Job Interview Tips

  • May 2020
  • PDF

This document was uploaded by user and they confirmed that they have the permission to share it. If you are author or own the copyright of this book, please report to us by using this DMCA report form. Report DMCA


Overview

Download & View Job Interview Tips as PDF for free.

More details

  • Words: 711
  • Pages: 9
การเตรียมความพร้อมในการสมัครงาน การสมัครงานเหมือนกับการไปเสนอขายสินค้าซึ่งจำา เป็นจะต้องเตรียมตัวให้ดี และการเตรียมตัว ก่อนสมัครงานเป็นสิ่งจำาเป็น จะต้องเริ่มตั้งแต่ก่อนจบ การศึกษา ซึ่งในแต่ละปี แต่ละสถาบันจะมีผู้จบการ ศึกษาทั่วประเทศ รวมกันแล้วประมาณแสนๆ คน และรวมกับผู้ที่ตกค้างจากปีก่อนๆ ที่ยังไม่ได้งานทำามี อีก มาก และความเชื่อที่ว่าเรียนเก่งหรือเรียนดีแล้วจะหางานง่ายนั้นอาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป ซึ่งในยุคปัจจุบัน การรับคนเข้าทำา งานในทุกวันนี้จะพิจารณา สิ่งอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น บุคลิกภาพ ความคล่องตัว ความ อดทน ความเป็นคนมีปฏิภาณ ไหวพริบ เป็นต้น การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในการหางาน ทำา หรือ สมัครงาน จึงเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดี และควรทำา เข้าทำานองที่ว่า "ฟอร์มดี มีชัยไปกว่าครึ่ง " ซึ่งการไป หางานหรือการไปสมัครงานเปรียบ เสมือนกับคุณเป็นเซลล์แมน หรือเซลล์วูแมน ที่จำา เป็นจะต้องเตรียม ความพร้อมในการสมัครงาน โดย คุณจำา เป็นจะต้องมีเทคนิค วิธีการต่างๆ ที่ทำา ให้ผู้ซื้อ สินค้า (นายจ้าง) พร้อมที่อยากจะได้สินค้า (ตัวคุณ) เอาไว้ ถ้าคุณทำาได้ โอกาสที่คุณจะประสบความสำาเร็จในการหางานทำามี มาก ดังนั้นถ้าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ไม่ต้องการตกอยู่ในสถานการณ์ว่า "ตกงาน" ก่อนหางานทำา ควรเตรียมความ พร้อมดังนีี้ 1. ค้นพบตัวเองให้ชัดเจน 2. ติดตามข่าวสาร 3. การมองหาแหล่งงาน 4. การเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น Resume, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร 5. การสัมภาษณ์

1. ค้นพบตัวเองให้ชัดเจน ทำา ไมจึงต้องมีการรู้จักตนเอง ก็เพราะการหางานคือการ "ขาย" ตนเองชนิดหนึ่ง เป็นการเสนอขาย ความรู้ ความ สามารถของตัวเราเองให้แก่บริษัท หรือองค์กรใด องค์กรหนึ่งนั่นเอง ใครขายเก่งหรือมีศิลปะ ใ น ก า ร ข า ย ส า ม า ร ถ ทำา ใ ห้ ผู้ ซื้ อ เ กิ ด ค ว า ม รู้ สึ ก อ ย า ก ไ ด้ "สิ น ค้ า "ช นิ ด นี้ ก็ จ ะ ไ ด้ ง า น ไ ป ทำา แต่การที่จะขายของอะไรได้นั้น เราจำาเป็นจะต้องรู้คุณภาพสินค้าเสียก่อน (รูจ้ ักตัวเราเอง) เราจึงจะขาย ให้ ใครเขา ได้ ถ้ าเราไม่ รู้ แ ม้ ก ระทั่ งสิน ค้ านั้ น มี คุ ณภาพอย่ า งไร มี จุ ด เด่น อะไร อยู่ ต รงไหน ใช้ แ ล้ ว ได้ ประโยชน์อะไรใครเขาจะมาซื้อ(นายจ้าง) ดังนั้น การสมัครงานก็เช่นกัน ถ้าคุณไม่รู้แม้กระทั่งว่าในตัวคุณมีจุดเด่น ความรู้ ความสามารถ ฯลฯ หรือพูดง่าย ๆ ว่าคุณเก่งทางด้านไหน และคุณจะไป โน้มน้าว ให้คนอื่นเขามาชื่นชม และต้องการคุณได้ อย่างไร

2. การติดตามข่าวสาร สิ่งที่คนหางานจะต้องตระหนักก่อนสิ่งอื่นใดก็คือ คุณจะต้องมีความกระตือรือร้นขวนขวายหา ข่าวสารด้วยความสนใจอย่างจริงจัง เพราะช่วงเวลา ของการโฆษณารับสมัครงานของแต่ละองค์กรล้วนมี ระยะเวลาจำากัด บางองค์กรก็จะระบุวันหมด เขตรับสมัครเอาไว้ ทำาให้เมื่อวันเวลาผ่านไปโอกาสในการ สมัครงานแล้วได้รับการคัดเลือกไปสัมภาษณ์ย่อมน้อยลงด้วย เนื่องจากในแต่ละปีมีบัณฑิตจบใหม่จาก สถานศึกษา ที่ผลิตออกมาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยเหตุนี้ คุณจึงต้องขวนขวายที่จะหาข้อมูลข่าวสารการรับ สมัครงานให้มากที่สุด 3. มองหาแหล่งงาน โดยทั่ว ๆ ไป หนทางที่จะเริ่มมองหาแหล่งงานได้นั้นมีหลายวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดที่สื่อมีการ แข่งขันกันอย่างรุนแรงนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย ทีค่ ุณจะ หาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับองค์กรที่เปิดรับสมัครงาน ซึ่ง คุณอาจจะเลือกดูได้จากแหล่งต่าง ๆ เหล่านี้ 1. สื่อสิ่งพิมพ์ 2. สื่ออินเตอร์เน็ต www.jobjob.co.th www.jobsdb.com www.jobsthai.com www.jobsiam.com 3. ติดต่อผ่านทางสำานักงานจัดหางาน 4. หน่วยจัดหางานของมหาวิทยาลัย 5. สำานักงาน ก.พ. สำาหรับคุณซึ่งมุ่งเข็มมาว่าจะเป็นข้าราชการ 6. ถามจากญาติสนิทมิตรสหาย 7. WALK IN

4. การเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น Resume, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร หลักฐานการสมัครงาน หลักฐานการสมัครงานเป็นสิ่งที่จำาเป็น ในการสมัครงาน ซึง่ เอกสาร ที่ควรเตรียมไว้มีดังนี้ 1. ประวัติส่วนตัว (Resume) 2. รูปถ่าย ควรเป็นรูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว โดยเป็นรูปสีหรือขาวดำาก็ได้ แต่ขอให้เป็น การแต่งกาย ที่สุภาพ

3. สำาเนาใบรับรองการศึกษา ได้แก่ Transcipt และสำาเนา ใบปริญญาบัตร 4. สำาเนาบัตรประชาชน 5. สำาเนาทะเบียนบ้าน 6. สำาเนาหลักฐานการพ้นภาระทางการทหาร 7. สำาเนาหนังสือรับรองการผ่านงานหรือการฝึกงาน (ถ้ามี)

ปล. ที่สำาคัญอย่าลืม เซ็นรับรองสำาเนาถูกต้อง

เรื่องการสมัครไว้พูดนอกเรื่องดีกว่า

เรซูเม่ขอเป็นตัวจริง

ตัวอย่างรูปแบบ Resume ภาษาอังกฤษ

Resume Photo

Mr/Mrs/Miss ...... .........

Expected Jobs: ..........

Expected Salary: ..........

Personnel Infomation Address:

...

Phone:

...

Age:

...

Nationality:

...

Religion:

...

Height:

...

Weight:

...

Marital Status:

Single, Separated, Divorced, Widowed

Military Service:

Passed, Not Passed, Exempted(ยกเว้น)

Education Vocational:

Grad. in (สาขาวิชา) From (สถาบัน) GPA. (เกรดเฉล่ีย)

High Vocational:

.........

Bachelor:

... ...

...

Training Job(ถ้ามี):

...

Project(ถ้ามี):

...

Thesis(ถ้ามี):

...

Activities(ถ้ามี):

...กิจกรรมควรเลือกเขียนเฉพาะท่ีเป็ นประโยชน์ต่อการสมัครงาน

Work Experience 2004 - Present:

Work for (ช่ ือบริษท ั ) as (ตำาแหน่ง), salary...bath/month

2000 - 2004:

...

1998 - 2000:

...

...

...

Skill Computer Skill:

...

English:

Speaking...Reading...Writing...(poor, fair, good, excellent)

Other Language(ถ้ามี):

...

Driving: Typing:

Drive(yes/no)...Driving License(yes/no)...Own Vehicle(yes/no) Thai...w/m English...w/m

Additional Infomation (อาจแก้ไขช่ ือหัวข้อย่อยต่อไปนีใ้ห้สอดคล้องข้อมูลของท่าน) Seminar(ถ้ามี):

... เช่น ใบรับรอง(testimonial), ใบประกาศ(certificate), ใบ กว.(engineering license)

Important Document( ถ้ามี): Creation(ถ้ามี):

...

Other(ถ้ามี):

...

5. การสัมภาษณ์

ก่อนการสัมภาษณ์ ระหว่างการสัมภาษณ์

วันนีเ้ราจะมาเน้นเร่ ืองการสัมภาษณ์งานกันค่ะ Job Interview Tips ขั้นตอนในการสัมภาษณ์ ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำาคัญที่สุด เป็นช่วงที่นายจ้างตัดสินใจว่าจะรับ หรือไม่รับคุณเข้าทำางาน ดังนั้นเรามีเคล็ดลับและ เทคนิคเพื่อให้คุณได้งานทำาดังนี้ 1. ตรงต่อเวลา โดยการตรวจสอบเส้นทางก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดนัดหมาย ถ้าสามารถ ซ้อมจับเวลาก่อนได้ก็ดี แต่วิธีที่สะดวกคือ เผื่อ เวลาให้ไปถึงสถานที่นัดหมายก่อนเวลานัดจริงประมาณ 30 นาทีจะเป็นการดีที่สุด 2. แต่งกายสุภาพ

และถูกกาลเทศะ การแต่งกายเป็นตัวชี้วัดประการหนึ่ง ที่บ่งบอกว่าเราจะ “ได้งาน” หรือไม่ เพราะในการพบกัน

เป็นครั้งแรก เราย่อมไม่รู้จักนิสัยใจคอ จึงต้องประเมินจากรูปลักษณ์ที่ปรากฏภายนอก ดังนั้น การแต่งกายที่เหมาะสมจึงเป็นเครื่องมือสำาคัญใน การสร้างความประทับใจครั้งแรก นอกเหนือจากปัจจัยอื่นๆ และที่สำาคัญ การแต่งกายที่เหมาะสมจะช่วยให้เรามั่นใจในตนเอง และความมั่นใจ ในตนเองจะช่วยให้เราเกิดความกล้าในการพูดคุยโต้ตอบ และเกิดความสนิทสนมตามมาอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้น เสื้อผ้าควรเป็นสีพื้นๆ ผู้ หญิง ควรใส่กระโปรง เสื้อเชิ้ต และทรงผมก็ควรทำาให้เรียบร้อย การทำาผมแบบเปิดหน้าผากและเห็นหูถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการ สัมภาษณ์หรือการติดต่อกับผู้อื่นอย่างเป็นทางการเพราะจะทำาให้เราดูเป็นคนเปิดเผยและจริงใจ ส่วน ผูช้ าย สวมเสื้อเชิ้ต กางเกง ทรงผมต้อง เรียบร้อยไม่ไว้ทรงผมยาวไปสัมภาษณ์ นอกจากนี้ไม่ควรสวมเสื้อยืด กางเกงยีน หรือเสื้อผ้าลายดอก เด็ดขาดเพราะโอกาสที่จะไม่ได้งานค่อนข้างสูงเพราะผู้สัมภาษณ์ถือว่าไม่เคารพ สถานที่และผู้สัมภาษณ์ 3. การวางตัว ควรวางตัวสุภาพเรียบร้อยเป็นธรรมชาติ ไม่ควรแสดงอาการประหม่า มือสั่น เท้าสั่น ทำาตัวตื่นเต้น เสียงสั่น ควรสูดลม หายใจลึก ๆ และทำาใจให้สบาย ก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ ควรเคาะประตูก่อน แล้วขออนุญาตเข้าไป เมื่อพบหน้าผู้ สัมภาษณ์ให้ยกมือไหว้ทักทายว่า "สวัสดีครับ" หรือ "สวัสดี ค่ะ" โดยไม่ต้องทราบก่อนว่าผู้สัมภาษณ์ นั้นจะอ่อนวัยกว่าเราหรือไม่ - กรณีที่ผู้สัมภาษณ์เชิญให้นั่ง ควรกล่าวคำาขอบคุณ และไม่ควรนั่งก่อนที่ผู้สัมภาษณ์จะเชิญให้นั่ง หรือถ้าเราต้องนั่งรอผู้สัมภาษณ์ในห้อง สัมภาษณ์ เวลาที่ผู้สัมภาษณ์เข้ามา ควรลุกขึ้นกล่าวคำาทักทายแล้วนั่งหลังผู้สัมภาษณ์นั่ง ไม่ควรนั่งทักทายผู้สัมภาษณ์ - ถ้าผู้สัมภาษณ์ยื่นนามบัตรให้ควรรับด้วย 2 มือ แล้ววางไว้บนโต๊ะ ไม่ควรเก็บเข้ากระเป๋าเลยทันที ไม่ควรพับหรือขีดเขียนลงบนนามบัตรต่อ หน้าผู้ให้ เพราะนั่นถือว่าเป็นมารยาทที่ไม่ดีอย่ายิ่ง โดยเฉพาะถ้าได้สัมภาษณ์กับคนญี่ปุ่น - การลุกออกจากที่นั่ง หลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วลุกออกจากที่นั่ง ควรเก็บเก้าอี้ให้เรียบร้อย

4. มีสมาธิ ควรตั้งใจฟังคำาถามหรือข้อซักถามอย่างระมัดระวัง แต่ไม่ต้องเกร็ง กรณีที่ฟังคำาถามไม่ชัด และต้องการให้ผู้สัมภาษณ์ถามใหม่ ควรกล่าวขอโทษและ ขอให้ถามคำาถามใหม่อีกครั้ง 5. มารยาทในระหว่างการสัมภาษณ์งาน มารยาทที่ดี – นั่งตัวตรง เอามือวางไว้บนตัก สบตากับผู้สัมภาษณ์ มารยาทที่ไม่ดี- ไม่ควรล้วง แคะ แกะ เกา นั่งเท้าคาง กอดอก พิงเก้าอี้ นั่งไขว่ห้าง รับโทรศัพท์เวลาสัมภาษณ์งาน ไม่สบตากับผู้สัมภาษณ์เวลา คุยซึ่งจะทำาให้คิดว่าอาจจะปิดบังข้อมูลบางอย่าง

6. การตอบคำาถาม จำาไว้เสมอว่า สมองต้องไวกว่าปาก อย่าให้ปากไวกว่าสมองเพราะ ฉะนั้นควรหยุดคิดสักครู่ก่อนตอบคำาถาม และต้อง ตอบให้ชัดเจนที่สุด ที่สำาคัญ คือ ไม่คุยโม้ โอ้อวด เมื่อเอ่ยถึงทักษะหรือ ความสามารถของคุณเองอย่างเกินความจริงและไม่ควรพูดในสิ่งที่ไม่ เป็นความจริง เนื่องจากผู้สัมภาษณ์ไม่ได้สัมภาษณ์เราแค่คนเดียวแต่ยังผ่านการสัมภาษณ์ผู้สมัครมามากมาย ดังนั้นการที่จะพิจารณาว่าใครพูด จริงหรือพูดโกหกเป็นเรื่องไม่ยาก

7. งดเว้นการพูดโจมตีหรือพาดพิงบุคคลที่สาม หรือนายจ้างเก่าของคุณอย่างไม่พอใจ เพราะไม่เป็นมารยาทที่ดีและยังส่อให้เห็น ว่าคุณเป็นคนอย่างไร เพราะผู้สัมภาษณ์อาจคิดว่า ต่อไปภายหน้า เขาเองก็อาจถูกตำาหนิลับหลังได้เหมือนกัน จำาไว้ว่าอย่าพูดให้คนอื่นเสียหาย เพราะบุคคลที่คุณกำาลังวิจารณ์เขาในทางเสียหายอยู่นั้น อาจรู้จกั หรือเป็นเพื่อนกับผู้ที่กำาลัง สัมภาษณ์คุณก็ได้ เพราะฉะนั้นจงพูดถึงแต่ความดี หรือส่วนดีของบุคคลที่สามจะดีกว่า

8. การวัดระดับการควบคุมอารมณ์ บางครั้งผู้สัมภาษณ์อาจจะวัดระดับความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของคุณด้วยคำา ถามที่ เป็นลักษณะไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ หรือพยายามยั่วยุให้คุณโกรธด้วยคำาพูด คุณจะ ต้องพยายามอดกลั้น อย่าแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เป็นอันขาด บางคำาถามถ้าตอบไม่ได้ไม่ควรตอบว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ นอกจากจะจนปัญญาจริง ๆ

9. ภาษาอังกฤษ ควรเตรียมตัวในเรื่องการสัมภาษณ์ด้านภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ควรจะต้องเตรียมตัวก่อนเข้าสัมภาษณ์ เกือบทุก บริษัทที่เป็นของต่างชาติจะเป็นต้องสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษเพราะการทำางานร่ว มกับคนต่างชาติจะต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ดังนั้นการที่จะ ได้งานหรือไม่ ภาษาก็เป็นปัจจัยสำาคัญในการถูกพิจารณา ยิ่งถ้าได้ภาษาอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น, จีน, ฝรั่งเศส เป็นต้น ก็จะยิ่งได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ ดัง นั้นถ้าใครยังรู้ตัวว่ายังไม่ได้ภาษาอังกฤษ ตอนนี้ยังเรียนรู้ทันและจะได้เตรียมพร้อมสู่การสัมภาษณ์และใช้ในการทำางานในอนาคตอีกด้วย

10. การเปิดโอกาสให้ซักถาม ถ้าผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้ซักถาม คำาถามที่คุณซักถามควรเกี่ยวกับลักษณะงานของ ตำาแหน่งที่คุณ สมัคร เพื่อเป็นข้อมูลสำาหรับการตัดสินใจของคุณเอง คำาถามที่ไม่ควรถามอย่างยิ่งก็คือ - ไม่ควรถามเรื่องเงินเดือนจนกว่าผู้สัมภาษณ์จะพอใจในหรือตกลงรับเราเข้าทำางานเสียก่อน และโดยทั่วไปผู้สัมภาษณ์จะต้องถามเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าถามแล้วเราไม่แน่ใจว่าเงินเดือนที่เราแจ้งไปนั้นจะสูงหรือตำ่าเกินไป เราควรบอกว่าเงินเดือนอยากให้เป็นไปตามฐานเงินเดือนที่บริษัทตั้งไว้ ดีกว่า - ไม่ควรถามเกี่ยวกับวันหยุด กำาหนดวันพักผ่อน การมาสายหรือการกลับก่อนเวลา เพราะเป็นการสร้างภาพพจน์ว่า ผู้สมัครงานอยากทำางาน น้อย ๆ ชอบหยุดงานมากกว่า - ไม่ควรแย่งพูด ขณะสัมภาษณ์หรือถามคำาถามมากจนกระทั่งน่าสงสัยว่าใคร สัมภาษณ์ใคร

11. ไม่ควรสูบบุหรี่ขณะรอสัมภาษณ์ หรือขณะที่กำาลังสัมภาษณ์โดยเด็ดขาด ไม่ควรดื่มเหล้า เมา หรือมีกลิ่นเหล้าติดตัวเวลาเข้า สัมภาษณ์ เพราะนั่นจะทำาให้พลาดการได้งานทำาอย่างแน่นอน ต่อให้เดินทางไกลมาหรือเก่งแค่ไหนก็ไม่มีผลในการพิจารณา

12. การแสดงถึงความตั้งใจในการทำางาน เมื่อการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ผู้สัมภาษณ์อาจให้คุณกล่าวอะไรบางอย่างที่จะเป็น ประโยชน์ กับคุณเอง สิ่งที่ควรจะกล่าวคือ คุณมีความตั้งใจที่จะมาทำางานกับบริษัทแห่งนี้อย่างไร มีความประทับใจอะไรบ้างจากการมา สัมภาษณ์และลงท้ายด้วยการหวังว่าจะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมงานกับบริษัท คุณควรกล่าวเพียงสั้น ๆ แต่อย่าไปของานเขาทำาตรง ๆ และไม่ ควรแสดงอาการกระตือรือร้นว่าอยากได้งานทำาจนดูไม่เรียบร้อย พึงระลึกไว้ เสมอว่า เรามีข้อดีที่เขาต้องการเรา ไม่ใช่เราต้องการงานเพียงฝ่าย เดียว

13. ไม่ควรชวนพ่อแม่หรือเพื่อนไปรอสัมภาษณ์ดว้ ย เพราะผู้สัมภาษณ์จะรู้สึกว่าผู้สมัครไม่มีความมั่นใจในตัวเองต้องมีพี่เลี้ยง คอยดูแล ถ้าจำาเป็นต้องมีคนไปด้วยเนื่องจากบริษัทอยู่ไกลถ้าต้องเดินทางคนเดียว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก็ควรให้รอข้างนอกบริษัทจะดีกว่า

15. อย่าใช้คำาที่ไม่สุภาพ และอย่าใช้คำาสะแลง, คำาย่อ, โดยไม่จำาเป็น ในระหว่างการสัมภาษณ์ http://nichada.blogspot.com/2007/08/blog-post.html

Related Documents

Job Interview Tips
June 2020 7
Job Interview Tips
May 2020 12
Job Interview
November 2019 24
Interview-tips
November 2019 18
Interview Tips
June 2020 7
Interview Tips
December 2019 18