดียว (Single Proprietorship) 2. กิจการหางหุนสวน (Partnership) 3. กิจการบริษัท (Corporation or Limited Company)
21
กิจการเจาของคนเดียว (Single Proprietorship) P.14 • ธุรกิจขนาดเล็ก • เจาของรับผิดชอบกําไร หรือภาระขาดทุนทั้งหมด • กิจการแยกตางหากจากเจาของ (ทางบัญชี) – แตทางกฎหมายใหถือ เปนหนวยเดียวกัน • บริหารจัดการไดงาย – เจาของสามารถตัดสินใจไดทันที • การเพิ่มทุนทําไดยาก • ในการกูเงิน – เครดิตของกิจการขึ้นอยูกบั ชื่อเสียงของเจาของ • กิจการอยูในฐานะบุคคลธรรมดา และเสียภาษีในอัตราภาษีเงินไดบคุ คล ธรรมดา 22
11
กิจการหางหุน สวน (Partnership) P.14 • “ผูเปนหุนสวน” ตั้งแต 2 คนขึ้นไป • การบริหารงานจะมีลักษณะรวมกันในการตัดสินใจ จึงทําใหเกิดความ รอบคอบมากวากิจการเจาของคนเดียว • การขยายกิจการทําไดงายกวากิจการเจาของคนเดียว • เสียภาษีในฐานบุคคลธรรมดา • หางหุนแบงได 2 ประเภท (ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย) – หางหุนสวนสามัญ – หางหุนสวนจํากัด 23
กิจการหางหุน สวน (Partnership)
P.15
• หางหุนแบงได 2 ประเภท (ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย) – หางหุนสวนสามัญ • ไมจํากัดความรับผิดชอบ • ถาจดทะเบียนเปนนิติบุคคลเรียกวา “หางหุนสวนสามัญนิติบุคคล” จะเสียภาษีเงินไดนิติ บุคคล
– หางหุนสวนจํากัด • ประเภทจํากัดความรับผิดชอบ - จํากัดหนี้สินเพียงไมเกินมูลคาการลงทุน • ประเภทไมจํากัดความรับผิดชอบ - รับผิดชอบหนี้สินไมจํากัดจํานวน - สามารถเขา บริหารงานได เรียกวา “ผูจัดการหางหุนสวน” • หางหุนสวนจํากัดตองจดทะเบียนเปนนิติบุคคล – เสียภาษีในฐานนิติบุคคล และตองมีหุนสวนไมจํากัดความรับผิดชอบอยางนอยหนึ่งคน 24
12
กิจการบริษทั (Corporation or Limited Company) P.15 • • • • • •
“ผูถือหุน” (Stockholder or Shareholder) ตั้งแต 3 คนขึ้นไป จํานวนทุนแบงออกเปนหุนๆละเทาๆกัน บริษัทตองจดทะเบียนเปนนิติบคุ คล ผูถือหุนทุกคนรวมกันรับผิดชอบในหนี้สินไมเกินมูลคาหุนที่ถืออยู ในการประชุมใหญสามัญผูถือหุน ออกเสียงได 1 หุน 1 เสียง ผูถือหุนไมมีสทิ ธิเขามาบริหารงานของบริษัท แตจะมีคณะกรรมการ บริหารที่จัดตั้งโดยที่ประชุมใหญผูถือหุน (ผูถือหุน : เจาของ ≠ ทีมผูบ ริหาร : ลูกจาง) 25
กิจการบริษทั (Corporation or Limited Company) P.16 • • • •
ผูถือหุนจะไดผลประโยชนรูป “เงินปนผล (Dividends)” หุนสามารถ “ซื้อ/ขาย/โอน” เปลี่ยนมือกันได จะใหคําวา “บริษัท.......จํากัด” (ยกเวนธนาคารพาณิชย จะใชหรือไมก็ได) บริษัทจํากัดมี 2 ประเภท 1. บริษัทเอกชนจํากัด (Private Company Limited) - “บริษัท.......จํากัด”
2. บริษัทมหาชนจํากัด (Public Company Limited) - “บริษัท.......จํากัด (มหาชน)” – ผูเริ่มกอตั้งตั้งแต 15 คนขึ้นไป และจองหุน ตั้งแต 5% แตไมเกิน 10% ของทุนจดทะเบียน – ควบคุมโดยตลาดหลักทรัพย แหงประเทศไทย 26
13
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.16 • งบการเงินตองมีความนาเชื่อถือเปนอยางมาก จึงตองมีแมบทการบัญชี เปนกรอบแนวคิดพื้นฐานในการจัดทําและนําเสนองบการเงิน (ไมถือเปน มาตรฐานการบัญชี) • ยังใหเปนเกณฑในการปรับปรุงมาตรฐานการบัญชีใหทนั สมัย
27
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.17 แมบทการบัญชีสําหรับการจัดทําและนําเสนองบการเงิน ลักษณะของงบการเงิน วัตถุประสงค ขอสมมติฐาน
ขอจํากัด
ใหขอมูลที่มีประโยชนตอการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจ เกณฑคงคาง
ทันตอเวลา
ความสมดุลระหวางประโยชน ที่ไดรับกับตนทุนที่เสียไป
ความสมดุลของ ลักษณะเชิงคุณภาพ
ถูกตองและยุติธรรมหรือถูกตองตามที่ควร
ลักษณะเชิงคุณภาพ ลักษณะแรก
การดําเนินงานตอเนื่อง
เขาใจได
ลักษณะรอง
เกี่ยวของกับการตัดสินใจ
เชื่อถือได
เปรียบเทียบกันได
นัยสําคัญ ตัวแทนอัน เที่ยงธรรม
เนื้อหาสําคัญ กวารูปแบบ
ความเปนกลาง
ความระมัดระวัง
ความครบถว28 น
14
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.18
• งบการเงินจัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงคเพื่อใหขอมูลเกี่ยวกับ ฐานะการเงิน ผลการดําเนินงาน การเปลี่ยนแปลงฐานะการเงิน
• แมบทการบัญชี จึงเปนกรอบแนวคิดขั้นพื้นฐานในการจัดทําและ นําเสนองบการเงิน เพื่อใหงบการเงินใหขอมูลมีประโยชนตอการ ตัดสินใจ
29
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.18
ขอสมมติฐาน 1. เกณฑคงคาง (Accrual Basis) • การบันทึกรายการบัญชี จะตองบันทึกตามงวดเวลา โดยไมคํานึงวา จะไดรับหรือจายเงินหรือไม 2. การดําเนินงานตอเนื่อง (Going Concern) • กิจการจะดําเนินงานตอไปเรื่อย โดยไมมีกาํ หนดเวลาเลิกกิจการหรือ ลดขนาด
30
15
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.19
งบการเงินที่มีคุณภาพ ใชในการตัดสินใจ และเชื่อถือได จะมีขอจํากัด... 1. ทันตอเวลา •
หากลาชา...จะทําใหการตัดสินใจไมทันการณ
2. ความสมดุลระหวางประโยชนที่ไดรับกับตนทุนที่เสียไป •
การไดรับขอมูลที่มีประโยชนไมควรตองมีตนทุนที่มากเกินไป (หากตองมี ตนทุนที่มากเกินไปเพื่อแลกกับขอมูลนั้น...สามารถใชดุลยพินิจในการประมาณ การณก็ได)
3. ความสมดุลของลักษณะเชิงคุณภาพ •
งบการเงินตองมีความสมดุลของลักษณะเชิงคุณภาพ เพื่อใหงบการเงินบรรลุวัตถุประสงค 31
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.20
• งบการเงินจะมีประโยชนตอเมื่อมี... “ลักษณะเชิงคุณภาพ” คือ ถูกตองและยุติธรรมตามทีค่ วร – เขาใจได – เกี่ยวของกับการตัดสินใจ – เชื่อถือได – เปรียบเทียบกันได 32
16
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.20
• เขาใจได - ขอมูลในงบการเงินตองสามารถเขาใจไดทันที • เกี่ยวของกับการตัดสินใจ - ขอมูลในงบการเงินตองมีความเกี่ยวของกัน อยางมีนัยสําคัญ • เชื่อถือได - เปนขอมูลที่ไมมีความผิดพลาด , ไมมีความลําเอียง • เปรียบเทียบกันได – สามารถเปรียบเทียบงบการเงินในรอบระยะเวลา ตางกันได เพือ่ ประโยชนในการพยากรณ / ประเมิน / วิเคราะห 33
แมบทการบัญชี (Accounting Framework) P.21
• นัยสําคัญ – มีผลตอการตัดสินใจ • ตัวแทนอันเที่ยงธรรม – ใบเสร็จรับเงิน • เนื้อหาสําคัญกวารูปแบบ – ควรแสดงงบการเงินตามเนื้อหาทางเศรษฐกิจ ไมใชแสดง ตามรูปแบบตามกฎหมายเพียงอยางเดียว • ความเปนกลาง – ควรแสดงขอมูลที่ไมลําเอียง เปนกลาง ไมชี้นํา เลี่ยงความเห็น • ความระมัดระวัง – หากเกิดความไมแนนอน ใหประมาณการณอยางระมัดระวัง • ความครบถวน – งบการเงินที่เชื่อถือไดตองครบถวน อยางมีนัยสําคัญ 34
17