อินทรียสังวรณ์

  • Uploaded by: ณชเล
  • 0
  • 0
  • July 2020
  • PDF

This document was uploaded by user and they confirmed that they have the permission to share it. If you are author or own the copyright of this book, please report to us by using this DMCA report form. Report DMCA


Overview

Download & View อินทรียสังวรณ์ as PDF for free.

More details

  • Words: 300
  • Pages: 3
ความเขมแข็งทางใจที่เกิดขึน้ หลังจากคุยกับคนรักจน ‘รูเรื่อง’ ทําใหฉันเริ่มครุนคิดเกี่ยวกับวิธี พัฒนาจิตใหกา วหนายิ่งๆขึน้ เพื่อความเปนผูภ าวนาที่มงุ มรรคมุง ผลอยางแทจริง สมาธิฉันทําไดคอ นขางอยูต  วั เดินจงกรมก็เริ่มนานขึ้นเปนสองชั่วโมงไมเหนื่อย ยิ่งเดินยิ่งตัวเบา จิต เบา และเห็นความเปนขันธ ๕ อายตนะ ๖ ชัดเจนแจมแจงไปหมด เชนนี้เหลืออะไรอีกบางที่ยังไมไดทาํ ? วันหนึ่งขณะนั่งทานขาวกลางวันกับลูกคา ฉันเคี้ยวของอรอยแลวเห็นจิตตัวเองมืดมนจากความมัวเมา ในรส สติก็เริ่มเกิด และกอนจะตักคําตอไปก็เห็นความทะยานอยากแลนไปขางหนาราวกับรางแหกวาง ใหญพุงออกไปครอบจานกับขาว ฉันสะดุดชะงักนิดหนึ่ง สติที่อบรมจนแข็งแรงแลวนั้น ถึงหลับไหลลุมหลงไป ดวยความมัวเมารส แตเมือ่ กลับมาทํางานอีกครั้ง เพียงวินาทีเดียวก็ไขจิตใหสวางขึ้น แบบฉับพลันทันใด รสอรอยยังคาลิ้น ภาพอาหารที่เขาตาก็สวยนากินอยาบอกใคร แต จิตทีม ่ กี าํ ลังสติเหนือกวาสุขเวทนาทางตาและทางลิน้ นัน้ ทําใหเห็นภาพสวยและรส อรอยเปนของเล็ก กับเปรียบเทียบถูกวาสุขเวทนาทางใจสิใหญกวา นาปรารถนากวา กัน แนนอนวาหากไมปฏิบัตม ิ าจนเห็นคาของจิตอยูเหนือสิ่งอื่นใด ความคิด เปรียบเทียบเชนนี้ยอมไมเกิดขึ้น ฉันกระแอมนิดหนึ่ง ไมอยากทําทาทําทางใหลูกคาผิดสังเกต จึงเอื้อมมือไปตักกับขาวตามปกติ คนอืน่ ยอมเห็นแตลกั ษณะภายนอกทีด ่ ธู รรมดา แตฉนั รูอ ยูข า งในคนเดียววาสติกาํ ลังทํางาน สิ่งที่ปรากฏตอ สติคือใจทีท ่ ําความสําคัญในภาพอาหาร ทําความสําคัญในรสชาติอยางรูล วงหนาวาเดี๋ยวจะเขาไปคลุก ลิ้นแลวบังเกิดความเอร็ดอรอยปานใด ฉันรูเฉยๆโดยไมทําอะไรกับความอยากลิ้มนั้น เมื่อเอาชอนสงขาวและกับเขาปากก็ปลอยใหเกิดอาการ มัวเมาอยางเคย เพื่อทําความรูจักกับกิเลสเครือ่ งผูกใจใหชัดเจน ฉันเพิ่งสังเกตวาแมแตจะยกแกวน้าํ ขึ้น ดื่ม ยังมีความอยากลิ้มรสอันจืดสนิทที่ถือวา ‘อรอย’ สําหรับความเปนน้ําดืม ่ บริสุทธิ์ โอโห! แทบ เรียกวาเกิดมาไมเคยเห็น ‘เครื่องผูกใจทางปาก’ ชัดๆอยางนี้เลย ฉันไมฝน ไมพยายามเกร็งกับการลิ้มรส แตสําหรับคําตอไป อาหารจานเดียวกันนั่นเอง ฉันไมเคี้ยว เอารส แตเคี้ยวเอาสติรูวา กําลังเคี้ยว ฉันไมกลืนเอาความอิ่ม แตกลืนเอาสัมปชัญญะ นี่คือหลักเกณฑที่ พระพุทธเจาใหไวตั้งแตในหมวดกาย แตฉันไมเคยใหความสําคัญอยางแทจริงเลย การมีสติสัมปชัญญะ ในกายดีแลวนั่นเอง คือความคุมครองอายตนะไปในตัว ถาหากอบรมดีแลว ก็ไมจําเปนตองกินอาหารรส แยๆดวยเจตนาหักดิบกับกิเลสอันเกิดแตรสลอลิ้นก็ได นับแตมื้อกลางวันนั้นเปนตนมา ฉันก็เริ่มสังเกตอาการทะยานของจิตถี่ถวนขึ้น ไดเห็นปฏิกิริยาทางจิตที่ ไมเคยเห็นมากอนมากขึ้นทุกที ฉันพบวาบางครั้งเราปลอยใหใจทะยานไปยึดตามสบาย เห็นดวยสติแลว ดับเองโดยไมตองทําอะไร แตบางครั้งถาปลอยใหทะยานไปแลวจะหยุดไมอยู สติไมมีกําลังพอจะเห็นโดย

ความเปนภาวะเกิดแลวตองดับ เพราะฉะนั้นถาเปนไปไดกต ็ ด ั ไฟแตตน ลมจะดีกวาปลอยใหไหมแลวคอย หาทางดับ ในเรื่องกลิ่น ที่ผา นมาฉันยังพึงใจกับเครื่องหอมที่พรมครอบตัง้ แตศีรษะถึงกลางตัว ชอบใจวาเนื้อหอมกวาครึง่ คอนวัน ไปไหนก็พาความหอมติดตัวไปดวย พอลองเลิกใช ก็พบวาทีผ ่ า นมาจิตหลงอุปาทานวาตัวเองหอมเสียตัง้ นาน กลิ่นเนื้อมนุษยแทๆที่ ปราศจากการทําความสะอาดดวยน้าํ และสบูนั้นเหม็นยิ่งกวาอะไรดี แตก็หมั่น ประพรมเครื่องหอมหลอกจมูก ทําใหเกิดความหลงอุปาทานไปวาทั้งรางหอมฉุยผิด แผกแตกตางจากสัตวโลกชนิดอื่น การไมมีกลิ่นหอมอบอวลหลอกจมูกทําใหความตรึกนึกเกี่ยวกับกามลดลงนิดหนอย แตก็สังเกตดวยวา เราไมใส คนอื่นก็ใสอยูดี โดยเฉพาะตอนสาวๆเดินโฉบไปโฉบมาแลวไดกลิ่นชนิดเตะจมูกสุดเดชก็ยากจะ กําหนดสติใหทัน กลิ่นกายเปนสิ่งยั่วใหติดหลงไดไมแพรูปกับเสียง และกลิ่นก็เปนอีกอายตนะภายนอก หนึ่งที่เราปดปองไมได หากไมใหความสําคัญไวกับการรูล มหายใจอยางสม่าํ เสมอ ไมคํานึงเฉพาะการ หายใจใหตอเนื่อง ไปใหความสําคัญกับกลิ่นเดนกระทบจมูกก็เสร็จ ฉันมาพลิกดูเกี่ยวกับเรื่องการปองกันไมใหกิเลสรั่วรดจิตผานอายตนะ ซึ่งพระพุทธองคทรงตรัสไว หลายแหงในขอที่วา ดวยอินทรียสังวร ใจความสําคัญโดยสรุปคือ ดวยอาการอยางไรจึงชือ่ วาเปนผูค ม ุ ครองทวารในอินทรียท  งั้ หลาย? นรูปดวยตา ฟง หลาย? อาการนัน้ คือเห็นรู เสียงดวยหู ดมกลิน่ ดวยจมูก ลิม ้ รสดวยลิน้ ถูกตองสิง่ กระทบดวยกาย รูแ จงความคิดนึกดวยใจ โดย ไมใหความสําคัญกับลักษณะโดยรวม ไมใหความสําคัญกับลักษณะปลีกยอย เมือ่ ใหความสําคัญโดยไม สํารวมก็จะเปนเหตุใหถกู ครอบงําดวยอกุศลธรรมเชนความเล็งอยากไดและโทมนั และโทมนัส แตหากปฏิบต ั เิ พือ่ สํารวมตา หู จมูก ลิน้ กาย และใจ ก็ชอื่ วาเปนผูค ม ุ ครองทวารในอินทรียท  งั้ หลาย สรุปคือสตินั่นเองเปรียบประดุจหลังคา ทําหนาทีป่ องกันกิเลสอันเปรียบเหมือนสายฝนพรอมจะหลั่ง รดจิตอันเปรียบเหมือนผูอาศัยในบาน เพียงไมทาํ ความสําคัญกับรูป เสียง กลิน่ รส สัมผัส และ ความคิดนึกทางกาม แตมสี ติอยูก บ ั ฐานทีม ่ นั่ อันไมเปนโทษ ก็ไดชอื่ วาเปนผูส าํ รวมในอินทรีย หรือที่ เรียกวาเปนผูม  อี นิ ทรียสังวร ชีวิตฆราวาสซับซอนเกินกวาจะมีอินทรียสังวรไดสบายๆ แคอา นขาวธรรมดาๆเกี่ยวกับการขมขืนที่ นักขาวเขียนบรรยายเสียเหมือนหนังสือปกขาว หรือดูโฆษณาทางโทรทัศนที่เกณฑสาวๆมานุงนอย หมนอย สติก็พรอมจะเตลิดกระเจิงไปไหนตอไหนไกลแลว ฉันเริ่มครุนคิดขึ้นมาอีกวาถาเปนพระก็ดีนะซี ถาตั้งใจจริงก็ถือวาเปนโอกาสอันงามแกการเจริญอินทรียสังวรอยางหาที่เปรียบมิได เนื่องจากหนาที่ หลักของพระคือทํามรรคผลนิพพานใหแจงเทานั้น ไมจําเปนตองใสใจภารกิจอื่น หลีกเลี่ยงการเขาหมู เขาสังคมเพื่อทํากิจกรรมสงเสริมกิเลสไดหมด

สําหรับพระควรมีอินทรียสังวรตัง้ แตเริ่มถือบวช แตสําหรับฆราวาสจะมีอินทรียสังวรกันหลังจาก ภาวนาไดผลระดับหนึ่งแลว เกือบทั้งเดือนนี้ฉันเนนสํารวมระวังอายตนะตางๆจนเริ่มเห็นคา เพราะจิต ที่ตั้งมั่นยิ่งตั้งมั่นบริบรู ณแมขณะอยูในชีวิตประจําวัน แลวก็มีกําลังใจวาเดือนหนาจะทําอะไรใหเกิด ความกาวไกลไปมากกวานี้อกี จาก.... จาก....เจ็ ....เจ็ดเดือนบรรลุธรรม โดย ‘ดังตฤณ’ ตฤณ’

ประโยคทิงท ้งทาย : “ ความสํารวมระวังไมใหกิเลสรั่วรดจิต มีใจเขมแข็งเด็ดขาดยิ่งๆขึ้น ไมหลง เอาของรอนมาเปนสมบัติดว ยความนึกเขาใจวาเปนของเย็น อยางนี้เอง ที่เขา เรียกวา ....อินทรียสังวรณ“

“อุบาสิกา.... า....ณชเล ....ณชเล” ณชเล”