1
การจัดการสัตวในสวนสัตว แปลจาก ANIMAL MANAGEMENT , Volume 1 , NATIONAL EXTENTION COLLEGE CAMBRIDGE A course for people who look after animals in zoos, wildlife parks, wildlife collections, dolphinaria and aquaria.
โดย. น.สพ. วิชิต กองคํา แผนกบํารุงรักษาสัตว สวนสัตวนครราชสีมา องคการสวนสัตว ในพระบรมราชูปถัมป การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
2
คํานํา ผมเริ่มทํางานในองคการสวนสัตว ในพระบรมราชูปถัมภ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ ม เมื่อวัน ที่ 1 เมษายน 2537 ซึ่งตอนนั้นยังสังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี เริ่ม งานครั้งแรกที่ สวนสัตวดุสิต โดยชวงนั้น น.สพ. อลงกรณ มหรรณพ เปนผูอํานวยการสวนสัตว เปนเวลา 6 เดือ น กอนที่จะไดไปทํางานที่สวนสัตวนครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2537 ซึ่งชวงเวลาที่ผ มทํางานอยูในชวง การทํางานของ ผูอํานวยการ 2 ทานคือ ผอ. ประยุทธ นาวาเจริญและ ผอ.นาวาอากาศโท กระวี กรีธาพล รวมเวลาเกือบ 10 ปจนกระทั่งถึงวันที่ 3 กันยายน 2547 ผมก็ยายมาปฏิบัติงานที่สวนสัตวสงขลา ซึ่งมี ผอ. บัญญัติ อินทรสุวรรณ เปนผูอํานวยการสวนสัตว วันที่ผมเขียนคํานํานี้เปนวันที่ 12 มีนาคม 2548 ผมไดสําเนาหนังสือจาก อ.พรชัย สัญฐิติเสรี คณะสัตวแพทยศาสตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ที่สําเนาเอกสารจากสวนสัตวเปดเขาเขียวชื่อหนังสือ ANIMAL MANAGEMENT มี 129 หนา เปน หนังสือ ที่เขียนในประเทศอังกฤษ โดยหนวยงานที่ทํางานเกี่ยวกับสวนสัตวหลายแหงชว ยกัน จั ดทํา เปน หนังสือ ที่เขียนตั้งแตป คศ 1980 หรือป พ.ศ. 2533 พิมพม าแลว 14 ป แตเนื้อหายังทันสมัยอยู อาจจะมี เนื้อหาเรื่อง อาหารที่ตองหาอานเพิ่มเติมจากนี้ สวนเรื่องอื่นยังเปนเนื้อหาที่ยังเปนแนวในการปฏิบัติงานได ผมใชเวลากับงานแปลนี้เปนเวลา 1 ป ก็เปนเสร็จ เปนรูปเลมออกมา ไมไดทํางานอยางตอเนื่อง อะไร หยุดพักเมื่อมีงานอื่นๆเขามาสอดแทรก เปนงานฉบับแรกที่ผมเข็นออกมาได ผมหวังกับตัวเองวางาน ชิ้นนี้จะเปนกําลังใจใหผมทํางานแบบนี้ตอไป เพราะเปนการแสดงวาเราเข็นออกมาไดดว ยตัว เราคนเดียวซึ่ง เหงาจัง ผมแอบฝนในใจวาทุกสิ้นป ผมจะสามารถรวมผลงานการแปลในปนั้น ๆ ไดเปน จํานวนหนาที่หนา พอสมควรเมื่อ วางอยูบนชั้น หนั งสือ แล ว หนัง สือจะไมโดนหนัง สือ เลม อื่น บังจนหมด งานแปลชิ้ นนี้ มี ขอผิดพลาดอยูพอสมควร เนื่อ งจากความจํากัดในเรื่องของภาษาของผูแปลเอง ในการทํางานครั้งนี้ถือ เปน ครั้งที่ 1 ของหนังสือการจัดการสัตวในสวนสัตว ถามีโอกาสเวียนมาทําอีก มีขอมูลจากแหลงอื่นๆ ใน เนื้อหาเดียวกัน จะกลับมาเพิ่มขอมูลขึ้นมาอีกถาขอ มูลสว นไหนที่ผิดพลาดก็จะมีการเอาออกในการแกไข งานครั้งตอไป งานแปลนี้คงเปนประโยชนกับผูที่เขาทํางานสวนสัตวใหม ๆ โดยเฉพาะแผนกบํารุงรักษา สัตว ของสวนสัต วตางๆ ที่กรุณาเอางานนี้ ไปอาน ความลึกซึ้งของเนื้อหาก็ เปน เพียงเนื้อ หาในระดั บ เบื้องตนเทานั้น สวนความลึกซึ้งตองผานเหตุการณจริงเอาเอง น.สพ. วิชิต กองคํา นักบริหาร 6 หัวหนางานรักษาพยาบาลสัตว สวนสัตวสงขลา 12 มีนาคม 2548
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
3
เนื้อหา หนา บทนํา บทที1่ การเริ่มตน บทที่ 2 จุดประสงคของการมีสวนสัตว บทที่ 3 การเงินและการจัดการ บทที่ 4 การบันทึกขอมูล บทที่ 5 สวนแสดงสัตวและการ4สวนสัตว บทที่ 6 อาหาร บทที่ 7 อาหารของสัตวปา บทที่ 8 ความปลอดภัย บทที่ 9 ความสะอาดและการทําความสะอาด บทที่ 10 การควบคุมสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
4 12 24 32 42 61 74 101 113 124
4
ZOO ANIMAL MANAGEMENT บทที่ 1 บทนํา เนื้อหา - สิ่งควรรูกอนที่เริ่มเขาสูเนื้อหา - ชื่อสัตว - ทําไมในยุคปจจุบันตองมีสวนสัตว - การเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มตี อสัตวปา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
5
สิ่งควรรูกอนที่เริ่มเขาสูเนื้อหา สิ่งที่ตองมีกอนที่จะใชหนังสือเลมนี้เพื่อในการศึกษาคือ เตรียมปากกา ดินสอ สมุดสําหรับ บันทึก 2 เลม โดย 1. สมุดบันทึกเลมที่หนึ่ง สําหรับจดการบันทึกแบบยอสําหรับความคิดที่เกิดจากขอสังเกตที่เกิดขึ้น จากการทํางาน ควรเปนสมุดเลมเล็ก ๆ ที่คุณสามารถพกติดตัวไปได เมื่อเกิดความคิดใหมคุณสามารถ จดบันทึกไดทันที 2. สมุดบันทึก สําหรับจดขอความสําคัญที่เก็บเอาไวอานเปนขอมูลกระตุน เตือนใจ สัญลักษณในหนังสือเลมนี้ เปนเครื่องหมายที่ใหจดขอความภายในกรอบลงในสมุดบันทึกขอความสําคัญ
Q เปนเครื่องหมายคําถาม ที่มีในหนังสือเลมนี้ที่ตั้งคําถามขึ้นมาเพื่อตรวจสอบความเขาใจของคุณ ลองเขียนคําตอบของคุณเองกอนที่จะตรวจสอบความถูกตองของคําถาม
A เปนเครื่องหมายของคําถามที่ตั้งขึ้นในขณะที่คุณกําลังอานหนังสือนี้อยูในฐานะที่คุณเปนผูเลี้ยง สัตว โดยที่คําถามนี้เพื่อชวยเสริมในการเรียนรูและ ทําใหเรียนรูนั้นสนุกสนานขึ้น ในบางครั้งผูสอน จะใหคุณแสดงงานนั้นใหดูดวย หมายถึง กิจกรรมที่คุณตองทํากับสัตวที่อยูในสวนสัตว เชนการสังเกตสัตวหรือแผนงานที่ เกี่ยวของกับสัตวที่คุณตองการทํา ถาคุณเปน ผูเลี้ยงสัตวในสวนสัตวคุณควรจะตองมีที่ปรึกษาในสวนสัตวของคุณเพื่อจะชวยใน เรื่องของการใหความคิดเห็นในเรื่องตางๆ ได จุดประสงคของงานสอนครั้งนี้เพื่อตองการปรับปรุงมาตรฐานของการจัดแสดงสัตว โดยเปน ขอมูลในงานของสวนสัตวในระดับที่สามารถปฏิบัติงานในหัวขอตอไปนี้ได - ทราบถึงสิ่งจําเปนพื้นฐานที่ตองใหแกสัตวในสวนสัตว - เทคนิคที่ใชในการจัดการสวนสัตว - การจัดการเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพสําหรับผูเลี้ยงสัตว รวมถึงผูเที่ยวชมดวย - สามารถบันทึกขอมูลและการเขียนรายงานได - การทํางานอยางมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเมื่อทํางานรวมกับผูอื่น การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
6
- ในชวงการทํางานตองรูขั้นตอนการทํางานและสามารถหาทางแกไขปญหาที่เกิดขึ้นใน ขณะการปฏิบัติงานได ชื่อสัตว เนื่องจากในการเรียนจากหนังสือเลมนี้จะพูดถึงเรื่องสัตว และสัตวแตละชนิดจะมีชื่อประจําตัว อยู เมื่อเราพูดถึงชื่อสัตว พวกเราทั้งหมดตองมีความเขาใจถึงสัตวชนิดเดียวกัน สัตวทุกชนิดจะมีชื่อ ไทย ( ชื่อในภาษาของตนเอง ) ชื่อสามัญ และชื่อวิทยาศาสตร เชน ชื่อไทย ยีราฟ ชื่อสามัญ Giraffe ชื่อวิทยาศาสตร Giraffe camelopardalis หรือ Giraffe camelopardalis ( การเขียนชื่อวิทยาศาสตรมี สองวิธีคือ ใชตัวอักษรเอียงใหเห็นความแตกตางจากตัวหนังสือทั่วไป หรือใชการขีดเสนใตตัวอักษร ในลักษณะปกติ ) มีปญหาอันหนึ่งคือ สัตวที่มีในสวนสัตวบางชนิดมีชื่อสามัญที่แตกตางกันไปทองถิ่น ดังนั้นการแกไขปญหาดังกลาวโดยการใชชื่อวิทยาศาสตร ( scientific name ) เพื่อลดการสับสนในกรณี ที่สัตวชนิดเดียวกันแตใชชื่อสามัญแตกตางกันตามทองถิ่น เชนคําวา bison ( ชื่อสามัญ ) นั้นหมายถึง bison ใด ซึ่งมี 2 ชนิดคือ ไบซันอเมริกา ( Bison bison ) หรือ ไบซันยุโรป ( Bison bonasus ) การใหชื่อสัตวนั้นตองการความชัดเจน ชื่อหนึ่งชื่อตองหมายถึงสัตวชนิดหนึ่ง และสามารถให เกิดความเขาใจกับทุกๆคนไมวาจะเปนที่แหงใด นักวิทยาศาสตรจึงไดมีการรวมกันกําหนดกฏ ที่เรียก ชื่อของสัตวและพืช เปนชื่อวิทยาศาสตร ( Scientific name ) ตัวอยางเชน คํา วา Homo sapiens ซึ่ง หมายถึงมนุษย
Q
.ใหคุณเขียนชื่อวิทยาศาสตรของสัตวที่คุณคุนเคยมา สัก 2 ชื่อ แลวตั้งขอสังเกต เชน ชื่อ
วิทยาศาสตรประกอบดวยกี่สวน เปนภาษาอังกฤษหรือเปนภาษาอื่น ในแตละสวนนั้นมีความหมายวา อยางไร
สิ่งที่ผูเขียนตั้งขอสังเกตไดจากชื่อวิทยาศาสตรคือ (ซึ่งผูอานอาจมีความเห็นแตกตางออกไปได ) 1.จะเห็นไดวาประกอบดวย 2 สวน 2.ไมใชภาษาอังกฤษ เปนภาษาที่ไมมีการเปลี่ยนแปลงความหมาย ซึ่งมักเปนคําจากภาษา ลาติน
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
7
3.ชื่อ แรก เชนคํา วา Homo หรือ คําวา Ursus ซึ่งจะใชในชนิดสัตวที่อยูใน genus ( จีนัส ) เดียวกัน โดยคําวา Ursus เปนชื่อจีนัสของหมี ( bear ) ซึ่งมีดวยกันหลายชนิด ทําไมในปจจุบันจึงมีสวนสัตว (มาถึงขอความนี้เลยเนื่องจากตนฉบับขาดหายไป ) จากขอความขางบนเราพอจะสรุปสาเหตุของการเลี้ยงสัตวปาในสมัยโบราณนั้นมาจาก สอง สาเหตุหลักคือ การแสดงอํานาจของชนชั้นปกครองและลักษณะพิเศษของสัตวปาชนิดนั้น ๆ - การมีสัตวปาหลากชนิดจํานวนมาก มาจากดินแดนหางไกล จะมีไดเฉพาะชนชั้นปกครองเทานั้นซึ่ง เปนการแสดงถึงพลังอํานาจ - เกิดจากความอยากรูอยากเห็นของมนุษย สัตวปาเหลานี้มีลักษณะที่ไมคุนตา นาสนใจ มีความ พิเศษ ไมไดพบเห็นกันบอย ๆ ละครสัตวและการสวนสนาม ในยุคโรมันเมื่อ 2 พันกวา ปที่แลว กษัตริยจัดใหมีก ารพาเหรดสัตว เชน แรด ชา ง ฮิปโปโปเตมัส สิงโต การจัดใหมีสถานที่ตอสูกันระหวางทาสกับสัตวดุรา ย สาเหตุที่จัดสิ่งตื่นเตน ใหกับประชาชนชมโดยชนชั้นปกครอง เมื่อตอ งการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากปญหา บานเมือง โดยเฉพาะชวงที่ชนชั้นปกครองแกไขปญหาบานเมืองไมได ประชาชนเริ่มไมพอใจรัฐบาล ( มีตัวอยางในเมืองไทยที่เวลามีแขงขันฟุตบอลโลกหรือเอเชี่ยนเกมส คนไทยก็เบี่ยงเบนความสนใจ ไป ติดตามดูการถายทอดสดทางโทรทัศน ลืมเหตุการณบานเมืองไปชั่วขณะ ) ความจริงอันหนึ่งที่ผูอานตองทําความเขาใจสิ่งหนึ่งคือ ในยุคโรมันความบันเทิงที่มีในขณะนั้น ไมไดมีมากมายหลากหลายเหมือนในยุคปจจุบัน
A
คุณคงไมเห็นดวยกับการใชสัตวเหลา นี้ไปเพื่อ ความบันเทิงในยุค โรมัน ทํา ไมมายุค นี้จึงมี ความคิดที่แตกตางจากยุคนั้นและทําไมเราไมคิดเหมือนกับคนยุคนั้นหละ อะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการ ฆาสัตวในยุคโรมัน มีความคลายคลึงกันกับยุคปจจุบันอยางไร (จดบันทึกความคิดของคุณลงในสมุด บันทึก)
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
8
สัตวปาที่อยูพื้นที่ของกษัตริย ขุนนาง เจาชาย กษัตริย ขุนนาง เศรษฐี เจาของที่ดิน มีการเลี้ยงสัตวปาไวในพื้นดินของตัวเอง บางครั้งมีการ แลกเปลี่ยนสัตวกัน ตัวอยางเชน - พระเจาเฮนรี่ ที่ 1 แหงประเทศอังกฤษเลี้ยงสัตวไวในสถานที่ที่เรียกวา Woodstock เมื่อราชสํานัก ของอังกฤษยายไปที่เมืองลอนดอน สัตวก็ถูกนําไปเลี้ยงในบริเวณที่เรียกวา Tower of London - ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีสวนที่ชื่อวา The Great Park of Schonbrunn กอตั้งในป คศ. 1752 เปนสวนที่กษัตริยใชเพื่อดูสัตวปา - สถานที่ที่ Carl Linnaeus นักวิทยาศาสตรที่เปนผูริเริ่มใชชื่อวิทยาศาสตร ใชเปนที่ศึกษาพืชและสัตว ไดเริ่มนําเสนอผลงานที่เขาศึกษาพืชและสัตวในสวนที่มีทั้งพืชและสัตวในประเทศ Sweden
( บันทึกขอความนี้ลงในสมุดบันทึก) การรวบรวมสัตวไวตองมีผูจัดการโดยมี keeper ( ที่เรา คุนเคยกับคํา วา zoo keeper ) ความหมายของคํา วา keeper แปลวา to observe ( การสังเกต ) และ curator ( ที่เราใหความหมายวา หัวหนางานในสวนนั้นๆ เชนคํา วา bird curator ที่หมายถึงหัวหนา หมวดสัตวปก ) ที่มาจากคําวา curate ที่แปลวา การดูแล ซึ่งทั้งสองคําไดใหความหมายในหนา ที่ไว แลว การเลี้ยงสัตวปาเพื่อการศึกษา - ในประเทศกรีก เมื่อ 2000 ปกอน มีการเลี้ยงสัตวปาเพื่อการศึก ษา โดยในเมืองใหญ ๆ จะมี สถานที่เลี้ยงสัตวปาของตัวเอง ปราชญชาวกรีกมีการเขียนหนังสือเกี่ยวกับสัตว ชาวอาหรับเขียนเรื่อง เหยี่ยวและมา การศึกษาเรื่องสัตวมีการศึกษาอยางแพรหลาย และมีการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความรูกัน มี เหตุการณที่นาสนใจเชน - ในประเทศฝรั่งเศส ทีเ่ มืองปารีสมีส วนพฤษศาสตร โดยในในสมัยของพระเจาหลุยสที่ 15 จะมี สวนสัตวอยูภายในสวนพฤษศาสตรดังกลาว - มีการกอตั้ง The Zoological Society of London เปนที่พบปะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสัตว ในป ค.ศ. ไดมีการกอสรางสวนสัตว และเปดใหเฉพาะสมาชิกไดชมสัตว เมื่อ มีสัตวปาที่ไดมาใหมที่มีลักษณะ แปลกตา เมื่อนําสัตวเหลานี้มาเลี้ยง ก็เกิดความกาวหนาในวิชาชีววิทยาและการจัดการสัตวขึ้น เริ่มมี การตีพิมพขอมูลเกี่ยวกับการจัดการ ขอสังเกตอื่นๆ ที่มี การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
9
- ตอมาไมนาน Zoological Society garden ก็มีการกอตั้งขึ้นในเมืองตางๆ เชน ดลับบลิน บริสตอล เบอรลิน แมดริด อัมสเตอรดัม และเมืองอื่นๆอีกหลายเมือง โดยมีจุดประสงคเพื่อการเผยแพรความรู และตีพิมพขอมูลตางๆ เพื่อเผยแพรแกบุคคลทั่วไป - ในป คศ. 1847 สวนสัตวลอนดอน (The London Zoological Garden) ไดเปดใหประชาชนไดชม ซึ่งไดรับการตอนรับจากประชาชนทั่วไปในยุโรป - ในอเมริกาเหนือ สวนสัตวไดเริ่มขึ้นในชวง 100 ปที่ผานมา และมีการจัดตั้งอยางแพรหลายในชวง 50 ปที่ผานมานี้เอง
( จดบันทึกลงในสมุด ) วาสวนสัตวของคุณเองมีจุดประสงคพิเศษอื่น ๆ หรือไม กลับไป ดูสาเหตุที่เราเลี้ยงสัตวปาในสวนสัตวชนิดตาง ๆ เพื่อจุดประสงคใด การเกิดขึ้นของสวนสัตว ตารางเวลา : ประวัติของสวนสัตว - มนุษยถ้ํา 3000 ป กอนคริสตศักราช มีการเลี้ยงสัตวเพื่อเปนอาหารหรือเปนเพื่อน - ที่อียิปต 2900 ปกอนคริสตศักราชและ 1000 ปกอนคริสตศักราช การเลี้ยงสัตวปาเพื่อ เปนสิ่งแสดงถึงอํานาจของชนชั้นปกครอง - ที่เปอรเซีย (ประเทศอิหรานในปจจุบัน) 974 ปกอนคริสตศักราชมีการเลี้ยงสัตวปาเนื่อง จากสัตวปาเหลานี้มีลักษณะนาสนใจ - ทีก่ รีก 300 ปกอนคริสตศักราชมีการเลี้ยงสัตวปาเพื่อการศึกษา - ที่กรีก 285 ปกอนคริสตศักราช มีการเลี้ยงสัตวปาเพื่อความสนุกสนานโดยนําสัตว เปนขบวนแหสัตวปา ในอาณาจักรโรมัน คริสตศักราช 1 ใชสัตวปาในการตอสูกับคน - ที่โรม ปคริสตศักราช 2 ในเอเชียปคศ. 1200 และ ที่ Tower of London อังกฤษมีการเลี้ยงสัตวปาเปนสมบัติสวนตัวของกษัตริย ขุนนาง - ที่เวียนนา ปคศ. 1752 ที่ปารีส ปคศ. 1793 มีสัตวปาอยูในสวนเพื่อจัดแสดงให ประชาชนทั่วไปไดดู - ที่ลอนดอน ปคศ. 1826 ที่บริสตอล ( เปนเมืองทาแหงหนึ่งของประเทศอังกฤษ ) ป คศ. 1845 มีการจัดการอยางเปนวิทยาศาสตร เพื่อการจัดแสดงสัตวปาใหประชาชนไดชม - ในป คศ.1871 สหรัฐอเมริกา ประกาศจัดตั้งเขตอนุรักษพันธุสัตวปา ที่อุทยานแหงชาติ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
10
เยนโลสโตน - สวนสัตวที่มีโครงการเพาะขยายพันธุสัตวหายาก เชนที่ Whipsnade ในปคศ. 1931 - สวนสัตวที่มีการจัดแสดงแบบขับรถเขาชมในทุงกวาง (safari park) ที่ Lions of Longleat ในป คศ. 1966 - สวนสัตวที่มีสัตวจําเพาะกลุม เชน จัดแสดงปลา (aquarium) ที่ Blackpool ในป คศ. 1874 จัดแสดงเฉพาะนกแกวที่ cotswolds ในปคศ. 1975
ใหคุณเขียนจุดประสงคของการกอตั้งสวนสัตวที่คุณทํางานอยูวามีจุดประสงคอยา งไร วันที่ เริ่มกอตั้ง อาจใชเหตุผลที่มีในตารางเวลา ( time chart )เปนตัวชวย และเขียนขอ สรุปของการตั้งของ สวนสัตวของคุณลงในสมุดจดขอความสําคัญ ( neat book )
A ทําไมสวนสัตว เขตรักษาพันธุสัตวปา จึงเปนสิ่งที่มีในชวง 150 ปที่ผานมานี้เอง จุดมุงหมายของการเลี้ยงสัตวปาไดมีการเปลี่ยนแปลง แตยังมีบางประเทศที่การเลี้ยงสัตวปา ยังใหความสนในระดับที่เปนเพียงสิ่งที่นาสนใจ (เพราะไมคอยไดพบเห็นบอย ๆ ) ในคนบางกลุม ที่ มีการศึกษามากขึ้นก็มีความสนใจสัตวปามากขึ้น โดยการใหความสนใจในเรื่องชีววิทยา การจัดการ สัตวใหมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีตอสัตวปา การลดลงของจํานวนสัตวปา การเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษยมีอยางรวดเร็วในชวง 200 ปที่ผา นมา เมื่อ 150 ปที่ผา นมาที่ สวนสัตวลอนดอนไดเริ่มเปดทําการ ในชวงเวลาดังกลาวมีเพียงบางพื้นที่ข องโลกที่ประชากรสัตวปา เริ่มลดลง นักสํารวจที่เขาไปยังสวนกลางและตอนใตของทวีปแอฟริกาบรรยายวา สามารถเห็นกลุม ของสัตวนั้นมากมายยาวไปจนสุดแนวขอบฟา สามารถนับจํานวนควายปาไบซันและกวางไดเปน จํานวนหลายลานตัวในเขตอเมริกาเหนือ ในฤดูอพยพยายถิ่นของนกพิราบเห็นทองฟาดํามืดเต็มไปดวย นกตอเนื่องกันเปนเวลาหลายวัน แสดงถึงชวงเวลากอนหนา นั้นสัตวปาไดรับการรบกวนจากมนุษย นอยมาก การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
11
การเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบตอจํานวนประชากรสัตวปาที่เกิดขึ้น เมื่อการเดินทางไปยังที่ ตาง ๆ มีการพัฒนามากขึ้น อาวุธปนมีการพัฒนามากขึ้น มีการยายถิ่นฐานของมนุษย มีการพัฒนา เครื่องมือเครื่องใชมากขึ้น มีความตองการใชผลิตภัณฑที่ไดจากสัตว เชน หนัง เขาสัตว น้ํามัน จํา นวนสัตวปา ลดลงเนื่องจากถิ่นที่อยูของสัตวล ดลง เมื่อมนุษยเพิ่มจํานวนมากขึ้น ความ ตองการพื้นที่มากขึ้นเพื่อการเพาะปลูก เปนที่อยูอาศัย การเกิดขึ้นของเขตรักษาพันธุสัตวปา อุทยาน แหงชาติเพื่อเปนสถานที่ปกปองพื้นปาที่เปนบานของสัตวปา ในศตวรรษที่ 20 ความกาวหนาทางเทคโนโลยี่เชน การถา ยภาพ ภาพสี การอัดขยายภาพ ภาพยนตร โทรทัศนทําใหสัตวปาเปนที่คุนเคยมากขึ้น และดวยสิ่งเหลานี้ไดทํา หนา เสมือนพวกเราได ทองปาไปตามที่ตางๆ ซึ่งการที่เราไดชมจากสื่อตางๆ เหลานี้ก็เปนการกระตุนใหเกิดการสรางสวนสัตว ขึ้น
A ถาคุณเปนผูที่ปฏิบัติงานในสวนสัตว 1. ใหคุณบรรยายถึงสวนสัตวของคุณ เพื่อใหคนที่ไมเคยไปเที่ยวชม พอจะจินตนาการสวน สัตวของคุณได รูปแบบเปนแบบใด กอตั้งเมื่อไหร สัตวที่เปนตัวเดนของสวนสัตว 2. ในสวนตัวของคุณเอง สัตวที่คุณใหความสนใจมากที่สุดคืออะไร หรือสัตวที่คุณมีขอมูล ในเรื่องตาง ๆ มากกวาชนิดอื่น และมีสัตวชนิดนั้นในสวนสัตวของคุณหรือไม 3. ใหคุณเขียนสรุปยองานที่คุณปฏิบัติตั้งแตเชาถึงเย็น และงานทั้งสัปดาห ในงานที่เกี่ยวของ กับการดูแลสัตว
ถาคุณไมไดทํางานในสวนสัตว 1. มีสาเหตุใดที่ทําใหคุณสนใจงานในสวนสัตวและจริงๆ แลวคุณอยากทํางานในสวนสัตวหรือไม 2. งานดานใดในสวนสัตวที่คุณอยากทํา และสาเหตุใด 3. สัตวชนิดใดที่คุณอยากมีสวนรวมในการดูแล ประโยชนที่คุณไดและสิ่งที่คุณตองสูญเสียไปถา คุณเขามาทํางานในสวนสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
12
บทที่ 2 จุดประสงคของการมีสวนสัตว เนื้อหา - ทําไมตองมีสวนสัตว - จุดประสงคของการมีสวนสัตว - เนื้อหาสรุป : หัวขอเพื่อการพิจารณา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
13
ทําไมตองมีสวนสัตว ในบทที่หนึ่งเราเรียนรูเรื่องของการพัฒนาของสวนสัตวจากอดีตจนถึงปจจุบัน รูถ ึงสาเหตุของ การเลี้ยงสัตวปาในอดีตเพื่อจุดประสงคใด ในบทนี้เราจะมาเรียนรูวาปจจุบันเรามีสวนสัตวเพื่ออะไร คําถาม ใหคิดทบทวนดูวาเหตุผลของการเลี้ยงสัตวปาในอดีตที่ผานมา ยังเปนเหตุผลที่ใชไดในปจจุบัน หรือไม
สิ่งที่คุณคิดทบทวนไดอาจมีในหัวขอตอไปนี้ การอนุรักษ เปนที่เก็บสํารองสัตวที่จํานวนลดนอยลง และถิ่นที่อยูเดิมถูกทําลาย การศึกษา เปนสถานที่ศึกษาพฤติกรรมของสัตวปาในการเลี้ยงแบบกรงเลี้ยง รวมทั้งการ มองถึงการปลอยสัตวกลับสูถิ่นอาศัยเดิม เปนสถานที่เพาะขยายพันธุ การเพิ่มจํานวนสัตวปา เพื่อลดการนําสัตวที่ตองจัดแสดงออก จากปา จากสาเหตุทั้ง 3 ขอ นั้นเปนการมุงประเด็นที่ตัวสัตว อีกประเด็นหนึ่งคือ การตอบสนอง ความตองการของผูเที่ยวชม ที่เปนผูสนับสนุนสวนสัตวใหอยูไดคือ การใหการศึกษา ใหความรูดวยวิธีการที่เหมาะสมแกผูเที่ยวชมแตละกลุม การใหความบันเทิง การพักผอน เชน การจัดสถานที่ที่สะอาด สวยงาม รมรื่น การจัด แสดงสัตวในคอกที่เปนธรรมชาติสบายตา จัดแสดงสัตวที่สุขภาพจิตและสุขภาพกายแข็งแรงสมบูรณ คําถาม จากที่อานถึงเหตุผลของการมีสวนสัตวพอสังเขปแลว คุณลองนึกถึงสาเหตุอื่นๆ ของการมี สวนสัตวหรือไม
การเลี้ยงสัตวปาเพื่อการอนุรักษและการผสมพันธุเพื่อเพิ่มจํานวน จุดประสงคข องการเลี้ยงสัตวปาและเพาะขยายพันธุเพื่อใหค งอยูตอไป เปนที่ทราบดีวาใน ปจจุบันสภาพปาธรรมชาติที่ถูกทําลาย จํา นวนสัตวปา ในปาลดจํานวนลง การพัฒนาการจัดการใน กรงเลี้ยงเพื่อใหสัตวปาสามารถขยายพันธุได รวมทั้งมีความรวมมือกับสวนสัตวอื่น ๆ ในเรื่องตัว สัตวและการจัดการ เพื่อมุงหวังที่จะลดการนําสัตวปาออกจากถิ่นที่อยูเดิม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
14
คําถาม สวนสัตวตองเลี้ยงสัตวที่ใกลสูญพันธุเพียงกลุมเดียวใชหรือไม
การมีโครงการที่จะเพาะขยายพันธุสัตวหายากเปนสิ่งจําเปน การเลี้ยงสัตวที่เราสามารถเพาะ ขยายพันธุไดโดยไมยาก ใหมีจํานวนมากพอสมควรแลวยังตองดําเนินการตอไป เพื่อไมตองนําสัตว ชนิดนี้จากถิ่นที่อยู เพื่อการจัดการแสดงใหผูเที่ยวชมไดชม การเลี้ยงสัตวเพื่อการศึกษา - การเก็บขอมูลตางๆ ที่เกี่ยวกับสัตวปาที่เราเลี้ยงในสวนสัตวเปนเรื่องจําเปนหากหวังผลในเรื่องการ เพาะขยายพันธุ - ในการเก็บขอมูลจะตองมีระบบการเก็บขอมูลที่ถูกตอง - การที่ผูเลี้ยวสัตวทํางานใกลกับตัวสัตวเปนโอกาสอันดีที่จะไดสังเกตพฤติกรรมตางๆ และจดบันทึก ขอสังเกตนั้นไว - ขอสังเกตที่ไดใหนํามาประมวลผลและเขียนเปนขอสรุปและมีการตีพิมพในวารสารทางวิชาการ - การสะสมความรูในสัตวแตละชนิดของแตละสวนสัตว จะพบวาในสัตวชนิดเดียวกัน ในตางสถานที่ กัน ปญหาและขอมูลจะมีความแตกตางกัน เนื่องจากพื้นฐานในหลายๆเรื่องที่มีความแตกตางกัน เมื่อ นําความรูมารวมกันจะไดขอมูลที่หลากหลาย - เราจะกลาวถึงการจดบันทึกในบทที่ 4 ซึ่งจะมีตัวอยางของแบบฟอรมตางๆ เชนในกรณีสัตวเกิด สัตว ปวย สัตวตาย ใบขอเพิ่มอาหาร ใบที่ใชบันทึกในการวางยาสลบสัตว การเลี้ยงสัตวเพื่อจัดแสดงในสวนสัตว ผูเที่ยวชมที่เขามาในสวนสัตวมีความมุงหวังที่จะไดรับการสนองตอบจากสวนสัตวในหลาย เรื่อง เชนเรื่องการบริการ ตั้งแตการขายบัตรผานเขาชม การอธิบายเสนทาง (ในกรณีที่ผูเที่ยวชมเขา มาในสวนสัตวเปนครั้งแรก ) ที่จอดรถ เปนตน ผูเที่ยวชมมีความตองการที่จะสัมผัสใกลชิดกับธรรมชาติ ความสนุกสนาน เพลิดเพลินที่ เกิดขึ้นจากชมสัตวที่เขาไมคุนเคย แปลกใหม มีโอกาสนอยมากที่ไดสัมผัสอยางใกลชิด ไดชมสัตวที่ มีลักษณะสวยงาม รูปราง สีสัน มีการแสดงพฤติกรรมที่คาดไมถึง ไดยินเสียงรอง สิ่งประกอบอื่นที่สําคัญไมยิ่งหยอน คือ ความสะอาด การจัดสวนที่มีสีสันสวยงาม สถานที่ อํานวยความสะดวกตาง ๆ เชน หองน้ํา โรงอาหาร ที่สะอาดเปนระเบียบ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
15
การจัดแสดงในลักษณะความแปลกประหลาด การแสดงในอดีต มีการแสดงในลักษณะที่สรางความเขาใจผิดใหกับประชาชน เชน การ บอกวา แมวน้ํา คือ นางเงือก การนําลามาทาสีแลวบอกวาคือมาลาย คําถาม คุณมีความเห็นอยางไรในเรื่องการจัดแสดงสัตวใ นลักษณะการจัดแสดงและใหขอ มูลวา เปน สัตวที่แปลกประหลาด ในสวนสัตว
ซึ่งคําตอบสําหรับคนที่ทํางานในสวนสัตวคงเปนในแงไมเห็นดวยกับการจัดแสดงในรูปแบบนี้ โดยเนื้อหาของความเปนสวนสัตวแลว จะไมจัดแสดงสัตวหรือใหขอมูลแกผูเที่ยวชมวาสัตววาเปนสิ่ง แปลกประหลาด แตสิ่งที่ปฏิเสธไมไดเลยวาโดยตัวของสัตวเองแลวคือความแปลกประหลาด นาสนใจ ซึง่ เปน ความรูสึกที่เกิดขึ้นของผูเที่ยวชมเมื่อมีโอกาสไดมาดูสัตวปา ทําใหผูเที่ยวชมเกิดความสนุกสนาน นั่น คือเหตุผลหนึ่งที่ผูเที่ยวชมตองการมาเที่ยวสวนสัตว การจัดแสดงโชวความสามารถสัตวที่พบตามสวนสัตวตา งๆ เชน การแสดงความสามารถ ของปลาโลมา ลิงอุรังอุตัง นกแกว เปนการแสดงที่ทําใหผูเที่ยวชมเกิดความสนใจในสัตวชนิดนั้นๆ มากขึ้น เปนชองทางหนึ่งที่ทําใหคนคนควาหาขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติวิทยามากขึ้น และเริ่มมีแนวคิด ขึ้นมาอีกวาการใชสัตวโชวควรจะใชสัตวที่เปนสัตวเลี้ยงใหมากยิ่งขึ้นขึ้นเชนการฝกสุนัข แมว หนูให เลนละครสัตว การจัดการแสดงสัตว พรอมกับการใหขอมูลกับผูเที่ยวชม เราจะมีวิธีการใหผูเที่ยวชมเกิดความสนใจในตัวสัตวไดอยางไร (การจัดสภาพสวนแสดงสัตว สัตวใหเปนธรรมชาติล ดการใชสภาพที่คลา ยกรงขัง การจัดชวงเวลาใหอาหารสัตวพรอมทั้งจัดคน บรรยายใหความรูไปดวย) นอกจากนั้นผูเที่ยวชมยังมีจุดประสงคหรือหัวขอที่ตัวเองสนใจแตกตางกัน ไป ซึ่งเปนหนาที่ของสวนสัตวที่จะตองเตรียมขอมูลใหกับผูเที่ยวชมดวยวิธีการตาง ๆ ตัวอยาง เชน นักสัตววิทยาตองการเห็นพฤติกรรมของสัตวชนิดนั้นอยา งใกลชิด ซึ่งในการสังเกตพฤติก รรมในปา จริงไมสามารถเขาใกลสัตวไดใกลขนาดนี้ คําถาม จากประสบการณของคุณกับการพูดคุยกับผูเที่ยวชม คุณสามารถบอกไดหรือไมวา เขามาที่ สวนสัตวเนื่องดวยความตองการขอมูลในลักษณะใด
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
16
พบวาผูเที่ยวชมจะมีความตองการที่แตกตางกัน คําตอบอาจจะเปน - ผูปกครองของเด็กอาจตองการขอมูลเพิ่มเติมสําหรับตอบคําถามลูก ๆ - มีผูเที่ยวชมบางกลุมตองการขอมูลเรื่องการเลี้ยงดู อาหารหรือการจัดการสัตวปาเมื่อสัตว ปาปวย - อาจารยนํานักเรียนมาที่สวนสัตวเพื่อใชตัวสัตวเปนสื่อการสอนในหลายๆ วิชา เชนภาษา อังกฤษ วิทยาศาสตร - นักเรียนที่ตองทําโครงงานหรือรายงาน เราจะกลับมาพูดเรื่องการศึกษาในสวนสัตวอีกครั้งหนึ่งและในบทที่ .3
Q
ใหคุณยอนกลับไปที่สวนสัตวของคุณวาจุดประสงคของสวนสัตวของคุณคืออะไร โดยให
ความสําคัญไปที่สัตวภายในสวนสัตว และผูเที่ยวชมซึ่งเปนผูสนับสนุนสวนสัตวใหอยูได
ถึงแมวาสวนสัตวจะมีความแตกตางกัน แตสิ่งที่เหมือนกันในเรื่องจุดประสงคข องสวนสัตว คือ 1.ใหการสนับสนุนในความพยายามในงานการอนุรักษสัตวปา 2.มีโครงงานที่จะเพาะขยายพันธุสัตวหายากขึ้นในสวนสัตว เชน สวนสัตวสงขลามีโครงการเพาะขยาย พันธนกเงือกไทย สมเสร็จ แมวปาขนาดเล็ก สวนสัตวนครราชสีมา มีโครงการเพาะพันธุนกกระเรียน พันธุไทย และสัตวกลุมชะมด อีเห็น 3.มีการจดบันทึกการดูแลสัตว ความตองการขั้นพื้นฐาน อาหาร การสุขาภิบาล โรคสัตวที่พบบอย ลักษณะทางสังคม การจัดการทางสัตวแพทย จัดพิมพเปนรายงานเปนรูปเลมแลวเผยแพรใหทราบทั่ว กัน 4.ใหความรวมมือกับสวนสัตวอื่น ๆ เชนการใหขอมูล การจัดการสัตว การแลกเปลี่ยนสัตวเพื่อการ ปรับปรุงสายพันธุ 5.การเตรียมสิ่งที่สรางความพึงพอใจแกผูเที่ยวชม สวนแสดงสัตวที่ดูเปนธรรมชาติ สัตวที่มีพฤติกรรม ปกติ สถานที่ ถนนที่สะอาด พืชพรรณที่มีสีสันสวยงาม รมรื่น 6. การใหการศึกษาแกผูเที่ยวชมทุกกลุมอายุ กลุมกิจกรรม ดวยรูปแบบวิธีการที่เหมาะสม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
17
คุณมีขอคิดเห็นที่แตกตางจากทั้ง 6 ขอนี้หรือ ไม ที่สวนสัตวข องคุณมีเหตุผลอื่น ๆ ที่แตกตาง จากนี้หรือไม เหตุผลที่พูดถึงใชไดกับสวนสัตวของคุณหรือไม เหตุผลที่กลาวมาคุณไดทําในสวนสัตว ของคุณหรือไม
กิจกรรมที่คุณตองทําในสวนสัตว - เมื่อคุณไดมีขอสรุปสวนตัวของคุณวาสวนสัตวมีจุดประสงคอะไร คุณอาจลองพูดคุยดูถึงแนวคิด เห็นของเพื่อนของคุณวา เขามีแนวคิดอยางไรเรื่องจุดประสงคของการมีสวนสัตว - เมื่อทราบงานของสวนสัตวที่ตองทําแลว ลองเปรียบเทียบกับสวนสัตวของคุณ คุณคิดวามีงานสวน ใดที่สวนสัตวคุณยังไมไดทําหรือยังทํานอยเกินไป - มีงานขอใดที่คุณไดทําใหเกิดขึ้นจริงในสวนสัตวของคุณแลว - พูดคุยกับเพื่อนรวมงานของคุณถึงประเด็นที่ยังไมไดทําหรือยังไมไดใหความสําคัญ ตองทําอยางไร เพื่อใหงานที่ขาดอยูมีการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น - ภารกิจหลักเหลานี้สวนสัตวของคุณไดมีการเขียนในหลายสถานที่ที่ผูปฏิบัติงานไดอ าน ไดเห็น เสมอ จนเขาใจและเกิดเปนสามัญสํานึกในใจของทุกคนหรือไม
มาถึงตอนนี้ใหคุณเขียนจุดประสงคของสวนสัตวในความคิดของคุณวามีหัวขอใดบาง
A
( คําถามในขณะที่คุณกําลังอานหนังสือ เลมนี้ ) ตั้ง คํา ถามกับตัวเองวา ในฐานะที่คุณ เปน
ผูปฏิบัติงานในสวนสัตว คุณมีวิธีการอยางไรที่จะบอกกับผูปฏิบัติใหทราบถึงงานของสวนสัตววาคือ อะไร ใหคุณเขียนถึงวิธีการเหลานั้น
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
18
จุดมุงหมายของสวนสัตวของคุณ คุณอาจรูสึกวางานที่เปนงานหลักของสวนสัตวที่ก ลาวมาในบางขอ เปนสิ่งที่คุณยังทํานอย มาก เชน การเขียนงานการจัดการทั่วไปในรูปแบบงานวิชาการเชิงวิทยาศาสตร ในชนิดสัตวที่สวน สัตวพยายามที่จะเพาะขยายพันธุ ซึ่งเปนสิ่งที่คุณไมมีประสบการณ แตงานของสวนสัตวก็มีอยูหลาย หัวขอที่คุณ สามารถมีสว นรวมไดหรือ ในสวนงานที่ยังไมไ ดทํา ก็คอย ๆ ศึก ษาและพัฒ นา ความสามารถในสวนที่ขาดอยูขึ้นมา
Q ในสวนงานที่คุณยังไมไดทํา ใหลองทําดูอยู โดยเริ่มที่สัตวที่คุณรับผิดชอบอยู เชน เราจะทํา อยางไรใหสัตวเหลานี้มีสุขภาพที่ดีได
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ เราตองดูแลสัตวเหลา นี้อยางดีที่สุดดวยมนุษยธรรม สิ่งที่คุณตองทําให สัตวเหลานี้คือ 1. คอกและกรงสัตวที่เหมาะสมกับสัตวชนิดนั้น ๆ ในเรื่องของ สิ่งแวดลอม (ความชื้น และอุณหภูมิ) พื้นที่ วัสดุที่ใช การตกแตงคอกที่เหมาะกับพฤติกรรม 2. อาหารที่มีคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสม ถูกตองกับความตองการสัตว 3. จัดระบบสังคมในกรงเลี้ยงใหเหมาะสมกับสัตวชนิดนั้น อยูเปนคูมีโอกาสไดผสมพันธุ 4. การสุขาภิบาล เรื่องความสะอาด กรงคอกสัตว อาหาร เมื่อคุณตองรับผิดชอบสัตวเหลานี้ใหมีสุขภาพดี ในสวนของงานการอนุรักษ ถาสัตวเหลานี้มี สุขภาพเปนปกติ โอกาสที่สัตวเหลา นี้จะมีโอกาสที่อ อกลูก ได สิ่งที่คุณตองทํา คือการจดบันทึก การ จัดการสัตวไวสําหรับเปนขอมูลพื้นฐาน สําหรับเปนแนวทางในการจัดการสัตวชนิดนี้ตอไปในอนาคต ตอไปเราจะไปพูดอีกสวนหนึ่งของสวนสัตวที่สําคัญคือ ผูเที่ยวชม ( visitor ) อะไรคือสิ่งที่ผูเที่ยวชมตองการชม สวนสัตวมีสวนประกอบหลายอยา งที่ตอบสนองความตอ งการของผูเที่ยวชม สวนสัตวบาง แหงมีสวนของทางเทาเพื่อสามารถเที่ยวชมโดยการเดินเทา ซึ่งมักพบในสวนสัตวใ นเมืองที่มีพื้นที่ไม มากนัก บางแหงที่เที่ยวชมโดยการนั่งรถในรูปแบบซาฟารี หรือสวนสัตวที่มีความเชี่ยวชาญในสัตว บางชนิด มักจะมีการจัดแสดงสัตวชนิดนั้นมากเปนพิเศษ เชนนกแกว ปลา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
19
A 1. สัตวชนิดใดที่สวนสัตวของคุณ ทีผ่ ูเลี้ยงสัตวที่มีความชํานาญเปนพิเศษ 2. สัตวชนิดนั้นสามารถขยายพันธุไดในสวนสัตวของคุณใชไหม 3. สัตวชนิดใดที่คุณคิดวาเปนสัตวที่เปนที่ชื่นชอบสําหรับผูเที่ยวชม
ในฐานะที่คุณเปนพนักงานเลี้ยงสัตว มีพนักงานในสวนสัตวคนใดหรือไมที่เปนผูเผยแพรงาน อนุรักษ งานวิจัย ตอสื่อมวลชนไมวาจะเปนสื่อสิ่งพิมพ โทรทัศนหรือการออกพูดในงานสัมมนาทาง วิชาการ เราคือบุคคลที่ตองมีหนาที่ที่จะสื่องานของสวนสัตวออกสูภายนอกโดยใชสื่อเหลานี้
Q
ใหคุณเขียนคําถามที่มันไดรับจากผูเที่ยวชมเสมอ ๆ และคําตอบที่คุณใหแกผูเที่ยวชมคืออะไร
การใหการศึกษาในสวนสัตว คุณอาจไมรูวางานในสวนสัตวนั้นมีความเกี่ยวขอ งอยางมากกับงานใหก ารศึกษา แตการให การศึก ษาแบบการสอนในโรงเรียนอาจมีนักทองเที่ยวบางคนไมคอยชอบในวิธีการแบบนั้น ที่อาจ สรางความรูสึกเหมือนอยูภายใตกฎระเบียบแบบเดียวกับโรงเรียน ดังนั้นการใหการศึกษาในสวนสัตว ตองเปนในลักษณะสรางสนุก ความพึงพอใจ กระตุนความสนใจใหอยากเรียนรู ตัวอยางสําหรับวิธีการใหการศึกษาในสวนสัตว - การจัดแสดงสัตวที่มีสุขภาพจิตและรางกายที่สมบูรณแข็งแรง - การจัดสภาพสวนแสดงสัตวในลักษณะที่เปนธรรมชาติ ถาสามารถจัดใหถูกตองตาม ลักษณะถิ่นที่อยูเดิมไดจะเปนเรื่องที่ดีมาก - การพูดถึงสัตวที่เปนสัตวหายาก - ปายใหการศึกษาที่บริเวณจุดชมตามสวนแสดง - มุมใหการศึกษาตามสวนแสดงสัตว ซึ่งปจจุบันวิทยาการของวัสดุ วิธีการนําเสนอไดมี การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
20
ความกาวหนาไปมาก - หนังสือแนะนําจุดที่นาสนใจและสัตวที่นาสนใจ โดยใหขอมูลในขั้นใหลายละเอียดได - แผนพับ ที่ใหขอมูลการเที่ยวภายในสวนสัตว ซึ่งมีแผนที่ สถานที่ที่นาสนใจภายใน สวนสัตว - ภายในรานขายของที่ระลึกมีมุมขายหนังสือเกี่ยวกับสัตวปาไวจําหนาย - มีโปสเตอรเชนสัตวเลี้ยงลูกดวยนม สัตวปกและสัตวเลื้อยคลานของไทยไวแจก - การจัดชวงเวลาที่พนักงานเลี้ยงสัตวพูดคุยกับผูเที่ยวชม - การจัดใหมีหองฉายภาพยนตรสารคดี - มีสวนแสดงที่บอกขอมูลสัตวเปนเสียงบรรยาย - การเที่ยวชมเปนกลุมที่มีผูบรรยายใหความรูติดตามกลุมไปดวย โดยสรุปแลว การใหการศึกษาในสวนสัตวคือการสรางความสนใจในสัตวชนิดนั้น ๆ กอน โดยวิธีการหลายอยาง แลวใหผูเที่ยวชมนั้นศึกษาดวยตัวของเขาเอง คําถาม จากหัวขอ ในวิธีใหก ารศึกษาที่กลา วมาทั้งหมดในสวนสัตวของคุณใชวิธีก ารเหลานี้เพื่อให การศึกษาแกผูเที่ยวชมหรือไม มีวิธีการอื่น ๆ ที่คุณทําเพิ่มเติมนอกจากนี้หรือไม ปายใหการศึกษา ทุกสวนสัตวมีเจาหนาที่เลี้ยงสัตว ทุกสวนสัตวมีปายใหการศึก ษา ซึ่งปาย ใหการศึกษานาจะเปนรูปแบบทั่วไปของการใหการศึกษาและใหขอมูลในสวนสัตว คุณลองยอนกลับ ไปดูปายใหก ารศึกษาของคุณวานาสนใจ สามารถกระตุนใหผูเที่ยวชมสวนสนใจที่จะอานปา ยให การศึกษาหรือไม
คําถาม กลับไปคิดถึงปายใหการศึกษาในสวนสัตวของคุณเองวามีรูปแบบใด และเขียนลักษณะปายให การศึกษาลงในสมุด 1 – 2 แบบ หลังจากนั้นใหลองสรุปวารูปแบบปายใหการศึกษาในสวนสัตวของ คุณมีกี่รูปแบบดวยกัน ใหสังเกตที่ปายจะเห็นไดวาสวนประกอบที่มีอยูในปายใหการศึกษาเชน ชื่อวิทยาศาสตร ถิ่นที่ อยู นิสัยของสัตวชนิดนั้น รูปภาพ แผนที่แสดงถิ่นที่อยู
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
21
ปายใหขอมูล ยังรวมความถึง ปายเครื่องหมายบอกทางไปคอกกรงสัตว เวลาใหอาหารสัตว ปายบอกสิ่งที่ตองระวัง ปายหามใหอาหารสัตว คําถาม ปายตาง ๆ ที่มีในสวนสัตวของคุณดีแลวหรือยัง ถายังไมดี การปรับปรุงปายเหลานี้ตองทํา อยางไรบา ง ลองเลือกปา ยอันหนึ่งที่คุณเห็นวาควรปรับปรุงวา ตองปรับปรุงอยางไร เชน ปา ยให การศึกษาจําเปนตองปกปองไมใหถูกฝนและแสงอาทิตย เปนวัสดุที่ทนทาน สีสันที่มีบนตัวปา ยไม จางหรือลบเลือ นไปอยางรวดเร็ว วางในจุดที่เหมาะสม มีรูปสัตวประกอบ แผนที่แ สดงถิ่นที่อยู สีสันของพื้นปาย ความชัดเจนของตัวหนังสือ ขอความที่มีเขียนดวยขอความที่เขา ใจงาย จํานวนคํา ไมมากเกินไป การออกแบบจัดวางรูปภาพ แผนที่ ตัวหนังสือที่เหมาะสม ราคาที่เหมาะสมกับวัส ดุ และคาออกแบบ
รูปแบบของปายใหการศึกษาของคุณใชเรซิ่นหรือฟอรเมกา เพื่อปองกันฝนและแสงแดดได หรือไม คุณตองทําการตรวจสอบเสมอวาปายมีการชํารุดเสียหายตองซอมแซมหรือไม การตรวจสอบ เปนสิ่งตองกระทําเนื่องจากปายเหลานี้มีราคาแพง มุมมองของผูเที่ยวชมตอสวนสัตว ในฐานะที่เปนเจาหนาที่เลี้ยงสัตว บางครั้งมีคํา ถามหรือคําแนะนําจากผูเที่ยวชมบางคนวา สัตวที่อยูในสวนสัตวเปนสัตวที่ถูกจํากัดบริเวณ เหมือนกับสัตวเหลานี้ถูกจับขังคุก โดยที่ผูดูแลสัตว คือผูคุม สัตวปาตองอยูในปา ทําไมจึงตองมาอยูในสวนสัตว การอยูในกรงขังแบบนี้พฤติกรรมตาม ธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลไปหรือไม โดยเขาเกิดความเปรียบเทียบกับสัตวใ นปา ที่มีพื้นที่ก วางสามารถ แสดงพฤติกรรมตามสัญชาตญานของสัตวชนิดนั้น ๆ เมื่อตองเจอกับคําถามเหลานี้ในฐานะที่คุณเปน ผูเลี้ยงสัตวปาเหลานี้คุณจะตอบคําถามนี้อยางไร
.ใหคุณจดบันทึกความคิดเห็นวาสาเหตุที่ตองมีสวนสัตวที่คุณทํางานอยู หรือสวนสัตวอื่นๆที่ คุณรูจักดี ทํา ไมตองมีอ าชีพคนเลี้ยงสัตวปาขึ้น เก็บขอความเหลานี้ไวในสมุดบันทึก ซึ่งอาจจะมี ประโยชนหากตองการคําตอบแบบนี้ในโอกาสหนา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
22
ทําไมเราจึงตองรูถึงขอมูลสัตวชนิดตาง ๆ ใหมากยิ่งขึน้ จํานวนของประชากรมนุษยเพิ่มขึ้นทุกวัน ขณะนี้มากกวา 3000 ลานคนแลว มนุษ ยคือผูที่ ชํานาญในการใชทรัพยากรธรรมชาติ ในแตละวันมีการทําลายปาในเขตรอนวันละ 70 เอเคอร มีการ ใชพื้นที่เพื่อการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตวเพิ่มขึ้นวันละมากกวา 80 เอเคอร จํานวนพื้นที่สัตวจะใชเปนที่ อยูลดลงทุกวัน นั้นหมายถึงจํานวนสัตวปาที่มีในโลกก็ลดลงไปตาม สวนสัตวคือสถานที่สําหรับเตรียม ความรูที่จะชวยเหลือสัตวปาเหลานั้น จริงหรือที่สวนสัตวเปนแหลงอนุรักษสัตวปา การทราบถึงสถานะภาพสัตวปา ที่อยูในปา วา ระดับของการเสี่ยงตอการสูญพันธุเปนอยา งไร ในสภาวะที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางลบตลอดเวลานั้น สวนสัตวก็ทราบดีวาสัตวชนิดนั้น ๆ มี ระดับของโอกาสที่สัตวจะสูญพันธุมีมากนอยเพียงใด ถาพบวาสัตวชนิดนั้นไมสามารถที่จะอยูรอดไดในสภาพสิ่งแวดลอมปจจุบัน สวนสัตวเปนอีก สถานที่หนึ่ง ที่ตองพยายามเลี้ยงสัตวนั้นใหมีการขยายพันธุสัตวชนิดนั้นไวเพื่อคงสายพันธุไว เพื่อการ นําสัตวนั้นกลับเขาสูธรรมชาติอีกครั้ง ถาสภาพปาบางแหงยังสามารถนําสัตวกลับไปได ซึ่งไมใชเรื่อง งาย คุณพอทราบตัวอยางของชนิดสัตวที่สามารถนํากลับสูธรรมชาติไดหรือไม คําถามที่เกิดขึ้น เชน เปนไปไดหรือไมที่จะนําสัตวจากสวนสัตวปลอยกลับคืนปา สภาพปา มีความอุดมสมบูรณเพียงพอที่จะปลอยไดหรือไม ระหวางสวนสัตวดวยกันมีการแลกเปลี่ยนสายพันธุ สัตวเพื่อใหสัตวคงความแข็งแรงไวไดหรือไม คุณพอทราบตัวอยางของความรวมมือรูปแบบนี้หรือไม การอนุรักษตองการความชวยเหลือจากรัฐบาล บุคคลสําคัญในรัฐบาลจะตองเห็นความสําคัญ ของงานการอนุรักษสัตวปา และสวนสัตวก็เปนสวนหนึ่งของงานนี้ดวย จริงหรือไมที่การเลี้ยงสัตวปาในสวนสัตวนํามาซึ่งความรูใหม ๆ สวนสัตวข องคุณมีการทํา งานวิจัยหรือไม มีก ารตีพิมพผลการวิจัย มีการเผยแพรขอ มูลใน วิธีการอื่นๆ เชน เปนจดหมายขาว มีการสงขอมูลไปลงจดหมายขาวที่ทําขึ้นในหมูของบุคคลที่อยูใน แวดวงสวนสัตวหรือไม ตัวคุณเองทราบขอมูลใหมที่นําเสนอโดยสวนสัตวคุณเองหรือ สวนสัตวแหง อื่นๆหรือไม ขอมูลใหม ๆ หมายถึง 1. การปรับปรุงการจัดการสุขาภิบาลสัตวและการจัดการเรื่องสุขภาพสัตวอยางไร 2. ความรูใหมเรื่องพฤติกรรมสัตวที่สามารถนําใชไดในสวนสัตวและในปา 3. ความรูที่จะใชสําหรับผูปฏิบัติงานกับสัตวในปา การเลี้ยงสัตวปาเพื่อมุงหวังการเพาะขยายพันธุในสัตวที่ยังไมประสบความสําเร็จในการผสม การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
23
พันธุ การจัดการที่สําคัญอยางหนึ่งคือ การจัดพื้นที่จําเพาะเพื่อใหสัตวไดรับการรบกวนจากผูเที่ยวชม นอยที่สุด แตสวนสัตวก็มีหนาที่อยางหนึ่งที่ตองแสดงสัตวเพื่อใหประชาชนไดดู อยางเชน ตัวอยาง ในตางประเทศที่นําแพนดาหรือกอลิลามาเลี้ยง ประชาชนมีความตองการที่จะดูสัตว การเลือกที่จะทํา แบบไหนขึ้นกับปจจัยหลายอยางเชน จํานวนสัตวที่มีในสวนสัตวถาเหลือนอยมาก ตองมุงหวังเรื่อง การเพาะขยายพันธุใหไดเสียกอน และพิจารณาความตองการชมของผูเที่ยวชมมีมากนอยเพียงใดดวย การบาน งานที่ตองการใหทําคือ ใหคุณนําเสนอตอสวนสัตวของคุณถึง - แนวทางในการดําเนินงานของสวนสัตวในมุมมองของคุณ เพื่อมุงสูจุดมุงหมายของสวน สัตว - เขียนถึงความตองการของผูเที่ยวชมที่เขามาที่สวนสัตว - เสนอรูปแบบของปายใหการศึกษาที่คุณคิดอยากใหเปนอยางไร ใหคุณจินตนาการวา มีผูเที่ยวชม เขียนจดหมายถึงคุณในขอความตอไปนี้คุณจะตอบ เขาวาอยางไร โดยมีตัวอยางวิธีการตอบใหคุณ
ผูอํานวยการสวนสัตวที่เคารพ ผมเขียนจดหมายถึงผูอํานวยการเนื่องผมมีความเห็นวา ในโลกเรานี้ไมมีความจําเปนที่จะตอง มีสวนสัตวเนื่องจากประเทศของเรา(อังกฤษ) มีกฎหมายที่ใหก ารคุมครองตอ สัตวอ ยา งเพียงพอ สัตว ควรจะไดรับอิสระ สัตวควรจะอยูใ นปา แทนที่จะตอ งนํา สัตวขังในกรง จับสัตวจากปา ขนสงจาก แดนไกลมาที่สวนสัตวซึ่งเปนสภาพที่ทําใหสัตวบาดเจ็บ สัตวเครียด บางตัวตอ งตายกอนที่จะมาถึง สวนสัตว สัตวในสวนตองปลอยกลับคือสูปาหรือเอามันไปบานเดิมของสัตวชนิดนั้น ๆ เสีย การ เก็บสัตวเหลานี้ไวในสวนสัตว ยังมองไมเห็นถึงประโยชนของการมีสวนสัตวเลย ถาตองการเห็นสัตว ปา ไปที่อุทยานแหงชาติ ไปที่พิพิธภัณฑ ดูจากโทรทัศน จากวีดีโอสารคดีชีวิตสัตวก็ได ซึ่งให ความรูสึกที่ดียิ่งกวาการดูสัตวเหลา นี้จากสวนสัตวเสียอีก กระผมหวังวาขอ เขียนของผมคงมีอ ะไร สะดุดใจคุณไดบาง ดวยความปรารถนาดี โมล เมื่อคุณอานจดหมายในรูปแบบนี้จบ คุณมีแ นวทางในการตอบจดหมายฉบับนี้อยา งไร เขียนลงใน สมุดบันทึกขอความ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
24
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
25
บทที่ 3 การเงินและการจัดการ เนื้อหา - คาใชจายและรายได - การจัดการและการบริหารงานภายในสวนสัตว - งานใหการศึกษา - กฎระเบียบในการเที่ยวชมสวนสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
26
สวนสัตวประกอบดวยสวนประกอบหลายสวน มีผูปฏิบัติงานหลายฝาย พนักงานเลี้ยงสัตว คือสวนประกอบสวนหนึ่งเทานั้น บทนี้เราจะมองไปยังสวนอื่นที่มีความสําคัญ ๆ ของสวนสัตว
A
คําถาม ใหคุณลองสํา รวจดูวา เจาหนาที่ใ นสวนสัตวประกอบดวยเจาหนา ที่ตอ งปฏิบัติงาน
อะไรบาง ในพนักงานหนึ่งคนอาจมีหลายหนาที่ โดยใหเวลา 10 นาที
หนาที่ที่ผมคิดไดคือ - ผูเ ลี้ยงสัตว - คนขายตั๋วหรือคนตรวจตั๋ว - คนครัว - เจาหนาที่ใหการศึกษา - คนทําความสะอาดหองน้ํา - คนทําสวน - คนคลังอาหาร - สัตวแพทย - พนักงานบัญชี - ฝายประชาสัมพันธ - ผูอํานวยการสวนสัตว หัวหนาแผนกบํารุงรักษาสัตว หัวหนาแผนกโยธา หัวหนาแผนก ประชาสัมพันธ - พนักงานธุรการ - ชางออกแบบ ถาเปนสวนสัตวที่มีขนาดเล็ก งานเหลานี้รับผิดชอบโดยคนจํานวนนอย คาใชจาย ในการสรางสวนสัตวแหงใหม คาใชจา ยจะใชไปในเรื่องของถนน สิ่งกอสรางตาง ๆ รั้ว อาคาร ที่จอดรถ ระบบน้ํา ระบบไฟฟา หลังจากสิ่งกอสรางเสร็จสิ้นการนําสัตวเขามาเลี้ยง คาใชจายในการเลี้ยงดูปตอป ในหัวขอตอไปนี้เปนคาใชจายในหมวดตาง ๆ ใหคุณทดลองเรียงลําดับ คาใชจายเหลานี้ดูจากมากที่สุดไปหานอยที่สุด และดูดวยวารายการใดที่ไดเปนรายไดกอนใหญที่สุด การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
27
รายได - บัตรผานประตู - สวนแบงขายอาหาร รานขายของที่ระลึก รายจาย - คาอาหารสัตว - เงินเดือนพนักงานและลูกจาง - คาบํารุงรักษาอาคารสถานที่ - คาน้ํา ไฟฟา คายานพาหนะ - คายาและเวชภัณฑ งานวิจัย - คาโฆษณาประชาสัมพันธ รายไดทั้งปและคาใชจายของสวนสัตวแหงหนึ่ง เพื่อใชในการตรวจสอบคําตอบ รายได - คาบัตรผานประตู 200,000 ปอนดื - กําไรจากสวนอื่น ๆ ? คาใชจาย คิดเปนเปอรเซ็นต - เงินเดือนพนักงานและลูกจาง 90,000 ปอนด 36 - คาอาหารสัตว …………………..35,000 ปอนด 14 - คาบํารุงอาคาร สถานที่ ………..35,000 ปอนด 14 - คาน้ํามัน-ยานพาหนะ น้ํา ไฟฟา ..20,000 ปอนด 8 - คาสําหรับการดูแลสัตว งานใหการศึกษา……65,000 ปอนด 26 % - คาโฆษณา ประชาสัมพันธ……. 5,000 ปอนด 2% รวม 250,000
100
ใกลเคียงกับที่คิด ๆ ไวหรือไม
ใหคุณลองตอบคําถามตอไปนี้ 1.คาใชจายใดเปนคาใชจายสูงที่สุดและลําดับรองลงมาคืออะไร 2. คาใชจายสําหรับคาอาหารคิดเปนกี่เปอรเซ็นต คุณอาจจะคาดไมถึงวาคาอาหารอยูใ นอับดับที่ 3 ซึ่ง เปนคาใชจายกอนหนึ่งที่ไมมากเลย 3.คาใชจายในหมวดการดูแลสวน ดูแลอาคารสถานที่ คาไฟฟา ใหลองหาขอมูลวามีการเพิ่มขึ้นหรือ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
28
ลดลง 4.เมื่อไดเงินจากคาผานประตู 200,000 ปอนด สวนที่ขาดทุนอยูเราจะไดจากที่ใด 5.ในฐานะที่เราเปนผูเลี้ยงสัตว( Zoo Keeper ) เราจะมีวิธีการชวยลดคาใชจายไดอยางไร
(แผนงานที่ตองทําในสวนสัตว )ใหคุณลองกลับไปดูงบบัญชีของสวนสัตวของคุณเองที่มีการ พิมพ ในลักษณะของขอมูลที่มีการสรุปงบทั้งป แลวเทียบเปอรเซ็นตของแตละงบดู ดูวาสิ่งที่ใชจาย มากที่สุดเปนงบตัวใด คาใชจายโดยรวมที่ใชไปทั้งหมด รายไดที่จากสวนตาง ๆ เปนอยางไร
ในฐานะที่ทานเปนสวนหนึ่งของผูปฏิบัติงานในสวนสัตว ทานสามารถพูดไดหรือไมวา สวน สัตวสามารถดําเนินงานใหสําเร็จลุลวงไปไดโดยไมตองอาศัยเงินคาผานประตูที่จายโดยผูเที่ยวชม ทาน อาจจะบอกวาทานเปนบุคลากรในสวนของงานบํารุงรักษาสัตว แตเงินที่นํามาจา ยใหทานคือ เงินที่มา จากผูเที่ยวชม ดังนั้นผูเที่ยวชมคือบุคคลที่ทานตองใหการตอนรับอยางดีที่สุดคนหนึ่งของบุคคลที่เขา มาในสวนสัตว การจัดการ หนังสือเลมนี้จะพูดถึงเรื่องการจัดการสัตวเปนหัวขอหลัก ซึ่งจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวของกับผูเลี้ยง สัตว ที่เปนเจาหนาที่สวนหนึ่งในการจัดการสวนสัตว โดยผูเลี้ยงสัตวมีหนาที่ตอไปนี้ 1. จัดการเรื่องสุขภาพและการสุขาภิบาลใหกับสัตวเชน อาหารที่เหมาะสมในเรื่องคุณคาและปริมาณ 2. สอดสองดูแลผูเที่ยวชมใหสามารถเที่ยวชมไดอยางปลอดภัย ใหขอมูลสัตวที่ตนเองเลี้ยงดู เพื่อ สรางความพึงพอใจใหแกผูเที่ยวชม 3. ในเรื่องการประชาสัมพันธ ใหขอมูลสัตวแกสื่อมวลชน เชน นักขาว โทรทัศน ที่เขามายัง สวนสัตว หรือในกรณีที่พบปะประชาชนดานนอกเพื่อใหขอมูลที่ถูกตองและสงเสริมภาพพจนที่ดีของ สวนสัตว ในการจัดการสวนสัตวดานอื่นๆที่มีความสําคัญไมยิ่งหยอนกวากันเชน แผนกบริหารงานทั่วไป มี หนาที่บริหารการเงินเพื่อใหงานทุกดานในสวนสัตวดํา เนินไปได ประสานงานทุกแผนกใหสามารถ ทํางานรวมกันเพื่อใหบรรลุตามจุดประสงคของสวนสัตว โดยคิดถึงความกาวหนาโดยสวนรวมของสวนสัตวที่เปนแหลงที่พักพิงของพวกเรา ถาสวน สัตวเจริญกาวหนาเราที่เปนผูพึ่งพิงก็จะมีสวนไดรับความเจริญอันนั้นดวย โดยใชจายเงินงบประมาณ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
29
ที่มีอยางมีเหตุผลและเปนประโยชนแกสวนสัตวมากที่สุด การจัดการภายในสวนสัตวแบงไดเปน 4 แผนก ไดแก 1. แผนกบริหารงานทั่วไป ในงานธุรการ บัญชี การเงิน พัสดุ 2. แผนกบํารุงรักษาสัตว ดูแลสุขภาพสัตว งานสถานพยาบาล งานเก็บขอมูลสัตว งานวิจัย และการใหการศึกษา คลังอาหาร 3. แผนกโยธา การดูแลอาคารสถานที่ ตกแตงสวน ระบบไฟฟา ประปา 4. แผนกวางแผนและประชาสัมพันธ เผยแพรสวนสัตวใหเปนที่รูจัก งานใหการศึกษา
(แผนงานที่ตองทําในสวนสัตว ) มีการพูดคุยและตอบคําถามตอไปนี้ 1. ในสวนสัตวของคุณใครคือผูกําหนดนโยบายและผลักดันนโยบายนั้นใหเกิดขึ้นจริง 2. ในสวนงานแตละสวนใครคือผูรับผิดชอบ 3. ในงานของ ผูเลี้ยงสัตว ใครคือผูวางแผนงาน ของแตละวัน 4. เขียนโครงขายสายการบังคับบัญชา สายการบังคับบัญชาโดยทั่วไป คือ - ผูอํานวยการใหญ กําหนดนโยบาย - ผูอํานวยการสวนสัตวนํานโยบายมาปฏิบัติ - หัวหนาแผนกบํารุงรักษาสัตวนํานโยบายในเรื่องเกี่ยวกับสัตวนํามาปฏิบัติ - หัวหนาโซน แจกจายงานแก ผูเลี้ยงสัตวในโซน - ผูเลี้ยงสัตวปฏิบัติงานตามที่ไดรับมอบหมาย
(จดบันทึกลงในสมุดบันทึก ) สวนสัตวของคุณอาจมีรูปแบบการบริหารงานที่ แตกตางกันออกไป ใหเขียนเปนโครงขายงานพรอมกับกําหนดหนาที่รับผิดชอบดวย ในฐานะที่คุณเปนผูเลี้ยงสัตว งานที่อยูในความรับผิดชอบของคุณ คือ การจัดการสัตวและ งานประชาสัมพันธ ซึ่งเปนงานที่มีสําคัญอันหนึ่งในฐานะที่เราเปนสวนหนึ่งของสวนสัตวที่ตองพบปะ กับผูเที่ยวชม คุณคือตัวแทนของสวนสัตว การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
30
คุณกับผูเที่ยวชม อะไรคือเหตุผลทีผ่ ูเที่ยวชมมาเที่ยวที่สวนสัตว แนนอนวาสาเหตุหนึ่งคือเพื่อพักผอนและความ เพลิดเพลิน ในฐานะที่คุณเปนผูเลี้ยงสัตว มีขอจํากัดในการใหขอมูลแกผูเที่ยวชม เชน 1.ในการใหขอมูล อยาใหขอมูลในสิ่งที่เปนไปเพื่อความสนุกสนานมากเกินไป ใหนึกถึงขอมูลที่ถูก ตอง 2.ถามีขอมูลใดที่ไมแนใจ อยาใหขอมูลในแงของความคิดเห็น มีหลายคําถามที่ยังไมมีคําตอบที่ชัดเจน 3. หลีกเลี่ยงการพูดถึงขอมูลที่เปนศัพททางวิชาการที่มากเกินไป 4. จดจําภารกิจงานของสวนสัตวไวใหชัดเจน งานใหการศึกษา สวนเสริมงานใหการศึกษา ตัวอยางเชน การใหคําแนะนํา เพิ่มเติมโดยพนักงานเลี้ยงสัตว ปายใหการศึกษา
Q ( ลองเขียนจําตอบลงในสมุดบันทึกกอนดูคําตอบ ) คุณลองนึกถึงสวนสัตวของตัวคุณเองหรือใน สวนสัตวอื่นที่คุณเขาไปเยี่ยมชม งานใหการศึกษาแกผูเที่ยวชมมีรูปแบบอยางไร เขียนลงสมุด ในสวนสัตวของคุณอาจมี 1.แผนพับ 2.สมุดงานสําหรับนักเรียนเขาคาย 3.การสอนแกกลุมนักเรียนสัตวแพทยโดยสัตวแพทยประจําสวนสัตว 4.โรงภาพยนตร ที่ฉายภาพยนตรสารคดีเกี่ยวกับสัตว
Q ( ลองเขียนจําตอบลงในสมุดบันทึกกอนดูคําตอบ ) ถามีกลุมเฉพาะเราจะมีวิธีการใหการศึกษาแก กลุมเหลานี้อยางไร ( ลองกําหนดกอนวากลุมเฉพาะจะเปนใครเชนนักเรียนประถม กลุมผูสูงอายุ ) เราอาจมีความคิดวาการใหสมุดงานนั้นเฉพาะนักเรียนเทา นั้นหรือ การฉายภาพยนตรนั้น สําหรับกลุมที่สนใจในเรื่องบางเรื่องหรือการใหขอมูลแนะนําทั่วไปของสวนสัตวสําหรับนักเรียน ครูที่นํานักเรียนมาที่สวนสัตวมีค วามตองการที่จะใหขอมูลเกี่ยวกับสัตวแกนัก เรียน แตดวย ขอมูล ที่มีอ ยูไมเพียงพอ ดังนั้นสวนสัตวจึง ตองเปนผูเตรียมสื่อ การสอนที่นาสนใจใหแกค รูและ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
31
นักเรียน รูปแบบที่นําเสนอ เชน ภาษาอังกฤษ รูปภาพระบายสี รูปโลกที่แสดงถิ่นที่อ ยูของสัตว ชนิดนั้น ๆ หรือ**การทําเปนคูมือแนะนําสัตวในสวนสัตวใหครูไดมีโอกาสทราบขอมูลกอนที่จะมา ที่สวนสัตวและ ตัวของเองครูจะเปนฝายใหขอมูลในขณะที่พานักเรียนชมสัตว การเที่ยวชมเปนกลุมไมวาจะเปนวัยใดหรือกลุมอาชีพใดก็ตามแตตอ งการผูนํา ชม มีรูปแบบ การใหขอมูลในขณะนําชม ใชเครื่องมืออื่น ๆ ประกอบ ในหนาถัดไปเปนรูปแบบสมุดงานที่ใหแกนักเรียนที่มาเที่ยวชมสวนสัตวนครราชสีมา (แผนงานที่จะทําในสวนสัตว ) ในบทบาทของการเปนพนักงานเลี้ยงสัตว ใหคุณคิดถึงงาน ใหการศึกษาของสวนสัตวควรเปนอยางไร ปญหาที่เกิดขึ้นกับกลุมของนักเรียนในงานใหก ารศึกษาที่ เขามาใช สวนสัตวมีอะไร ใครคือผูที่ตองรับหนาที่ในการดูแลกลุมนักเรียนที่เขามาในสวนสัตว ในสวนสัตวขนาดใหญ จะมีเจาหนาที่เกี่ยวของกับงานใหการศึกษา แตถาเปนสวนสัตวขนาดเล็ก เจาหนาที่จากสวนอื่นๆ อาจ ตองเขามาเกี่ยวของกับการพานักเรียนเที่ยวชมสัตวโดยรอบสวนสัตว ตองหาวา ใครคือผูที่มีหนา ที่นี้ ใครมีความสนใจที่จะทําหนาที่นี้ ถาสวนสัตวของคุณยังไมมีการจัดการงานใหการศึกษา ใหปรึกษาสวนสัตวที่อยูใกลเคียงที่ได เริ่มงานสวนนี้ไปแลว
เด็กหรือผูใหญบางคนตองการสัมผัสกับสัตว ซึ่งกลุมสัตวที่สามารถสัมผัสไดคือสัตวในกลุมที่ เราคัดสรรไวในสวนสัตวเด็ก แตอยางไรก็ตามกลุมสัตวนี้ตองไดรับการดูแ ลเชนกัน เนื่อ งจากสัตว ไมใชของเลน ที่สามารถทําตามความพอใจอยางไรก็ได ______________________________________________________ เขียนขอ ความสั้น ๆ ในสมุดจดขอความสําคัญ (neat book ) ถึงสิ่งที่คุณสามารถชวยงานให การศึกษาภายในสวนสัตวได การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
32
ระเบียบในการเที่ยวชมสัตว ระเบียบที่มีสําหรับผูเที่ยวชมในสวนสัตวเพื่อ 1. สวนสัตวสามารถดําเนินงานไปไดอยางราบรื่น 2. เพื่อความปลอดภัยของสัตว เจาหนาที่ในสวนสัตว ผูเที่ยวชม ภายในสวนสัตว ผูเที่ยวชมอยูในฐานะที่ผูมาเยือนหรือแขก ถึงแมวาจะเปนผูมาเยือนที่ได จายเงินคาผานประตูเพื่อใชบริการ แตก็มีกฎระเบียบที่ผูเที่ยวชมตองกระทําตาม มีสิ่งที่กระทําไดและ ทําไมได ดานหลังตั๋วที่ใหแกผูเที่ยวชม ตอ งเขียนระเบียบการเที่ยวชมไวใ หเรียบรอย ดานหนาตั๋ว ตองเขียน “โปรดพลิกอานดานหลัง”
1.ลองดูวาระเบียบขอบังคับในการเขาชมของสวนสัตวคุณเปนอยางไร มีบางขอที่อานแลวอาจดูแลวผู เที่ยวชมไมคุนเคย แตความเปนจริงแลวขอบังคับเหลา นี้เกิดจากเหตุก ารณที่เกิดขึ้นจริงและกอ ความ เสียหายใหแกสวนสัตว มีระเบียบการเที่ยวชมไวที่ประตูทางเขาที่ผูเที่ยวชมสามารถอานไดชัดเจนหรือไม มีก ารเขียน ระเบียบไวที่ดานหลังของตั๋วหรือไม มีวธิ ีการจัดการกับผูเที่ยวชมที่ฝาฝนกฎอยางไร เขียนกฎระเบียบลงใน notebook
( แผนงานที่จะตองทําในสวนสัตว )พนักงานและลูกจางทุกคนในสวนสัตวมีหนาที่จะทําใหกฎระเบียบ ของสวนสัตวไดรับการปฏิบัติ การใสชุดที่เปนเครื่องแบบหรือปายบอกชื่อเพื่อเปนการแสดงแกผูเที่ยว ชมทราบวามีเจาที่คอยอํานวยความสะดวกและสามารถสอบถามขอมูลได เมื่อพบความยุงยากในการที่จะเขาจัดการ สิ่งหนึ่งที่ตองนึกถึงเชนกันคือ เราตองการใหผูเที่ยว ชมไดรับความสุขที่เขามาเที่ยวชมในวันนี้และกลับมาใชบริการของสวนสัตวใหมในวันหนา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
33
เมื่อพบการกระทําที่ฝนกฎคําพูดที่เราจะกลาวแก ผูเที่ยวชมคือคําพูดอยางไร เชนพบคนเคาะ กระจกงู พบคนโยนอาหารใหลิงชิมแพนซีกิน การฝกกรณีฉุกเฉิน การฝกในกรณีฉุกเฉิน เชน กรณีสัตวหลุด ไฟไหม การดําเนินการจะตองปฏิบัติเชนไร ขอ 1 2 3 4 ตองมีการซอมเพือ่ ใหผูเกี่ยวของทุกคนทราบขั้นตอนและสิ่งที่ตนเองตองปฏิบัติ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
34
บทที่ 4 การเก็บขอมูล เนื้อหา -
ทําไมตองมีการบันทึกขอมูล การจําแนกตัวสัตว การบันทึกนั้นทําอยางไร การนําขอมูลไปใช ขอมูลเพิ่มเติม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
35
ทําไมตองมีการเก็บขอมูล เมื่อมีสัตวชนิดใหมเขามาในสวนสัตว มีขอมูลหลายขอที่คุณอยากรู ______________________________________________________
Q
คํา ถามที่คุณตอ งการคํา ตอบเมื่อ มีสัตวใหมเขา มาและเปนสัตวที่คุณตองรับผิดชอบ (เขียน
คําตอบลงในสมุดบันทึกกอนที่จะดูคําตอบ ) ______________________________________________________ สิ่งที่คุณตองคิดคือ - เปนสัตวที่เคยอยูในสวนสัตวมากอนหรือไม - สวนแสดงและคอกกักที่เหมาะสมควรเปนอยางไร - การจัดการทั่วไปในเรื่องของอาหาร อุณหภูมิ พฤติกรรมของสัตว - ในเรื่องการขยายพันธุ ระยะการตั้งทอง ถาแมไมเลี้ยงตองจัดการอยางไร - โรคที่พบบอย ๆ ของสัตวชนิดนี้คืออะไร - มีหนังสือที่เขียนถึงสัตวชนิดนี้ที่เราจะใชอานมีหรือไม ______________________________________________________
Q คุณมีขอมูลเหลานี้ในสัตวที่คุณดูแลอยูหรือไม ทําไมเราจึงตองการขอมูลเหลานั้นดวย (เขียน คําตอบลงในสมุดบันทึกกอนที่จะดูคําตอบ ) ______________________________________________________ - ในกรณีที่เกิดสัตวปวย สิ่งที่คุณอยากรูเชน สัตวตัวนี้เคยปวยมากอนหรือไม การรักษาทํา อยา งไร ใครที่เราจะปรึกษาเขาไดบาง - ถาเปนสัตวที่ยายเขามาใหมคุณอาจตองการทราบวา สัตวตัวนี้เคยอยูที่สวนสัตวใดกอนหนานี้หรือไม มีปญหาที่เรายังไมทราบมากอนหรือไม การแกไขทําไดอยางไร - ถาสวนสัตวของเรามีการเก็บขอมูลในหัวขอเหลานี้ไว ขอมูลเหลานี้จะทําใหเราสามารถรับรูปญหาที่ อาจจะเกิดซ้ําขึ้นมาอีกได
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
36
- อยาใหเกิดกรณีที่ตองการขอมูล เชน ยีราฟตัวนี้อายุเทาไหร แลวมีคําตอบวาใหถาม คนเลี้ยงที่ชื่อพี่ สมชายดูซิ แกเลี้ยงมาตั้งแตตกลูกจากทองแมแ ลว และถาหากวา ผูเลี้ยงสัตวทานนั้น ออกจากงานไป ขอมูลที่เขารูก็หายไปกับตัวเขาดวย การสรางการระบบการจดบันทึกขอมูลจึงตองมีขึ้น - เก็บขอมูลใหเปนระบบ อยา ใหอ ยูในความทรงจํา เพียงอยางเดียว การสื่อสารใหส วนสัตวอื่นได ทราบ อาจมีบางเรื่องที่ไมสามารถเปดเผยไดก็มี ถาเรื่องไหนพอเลาไดก็เลาหรือเขียน - เมื่อการตายของสัตวเกิดขึ้น ถึงแมตัวสัตวไมมีตัวตนอยูแ ลว แตสัตวตัวนั้นจะยังอยูในสวนของ ขอมูลสัตวตอไป ขอใหขอมูลที่เก็บไวใหเปนประโยชนในการจัดการสัตวตัวอื่น ๆ ที่จะตองมาอยูที่ สวนสัตวแหงนี้หรือเปนขอควรระวังใหกับสวนสัตวอื่น ๆ อยาใหความสูญเสียแบบนี้เกิดขึ้นอีก ______________________________________________________
A
คงจําไดจากบทที่ 2 ที่กลาวถึงจุดประสงคของสวนสัตว ขอมูลที่เรามีอยูจําเปนตองเผยแพรตอ
สวนสัตวอื่นเพื่อความเขาใจในสัตวชนิดนั้นใหมาก ลองเขียนถึงขอมูลที่ควรจะเก็บไว โดยขอมูลแตละ อยางเปนประโยชนแกเราอยางไร (ลองตอบคําถามนี้ในใจ ) ______________________________________________________ หัวขอที่เขียนไดอาจเปน - ขนาดของสัตวเมื่อโตเต็มที่แลว - อายุขัย - ถิ่นที่อยู - อาหาร - การกินอาหาร - ชวงอายุถึงวัยเจริญพันธุ มีหัวขออื่น ๆ อีกหรือไม
( งานที่จะตองทําในสวนสัตว )ใหเขียนถึงแตละหัวขอ มีความสํา คัญอยางไร มีประโยชนอยา งไร โดยลองคิดถึงเหตุการณที่เกิดขึ้นในสวนสัตวของคุณเปนตัวอยาง การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
37
เขียนสรุปวาการเก็บขอมูลสัตวมีความสําคัญอยางไรลงในสมุดบันทึก การทําเครื่องหมายสัตว การทําเครื่องหมายที่ดีคือ การสามารถแยกสัตวแตละตัวไดอยางชัดเจน ดังนั้นในระบบการ เก็บขอมูลจําเปนตองมี 1.ชื่อสัตวที่เปนชื่อวิทยาศาสตรเพื่อความเขาใจกับถึงสัตวชนิดนั้น ๆ ที่เปนระบบเดียวกัน 2.ในฝูงสัตวแตละชนิดแยกสัตวแตละตัวออกจากกันได เราจะเริ่มดวยการทําเครื่องหมายสัตวแตละตัว เมื่อทราบวาตัวใดแลวการจดบันทึกพฤติกรรม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเปนสิ่งที่ติดตามมา การเก็บขอมูลตองทําใหถูกตอง การเก็บขอมูลควรบันทึกทันทีที่เกิดเหตุการณที่สําคัญ ขึ้น อยาใชความจํา แตใหจดบันทึกลงทันที ผูเลี้ยงสัตวจึงจําเปนที่จะตองมีสมุดที่ใชจ ดบันทึก และ สามารถเปดเมื่อตองการขอมูล สามารถบอกไดวาเมื่อวันที่ เดือน พ.ศ. เกิดอะไรขึ้น การบันทึก เปนหนาที่ที่สําคัญที่ตองปฏิบัติ การสรางระบบการบันทึก คือ ตองไมยุงยาก ไมเสียคา ใชจายมากในการดํา เนินการ ตัวอยางหัวขอที่จะบันทึก - ปริมาณปลาที่นกเพนกวินกินทั้งหมดเมื่อวานนี้ - งูหลามลอกคราบวันที่เทาไหร - เขากวางของละมั่งหมายเลข…..เขาแกหลุด เมื่อวันที่ ……… - แมลามา หมายเลข….ใหกําเนิดลูก ตัวที่ 2 เมื่อวันที่ … เวลา….. - ปริมาณหญาที่เพียงพอสําหรับวัวแดง จํานวน 5 ตัวอยูที่ประมาณ กก โดยให แบงเปน มื้อ ใหเวลา พฤติก รรมที่บอกวาสัตวอิ่มแลวคือ ถายังไมอิ่ม อาการที่สัตวแสดงออก คือ… - ขอมูลที่ตองเก็บในสัตวแตละชนิดมีความแตกตางกัน แตตองจําแนกสัตวแตละตัวใหได กอนที่จะบันทึกขอมูลลงไป การทําเครื่องหมายสัตว ______________________________________________________ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
38
A คุณคิดวาวิธีการที่จะทําเครื่องหมายสัตวมีวิธีการใดบาง คุณไดทําการทําเครื่องหมายประจําตัว สัตวของคุณหรือไม เสร็จแลวใหบันทึกขอความสั้น ๆ ใหเวลา 5 นาที การทําเครื่องหมายสัตวแตละตัวมีความสําคัญกับการจัดการสัตวในสวนสัตวเพื่อประโยชนใน เรื่องของ - การจัดการในเรื่องพันธุกรรม - การเก็บประวัติสัตวในเรื่องการจัดการและสาเหตุการปวย ตาย การทําเครื่องหมาย ควรจะเลือกวิธีที่คนเลี้ยงสามารถแยกแยะไดวาเปนสัตวตัวใด ในสวน สัตวหลายแหง การแยกเปนตัวอาจมีเพียงสัตวไมกี่ชนิดเชน ชางที่มีจํานวนไมมากเชือก แตถาเปนใน กรณีกวางหรือจระเขซึ่งมีสัตวจํา นวนมาก เราจะแยกแยะไดอยางไร หรือการมีสัตวจํา นวนนอยแต อาศัยการจดจําของพนักงานเลี้ยงสัตวก็ไมใชวธิ ีจําที่ถูกตอง วิธีการทําเครื่องหมายสัตว ที่ดีนั้นควรประกอบดวยคุณสมบัติตอไปนี้ - ไมรบกวนตอกิจกรรมประจําวันของสัตว - ไมทําใหสัตวเจ็บหรือเครียดจากการทําเครื่องหมาย - สามารถแยกแยะสัตวเปนตัว ๆ ได - ทนทานไมลบเลือน เสื่อมไปตามเวลา - งายตอการอานและสังเกต - มีหลายขนาดตามขนาดของสัตว - วิธีการทํางาย หาซื้อไดงาย ราคาไมแพง - ไมรบกวนการมองหรือสรางภาพที่ไมรบกวนกับการชมของผูเที่ยวชม แตในความเปนจริงแลว ไมมีวิธีการทําเครื่องหมายชนิดใดที่ตอบสนองคุณสมบัติตาง ๆ เหลานี้ไดทั้งหมด ตัวอยางการทําเครื่องหมายสัตว เชน 1.ลวดลายธรรมชาติของตัวสัตว วิธีการนี้เทียบเทาไดกับลายมือของคน ตัวอยางเชน สีขนของตัว สัตวซึ่งหากมองผิวเผินจะมองไมเห็นความแตกตาง การเรียงตัวของเสนหนวดของสิงโต ลวดลายบน จะงอยปากของหงส การแตกกิ่งของเสนเลือ ดที่ใบหูของชาง จุดสีดํา ที่อ ยูบนหนาอกของนก เพนกวินฮัมโบลท ความแตกตางที่กลาวมา คนเลี้ยงที่อยูใกลชิดทุกวันจะจําได แตถาคนเลี้ยงที่ไมคุนเคยกับตัว สัตวใหใชการเขียนถึงลวดลายจําเพาะนั้นไวหรือการถายรูปเพื่อใชเปนเครื่องหมายอางอิง
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
39
ขอดีของการใชวิธีนี้คือ ไมเปนการรบกวนสัตว มองเห็นไดจากระยะไกลเพื่อหลีกเลี่ยงการ จับสัตว ติดตัวสัตวไมเปลี่ยนแปลงหรือเลือนหาย การทําเครื่องหมายบนตัวสัตวเชน ปายที่หู ดูแลว ไมสวยงาม ซึ่งบางครั้งผูเที่ยวชมมีความรูสึกเหมือนการทําเครื่องหมายในสัตวปศุสัตว แตการใชวิธีดู ลวดลายบนตัวสัตวจะไมไดผล ในกรณีที่สัตวอยูเปนฝูงและความแตกตางของสัตวแตละตัวมีนอย 2.หวงขา ในนกจะใชกันแพรหลาย การใชหวงที่ปกของคางคาว ใชหวงคอที่คอของหานและหงส ขอดีของการใชหวงขาแบบหวงตางสีที่อา นเปนตัวเลขตาง ๆ สามารถเห็นไดระยะไกล ขอเสียคือถาหวงนั้นไปรัดขานกเปนสาเหตุใหเกิดการติดเชื้อได 2.band1 n. a flat, thin strip or loop of material used as a fastener, for, reinforcement, or as decoration. A belt or strap transmitting motion between two wheels or pulleys. N. Amer. Ornithology a ring of metal placed round a bird’s leg to identify 3.การใชปายขนาดเล็ก เปนแบบที่ใชกันแพรหลายชนิด เชน ในกลุมที่มักติดปายขนาดเล็กที่หูคือ สัตว ในอันดับกีบคู เขน แอนติโลพ กวาง อันดับกีบเดียว เชน มา กลุมจิงโจ นก เชนนกกระจอกเทศ สามารถติดไดที่ปก (wing tag) ติดที่ครีบสําหรับการวายน้ําสําหรับสัตวในกลุม pinnipeds เชน แมวน้ํา สิงโตทะเล และ cetaceans เชน โลมา ติดที่ครีบของเตาทะเลหรือที่พังพืดเทาของนกทะเล ติดที่ขอบ กระดองของทั้งเตาบกและเตาน้ํา ติดที่สวนหางของจระเข ขอดีของปายขนาดเล็กคือราคาถูก ใชงาย ขอเสียคือ ทําใหหลุดออกไดโดยตัวของสัตวเอง ตัว เลขที่เขียนอาจลบเลือนได การติดที่ตัวสัตวอาจเปนสาเหตุของการติดเชื้อ นอกจากนั้นการติดปายการ มองจากผูเที่ยวชมอาจดูไมสวยงาม (3..Tag a small piece or part that is attached to a main body .,a ragged lock of wool on a sheep .,the tip of an animal’s tail when it is distinctively coloured ., a loose or spare end of something ;a leftover., a metal or plastic point at the end of a shoelace.) 4.การตัดที่ขอบของหูใชมากในกวางและสัตวเลี้ยงลูก ดวยนมอื่น ๆ ใชในกลุมเตาที่ตัดของดา นขาง ของกระดอง การตัดเกล็ดที่หางดานบนของจระเข ระบบการตัดเพื่อแสดงตัวเลขก็แ ตกตางไปตาม ชนิดของสัตว .Notch n. an indentation on incision on an edge or surface. Each of a series of holes for the tongue of a buckle. A nick made on something to keep a record., a point or degree in a scale. 5.การนาบดวยเหล็กรอนหรือเขียนดวยสารเคมีที่มีความเย็นจัด (5.Brand n. an identifying mark burned on livestock with a branding iron.)
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
40
6.การสัก มีการใชในสัตวเลี้ยงลูกดวยนม โดยใชเครื่องสักแบบเปนปากคีบที่มีตัวเลขสักบนผิวหนัง (a tatoo piler) หรือเครื่องสักแบบปากกาไฟฟา(an electric tatoo pencil) ตําแหนงที่จะสักเชน ในกลุมสัตว เลี้ยงลูกดวยน้ํานม ดานในของใบหู ดานในของตนขา ที่ทอง ชวงอก ขอดี คือสามารถเขียนอักษร และตัวเลขตามที่ตอ งการ ขอดอยคือ ตอ งจับตัวสัตวเพื่ออา นเครื่องหมายที่สักไว ตัวอัก ษรที่สักอาจ เลือนตามเวลา ถาสักชั้นในชั้น subcutaneous มากกวาชั้นintradermal ( 6.Tattoo v. make with an indelible design by inserting pigment into punctures in the skin. ) 7 การใชทรานสปอนเดอร เปนวิธีการที่ใหมที่สุดสําหรับการทํา เครื่องหมายสัตว ทรานสปอนเดอรเปนโลหะขนาดเล็ก ขนาด 1 มม.*4 มม. ซึ่งเปนขดลวดทองแดงที่เปนตัวสรางตัวเลขเมื่ออานดวยคลื่นวิทยุความถี่ต่ํา จาก external scanner โดยระยะหา งจากเครื่อ งอ า นกับจุด ที่ ฝงไมโครชิพไมหา งมากนัก ในระยะไม กี่ เซนติเมตร โดยการฝงไมโครชิพจะฝงที่ผิวหนังชั้นซับคิวเตเนียส หรือฝงเขาไปในชั้นกลา มเนื้อ ขอดอยของการใชไมโครชิพคือตองบังคับสัตวเพื่ออานตัวเลขในระยะใกล ไมโครชิพที่ฝงอาจหลุดได ถาเราฝงไมดีพอ เปนระบบที่มีก ารใชอยางแพรหลาย โดย ISIS (international Species Information System) ใชเปนมาตรฐานสําหรับการกําหนดตัวสัตวตลอดอายุของสัตวตัวนั้น ที่ใชเปนมาตรฐานเดียวสําหรับ ทุกประเทศที่เปนสมาชิกของไอซิส ซึ่งการที่มีขนาดเล็กทําใหสามารถใชไดกับทั้งสัตวมีกระดูกสันหลัง และสัตวที่ไมมีกระดูกสันหลัง จุดที่ใชฝงไมโครชิพ - สัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานม ดานหลังหูซายหรือขวา ระหวางกระดูก scapular - นก ที่กลามเนื้อหนาอก pectoral ซายหรือขวา ที่กลามเนื้อนองขา Thigh ขางซายหรือขวา - สัตวเลื้อยคลาน เตาที่หัวไหล ซายหรือขวา งู และ lizard (กิ้งกา ตะกวด ที่โคนหางดาน บนขวาหรือซาย) ( 7.transponder n. a device for receiving a radio signal and automatically transmitting a different signal.) การจัดเก็บขอมูล ขอจดจําสิ่งหนึ่งคือการกลับมาอานขอมูลที่จดไว 1.ขอมูลที่เก็บไวตองอยูในลักษณะที่สามารถคนหาไดงาย 2.เพื่อใหขอมูลที่จดไวจะสามารถใชไดในอนาคต 3.ขอมูลที่จดไวตองสามารถระบุชนิดสัตวและตัวสัตวนั้นได การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
41
ซึ่งหมายถึงตองมีแฟมสําหรับเก็บขอมูลเฉพาะสัตวชนิดนั้นแยกจากแฟมสัตวชนิดอื่นๆ และมี ขอมูลเบื้องตนที่แยกตัวสัตวเปนตัวไวเรียบรอยแลว เมื่อจะตองมีขอมูล เพิ่มเติมเขามาจะไดจัดเก็บ เพิ่มเติมไดอยางถูกตอง ตัวอยางระเบียนสัตว ตัวอยางระเบียนสัตว ระเบียนสัตว หมายเลขสัตว ชื่อวิทยาศาสตร Family ชื่อสามัญ ชื่อไทย เพศ ชื่อที่คนเลี้ยงตั้ง เครื่องหมายประจําตัว ถิ่นกําเนิด ประเทศที่มา วันที่สัตวเขา ไดสัตวจาก ที่เกิด พอ……………….แม วันที่สัตวออกจากสวนสัตว สาเหตุ สาเหตุการตาย เลขที่ใบสัตวตาย เลขที่ใบสัตวปวย แผนระเบียนสัตวนี้ควรจะมี 2 แผนในสัตว 1 ตัวคือ แผนตนฉบับ ( master card ) อยูที่หอง ทํางานของแผนกบํารุงรักษาสัตว แผนที่ 2 เปนสวนที่ผูเลี้ยงสัตวr ตองเก็บรักษาและจดขอมูลเพิ่มเติม - แผนทั้งสองนี้จะนํามารวมกันในกรณีที่สัตวตาย หรือยายสัตวไปยังสวนสัตวแหงใหม เพื่อนํา ขอมูล ของสัตวตัวที่ยายนี้ติดตามตัวสัตวไปดวย - การเขียนรายงานประจําวันของผูเลี้ยงสัตว ซึ่งผูแปลขอใหความเห็นวา ควรเขียนในสมุด เชนสมุด เลมยาวสีน้ําเงิน ซึ่งหนึ่งเลมจะมีความตอเนื่องไดประมาณ 1 ปครึ่ง การจดบันทึกในสวนขอมูลที่ สําคัญใหหัวหนาแผนกบํารุงรักษาสัตว จะเปนผูทําเครื่องหมายใหเจาหนาที่ธุรการเปนผูจดขอมูล ของ สัตวแตละตัวลงในสวนขอมูลของสัตวตัวนั้นๆ - โดยระบบงานของสวนสัตวตองการที่จะใหผูเลี้ยงสัตว เปนบุคคลชางสังเกต ใหความเอาใจใสในสัตว ที่ตัวเองมีความรับผิดชอบอยู ตองการให ผูเลี้ยงสัตวรายงานสิ่งผิดปกติของตัวสัตวมาตามลําดับชั้น การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
42
- นอกจากเรื่องสัตวแลว หัวหนางานตองการทราบในเรื่องอื่นๆ เชน 1.ผูเลี้ยงสัตวมาทํางานตามปกติหรือไม ซึ่งถาไมมีรายงานเขามาอาจมีการเจ็บปวยจะไดมีการติดตามการ ปวยเกิดจากสาเหตุใด 2.ในรายงานใหเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่ตองซอมแซม ตองเบิกของเพื่อซอมแซมในรายการใดบาง ถาราย งานยังมีเรื่องเดิมเขามาอยูแสดงวาเรื่องยังไมไดมีการแกไขใหเรียบรอย 3.สภาพอากาศ 4.งานพิเศษเพิ่มเติมที่หัวหนางานไดสั่งเพิ่มเติม เชนงานซอมแซมกรง คอก 5.สภาพปญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในงาน 6..ตองการตรวจสอบปริมาณงานที่ ผูเลี้ยงสัตวทําไดในแตละวัน เพื่อใชเปนขอมูลในการประเมินผล งานปลายป - ในสวนของตัวสัตว ขอมูลที่ตองมีการจดบันทึกเชน 1.การเกิดและการตายของสัตว 2.การเคลื่อนยายสัตว เชนการยายไปยังสวนสัตวแหงใหม 3.การปวย อาการปวย 4.พฤติกรรมการผสมพันธ พฤติกรรมที่ผิดไปจากวันอื่นๆ 5.กรณีการลอกคราบของงู การหลุดรวงของเขากวาง 6..ปริมาณและคุณภาพอาหารที่ไดรับจากคลังอาหาร ไดรับปริมาณที่เพียงพอกับการกินของสัตวหรือ ไม คุณภาพของอาหารที่สงมาดีหรือไมดีอยางไร 7..สภาพของตัวสัตววามีเห็บ เหา หมัดในตัวสัตว มีหนู แมลงสาบในบริเวณคอกมากนอยเพียงใด
Q
ใหคิดถึงประเด็นหรือหัวขอที่ผูเลี้ยงสัตวตองเขียนไปในบันทึกประจําวัน
ใบบันทึกที่ทําเปนแบบฟอรม (เพื่อใหผูกรอกขอความ เขียนขอความไดครบถวน ) 1..ใบบันทึกการรักษาสัตวของสัตวแพทย 2.ใบบันทึกการตรวจงานของหัวหนางานในเรื่องความเรียบรอยของสวนตางๆของคอก เชน คอกกัก ถาดอาหาร จุดชม พื้นสวนแสดง รมเงา 3.ใบบันทึกการวางยาสลบสัตว ซึ่งในขบวนการนั้นอาจมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติมดวย จะมีใบบันทึกผลเลือดเขามาเกี่ยวของดวย การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
43
4.ใบบันทึกผลการผาซากสัตวตาย ในกรณีนี้รวมถึงภาพถายวิการที่แสดงสาเหตุการตาย แนบรายงานที่ ไดจากศูนยชันสูตรโรคสัตวหากสงตัวอยางตรวจเพิ่มเติมหรือทําการผาซากที่ศูนยชันสูตรโรคสัตว 5. ใบบันทึกขอเพิ่มลดอาหาร 6.ใบบันทึกการเคลื่อนยายสัตวระหวางสวนสัตว 7.ใบรายงานแจงสัตวปวยของผูเลี้ยงสัตว 1. ใบรายงานแจงสัตวตายของผูเลี้ยงสัตว 2. ใบรายงานสัตวเกิดของผูเลี้ยงสัตวผูเลี้ยงสัตว
Q
ในสวนสัตวของคุณมีแบบฟอรมที่แตกตางจากหัวขอที่กลาวมาหรือไม
ในการใชใบบันทึกตางเหลานี้สิ่งที่สําคัญอันหนึ่งคือ ใบบันทึกบางใบตองมีการนํา เสนอใหผู บังคับทราบเพื่อการสั่งการเพิ่มเติม เมื่อจบกระบวนการแลวตองมีการถายเอกสารเพื่อนําเขาแฟมที่เปน แฟมระเบียนของสัตวชนิดนั้นๆ ใหเรียบรอย เพื่อ ใหการคนขอมูล ทําไดงา ย เชน ในรายงานสัตว ปวย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ ไมวาจะหายเปนปกติหรือตาย ใหนําใบรายงานการรักษาเขาแฟมของ สัตวชนิดนั้นดวย สรุป - ใหเรายอนกลับไปที่ขอความที่กลาวไวตอนตนของบทที่ 4 นี้ แลวลองดูวาการจดบันทึกนั้นสามารถ ใหขอมูลตามที่เราตองการนั้นไดหรือไม - การจดบันทึกจะเปนตัวชวยในการปรับปรุงความเปนอยูข องสัตวได แตก ารจดบันทึก จะเกิดความ สมบูรณไดนั้นตองมีปจจัยประกอบเชน 1.การทําเครื่องหมายสัตวกับสัตวทุกตัวดวยวิธีที่เหมาะสมตามเนื้อหาที่ไดกลาวไปแลว 2.มีกระบวนการเก็บขอมูลอยางละเอียดในแงมุมตางๆ อยางเปนระบบ 3. การคนขอมูลสามารถทําไดงาย
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
44
บทที่ 5 สวนแสดงสัตวและการออกแบบสวนสัตว เนื้อหา -
การออกแบบสวนสัตว สวนประกอบของกรงคอกสัตว แนวคอก วัสดุ งานบริการ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
45
บทเรียนในบทที่ 3 เปนเนื้อหาที่กลาวถึงคาใชจายที่เราจะตองใชจายเพื่อเตรียมสวนสัตวใหเปน ที่ที่จะดูแล จัดการสัตวไ ด ใหบริการผูเ ที่ยวชม มีเงินที่จ ะจา ยใหกับลูก จางและพนัก งานเพื่อเปน คาใชจายประจําวันของตนเองและครอบครัว สวนสัตวก็มีจุดเริ่มตนจากสวนแสดงสัตวสําหรับสัตว หนึ่งชนิดจนกระทั่งเต็มโครงการ การออกแบบคือจุดเริ่มตนของงานกอสรางทั้งหมด
A
ใหเขียนสวนประกอบทั้งหมดในสวนสัตวที่จะตองมีเพื่อให การดําเนินงานของสวนสัตวเปนไป
ไดอยางราบรื่น เปนที่ประทับใจแกผูเที่ยวชม ใหไดความสําเร็จตรงกับจุดประสงคที่เรากลาวถึงในบท ที่สอง ใหใชแ นวคิดของคุณเองเพื่อที่จะใหสวนสัตวสํา เร็จอยางที่คุณคาดหวัง (เชน รั้ว อาคาร สํานักงาน ถนน สวนแสดงสัตว )
สวนประกอบของสวนสัตวที่คุณอาจตรงกับสวนประกอบที่จะกลาวตอไปนี้ - รั้วที่เปนสิ่งถึงบอกอาณาเขตของสวนสัตว กันสัตวที่มีในสวนสัตวออกนอกเขต - ถนนภายในสวนสัตว ทางเดินเทาสําหรับผูเที่ยวชม ลานจอดรถซึ่งถามีรมเงาจะดีมาก - สวนแสดงสัตวที่เหมาะสมสําหรับสัตวแตละชนิด - สํานักงาน หองทํางานสําหรับพนักงาน - บานพักของเจาหนาที่ภายในเขตสวนสัตว - สวนสําหรับรับนักทองเที่ยวที่มาเปนกลุมเชนนักเรียน หองบรรยายสําหรับใหความรู หองที่ ใหความรูแกนักเรียน - คลังอาหาร ซึ่งมีสวนหองเก็บอาหารแหง หองเตรียมอาหาร หองเย็นสําหรับเก็บปลาหรือเนื้อ - โรงชางสําหรับเก็บอุปกรณงานชางและงานกอสราง - หองทํางานของชางศิลป - ดานหนาของสวนสัตวที่มีจุดดึงดูดใจใหอยากเขาเที่ยวชม หองขายตั๋วที่สะดวกกับการทํางาน - โรงอาหารที่มีระบบที่เอื้อใหการทํางานทุกขั้นตอนถูกสุขอนามัย - แผนกบํารุงรักษาสัตวที่ประกอบดวย หองสมุดที่เก็บหนังสือที่เกี่ยวของกับสัตวและพืช หอง ทํางานของพนักงาน โรงพยาบาลสัตว หองเลี้ยงสัตวออน หองผาซาก หองฟกไข สวนกักกัน โรคสัตวสําหรับสัตวเขาใหม หรือสวนที่ตองจัดเตรียมไวสําหรับสัตวบริจาคจากประชาชน (ที่ เปนภารกิจสวนหนึ่งสําหรับสวนสัตวแลว ) การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
46
- สวนเพาะขยายพันธุสัตวที่ใกลสูญพันธุ ตองแยกจากสวนของสวนแสดงที่มีผูเที่ยวชมเขามาดู สัตว - หองน้ําที่ตองมีปริมาณเพียงพอในชวงที่มีเขามาเที่ยวชมจํานวนมากในชวงวันหยุดที่มีผูมาใช บริการจํานวนมาก - ระบบน้ํา ระบบไฟฟา ที่เพียงพอกับการใชงาน - อาคารเพาะชําตนไม - ที่รวบรวมขยะ ที่รวบรวมมูลสัตวที่จัดเก็บจากคอกสัตวตางๆ - ทอระบายน้ําที่รับน้ําจากถนน ระบบการรับน้ําเสียในคอกสัตวที่เกิดจากการลางทําความ สะอาด - พื้นที่ของพืชพรรณ ที่ใหรมเงา - อื่นๆ
A
นํากระดาษขาวแผนใหญหนึ่งแผน วาดเสนขอบเขตของสวนสัตวแลว วาดเสนถนน วาด
สวนประกอบที่ส วนสัตวตองมี วางตํา แหนงวา สถานที่ตา งๆ วาควรอยูที่ตรงไหน (อาจตองมี เหตุผลไวในใจเชนกันวาทําไมตองวางสถานที่นี้อยูตรงนี้ อยูใกลกันกับสถานที่นี้ดวยเหตุผลใด ) การวาดสวนสัตวในจินตนาการ อาจเริ่มที่ก ารวางสระน้ําไวตรงกลาง หรือมีแหลงน้ํา ตาม ธรรมชาติที่ไหลผา นพื้นที่ข องสวนสัตว กําหนดความสูงต่ํา ของพื้นที่ หรือ วางวา ทั้งหมดเปน พื้นที่ราบ การกําหนดวารถที่มายังสวนสัตวทุกคนตองจอดที่ล านจอดรถเขาเที่ยวชมโดยการใช พาหนะที่สวนสัตวกําหนด ราคาคากอสรางยังไมตองคิดถึงในขั้นตอนนี้ ใชจินตนาการเพื่อ สรา งสวนสัตวที่คุณตองการ อยางเต็มที่ สิ่งประกอบพื้นฐานที่สํา คัญที่ตอ งมีหามตัดออกคือระบบน้ํา ระบบการระบายน้ํา ระบบไฟฟา รั้ว สิ่งที่ตองคํานึงอื่นเชน เสนทางเดินที่รถสามารถเขาทํางานเขาทําความสะอาดได
สิ่งที่ตองคํานึงเพิ่มเติม - ระบบบําบัดน้ําเสียควรจะตองไมอยูในสวนที่เปนศูนยรวมของผูเที่ยวชม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
47
- จุดที่เปนตําแหนงของภัตตาคารหรือโรงอาหารตอ งหา งจากจุดที่ เปนสวนแสดงสัตวหรือ ดู ทิศทางลมใหดี ไมใหกลิ่นของคอกสัตวพัดเขามาที่โรงอาหาร - จุดชมสัตวตองมีรมเงาเพื่อใหผูเที่ยวชมไดใชเวลามากขึ้นในการชมสัตว - จุดที่เปนจุดที่มีระดับต่ําของสวนสัตว ในกรณีที่ฝนตกจะจัดการกับน้ําที่ไหลเขามาที่บริเวณนี้ อยางไร - การวางแผนงานกอสรางตา งๆ ตอ งคํา นึงถึงผูใ ชคือ สัตว ผูเที่ยวชม พนักงานเลี้ยงสัตว สัตวแพทย สวนแสดงสัตว ( zoo animal exhibit ) สวนแสดงสัตว ตองมีขอบเขตที่ปองกันสัตวหลุด มีความเหมาะสมในการจัดแสดง สัตวชนิดนั้น เปนบานของสัตวที่สัตวมีความรูสึกปลอดภัย มีสภาพแวดลอมที่สนองความตองการขั้น พื้นฐานของสัตวได สัตวปาที่อาศัยอยูในปามีอาณาเขตของตัวเองที่เพียงพอเพื่อที่จะเปนพื้นที่สําหรับ เปนแหลงอาหาร สวนสัตวได จัดหาอาหารใหสํา หรับสัตว แตพื้นที่จะนอยกวา พื้นที่ที่มีในปา ธรรมชาติ แตอยางไรก็ตามพื้นที่มี่จัดใหตองใหสัตวแตละตัวมีพื้นที่ของตัวเอง
A ใหคุณนึกถึงสวนประกอบของสวนแสดงสัตวที่คุณคิดวาดีที่สุดในความคิดของคุณ วา สวนแสดงสัตวดังกลาวมีขอดีอยางไร และลองเขียนสิ่งที่คุณคิดไดลงสมุด อาจเปนสวนแสดงในชนิด สัตวที่คุณทํางานอยูที่คุณทราบสวนประกอบตางๆ ดีที่สุด
แนวคิดสวนแสดงสัตวที่ดีควรประกอบดวยปจจัยดังตอไปนี้ 1.ตองทําใหสัตวอยูได มีโอกาสแสดงพฤติกรรมตามที่สัตวชนิดนั้นตองการ 2.ผูออกแบบมีประสบการณที่เพียงพอ ที่ตองรูวาสัตวตองการอะไร ใหเอาสัตวเปนลําดับความสําคัญ ลําดับที่หนึ่ง โดยใหสัตวไดปฏิบัติในพฤติกรรมที่มีในปา สิ่งที่ในสวนสัตวมีมากกวาเชน ไมมีสัตวผู ลาตามธรรมชาติ สวนสัตวเปนผูจัดหาอาหารให และหนาที่อันหนึ่งที่สวนสัตวควรตองทํา ไดคือการ จัดหาคูผสมพันธุให 3.การเขาจัดการในงานประจําวัน เชน การทําความสะอาดสวนแสดง ผูเ ลี้ยงสัตวสามารถเขาจัดการ ไดโดยปลอดภัย ซึ่งหมายถึงตองมีคอกกัก ที่สามารถบังคับสัตวใหเขาออกจากสวนแสดงไปยังคอก กักและยายจากคอกกักไปยังสวนแสดงได การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
48
4. มีพื้นที่ที่มากพอ เพื่อใหความหางของผูเที่ยวชมและสัตวมากเพียงพอ ที่จะทําใหสัตวเกิดความรูสึก ปลอดภัย 5. การสุขาภิบาลที่ดี ระบบน้ําที่ใชสําหรับลางคอก ระบบรับน้ําเสียที่เกิดจากการลา งคอก การระบาย อากาศที่ดีในกรณีที่สัตวมีกลิ่นแรงจากมูลสัตว มีแสงแดสองเขาในคอกเพื่อชวยในการฆา เชื้อ โรค ถา สัตวเกี่ยวของกับน้ําเชน ปลา แมวน้ํา เพนกวิน ระบบการบําบัดน้ําที่ตองการหมุนเวียนน้ํา กลับมาใช ใหมตองมีระบบการบําบัดน้ําที่ดีเพียงพอ 6. การจัดการสัตวปวย สามารถทําไดเชนมีหองที่วา งไวเพื่อแยกสัตวปวยจากสัตว ปกติ มีค อกกัก ที่ สามารถใหยาจากการยิงยาในระยะที่ไมไกลมากนัก คอกกักยังชวยในขบวนการขนยายสัตวดวย 7. พื้นที่จัดแสดง ผูเที่ยวชมสามารถชมสัตวไดอ ยางชัดเจน ไมค วรมีจุดที่สัตวหลบ มีการตกแตงที่ เหมาะสมใกลเคียงกับสภาพถิ่นที่อยูเดิมที่สัตวอยู เพื่อเปนการใหการศึก ษากับผูเที่ยวชม มีปา ยให ขอมูลสัตวที่จุดชมสัตวเปนสวนหนึ่งของงานใหการศึกษาในสวนสัตว ซึ่งเราพอที่จะสรุปไดวาถึงความตองการ 7 ขอสําหรับคอกสัตวคือ 1 สนองความตองการของผูเที่ยวชม 2 สนองความตองการของสัตวชนิดนั้นๆที่อยูในสวนแสดงสัตว 3 งายตอการจัดการ 4 ปลอดภัยตอทุกสวนที่เขามาเกี่ยวของคือสัตว ผูเที่ยวชม ผูเลี้ยงสัตว สัตวแพทย 5 มีการจัดการสุขาภิบาลที่ดี 6 สัตวแพทยสามารถเขาจัดการเรื่องการรักษาสัตวได 7 ผูเที่ยวชมสามารถมองเห็นตัวสัตวได
ใหทดลองใชความตองการทั้ง 7 ขอกับสวนแสดงสัตวที่คุณทํางานอยูสัก 2 สวน แสดง เพื่อที่จะใชตรวจสอบวาสวนแสดงสัตวในชนิดสัตวที่คุณดูแ ลอยูนั้นยังมีจุดที่ตอ งปรับปรุง อยางไร หรือทั้ง 7 ขอที่มีอยูเพียงพอหรือไม สิ่งที่ตองเพิ่มเติมจาก 7 ขอนี้มีสิ่งใดบาง
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
49
สิ่งแบงอาณาเขตและปองกันสัตวหลุดของสวนแสดงสัตว ( Enclosure barrier ) สิ่งที่เปนแนวเขตของสวนแสดงสัต วใ นสวนสัตวมีดว ยกันอยูหลายชนิดตามชนิดของสัตว โดยมีจุดประสงคสวนหนึ่งคือแบงสวนของผูเที่ยวชมและสัตว มีพื้นที่มากพอที่จะใหสัตวสามารถอยู ในสวนที่สัตวรูสึกปลอดภัย
Q ชนิดของแนวเขตสวนแสดงสัตว ที่มีในสวนสัตวของคุณมีอะไรบาง ขอดีและขอเสีย ของแนวเขตในแตละแบบมีอะไรบาง (ลองเขียนคําตอบลงในสมุดกอนที่จะดูคําตอบ )
สิ่งที่คุณอาจคิดไดคือ 1. รั้ว (Fence ) เปนรูปแบบที่เปนธรรมชาติ รูปแบบที่อยูหัวขอนี้เชน ใชไมทําเปนเสาและ มีไมวางพาด ใชตาขายที่ทํา จากเหล็กรวมกับเสาเหล็ก โดยตัวของตาขายมีทั้งเปนรูปแบบตาขา ยใย แนวตั้งและตาขายที่สานกันเปนรูปตาขาย สิ่งที่ตองใหการระมัดระวัง เชน ความสูงเพียงพอที่จะกันสัตวกระโดดออกหรือเดินขามได ลวด ที่เปนวัส ดุของตาขาย อาจชํารุดและโผลอ อกมา ขีดขวนทํา รายสัตวได ทุกวันที่เริ่มทํา งานตอง ตรวจสอบวา รั้วตาขายมีจุดที่ชํารุดหรือไม ถามีตองรีบซอมแซม 2. คู ( Moat) เปนรูปแบบของแนวเขตที่ทําใหการมองเห็นตัวสัตว ไมมีสิ่งกีดขวางเปน มุมมองที่ดียิ่งขึ้น แตความกวางและความลึกของคูตองมากที่จะกันการออกของสัตวได ขอควรระวังอีกประการหนึ่ง คือ กรณีที่สัตวอาจตกลงในคูที่เปนคูน้ํา หรือ คูแหง คูน้ํา อาจมี เชือกไวใหสัตวเกาะเชนในกรณีของลิงชิมแพนซี คูแหงอาจมีรั้วไฟฟาไวปองกันอีกชั้นหนึ่งดวย แนวคิดนี้เริ่มจากวิธีการลาสัตวในยุคคนโบราณที่ใชวิธีการขุดคูเพื่อใหสัตวตกลงในคู การใช วิธีการนี้ในสวนสัตว ถาจุดที่ผูเที่ยวชมอยูต่ํากวาจุดที่สัตวยืนอยูจะทําใหความรูสึกของผูเที่ยวชมมองมา ที่ตัวสัตวจะรูสึกวาสัตวมีขนาดใหญขึ้นและตัวสัตวเองสามารถมองไดรอบตัว นอกจากนั้นการวางคอกในลักษณะคอกของสัตวผูลาอยูติดหรือใกลกับสัตวผูถูกลา โดยมีคู กั้น ซึ่งผูเที่ยวชมจะไดมุมมองในลักษณะที่สัตวทั้งสองกลุมอยูในพื้นทีเดียวกันแตความเปนจริงนั้น สัตวทั้งสองชนิดอยูแยกกันดวยคู ยังเปนการเพิ่มมุมมองที่นาสนใจ สัตวผูลามักจะแสดงอาการสนใจ สัตวผูถูกลา เชนสิงโตจะลุกขึ้นมองเมื่อเห็นวอเตอรบัค เจมสบอค เดินไปมาในสวนแสดงที่อยูตรง ขามภายใสวนสัตวนครราชสีมา ) เปนตัวอยางของรูปแบบงานใหการศึกษาอีกรูปแบบหนึ่ง การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
50
3. เหล็กเสนในแนวตั้ง ( Bars ) (ตัวอยางคือกรงในสถานีตํารวจ ) ขอดีคือเปนลักษณะสวน แสดงที่แข็งแรง ทนแรงสัตวที่มีกําลังมากได ขอเสียในการมองจะเปนตัวบดบังการมองและเปนการ สรางความรูสึกวาสัตวอ ยูภายในกรงขัง การใชวัส ดุอื่นๆ เชน ตาขา ยเหล็กจะใหความรูสึก ในเรื่อง มุมมองที่ดีกวา ขอดีอีกสวนหนึ่งของวัสดุกลุมนี้คือ - การทําความสะอาดงาย - สัตวที่ชอบปนปายเชนลิง คาง ชะนี ใชเปนสวนหนึ่งของการใชพื้นที่กรงไดดวย - สัตวสามารถมองเห็นสิ่งแวดลอมไดรอบดาน - การยิงยาสลบ การรักษา การสังเกตพฤติกรรมสัตวของผูเลี้ยงสัตวสามารถทําได 4. กระจก ( Glass) สิ่งที่ตองพิจารณาในการใชวัสดุนี้คือ - ความคงทนแข็งแรง ซึ่งพบวากระจกที่แข็งแรงมักจะเปนสวนหนึ่งบนแผนพลาสติค เชน ลา มิเนท - เปนวัสดุที่มีราคาแพง - กระจกถูกทําใหเสียหายโดยการใชเพชรกรีด (หากมีคนอยากแกลง ) หรือตัวสัตวเองที่ใชหิน ขวางใหแตก - เรื่องแสงสะทอน ที่เกิดขึ้นการแกไขเชน การวางกระจกเปนมุมประมาณ 45 องศา การทํา ถ้ํา เพื่อลดแสงที่เขามาในฝงของผูเที่ยวชม และเพิ่มแสงที่ลงมายังสวนแสดงใหเพียงพอ ดานคนดูควร ตองมืดกวาสวนจัดแสดง - สิ่งสกปรกที่อาจเกิดตามมา การเช็ดกระจกทุกวันตองทํา ฝาที่เกิดจากน้ําที่วิ่งผานปูนซีเมนต แลวสวนกระจกเปนทางน้ําที่น้ําที่มีปูนปนอยูผาน ฝาที่เกิดขึ้นหากติดตั้งกระจกกับสระน้ําและน้ํามี ปริมาณของหินปูนอยูสูง - มุมมองใตน้ําที่มองผานกระจกที่มีการจัดการระบบน้ําที่ดี น้ําใสสะอาดสามารถมองเห็นตัว สัตวไดเปนมุมมองที่สวยงามนาสนใจ
A
. ใหนั่งทบทวนดูวาในสวนสัตวของทานใชตัวขอบเขตของสวนแสดงเปนแบบใด ใหเขียน
ทุกแบบที่มีโดยใหขอมูลถึงชนิดสัตวที่อยู ขอดีขอเสีย ขนาดกวา ง ยาว สูงของขนาดขอบเขตคอก สัตวแบบนั้น เชนคูกวาง ลึกเทาใด รั้วใชวัสดุใดสูงเทาใด กระจกหนาเทาใด อยางนอยใหทํา 6 ชนิดสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
51
2.คุณลองเขาไปภายในสวนแสดงสัตวชนิดใดชนิดหนึ่งแลว จินตนาการวาคุณเปนสัตวชนิดนั้นกับสวน แสดงแหงนั้นคุณคิดวาสัตวจะมีความรูสึกอยางไร 3.ใหคุณเขียนขอดีขอเสีย ของขอบเขตสวนแสดงสัตวในแตละแบบ 4 แบบที่มีการกลาวถึงในหนังสือ เลมนี้ โดยใหจดขอสรุปนี้ลงในหนังสือจดขอความสําคัญ (Neat book)
วัสดุภายในคอกสัตว สวนพื้น สวนพื้นแบงออกไดเปนแบบถาวรและแบบชั่วคราวที่ตองมีการนํา มาเปลี่ยนใหม แบบถาวร สามารถทําความสะอาดดวยการใชเครื่องฉีดน้ําแรง ใชน้ํายาฆาเชื้อ โรค ตัวอยางเชน ซีเมนต พื้น กระเบื้อง ซึ่งถาพื้นเปนแบบระนาบเดียวกันไมมีความลาดชัน ภายหลังการลางดวยน้ําจะตองใชไม กวาดเพื่อใหน้ําที่คางอยูลงรองระบายน้ํา แตถาพื้นแบบถาวรมีความชัน น้ํา ที่ลา งพื้นจะไหลลงไปยัง รองระบายน้ํา พื้นภายในคอกสัตวตองมีความเหมาะสมกับชนิดสัตว พื้นที่หยาบไมลื่นจํา เปนสําหรับสัตวที่ ขายาวโดยเฉพาะยีราฟ ( ตัวอยางที่สวนสัตวนครราชสีมาคือที่สวนแสดงยีราฟเปนพื้นดินเหนียวปน ทราย ที่มีความชันเนื่องจากมีลูกเนินเล็ก หลายลูก เมื่อถึงฤดูฝนจะลื่น ) สัตวกีบและมา ลายตองการพื้นที่มีค วามหยาบเพื่อ ชวยในการลดการเกิดกีบยาวมากวาปกติ สวนสัตวที่มีฝาเทานิ่มเชน สิงโตตองการพื้นที่เรียบ ไมหยาบเพื่อลดการเกิดบาดแผลที่ฝาเทา พื้นชั่วคราว หมายถึงพื้นที่ตองมีการเปลี่ยนเปนระยะ พื้นที่ทําความสะอาดไดยาก เชนทราย หรือกอนกรวด ซึ่งอาจจะเหมาะกับสัตวเลื้อยคลาน เมื่อนําไปตกแตงคอกจะดูสวยงามและถาสกปรก มากก็สามารถเปลี่ยนได สวนที่เปนน้ํา เชนสระน้ํา มีค วามจําเปนสําหรับนกน้ํา เชนหงส หานที่มีขนาดรา งกายใหญ โดยพื้นน้ําจะชวยลดน้ําหนักที่ทิ้งลงบนเทา หรือนกน้ําชนิดอื่นเชน เปด นกฟลามิงโก สัตวที่อยูในน้ําเปนเวลานานในกิจกรรมประจําวัน เชน แมวน้ํา ฮิปโปโปเตมัส การจัดการ เรื่องความสะอาดสําหรับน้ํา ความใสสะอาด ก็เปนเรื่องที่มีความสํา คัญตอสุขภาพสัตวแ ละมุมมองที่ สวยงามที่จะเกิดแกผูเที่ยวชม พื้นหญา ถา ตองการใหค งสภาพหญา ที่เขียวสวยงามตองมีการจัดการที่เพียงพอ ในพื้นที่ที่ แคบหรือพื้นที่ที่มีการย่ําไปมาบอยครั้งพื้นที่นั้นจะแนนมากขึ้น การมีพื้นที่ที่กวางและสามารถใหสัตว หมุนเวียนพื้นที่ไปมาได ก็จะทําใหคงสภาพความเปนหญาได
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
52
ผนัง สวนที่เชื่อมกันระหวางผนังและพืน้ ควรจะมีลักษณะโคง ซึ่งมีขอดีที่สามารถทําความ สะอาดไดโดยงาย ถาในสวนนี้เปนมุมตรงอยา งหองทั่วๆ สิ่งสกปรกจะไปติดจะมีไดมากขึ้นและใน กรณีสัตวที่โดนรุกไลจากสัตวตัวอื่นที่อยูในกรงเดียวกัน การหลบหนีจะทําไดยากยิ่งขึ้น การทํา ความสะอาดผนังควรใช น้ําที่ออกจากเครื่องอัดความดัน วัสดุที่เปนผนังเชน อิฐ พลาสติก แกวหรือไม การทาสี ควรใชสีทีไมมีส ารพิษ ตะกั่วที่เปนสวนผสมของสีคือสิ่งที่ตอง ระวัง ผนัง การทําความสะอาดสามารถทําไดโดยการใชน้ําจากเครื่อ งอัดแรงดันน้ํา ( ดูแรงดันให พอเหมาะดวย ) แตตองดูวัสดุดวยวาเปนแบบที่เหมาะสมกับการใชน้ําที่มีแรงดันทําความสะอาดหรือไม ประตู ควรจะตองดูดวยวาแข็งแรงเพียงพอ การเปดหรือปด สามารถทํา ไดโดยสะดวก มี ความกวางมากเพียงพอในสวนที่ตองการความกวางขวาง เชน ในกรณีการขนยายสัตวใหม กลองขน ยายสามารถขนเขาได เมื่อถึงชวงที่จะปลอยออกจากกลองเขาคอกกัก การเปดประตูกลองสามารถทํา ไดโดยสะดวก หรือในกรณีที่ตองขนไมทอนใหญเพื่อประดับคอกสามารถทําได การตกแตงสวนแสดง เปนสิ่งสําคัญที่ชวยใหสัตว ไดมีโอกาสแสดงพฤติกรรมตามปกติของ สัตวนั้น เชน การใสเชือกเสนขนาดใหญหรือ เปนกิ่งไมที่แข็งแรงไวในเกาะหรือ คอกชะนี ก็ทําให ชะนีไดมีโอกาสเคลื่อนที่ไปมาดวยการใชแขน และการตกแตงสวนแสดงใหใกลเคียงกับถิ่นที่อ ยูตาม ธรรมชาติยังเปนการใหการศึกษาแกผูเที่ยวชมถึงลักษณะภูมิประเทศ พันธุไมที่เปนพืชประจําถิ่น เชนเดียวกับแหลงที่มาของสัตวชนิดนั้น สิ่งที่สงผลตอสัตวคือ การตกแตงกรงเลี้ยงใหมีสภาพใกลเคียงกับสภาพตามธรรมชาติ โดย การใสพืช หิน ทอนไม เชือ ก ใหสัตวที่มีพฤติกรรมปนปา ยไดใชสิ่งทีเราตกแตงเขา ไป การใส กลองรังไขสําหรับนก ใสก ลองสําหรับใหก ลุมแมวขนาดเล็ก ใชนอน การดูแลสิ่งที่ตกแตงคือการ เปลี่ยนเมื่อสิ่งเหลานี้ชํารุด โดยเฉพาะวัสดุที่ทําจากไม หรือถามีการหมักหมมจากมูลเชน คอนที่นก เกาะอาจเปลี่ยนใหมหรือทําความสะอาดแลวนํากลับมาใชใหม พืชที่นําตกแตงภายในกรงเลี้ยงตองแนใจวาเปนพืชที่ไมมีพิษ นอกจากนั้นในจุดอื่น ๆภายใน สวนสัตวเชน ใกลจุดชมสัตว ใกลแนวรั้ว ตองระวังไมปลูกตนไมที่มีพิษแกสัตว อาจมีกรณีที่ผูเที่ยว ชมเอาพืชชนิดที่มีพิษใหสัตวกินดวยความไมรู พืชที่ตกแตงในกรงไวเพื่อตกแตงคอก เปนรมเงาใหกับตัวสัตวเอง ในสัตวที่กินพืชเชนกวาง แอนติโลพ ยีราฟ ตอ งทํา การปองกันพืชเขา มากัดกินใบ เปลือกไม ทําใหตนไมตาย โดยการใช ทอนไมเปนทอนเล็กยาวจะดีกวาการใชใชตาขายเหล็ก เนื่องจากเหล็กที่โผลออกมาเมื่อตาขายนั้นชํารุด จะเปนอันตรายกับสัตว การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
53
ระบบภายในกรงเลี้ยง น้ํา ภายในสวนแสดงมีสวนสําหรับสัตวกินตองเปนน้ําสะอาด การตกแตงสวนแสดงโดยใช สระน้ําและเปนแหลงที่สัตวกินดวย ตองมั่นใจวาน้ําสะอาดเพียงพอ ปริมาณของน้ําไมควรมากเกินไป เพื่องา ยตอการเปลี่ยนน้ําหรืองา ยตอ การบําบัดน้ํา มีก ารตรวจสอบคุณภาพเปนชวงๆ เพื่อ เปนการ ยืนยันคุณภาพ น้ําที่ลางคอกกักหรือสวนแสดงควรจะมีปริมาณเพียงพอในชวงที่มีการใชงาน หรือถามีปญหา น้ําขาดตองมีระบบสํารองน้ําในสวนแสดงเลี้ยง ๆ พื้นคอกกักที่มีการลางบอยครั้งตองมีระดับพื้นที่ชวย ใหการไหลของน้ําเขายังทอรับน้ําเสียไดโดยสะดวก มีระบบรับน้ําเสียเชนบอเกอระ-บอซีมที่รับน้ําเสีย ในความจุที่มากเพียงพอ ประตูตองมีค วามกวา งที่เพียงพอ ในกรณีขนยา ยสัตวใหมเขาในสวนของคอกกัก ในกรณี ตองการนําขอนไมทอนใหญเขาไปแตงในสวนแสดง รถสามารถเขาไปจัดการในสวนแสดงได ที่สําคัญอีกประการหนึ่งคือการมีคอกกัก คอกกักจะมีประโยชนที่สามารถยายสัตวจากสวน แสดงเพื่อการทําความสะอาดสวนแสดง ตัวอยางที่เห็นชัดมากคือ กลุมลิง คาง ถาเราไมมีคอกกักที่จะ ยายสัตวไปคอกกักได แลวลางพื้นที่แสดงสัตวดวยน้ําไมได เศษสิ่งของตา งๆ ก็ตกลงบนพื้นโดยที่ เราเอาออกไมได จะเปนภาพที่ไมนาดูและตองถูกตําหนิจากผูเที่ยวชม หรือ ไมที่ตกแตงคอกเริ่มผุพัง เราจะเขาไปตกแตงคอกไดอยางไร นอกจากเราตองยิงยาสลบ ซึ่งเปนเรื่องที่ยุงยากพอสมควร สรุป การตัดสินใจถึงรูปแบบของสวนแสดงเปนหนาที่ของเจา หนาที่ส วนสัตวแตล ะแหงจะเปนผู ตัดสินใจ สิ่งที่ไดกลา วมาในบทนี้เปนขอพิจารณาทั่วไป โดยเปนมองจาก มุมมองของผูเที่ยวชม พนักงานเลี้ยงสัตว ผูเลี้ยงสัตวที่ทํา งานกับสัตวชนิดนั้นๆ เปนผูมีประสบการณกับการใชสวนแสดงสัตวและ เขาใจพฤติกรรมของสัตวชนิดนั้น หากตองการสรางสวนแสดงใหม การรับฟงความคิดเห็นของผูเ ลี้ยง สัตวเดิมเปนสิ่งตองกระทํา เพื่อไมใหเกิดความผิดพลาดที่ทําใหการจัดการสัตวประสบปญหาอยางที่ เคยเกิดขึ้น สํา หรับบทนี้เนื้อหาในบทนี้ส ามารถเพิ่มรายละเอียดเขา ไปไดอีก โดยผูที่มีประสบการณ สามารถใชตัวอยางที่มีในสวนสัตวตัวเอง หรือการไปเยี่ยมชมสวนสัตวในแหงอื่นๆ การถายภาพ การ สอบถามจากเจาหนาที่เปนฝายนําชม ก็เปนสวนเพิ่มที่ทําใหผูศึกษาไดรายละเอียดและมุมมองมากขึ้น
การออกแบบกรงเลี้ยงสัตว ( EXHIBIT DESIGN PROJECT) 1. เลือกชนิดสัตว จํานวนสัตว อัตราสวนตัวผูตอตัวเมียที่จะเลี้ยงสูงสุด การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
54
- ถารวมหลายชนิดสัตวจะมีกี่ชนิด เปนชนิดที่ไมทํารายกัน ( ตัวอยา งที่เกิดขึ้นในแอนติโลพที่อยู รวมกันเชน ไวลเดอรบีททํารายคูดูใหญ ทอมสันกาเซลทํารายแบ็คบัค ไวลเดอรบีททํารายกันเอง ) - ตัวผูกี่ตัว เมียกี่ตวั เชนกลุมลิงตองเริ่มดวยผู 1 ตัวและตัวเมีย1-3 ตัว ) 2. Your zoo of employment (realize that this will potential affect the design of your exhibit in many way ) 3.บรรยายลักษณะของสวนแสดงและคอกกักวามีลักษณะอยางไรและพื้นที่เทาไหร 4.บรรยายถึงจุดชมจะมีลักษณะแบบไหน และจะจัดสวนการศึกษาอยางไร 5.วัสดุที่จะใชในสวนตางของสวนแสดงและคอกกัก เลือกโครงสรางและดวยเหตุผลใด - วาสวนนั้นจะเลือกใชอะไร คอนกรีต หิน ทราย 6. ชนิดพืชที่จะปลูกจะเลือกพืชชนิดใด 7.แสดงเหตุผลถึงความตองการของสัตววาตองการอะไรและแนวทางที่จะทําตามความตองการของสัตว ทําไดอยางไร โดยแบงเปนความตองการใน 5 กลุมใหญคือ 7.1 พื้นที่ที่เพียงพอ - ระยะหางจากผูเที่ยวชมเทาไหร - ในกรณีที่มีตัวที่ดอยกวาจะหลบอยางไร 7.2 จํานวนของสมาชิกในคอกที่เหมาะสม 7.3 ความตองการตามชนิดสัตว เชน - สวนประกอบในคอกตองเปน ตนไม พุมไม ไมเลื้อย - ตองเพิ่มสระน้ํา ลําธารหรือน้ําตกหรือไม - ตองเพิ่มไมเชน หางใหสัตวนอนหรือไม - รมเงาเพียงพอหรือไม - ในกรณีที่เปนสัตวทะเลตองปรับสภาพน้ําทะเลใหเหมาะสมเชน ระดับความเค็มของน้ํา - เตรียมการเรื่องการผสมพันธุและเลี้ยงลูกออน - เตรียมสิ่งที่ชวยในเรื่องการวางไข - พื้นที่สําหรับการออกลูก - บริเวณเฉพาะของแมที่จะสามารถเลี้ยงลูกได 7.4. ความตองการดานอาหาร - จะวางอาหารใหสัตวกินอยางไร - จะวางน้ําใหสัตวกินอยางไรเพื่อใหไดตําแหนงที่เหมาะสม การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
55
- ปริมาณและความสะอาดของน้ํา - สัตวมีลักษณะของการกินอาหารอยางไร โดยใชขอพิจารณาจากพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว ชนิดนั้นๆ 7.5 ความปลอดภัยของสัตว - การปองกันสัตวหลุดออกจากคอก - การจมน้ํา 8 ความตองการของผูเลี้ยงสัตวตองการอะไรและจะจัดใหในความตองการนั้นอยางไร 8.1 การอํานวยความสะดวกในการทําความสะอาดกรงสัตว - เขาทํางานได ( ไมมีอันตรายจากสัตวเมื่อเขาในคอก พื้นที่คอกมากเพียงพอ ไมเล็กจนเกินไป ) - วิธีการทําความสะอาดคอกมีวิธีการและขั้นตอนการทํางานอยางไร เวลาที่ทํางานประจําวัน - การลดการสะสมของเชื้อโรค การกําจัดของเสียอยางไร - ระบบประตูเหมาะสม ตําแหนงของกอกน้ํา การลากสายยาง 8.2 สามารถยายสัตวจากคอกกักสูสวนแสดงจากสวนแสดงสูค อกกัก ขั้นตอนดังกลา วทํา ไดอยางมี ประสิทธิภาพ 8.3 สามารถมองเห็นสัตวไดงาย 8.4 มีชองทางอื่นๆ ที่สามารถมองสัตวได เชนวีดีโอวงจรปดสําหรับใชในงานวิจัย 8.5 ตองการพื้นที่สําหรับ - การเตรียมอาหาร และลางภาชนะใสอาหาร - มีโตะทํางาน ที่เก็บเอกสารสําหรับการบันทึกขอมูลสัตว - มีบริเวณที่เก็บ อุปกรณตางๆ เชน กลองขนยาย อุปกรณทําความสะอาด - มีบริเวณสําหรับเก็บอาหารเชนอาหารแหง - มีระบบรางระบายน้ําเสียที่ดีทั้งตอนออกจากพื้นคอกสูราง จากรางสูบอเกอระ บอซึม 8.6 รูวิธีก ารใหอาหาร ที่เหมาะสมสําหรับสัตวชนิดนั้นๆ (ชวงเวลาที่เหมาะสม ลักษณะภาชนะ จํานวนภาชนะ ) 8.7 มีระบบการจดจําสัตววาตัวใดเปนตัวใด เชนการฝงไมโครชิพ การทําหวงขาในนก 8.8 ตองการแรงงานที่เพียงพอกับงานมีการทดแทนกันได 8.9 ระบบคอกที่ปลอดภัย กันสัตวหลุดได 9 กรณีที่เกี่ยวกับสัตวแพทย - สามารถควบคุมโรคติดตอได เชนในคอกนกน้ํามีระบบน้ําที่มีระบบบําบัดน้ําที่ดี การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
56
-สามารถควบคุมพยาธิได มีระบบการจัดเก็บมูลที่ดี - มีบริเวณกักกันโรคสัตว มีคอกกักที่สามารถแยกระหวางสัตวเดิมกับสัตวใหมไดอยางชัดเจนกอนที่ จะปลอยเขารวมกัน - มีที่สําหรับแยกสัตวปวยออกจากฝูง มีคอกกักที่แยกสัตวออกจากสัตวที่ปกติได - มีบริเวณสําหรับแมเลีย้ งลูกออน 10. ความตองการของผูเที่ยวชมคืออะไรและจะจัดสนองความตองการ ของผูเที่ยวชมนั้นไดอยางไร - ความสนุกสนาเพลิดเพลินในการชมสัตว - ขอมูลสัตว - เห็นตัวสัตวไดงายชัดเจน - มีเครื่องอํานวยความสะดวกเชนรถนําเที่ยว มานั่ง ที่หลบฝนหลบแดดได - สัตวที่สุขภาพดี มีการเคลื่อนไหวตามลักษณะธรรมชาติ - สภาพสวนแสดงที่เปนธรรมชาติ - สภาพภายในสวนสัตวที่รมรื่น สะอาด เปนระเบียบ - มีพนักงานที่บริการดวยวาจาสุภาพ และดวยจิตใจที่พรอมใหบริการ
สวนของเบอรนารด แฮริสัน (สวนออกแบบสวนแสดงสัตว ) สวนสัตวกับงานดานการอนุรักษ งานดานการเพาะขยายพันธุสัตวที่ใกลสูญพันธุ เปนงานที่มีความสําคัญอยางหนึ่งในสวนสัตว แตไมใชสําคัญที่สุดสําหรับงานดานนี้ สวนสัตวตองจัดแสดงสัตวที่ใ กลสูญพันธุเหลา นี้ในสวนที่จะ กระตุนใหผูเที่ยงชมเห็นถึงความสวยงาม ความยิ่งใหญของธรรมชาติที่สามารถสรางสรรคสิ่งที่คุณคา แบบนี้ขึ้นมาได โดยสวนสัตวตองสรางองคประกอบอื่นที่จะชวยใหเห็นคุณคาของสัตวชนิดนั้นๆ มากขึ้นคือ การออกแบบสวนแสดงสัตว การตกแตงสวนแสดงที่สรางความประทับใจ การจัดแสดง สัตวที่มีสุขภาพสมบูรณ มีการแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม การใชสื่อความรูเขาชวย ใหสัตวที่จัดแสดงในสวนสัตวเปนสื่อกลางของปา และธรรมชาติ สวนสัตวมีจุดประสงคเพื่อ สรางความรูสึกเหลานี้แกมนุษย มนุษยเปนผูใช แตเราตองปฏิบัติแกสัตวที่อยูในสวนสัตวดวยความมี เมตตา และจัดการสัตวปาในสิ่งที่ถูกตองเหมาะสม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
57
หลักการออกแบบสวนแสดงสัตว จุดประสงคขั้นพื้นฐานของการออกแบบสวนแสดงสัตวเพื่อที่สรางภาพที่เราเห็นกลุมของสัตว ที่อาศัยอยูภายในปา ถึงแมวานั้นคือภาพที่เราพยายามจะสรางขึ้น แตตองสรางความเขาใจถึงสภาพที่ ควรเปนภายในปาได สวนแสดงสัตวแบงพื้นทีเปนสามสวนคือ 1. พื้นที่สวนหนา (fore ground ) 2. พื้นที่สวนกลาง ( middle ground ) 3. พื้นที่สวนหลัง ( rear ground ) สวนที่เปนขอบเขตของสวนแสดง( barrier ) อยูใ นสวนของ พื้นที่สวนหนา และ พื้นที่สวนหลัง ถา เปนไปไดไมควรเห็นสิ่งที่บดบังสายตา 1. พื้นที่สวนหนา (fore ground ) คือจุดที่ผูเที่ยวชมยืนอยูที่จุดชมสัตว บนทางเทาที่อยูรอบสวน แสดงสัตว รวมทั้งสวนที่เปนขอบเขตของสวนแสดง ( คู กําแพง รั้ว ฯลฯ ) ในสวนของ พื้นที่สวน หนา จะประกอบดวยสวนของจุดชม ทางเทารอบสวนแสดง สิ่งตกแตงภายพื้นที่สวนหนา นี้เพื่อเปน การสรางความรูสึก ใหผูเที่ยวชมรูสกึ วาสวนที่สัตวอยูกับสวนที่ผูเที่ยวชมยืนอยูเปนพื้นปาพื้นเดียวกัน( Landscape immersion หรือ visual integration ) สิ่งตกแตงเชนพันธุไม กอนหิน สายน้ํา พื้นดิน ถา สรางบรรยากาศแบบปาเขตรอนก็ควรใหเหมือนกัน ในสวนที่เปนขอบเขต คู กําแพง รั้ว ฯลฯ ควรจะ มองไมเห็นสิ่งเหลานี้ โดยการใชคูหรือเปนกระจก 2. พื้นที่สวนกลาง ( middle ground ) เปนบริเวณที่สัตวอยูเพื่อแสดงใหผูเที่ยวชมไดดู ตองมีการ ตกแตงพื้นที่ใหเหมาะสมกับชนิดสัตวเพื่อ ที่สัตวไดแสดงพฤติกรรมของตัวเอง ใหผูเที่ยวชมไดเห็น พฤติกรรมของสัตวนั้น ๆ ซึ่งอาจเปนสระน้ํา กอนหิน ตนไม พื้นหญา บอทราย บอโคลน โดยปกติ แลวสัตวพยายามที่จะหลบจากสายตาของคน ดังนั้นจึงเปนเรื่องที่ทาทายผูออกแบบที่เดียวที่จะใหสัตว อยูในจุดที่ใหผูเที่ยวชมไดเห็นอยูตลอดเวลา 3. พื้นที่สวนหลัง ( rear ground ) คือสวนที่เปนฉากหลังของสวนแสดง เปนสวนที่บอกถึงความ ลึกของสวนแสดงนั้น ลักษณะของสวนนี้มีความตองการใหมีลักษณะเปนคูเนื่องจากไมตองการใหเห็น เปนกําแพงหรือผนัง รวมทั้งการปลูกตนไมเพื่อใหเห็นถึงความลึกและความกวางของพื้นที่สวนแสดง หรือถาใชกําแพงการปลูกตนไมบังจนมองไมเห็นกําแพง โดยพยายามใหจินตนาการถึงภาพที่จะเกิดขึ้น จากการใชรูปแบบของวัสดุหรือวิธีการเหลานี้ดวย จากหนังสือ zoo design self-guide tour san Francisco zoological garden การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
58
เปนเอกสารที่ทําขึ้นสําหรับนักเรียนที่มีความสนใจที่จะเรียนรูการออกแบบสวนแสดงสัตว - กอนที่จะทําการออกแบบสวนแสดงสัตวชนิดใดตองมีขอมูลในเรื่อ งของสัตวชนิดนั้นในสวนของ ลักษณะถิ่นที่อยู พฤติกรรม การสืบพันธุ ซึ่งอาจตองเขาไปในสวนสัตวเพื่อทําการสังเกตพฤติกรรม - เมื่อมีขอมูลขอมูลพนฐานเหลานี้เพียงพอแลว เรามาทําความเขาใจในเรื่องของจุดประสงคของการมี สวนสัตววามีสวนสัตวดวยเหตุผลของการอนุรักษ การศึกษา งานวิจัยและการพักผอนหยอนใจของผู เที่ยวชม ลักษณะทั่วไปของสวนแสดงสัตว สัตวทุกชนิดตองการสิ่งพื้นฐานที่ถิ่นที่อยูที่ตัวเองอยูคือ อาหาร รมเงา น้ําและพื้นที่ สัตวภายใน สวนสัตว การดูแลสัตวเหลา นี้เรายอมตองจัดการสิ่งที่เปนสิ่งพื้นฐานเหลา นี้ ในการออกแบบสวน แสดงสัตวเลี้ยงตองมีขอมูลไวลวงหนาวาเราจะเตรียมสิ่งพื้นฐานแกสัตวเหลานี้อยางไร ขอมูลที่ตองเตรียมไวในการออกแบบคือ 1. จะจัดการเรื่องการสุขาภิบาล เก็บมูลสัตว ลางถาดน้ํา ถาดอาหาร ความสะอาดในคอกกัก ความสะอาดในสวนแสดงอยางไร 2. เราจะจัดการในสวนของพื้นทีท่ ํางานของผูเลี้ยงสัตวอยางไร ผูเลี้ยงสัตวตองสามารถเขา ทํางานในสวนแสดงหรือคอกกักสัตว โดยมีความปลอดภัยโดยที่ไมตองอยูใ นบริเวณเดียวกันกับสัตว (โดยเฉพาะสัตวที่มีอันตราย ) มีสวนที่เตรียมอาหารสัตว เชนหั่นผัก หั่นผลไม หั่นเนื้อ เปนชิ้นเล็ก มี ลานลาง ลานตากแดดสําหรับถาดน้ํา ถาดอาหาร บริเวณที่อุปกรณหรือตูเก็บอุปกรณ 3.สวนจัดแสดงสัตว (เวลากลางวัน ) การจัดแสดงสัตว ตองจัดการใหผูเที่ยวชมสามารถมองเห็นตัวสัตว ไดโดยชัดเจน ถาสัตวสามารถซอนตัวไดเปนสิ่งที่ผูเที่ยวชมไมตองการ 4.. คอกกัก (เวลากลางคืน ) เราจะจัดเตรียมที่อยูของสัตวในเวลากลางคืนอยางไร ในเวลากลางคืนสิ่ง ตองการพื้นฐานที่สัตวตองการคืออะไร 5. ความตองการอื่น ๆ พื้นที่ที่ใชแยกสัตวออกจากฝูง เชนในฤดูผสมพันธุที่สัตวตัวผูตอสูกัน สัตว ปวย ตัวเมียออกลูก สวนสัตวเปนองคกรที่ใหความรูแกประชาชนใหเห็นถึงความสําคัญของการรักษาถิ่นที่อยูของ สัตวปา การออกแบบสวนแสดงสัต วที่แสดงถึงถิ่นที่อ ยูของสัตวปาชนิดนั้น ๆ วา ถิ่นที่อยูของสัตว ชนิดนี้มีลักษณะอยางไร เปนปาแบบใด พันธุไม กอนหิน น้ํา ดิน การจัดกรงเลี้ยงใหเปนสภาพตามธรรมชาติคือการสื่อใหเห็นวา “ การรักษาถิ่นที่อยูข องสัตว คือการชวยอนุรักษสัตวปา “ แนวคิดการออกแบบแนวหนึ่งคือ การเที่ยวสวนสัตวคือการเที่ยวไปใน
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
59
แหลงของสัตวชนิดนั้นๆ โดยทําใหสวนแสดงนั้นทํา ใหผูเที่ยวชมไดสัมผัสทั้งการเห็น ไดยินและได กลิ่นของถิ่นที่อยูของสัตวนั้น ๆ ถึงแมวาผูเที่ยวชมและสัตวจะมีสวนแบงแยกกันอยู การตกแตงสวนแสดเงสัตวใหดูเปนธรรมชาติคือ ( ใชตัวอยางจากคอกนกฟลามิงโก ) - การปลูกพืชและการจัดภูมิทัศน ถาสัตวชนิดนั้นมีถิ่นที่อยูแบบพื้นที่ชุมน้ํา ตองจัดภูมิทัศนให ใกลเคียง สิ่งที่ตองปรับใหเหมาะกับอากาศของสวนสัตวคือจะตองปลูก พืชชนิดใด ที่สามารถสราง บรรยากาศจําลองใหคลายกับพื้นที่ชุมน้ําในเขตปาเขตรอน ( tropical wetland ) คําถามที่ตองถามดวย คือสัตวทําลายพืชชนิดนั้นหรือไม สิ่งที่ใชตกแตงเพิ่มเติมเชน กอนหิน ทอนไม ทรายจะใสเขาไปหรือ ไม เปนสิ่งที่เขากับบรรยากาศที่เราตองการสรางหรือไม - การสุขาภิบาล ( sanitation ) เราจะทําอยางไรใหน้ําในคอกนกฟลามิงโกสะอาด เรา สามารถสรางระบบกรองน้ําไดหรือไม หรือ เราจะใชการเปลี่ยนน้ําบอยๆ - สวัสดิภาพของสัตว ( animal welfare ) สวนแสดงสัตวแหงนั้นสรางความรูสึกใหสัตวรูสึก เหมือ นบานของเขาหรือไม ในการอยูรวมกันหลายตัวมีพื้นที่แ ละคอกกัก ที่มากพอที่จะสามารถ แกปญหาไดหากสัตวตอสูกัน - ผูเลี้ยงสัตว กรงเลี้ยงมีความปลอดภัยกับพนักงานเลี้ยงสัตวหรือไม สามารถเขาไป จัดการความสะอาดโดยไมมีอันตราย ไมมีอุปสรรคในการทําความสะอาด และการใหอาหาร ผูเ ลี้ยง สัตวสามารถสังเกตพฤติกรรมของสัตวที่อยูในการดูแลไดโดยงายเพื่อสังเกตอาการปวยหรือบาดเจ็บของ สัตวได จุดชมสัตวของผูเที่ยวชม เมื่อผูเที่ยวชมมาที่สวนสัตวตองไดเห็นสัตว ซึ่งสวนนี้สถาปนิกที่ออกแบบจะแกไขปญหานี้ อยางไร รวมทั้งกรณีผูเที่ยวชมที่เปนเด็กและคนพิการ งานใหการศึกษา งานที่มีความสําคัญอีกสวนหนึ่งคือ การใหการศึกษา รูปแบบมีดวยกันหลายแบบขึ้นกับการ ออกแบบเชน ปาย สื่อ ที่สามารถโตตอบได ใหขอ มูลเปนเสียงในเรื่อ งขอ มูลทั่วไปและงานดา น อนุรักษ ขอมูลที่ใชในสวนงานใหการศึกษา ควรเปนขอมูลที่ผูเที่ยวชมนาจะไดรู การนําเสนอขอมูล นาสนใจ ที่ผูเที่ยวชมอยากเรียนรู กระตุนใหก ลับไปที่บานแลวกลับไปเรียนรูตอ สอดแทรกขอมูล ดานการอนุรักษเขาไปดวย การสังเกตผูเที่ยวชมและสัตวที่อาศัยอยูภายในสวนแสดง เนื่องจากมีนักเรียนสวนมากที่ไมคุนเคยกับพฤติกรรมที่สัตวแสดงออก กอนที่จะเขามา การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
60
สังเกตพฤติกรรมสัตวทั้งผูเที่ยวชมและสัตวในสวนสัตว ใหทดลองสังเกตพฤติกรรมในวิชาพละศึกษา กอน โดยสังเกตใน สถานที่ที่ไป พฤติกรรมที่แสดงออก บุคคลที่รวมในกิจกรรม การตอบโต ระหวางกันเปนอยางไร แตเมื่อเขามาสังเกตสัตวซึ่งมิใชคน ตองไมใชความรูสึกของคนเขาไปตัดสินการแสดง พฤติกรรมที่สัตวแสดงออกมา ในคนดวยกันเรายังไมสามารถเขาใจถึงการแสดงออกทางพฤติกรรมได ผูเชีย่ วชาญเรื่องพฤติกรรมสัตวจะคนหารูปแบบของพฤติกรรม ดูลําดับชั้นสังคมภายในกลุมสัตวนั้นๆ สรางสมมุติฐานที่เปนไปไดแลวทําการทดสอบสมมุติฐานที่ตั้งไว ที่สวนสัตว เรามาถึงสิ่งที่นาสนุกกันแลว ในนักเรียนหนึ่งคนตองมีอุปกรณ เชน ดินสอ กระดานแข็ง พรอมใบบันทึกผล สัตวที่มีก ารเคลื่อ นไหวเปนเรื่องงายที่จะสังเกตพฤติกรรม เชน ชะนี แมวน้ํา ยีราฟ ลิงชิมแพนซี ชางแอฟริกา ขอแนะนําการสังเกตพฤติกรรมสัตว อาจารยผูควบคุมตองมีคะแนนเพื่อใหนักเรียนที่มาสังเกต พฤติกรรมสัตวใหความสําคัญกับงานนี้ (ไมรูจะ ทํา อยางไรใหนักเรียนเห็นวางานนี้มีความสํา คัญ ) ในชวงหานาทีแรกใหสังเกตพฤตติกรรมสัตวเพียงอยางเดียว ยังไมตองบันทึกพฤติกรรมอะไรลงไป ใหสังเกตในสวนแสดงมีสวนประกอบอะไรบา งเชน มีลักษณะแบบไหน มีการตกแตงอยา งไรบาง พื้นทีส่ วนไหนที่สัตวใชทํากิจกรรม พฤติกรรมที่สัตวแสดงออก จํานวนสัตวที่มี เลือกตัวสัตวที่คุณ ตองการสังเกต มีการแสดงพฤติกรรมกับสมาชิกตัวอื่นๆอยางไร จากนี้ตอไปอีก 10 นาทีเปนชวงของการสังเกตโดยบันทึกทุกอยางเทาที่จะทําได ถาสัตว หยุดพักก็ใหบันทึกวาสัตวหยุดพัก ประโยชนที่ไดจากสังเกตพฤติกรรมคือ สวนแสดงสัตวแหงนี้สามารถตอบสนองความ ตองการของสรีระและพฤติกรรมของสัตวหรือไม ถาตองปรับปรุงสวนแสดงตองปรับอยางไร สังคม ของสัตวภายในสวนแสดงเปนอยางไร อาจจะไดคําตอบวาถาจะปรับสมาชิกจะตองทําอยางไร สังเกตผูเที่ยวชม สังเกตผูเที่ยวชมวา มีความรูสึกและแสดงพฤติกรรมอยางไรกับภาพที่เขาเห็น ลองนั่งฟงวาคํา ถามที่เกิดขึ้นในระหวางการสนทนามีอยางไรบาง กริยาที่ผูเที่ยวชมมีกับสัตว และกริยาที่สัตวมีกับผู เที่ยวชมคืออยางไร ถาคุณเปนผูออกแบบสวนแสดงสัตวคุณจะออกใหออกมาในลักษณะใดอยางไร ไปดูสวนแสดงที่มีการปรับปรุงแลว ถามีสวนแสดงสัตวชนิดเดียวกันและมีสวนที่ปรับปรุงใหไปดูคอกนั้น ในเอกสารนี้จะไปดูที่สวน แสดงนกฟลามิงโก เราก็จะพบวาคอกสวนแสดงแหงนี้มีการปรับปรุงดังนี้ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
61
- ใชถิ่นที่อยูในพื้นที่ชุมน้ําที่ระดับความสูงมาก ในทวีบอเมริกาใต - การออกแบบใหนกมีความรูสึกปลอดภัยโดยใหมีกําแพงเปนฉากหลังของคอก - ในดานที่อยูใกลผูเที่ยวชม จะมีพื้นน้ํากั้นอยู ซึ่งถาสวนนี้มีพื้นดินอยูอาจมีผูเที่ยวชมล้ําพื้นที่ เขาไป - น้ําที่มีภายในสวนแสดง ทําใหสะอาดโดยการใช biological filter ซึ่งจะมีแบคทีเรียที่มี ประโยชนและสามารถเปลี่ยนของเสียที่ออกจากตัวนกฟลามิงโกเปนไนโตรเจนที่มีอันตรายนอย - อาหารใสในสระน้ําขนาดเล็กที่แยกจากสระน้ําขนาดใหญ กิจกรรมเมื่อกลับสูโรงเรียน - การใหนกั เรียนที่ไดหาขอมูลเบื้องตนของสัตวชนิดนั้น ๆ ไดไปสังเกตพฤติกรรมสัตวชนิด นั้นๆ ในสวนสัตว ไดลองวาดภาพคอกสัตวในฝนที่เขาตองการเปนอยางไร แลวถามีโอกาสใหเชิญ เจาหนาที่ในสวนสัตวที่ความเชี่ยวชาญในเรื่องการออกแบบกรงเลี้ยง เพื่อใหคําแนะนํากรงเลี้ยงที่ นักเรียนทดลองออกแบบวามีจุดที่ตองปรับปรุงเพื่อใหเหมาะสมกับสัตวชนิดนั้นๆ อยางไร
หลักการการออกแบบ โดยการออกแบบตองสนองตอบตอความตองการของ 1.ตัวสัตวเอง 2.ผูเลี้ยงสัตว 3 .ผูเที่ยวชม 4 .จัดสภาพภายในสวนแสดงใหดูเปนธรรมชาติ 5 .จัดสภาพใหนาดู เปนที่พอใจแกผูเที่ยวชม 6 .งบประมาณที่คุมคากับการลงทุน 1.ตัวสัตวเอง 1.1 สรางสภาพที่เปนธรรมชาติ โดยสภาพธรรมชาติที่เตรียมใหเปนสวนของอาหาร เชนปลูกตนไมใน เกาะชะนี ซึ่งตนไมสามารถกินใบหรือผลได ตนไมนั้นเปนรมเงา - ใชเชือกสําหรับสัตวที่ตองการหอยโหนเชน ในชะนี มีสระน้ําสําหรับหาน หงส คอนใหนกไดเกาะ - ในกรณีที่สัตวมาจากสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นเชนแมวน้ํา นกเพนกวิน เราตองปรับสภาพอากาศให ใกลเคียงกับถิ่นที่อยูเดิม 1.2.ลดการเกิดสภาพสัตวลนกรง การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
62
- จํานวนสัตวกับพื้นที่ตองพอเหมาะ ตองกําหนดจํานวนประชากรกอนวาคอกนี้จะเลี้ยงจํานวนเทาไหร รูถึงความตองการพื้นที่อยางนอยของสัตวที่ตองการเลี้ยง 1.3 .ลดการเกิดความเครียดที่มีในสวนแสดง - สัตวตองการสวนที่เปนสวนตัว การลดการเห็นสิ่งรอบขา งทํา ใหสัตวรูสึกมีความปลอดภัยในพื้นที่ มากขึ้น - จัดที่กินน้ํา กินอาหารใหเหมาะสม ถูกหลักสุขาภิบาลและเพียงพอ - ในกรณีที่ตองการควบคุมสัตวเพื่อทําการรักษา งายตอการขนยาย เชนกรงบีบ chute 1.4.เปนสวนแสดงที่ไมสรางปญหาในเรื่องของสุขภาพ - ในสัตวที่ตองการแสงแดด อุณหภูมิและความชื้นที่พอเหมาะ เชน สัตวเลื้อ ยคลาน ตองศึกษาความ ตองการของสัตวชนิดนั้นใหดีกอนที่จะสรางสวนแสดง - พื้นคอกมีพื้นที่เหมาะสมเชน สัตวที่มีอุงเทานิ่ม พื้นควรเปนดินที่ไมแข็งเกินไป เชนใชทราย มีหญา ขึ้นในพื้นที่ การใชพื้นซีเมนตทั้งหมดจะทําใหเกิดปญหาอุงเทาเปนแผล - คอกที่มีลักษณะเปนอาคาร การระบายอากาศ แสงแดดที่ผานลงมาในสวนที่สัตวอยูตองจัดการใหดี - ในสวนของพื้นที่ตองมีการทําความสะอาด โดยใชน้ําฉีดลาง พื้นตองมีความลาดชันเพียงพอที่จะให น้ําไหลมาที่รางน้ํา ความตองการของผูเลี้ยงสัตว 1.ความปลอดภัย - ประตูแบบสวิงเปนแบบเปดเขาดานใน ระบบประตูที่สามารถควบคุมการเปดปดไดงาย - สามารถมองเห็นตัวสัตวไดวาขณะนี้อยูบริเวณใด - มีระบบของคอกที่สามารถควบคุมตัวสัตวเขาออก ระหวางสวนแสดงกับคอกกัก
ขอมูลที่ตองตอบคําถามวาสวนแสดงสัตวทเี่ ราจะสรางนั้นมีรายละเอียดในเรื่องตอไปนี้แลว 1.เลือกชนิดสัตวที่จะตองการจัดแสดง 2.การหาขอมูลจากสวนสัตวอื่นที่เลี้ยงสัตวชนิดนั้นอยูกอนแลว เพื่อใหไดขอมูลถึงขอดีและขอเสียของ สวนแสดงที่มีอยูแลว ใหใ ชสิ่งที่สรา งขึ้นกอนเปนบทเรียน เพื่อ ไมใ หขอผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นแลว เกิดขึ้นซ้ําอีก ซึ่งตองดูในตัวอยางหลายๆ แหง การไปดูงานควรพบกับผูเลี้ยงที่ทํางานในสวนแสดง นั้นเปนประจํา ถายรูป จดบันทึกขอมูลใหละเอียด 3.รางแบบคราวๆ ของรูปแบบของสวนแสดงและคอกกัก 4.ในสวนของรายละเอียดประกอบแบบประกอบดวยขอมูลตอไปนี้ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
63
- ชนิดสัตว ทั้งชื่อสามัญและชื่อวิทยาศาสตร เพศ จํานวนของสัตวภายในสวนแสดงนี้ - ขอมูลที่บรรยายถึงขนาดของพื้นที่สวนแสดงและคอกกัก - ใหเขียนผูเที่ยวชมจะสามารถชมสัตวไดในลักษณะแบบใด พรอมทั้งเขียนภาพกราฟฟค - ใหเขียนถึง ลักษณะโครงสราง วัสดุในสวนตางๆ ไมวาจะเปน จุดชมสัตว สวนแสดงและ คอกกัก รวมทั้งเหตุผลประกอบ - พืชที่จะวางแผนปลูกในสวนแสดงและคอกกัก พรอมเหตุผล - เขียนถึงวาสวนประกอบยอยที่จะสรางตอบสนองกับความตองการของสัตวชนิดนั้นอยางไร - เขียนถึงในสวนของการปฏิบัติงานของผูเลี้ยงสัตว ขั้นตอนการทํางานตางๆ สามารถทําได โดยสะดวก - เขียนถึงสวนแสดงสัตวนี้ตอบสนองความตองการของผูเที่ยวชมอยางไร - ในเรื่องงานใหการศึกษา งานดานการอนุรักษ งานดานการวิจัย สวนแสดงนี้จะตอบสนองใน เรื่องเหลานี้อยางไร
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
64
บทที่ 6 อาหาร เนื้อหา - สวนประกอบทางเคมีของอาหาร - อาหารสําหรับสัตวในสวนสัตว อาหารจากธรรมชาติ อาหารที่ใชทดแทนอาหารจากธรรมชาติ อาหารเสริม - คุณภาพอาหารและการจัดวางใหแกสัตว - การใหอาหารสัตวโดยผูเที่ยวชม - การจัดหาอาหารและการเก็บอาหาร
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
65
ใน 5 บทที่ผา นมาของหนังสือเลมนี้ เนื้อหาจะกลา วถึงสถานที่ทํางานเปนสวนใหญ ไมวาจะ เปน รูปแบบของสวนสัตว ซาฟารี โดยเนื้อหาที่ผานมาเราจะเขาไปในสวนบางสวนของสวนสัตว ในสวนที่ เหลืออีก 5 บทเราจะเขาไปในสวนของการจัดการ เนื้อหามีความตองการที่จะทําใหการจัดการของพวก เรา เปนการจัดการเพื่อแสดงความเอื้ออาทรแกสัตวที่อยูในความรับผิดชอบของเรา
Q
ในบทที่ 2 ในบทนั้นเราใหขอมูลในเรื่องของจุดประสงคของสวนสัตว แลวเราตั้งคําถามวา
เราจะทําอะไรเพื่อสัตวของเรา “ คุณยังจําไดถึงคําตอบที่คุณเคยตอบคําถามนั้นไดอยูหรือไม ” ในฐานะที่เราเปนผูเลี้ยงสัตวใ นสวนสัตว เราตองทํางานที่เกี่ยวของกับตัวสัตวอ ยา งดีที่สุด เพื่อที่จะอนุรักษสัตวชนิดนี้ไว ตองดูแลสัตวเหลานี้ใหมีสุขภาพที่ดี การที่จะทําใหสัตวที่เราดูแลอยูมีสุขภาพที่แข็งแรงสิ่งที่เราตองระลึกไวอยูเสมอคือ 1 ตองมีความเขาใจในพฤติกรรมของสัตวชนิดนั้น พรอมทั้งเตรียมสภาพแวดลอมภายในสวนแสดงให เหมาะสมกับพฤติกรรมสัตวชนิดนั้นๆ 2.รูวิธีการที่จะจัดการเรื่องการสุขาภิบาลกรงคอกสัตวชนิดนั้นๆ รวมทั้งแผนการปองกันโรค 3. มีความมั่นใจวาอาหารที่เราจัดหาใหเปนอาหารที่มีคุณคาและมีปริมาณที่เพียงพอ เราจะเรียนรูกันในบทนี้วาอาหารที่ดีสําหรับสัตวปานั้นคืออยางไร สวนประกอบทางเคมีของอาหาร ซึ่งประกอบดวยธาตุ 2 กลุมคือ ออรแกนิค( organic )และ อินออรแก นิค ( inorganic ) - organic (วัตถุ ที่ไดมาจากสิ่งมีชีวิต เชน น้ําตาล ฝา ย อินทรีย (เคมี) เชนโปรตีน คารโบไฮเดรต ไขมันอิ่มตัวและไขมันไมอิ่มตัว วิตามิน - inorganic ( ธาตุที่ไมไดมาจากสัตวและตนไม) เชน เกลือ น้ํา แรธาตุ อาหารของสัตวในสวนสัตว การศึกษาทางวิทยาศาสตรใ นเรื่องที่เกี่ยวของกับอาหารสัตว โดยใชสัตวที่ใ ชเลี้ยงเพื่อ ใชใ น งานทดลองทางการแพทย เชนหนู กระตาย และในสัตวปศุสัตว เชน หมู ไก วัว สัตวปศุสัตวจะเลี้ยงเพื่อใหสัตวเติบโตเต็มที่โดยใหใ ชเวลา คาใชจา ยในเรื่องของอาหารและ การจัดการนอยที่สุด เพื่อใหไดผลกําไรแกผูประกอบการ สวนในสัตวที่เลี้ยงเพื่อการทดลองจะเลี้ยง สัตวกลุมนี้ในปริมาณมาก เพื่อคัดเลือกเอาสัตวที่ไดมาตรฐานที่ตองการและใหมีคาใชจายในการจัดการ นอยที่สุด การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
66
การเลี้ยงสัตวในสวนสัตวเราตอ งการการเจริญเติบโตของสัตวใหเปนไปตามธรรมชาติ ให สัตวมีอายุขัยที่ยืนยาว ถาเปนไปไดเราควรตองหาอาหารใหสัตวปากินในชนิดเดียวกับที่สัตวกินในปา ธรรมชาติ แตกอนที่จะจัดหาอาหารเหลานั้นได สิ่งที่เราตองรูกอนคือ 1.เราตองรูชนิดอาหารที่สัตวชนิดนั้นกิน 2.เราสามารถจัดหาอาหารชนิดนั้นไดหรือไม เราสามารถจัดสามารถจัดสิ่งแวดลอมการหาอาหาร การกินอาหารใหเหมือนกับพฤติกรรมของ สัตวใหเหมือนกับในธรรมชาติหรือไม
A กอนที่จะอานตอไปใหคุณลองคิดวา มีความเปนไปไดมากนอยเพียงใดที่เราจะจัดหา อาหารใหสัตวปากินในชนิดเดียวกับที่อยูในปา รวมทั้งจัดสิ่งแวดลอมใหเหมือนปาธรรมชาติเพื่อให สัตวไดมีโอกาสแสดงพฤติกรรมของตัวเอง 1. การทราบถึงชนิดของอาหารที่สัตวปากิน โดยมีการศึกษาอยางละเอียดในถิ่นที่อยูของสัตวชนิดนั้นๆ ซึ่งถิ่นที่อยูที่สัตวชนิดนั้นอยูมีความเหมาะสมกับพฤติกรรมและสรีระของสัตว สัตวสามารถเคลื่อนยาย ไปยังแหลงอาหารตามที่มันตองการได ซึ่งชนิดของอาหารจะมีความแตกตางกันตามฤดูกาลและพื้นที่ ในความหมายนี้สวนสัตวจะสามารถหาอาหารในลัก ษณะเดียวกันที่สัตวกินไดหรือไมในแง ของชนิด และมีการเปลี่ยนตามฤดูกาล การที่ชนิดของอาหารที่สัตวกินมีการเปลี่ยนตามฤดูกาล เนื่องจากสัตวมีการปรับตัวเพื่อให ไดรับสารอาหารครบถวนตลอดเวลา ถึงแมวาอาหารที่มีในถิ่นที่อยูจะมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล 2. เราจะมีวิธีการอยางไรที่จะจัดหาอาหารที่มีคุณคาทางอาหารไดเหมือนกับที่สัตวไดกินในปา เราตอง หาสิ่งทดแทน เพือ่ ใหสัตวไดรับคุณคาทางอาหารที่ทําใหสัตวแข็งแรงเปนปกติ 3. สวนสัตวไมส ามารถจัดสถานที่ใ หสัตวส ามารถแสดงพฤติก รรมการกิน อาหาร ไดเ หมือ นกับ พฤติกรรมที่ทําในปาธรรมชาติ ใหทานเลือ กเอาชนิดสัตวที่ทานทราบรายละเอียดเปนอยางดี ที่ทานสามารถหาอาหารชนิดตาม ธรรมชาติได และตอบคําถามตอไปนี้ - ชนิดของอาหารที่สัตวชนิดนี้ที่กินในถิ่นที่อยูตามธรรมชาติ - เราจะหาอาหารชนิดใดทดแทนได - เราจะวางอาหาร อยางไรใหกับสัตว - ปริมาณอาหารมากนอยเทาใดที่เพียงพอสําหรับสัตว การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
67
- เวลาใดที่เราใหอาหารแกสัตว - อาหารที่เราจัดหาใหสัตวมีความผันแปรตามฤดูกาลหรือไม อาหารธรรมชาติ หมายถึงอาหารที่พบในสิ่งแวดลอมตามธรรมชาติ หรือสามารถทดแทน อาหารที่สัตวกินในธรรมชาติได มีความสดตามธรรมชาติ มีความผันแปรตามฤดูกาล สัตวตองมีการ ปรับตัวที่จะกินอาหารนั้น เราแบงอาหารธรรมชาติออกไดเปน อาหารที่ไดจากพืช คือ - จากเปลือกไม เนื้อไม จากไมในลักษณะไมพุมหรือไมยืนตนขนาดใหญ - จากใบไม - จากผลไมและเมล็ด - น้ํา เชนจากน้ําหวานจากเกสรดอกไม อาหารที่ไดจากสัตว คือ - สัตวที่ไมมีกระดูกสันหลัง - สัตวมีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก - สัตวเลี้ยงลูกดวยนมขนาดใหญ การแบงกลุมของสัตวตามลักษณะและชนิดของอาหารที่สัตวกินมีดังนี้ กลุม 1.สัตวกินพืช เปลือกไม เนื้อไม เชน ไมยืนตนที่มีลักษณะเปนทรงพุม เปนตนไมที่มีกิ่งกา นและ ใบ ยอดออน เปลือกไม เนื้อไม สัตวกินพืชที่กินใบพืชเปนอาหารหลัก ลักษณะของฟนจะเหมาะกับ การกัด แทะ รูดกินใบไม เปลือกไม กานและใบ ระบบทางเดินอาหารเหมาะกับการยอยเยื่อใยใน ลักษณะนี้ ตัวอยางสัตวกลุมนี้เชน อูฐ แพะ กวาง ยีราฟ ชาง แรดดํา กลุม 2.สัตวกิน พืช- ใบพืช 2.1 หญา มีเยื่อใยที่ยากตอการเคี้ยว สัตวที่กินหญาจึงมีการลักษณะฟนและทางเดินอาหารที่จะยอยเยื่อ ใย 2.2 พืชที่ใบและกานใบที่อวบน้ํา ( Herbaceous plant ) ซึ่งรวมทั้งสวนของดอกไม ผลไม สวนของหัว ซึ่งสัตวที่กินจะเรียกสัตวที่กินพืชกลุมนี้วา browser ซึ่งสัตวกลุมนี้ก็มีลัก ษณะของทางเดินอาหารและ ฟนที่ใหเหมาะสมกับการยอยอาหารกลุมนี้ ตัวอยางของสัตวที่กินอาหารกลุมนี้ (กลุม 2 พืช-ใบไม ) เชน วัว แกะ แพะ ลามา มา มาลาย แรดขาว คาง กลุม 3 .สัตวกินผลไมและเมล็ดพืช เปนกลุมพืชที่มีความเกี่ยวของของฤดูกาล ซึ่งสวนที่กินไดจะมี ตั้งแตเมล็ดพืชที่ยังไมสุก จนถึงผลไมที่มีเนื้อฉ่ําน้ํา สัตวกลุมนี้มีลักษณะของรางกายที่สามารถที่จะจับ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
68
และจะทําใหสวนเปลือ กแตกออก มีทางเดินอาหารที่สามารถยอยทั้งผลไมแ ละเมล็ดพืชได แตไม สามารถที่จะยอยพืชที่มีเยื่อใยได ตัวอยางของสัตวกลุมนี้เชน นกสวนใหญ หมี คางคาว ลิงไมมีหาง และลิงมีหางบางชนิด กลุม 4 .สัตวกินสัตวไมมีกระดูกสันหลัง เปนสัตวขนาดเล็กเชนแมลง ปลวก ตัวหนอน แมงมุม กุง สัตวที่กินสัตวกลุมนี้ตองมีรางกายที่สามารถหาสัตวเหลานี้จากธรรมชาติได เชน ตัวนิ่ม กิ้งกา นกสวน ใหญ กลุม 5. สัตวที่กินสัตว มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก เชน ปลา กบ นกขนาดเล็ก รวมทั้งไข กิ้งกาและ สัตวเลี้ยงลูกดัวยนมขนาดเล็ก โดยสัตวเหลานี้จะถูกกินในสวนของขน กระดูก แตสวนของขนจะไม ถูกยอยและถูกขับถายออกมา ตัวอยางของสัตวที่กินสัตวกลุมนี้เชน นกเคา แมว อินทรี เหยี่ยว กิ้งกา ขนาดใหญ งู สัตวเลี้ยงลูกดวยนมที่เปนผูลาขนาดเล็กเชน หมาจิ้งจอก กลุม 6.สัตวที่กินสัตวสัตวเลี้ยงลูก ดวยน้ํานมขนาดใหญ หรือปลา สิ่งที่สัตวกลุมนี้ถูกกินคือ เนื้อ ขน ลําไส กระเพาะอาหาร ตับ ไต และปอดซึ่งสัตวเหลานี้จะถูกฆาและกินสดๆ สัตวที่กินสัตวกลุมนี้จะ มีความสามารถในการลา สัตวที่ตัวเองตองการเปนอาหาร เชนมีกลา มเนื้อที่บริเวณกรามขนาดใหญ ตัวอยางของสัตวที่กินสัตวกลุมนี้คือ เสือ หมาจิ้งจอก หมี แมวน้ํา นาก สิงโตทะเลและนกที่กินปลา เปนอาหาร กลุม 7. สัตวที่กินอาหารเหลว สัตวที่กินอาหารกลุมนี้เชน สัตวที่เกิดใหมที่กินนม คางคาวแวมไพรกิน เลือด นกฮัมมิ่งกินน้ําหวานจากดอกไม งูที่กินไขนก
A ใหเลือกสัตวมาหนึ่งซึ่งเปนชนิดสัตวที่ทานคุนเคย แลวลองพิจารณาดูอีกครั้งวาสัตวชนิดดังกลาว จัดเปนสัตวที่กินอาหารกลุมใด ก็จะพบวาความจริงแลวสัตวชนิดดังกลาวยังกินอาหารกลุมอื่นๆดวย ตัวอยางเชน ลิงชิมแพนซี ซึ่งกินอาหารในกลุมที่ 3 แตยังกิน อาหารกลุมที่ 2 และ4 ดวย อาหารของ ลิงชิมแพนซีประกอบดวยผลไม เมล็ดพืช ใบไมและสัตวที่ไมมีกระดูกสันหลัง โดยใหคิดถึงกระตาย ( อยูในกลุม2และ3 )หรือหมาจิ้งจอก ( อยูในกลุม 5,4,6 )
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
69
อาหารที่ใชแทนอาหารธรรมชาติ เมื่อ เราไมส ามารถหาอาหารธรรมชาติ ตามชนิดที่สัตวเคยกินได จึงตอ งจัดหาอาหารที่มา ทดแทน ซึ่งการใชอาหารในรูปแบบนี้เริ่มในฟารมปศุสัตวและในสัตวเลี้ยงเพื่อ ทดลอง และเริ่มมีการ ใชในกลุมสัตวในสวนสัตวเปนลําดับตอมา โดยรูปแบบที่ออกมาจะเปนรูปของอาหารเม็ด แบบผง ซึ่งคําที่ใชเรียกอาหารแบบนี้คือ อาหาร ขน สิ่งที่นํามาเปนวัตถุดิบสําหรับผลิตอาหารขน เชน ถั่วเหลือง มันสําปะหลัง รํา กระดูก ปลาปน ซึ่งรูปแบบการใหอาหารแกสัตวจะเปนแบบผสมผสานทั้งอาหารธรรมชาติกับอาหารทดแทน หรือจากอาหารธรรมชาติอยางเดียวคงขึ้นกับปจจัยเชน การยอมรับอาหารของสัตวเอง การหาไดของ ชนิดอาหารในแตละฤดูกาล ขอดีของอาหารทดแทน 1. เปนอาหารที่เราทราบสวนประกอบของอาหาร ซึ่งสามารถคํานวณความตองการของสัตวได 2. สามารถจัดหาใหสัตวกินเปนประจําได 3.สะอาดและเปนอาหารที่มีคุณคา 4. เก็บอาหารไดยาวนานกวา อาหารสด และการที่เก็บอาหารเปนถุงหรือ เปนกระปองจะทํา ใหอาหาร สะอาดทุกครั้งที่เปดอาหารถุงใหม ขอเสียของอาหารทดแทน 1.การใหกินอาหารซ้ํากันทุกวันสัตวจะเกิดความเบื่อหนาย 2. สูญเสียรสชาดไปถาเก็บอาหารไมดี ถาอาหารเปยกชื้น อาหารจะเกิดเชื้อราและเปนอันตรายแกสัตว 3. ลักษณะของอาหารจะกินไดงาย ถาสัตวกินก็หมดอยา งรวดเร็วและสัตวก็จะมีเวลาวา งมากเกินไป ตองหากิจกรรมอื่นๆ ใหสัตวทํากิจกรรมหรือใชการซอนอาหารเพื่อใหสัตวมีกิจกรรมทํามากขึ้น
(แผนงานที่จะตอ งทํา ในสวนสัตว ) ใหเก็บตัวอยางปายที่แสดงคุณคาทางอาหารของ ของ อาหารถุงแตละชนิด ทดลองชิมรสและดมกลิ่นของอาหารอาหารชนิดนั้นดู รวมทั้งการสอบถามจากผู เลี้ยงสัตวถึงความชอบของสัตวกับอาหารแตละยี่หอ วาตางยี่หอมีสัตวมีก ารกินอาหารที่แ ตกตางกัน หรือไม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
70
อาหารเสริม ( Food supplement ) อาหารเสริม ทั้งในรูปแบบที่เปนธรรมชาติหรือแบบอาหารประกอบ ซึ่งการใสอาหารประเภท นี้เพื่อที่จะใหสวนที่ขาดไปไดรับการเพิ่มเติม ซึ่งรูปแบบสิ่งที่เสริมมีในหลายรูปแบบเชน เม็ด ผง น้ํา ตัวอยางการใชคือ เนื้อสัตวเปนสวนที่มีโปรตีนแตขาดแคลเซี่ยม และสวนของวิตามินบางตัว ปลาที่แชแข็งเปนเวลานานจะเสียวิตามินบางอยางไป หรือในสวนของตัวสัตวเองเชน กลุมลิงมารโม เสทหรือทามารีนตองการวิตามินดี 3 ดังนั้นเราตองเพิ่มในสิ่งที่ตองการเขาไป สิ่งหนึ่งตองคํานึงถึงก็คือการเก็บวิตามินและแรธาตุในสภาพที่แ หง มิดชิด และในการตวง สารเหลานี้ควรจะชั่งเพื่อใหไดปริมาณที่ถูกตอง หรือการอานเอกสารที่แนบมาใหทราบปริมาณของยา แตละเม็ด และตรวจสอบความตองการของสัตวแตละชนิดกอนที่จะใหสารเหลานี้
(แผนงานที่จะตองทําในสวนสัตว ) ใหอานปายที่ใหรายละเอียดสารประกอบที่มากับขวด และ วิธีการใชดวยความรอบคอบ คุณคาของอาหารและเราจะมีวิธีอยางไรในการนําอาหารใหสัตวกิน คุณคาของอาหารที่ใหแกสัตวเหมาะสมหรือไมโดยการใชการวิเคราะหทางวิทยาศาสตรและ การดูที่ตัวสัตวเปนสวนประกอบ
Q
เราจะมีวิธีการอยางไรอยางไรเพื่อที่ตรวจสอบวาอาหารที่เราใหแกสัตวดีสําหรับสัตว ( ลองตอบ
คําถามดวยตัวเองกอนที่จะอานดูตําตอบที่อยูถัดลงมา )
การดูจากตัวสัตว - สภาพโดยทั่วไป อวนไปหรือผอมไป - ดูที่ผิว ขน - ดูที่นัยตา (ใส มีน้ําตา หรี่ๆ เปด ) - ลักษณะมูล สี เปนกอนหรือเหลว - พฤติกรรม (ปกติหรือผิดปกติ ) การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
71
สัตวที่ไดรับอาหารที่เหมาะสมทั้งปริมาณและคุณคา รวมทั้งการจัดการดานสุขาภิบาลที่ถูกตองจะมี ลักษณะ ดวงตาสดใส มีขนเปนมันเงา ลักษณะของมูลปกติ มีการเคลื่อนไหวเปนปกติ ไมเหงาซึม สนใจสิ่งแวดลอมรอบขาง มีพฤติกรรมปกติ สัตวที่มีสุข ภาพดีจะดูมีความสนใจที่จะกินอาหาร ใชเวลาเพื่อหาอาหาร ซึ่งดวยปกติในปา ธรรมชาติเปนเรื่องไมปกติที่จะมีแหลงอาหารอยูในที่แหงเดียวเหมือนกับในสวนแสดงสัตว การใหอาหารแตนอยแตบอยครั้ง สัตวหลายชนิดจะมีความสนใจในอาหารที่ชิ้นเล็ก แตรสชาดดี ซึ่งถาเราใชอาหารเหลานี้เพื่อซอนในที่ตางๆ เพื่อใหสัตวไดคนหา การจัดวางอาหารแกสัตวก็เปนเรื่องที่สําคัญ จุดประสงคในสวนนี้เพื่อใหสัตวทุกตัวไดมีโอกาส ไดรับอาหารอยางทั่วถึงทุกตัว ลดการปนเปอนจากเชื้อโรค ลดการสูญเสียอาหาร ตองทําเปนรูปแบบ ที่เหมาะสม แสดงถึงความเอาใจใสของสวนสัตวที่มีตอสัตวเมื่อตองนําสัตวจัดแสดงตอผูเที่ยวชม อาหารที่เหลือคือเงินที่สูญเสียไป อาหารที่เหลือไมควรจะตกคางไปอยูที่พื้นดิน ซึ่งจะเปนตัวที่ชัก นําใหหนู นกปาเขามาที่กรงซึ่งสัตวกลุมนี้จะมารบกวนและนําโรคติดตอเขามาดวย การใสอาหารใน ภาชนะชนิดใดก็ตามมีจุดประสงคเพื่อลดการสูญเสียอาหาร ซึ่งสิ่งเหลานี้ยังขึ้นอยูกับความเปนคนชาง สังเกตของตัวผูเลี้ยงสัตวเองดวย
ใหใชรายการขางลา งนี้เพื่อตรวจสอบวา การจัดวางอาหารใหสัตวที่ทานดูแลอยูและ คุนเคยเปนอยางดีนั้นดีมากนอยเพียงใด ตองมีการปรับปรุงหรือไม ซึ่งคุณสามารถตอบคําถามเหลา นี้ ดวยตัวของคุณเอง ในขณะนี้และกับสัตวชนิดอื่นก็สามารถใชตรวจสอบไดเชนกัน
1..ใหอาหารแกสัตววันละกี่ครั้ง 2..สัตวกินอาหารหรือไม 3..ในกรณีที่อาหารตองการเสริมวิตามินเชนสัตวที่กินปลาแชแ ข็งไดเสริมเขา ไปหรือยัง เชนวิตามินอี เกลือทะเล 4..คุณคาอาหารและปริมาณไดรับการตรวจสอบเปนอยางดีแลววาเหมาะสม 5..ชนิดของอาหารมีความหลายหลายเพียงพอหรือไม เพื่อลดการเบื่ออาหารและไดอาหารที่มีคุณ คาสมดุล การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
72
6..ถาไมกินอาหารเปนเพราะอะไร เราจะมีวิธีการใหอาหารแกสัตวอยางไรเพื่อลดการสูญเสีย อาหารได 7...ถาใสอาหารในถาด ถาดถูกสัตวทําลายหรือไม (เชนในกรณีที่ลิงจับถาดอาหารอลูมิเนียมแลว ถูกทุบกับพื้นเลน ) ภาชนะที่จัดใหเหมาะสมกับสัตวหรือไม 8..สัตวเปนสัตวที่คอยๆกินหรือไม เชนมาลายหรือมา หรือเปนสัตวประเภทที่กินอยางรวดเร็ว แลวจึง มาเคี้ยวภายหลังหรือไมเชนกวาง แอนติโลพ ยีราฟ สัตวผูลาเชนแมวหรือหมาจิ้งจอก 9.ในกรณีที่สัตวอยูรวมกันหลายตัว เชนลิง คาง ซึ่งจะมีกรณีที่หัวหนาฝูงจะไดกินอาหารกอน คุณแนใจอยางไรวาอาหารที่ใหไปเพียงพอ มีจุดวางอาหารที่มากพอที่สัตวทุกตัวไดรับอาหารอยางทั่วถึง 10.ในกรณีที่สัตวไมกินอาหารคุณไดมีการเปลี่ยนแปลงอาหารหรือไม หรืออาหารที่มีการเปลี่ยน แปลงตามฤดูกาล คุณไดเปลี่ยนอาหารหรือไม 11.การเก็บเศษอาหารที่เหลือทําไดอยางไร เหมาะสมหรือไม 12. มีกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อ งกับอาหาร ที่เปนการสรางกิจกรรมในกรงเลี้ยงหรือ ไม เชนซอนอาหาร หวานอาหารเปนพื้นที่เพื่อใหสัตวไดเก็บกิน เราควรใหผูเที่ยวชมใหอาหารแกสัตวในสวนสัตวหรือไม ผูเที่ยวชมบางทานตองการใหอาหารแกสัตวบางชนิด และรวมทั้งสัตวบางชนิดที่จะเรียนรูการ ขออาหารจากผูเที่ยวชม เนื่องจากไดกินอาหารที่ตางไปจากที่ตัวเองกินอยูประจํา ซึ่งสัตวจะเกิดความ เบื่ออาหาร แตถาปลอยเลยตามเลยโดยไมมีการควบคุม จนผูเที่ยวชมรูสึกวาตนมีเสรีที่จะใหอาหารแก สัตวไดนั้น เปนการสรางความรูสึกที่ไมถูกตอง นอกจากนั้นหากไมการควบคุมจะมีการขวา งขนมที่ อยูในถุงไปใหแกสัตวเลย หรือใหอาหารที่ไมเกิดประโยชนตอรางกายสัตว การสรางกฎที่วา ผูเที่ยวชมไมส ามารถใหอ าหารสัตวอ ยางเสรี โดยไมมีผูเลี้ยงสัตวเปนผู ควบคุมนั้นเปน กฎที่ตอ งสรางใหเกิดขึ้น แตสิ่งหนึ่งที่เราปฏิเสธไมไดถึงรายไดจากการขายอาหาร เพื่อใหผูเที่ยวชมไดมีโอกาสใหอาหารแกสัตว ซึ่งก็อาจจะใชชนิดของอาหารที่สัตวกินอยูแลว และใน ปริมาณเดิมที่ใหสัตวเปนประจํา เมื่อหมดใหหยุดการจําหนาย ไมควรปลอยใหขายตอไป คลังอาหาร อาหารที่จะใหสัตวกิน การจัดหามาจากหลายทางดวยกัน เชน การจัดซื้อเองของสวนสัตว การจัดหาผูสงอาหารตามรายการที่ทางสวนสัตวเปนผูกําหนด การตัดกิ่งไมภายในสวนสัตว การทํา แปลงปลูกหญาเอง หรือการออกตัดหญาตามที่สาธารณะตางๆ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
73
การการจัดซื้ออาหารเขามาเชนอาหารแหง การจัดเก็บอาหารมีปจจัยที่ใชใ นการตรวจสอบ ทั้งหมด 4 ขอคือ ความแหงของอาหาร ( Dry ) อายุของอาหาร ( Age ), หนู ( Rodent ), อาหารที่สงเขา มากอนตองใชกอน ( Turn over ) 1.ความแหงของอาหาร ( Dry ) อาหารแหงจะมีขอ เสียเมื่อถูกน้ําและความชื้น ที่จะทําใหเกิดเชื้อรา และแบคทีเรีย เชื้อราจะสรางสารพิษและหากสปอรถกู หายใจเขาไปในปอดจะทําใหเกิดโรคในระบบ ทางเดินหายใจ ในอาหารที่ตองแชเย็นเชน เนื้อ ปลา ที่สามารถเก็บไดเปนเวลาหลายเดือน ไขมันจะเปน สวนที่มีการเนาและเสื่อมสภาพไดเร็ว ทําใหรสชาดของอาหารไมนากิน การละลายน้ําแข็งออกจากตัว ปลาไมควรใชการแชในน้ําแตควรใชการปลอยใหละลายในอุณหภูมิหอง ผลไม พืช หัวพืช ไข หากสามารถซื้อไดทุกวันก็จะไดอาหารที่สด 2. อายุของอาหาร ( Age ) อาหารสวนใหญเปนสิ่งของที่เนา เสียไดเร็ว ถึงแมจะมีการแชเย็นก็ตาม เนื้อและปลาจะมีการเนาที่รวดเร็ว ไขแ ละผลไมจะอยูไดนานยิ่งขึ้นถามีการแชเย็น อาหารแหงจะ สามารถเก็บไวไดนานแตตองดูวันหมดอายุ ซึ่งสิ่งที่ควรปฏิบัติคือสั่งอาหารแหงในปริมาณไมมาก เกินไป เพื่อใหมีอาหารเขาใหมอยางสม่ําเสมอ 3.หนู ( Rodent ) ตองมีการกําจัดหนูอยูเปนประจําโดยใชวิธีก ลเชนการใชกาวดักหนู การใชก าวดัก หนูหากเลือกใชวิธีกําจัดหนูดวยวิธีการใชยาฆาหนู อาจมีผลกระทบไดเชน หนูไปตายในกรงสัตวที่ กินหนูเปนอาหาร 4. การใชอาหารที่เขามากอนตองนํา มาใชกอ น (Turnover ) เชนเนื้อถุงนี้เขามากอนตองใชกอน การ จัดเรียงของในตูแชเนื้อตองใหทราบวาถุงใดมากอนมาหลัง อาหารแหงชุดใดมากอนมาหลัง ตองเรียง ถุงอาหารใหทราบวาชุดใดมากอนมาหลัง
ใหตรวจสอบคลังอาหารที่คุณมีสวนเกี่ยวของอยูวา - ในกรณีที่อาหารที่สงไมไดคุณภาพตามที่ตกลงกันในสัญญาจะมีวิธีการดําเนินการอยางไร ซึ่ง ถาอาหารไมไดคุณภาพ และคนสงไมสามารถหาอาหารมาทดแทนได คลังอาหารมีวิธีการจัดการ อยางไร - ในกรณีที่สงอาหารเชนหญาไมครบตามปริมาณที่ตกลง ซึ่งทําใหสัตวบางชนิดไดรับอาหาร นอยลงจะมีวิธีการจัดการเพื่อใหสัตวไดรับอาหารที่พอเพียงอยางไร - มีที่ทิ้งขยะหรือจัดเก็บขยะเรียบรอยหรือไม - มีอางผักและแชดวยดางทับทิมหรือไม การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
74
- มีการชั่งน้ําหนักอาหารเมื่อรับอาหารจากผูรับเหมาหรือ - คณะกรรมการที่ไดรับการแตงตั้งมาปฏิบัติหนาที่หรือไม - มีการกําจัดหนู หรือไม - หลังการทํางานประจําวันเสร็จสิ้น มีการเก็บกวาดบริเวณคลังอาหารใหสะอาดเรียบรอย หรือไม - การจัดเก็บภาชนะที่ใชในคลังอาหาร มีการจัดเก็บอยางเปนระเบียบเรียบรอยหรือไม - หากมีการใชแกสเพื่อการหุงตม มีความปลอดภัยในการใชหรือไม - การเรียงอาหารแหงทําเปนระเบียบเรียบรอยหรือไม - หองแชเย็นสามารถใชงานไดหรือไม - หองน้ําสามารถใชงานไดดีหรือไม - รถขนสงอาหารอยูในสภาพที่พรอมใชงาน มีการซอมบํารุงสม่ําเสมอ - คนทํางานที่มีเพียงพอตอปริมาณงานหรือไม - มีงานเชน การเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด หนู นกกระทา แปลงหญา ปลูกตนไมที่ใชกินใบหรือไม - มีงานวิเคราะหอาหารเพื่อดูคุณคาอาหารที่เราใหสัตวทุกชนิดหรือไม หรือมีการตรวจสอบกับ ผูเลี้ยงสัตวหรือไมวาชนิดอาหาร ปริมาณที่จัดใหเหมาะสมกับตัวสัตวหรือไม - ระบบการเก็บขอมูลในคลังอาหารสัตวมีรายละเอียดเพียงพอหรือไม - การตรวจรับอาหารหากอาหารที่นําสงมาไมมีคุณภาพเพียงพอ แตกรรมการยังไมเขามาดูอาหาร ฝายคลังอาหารตองรีบแจงใหกับกรรมการโดยเร็ว - ใหผูเลี้ยงไดมีโอกาสไดแจงกลับมาเรื่อ งปริมาณและคุณภาพอาหาร แจงมาที่หัวหนาแผนกหรือ ผูอํานวยการสวนสัตว โดยทําเปนแบบฟอรมที่จะแจงเรื่องเหลานี้กลับมาได คําถาม ทานมีขอในการตรวจสอบคลังอาหารวาอยูในสภาพที่เรียบรอยในหัวขออื่นหรือไม
ขอมูลเพิ่มเติม - ฟน ใชสําหรับการจับอาหารและยอยอาหารใหมีขนาดเล็กลงกอนที่จะกลืนอาหารลงไป - ฟนตัด ( incisor ) มีหนาที่ตัดชิ้นอาหารใหเล็กลง - ฟนเขี้ยว ( Canine ) ใชเปนอาวุธในการลาเหยื่อของสัตวกินเนื้อ - ฟนกราม ( Molar ) เปนฟนที่มีลักษณะเปนสันแบงยอยในตัวฟน ที่จะชวยตัดอาหารที่มีเยื่อใย สูงเชน หญา ใบไม การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
75
- การยอยอาหารในทางเดินอาหาร ( alimentary canal) การยอยอาหารประกอบดวย กระบวนการหลายอยางเชน การใชฟนเคี้ยวอาหาร การยอยดวยน้ํายอยในกระเพาะอาหาร การใชเอน ไซนเพื่อทําใหเปนสารเคมีที่เล็กลง เพื่อใหสามารถดูดซึมสารอาหาร และ ใชหลอเลี้ยงรางกายตอไป - สารอาหารที่ไมตองผานการยอย กอนที่จะดูดซึม เชน แรธาตุ เกลือแรและน้ํา - สารอาหารที่ยากตอการยอยเชน เยื่อใยที่เปนสวนประกอบของหญาและใบไม - โปรตีนจะมีการยอยใหเล็กลงเปน กรดอะมิโน ( amino acid ) - กรดอะมิโน จะใชในการสรางเนื้อเยื่อและโครงสรางของรางกาย กรดอะมิโนมีดวยกัน 22 ชนิด โดยมี 10 ชนิดที่ตองไดรับจากอาหาร และอีก 12 ชนิดรางกายสามารถเปลี่ยนจากกรดอะมิโน ตัวอื่นได เราตองมีความมั่นใจวาอาหารที่เราจัดใหกับสัตวมีกรดอะมิโนครบถวน - ไขมันอิ่มตัว สามารถสรางไดในรางกายสัตวจากน้ําตาลที่มีในรางกาย แตกรดไขมันแบบไม อิ่มตัวรางกายจะไดจากอาหารที่กินเขาไป เชนสัตวกินเนื้อจะไดจากเนื้อที่กินเขาไป - แปง ที่มีในพืช ไกลโคเจนที่มีในเนื้อสัตวและน้ําตาลที่มีโครงสรางเปนธาตุคารบอน 12 ตัว จะถูกยอยใหเปนน้ําตาลที่มีโครงสรางธาตุค ารบอน 6 ตัว เพื่อดูดซึมไปเลี้ยงรางกาย และมีน้ํา ตาล บางสวนที่จะเก็บสะสมในรูปของไกลโคเจน เพื่อใหรางกายใชในกรณีอื่นๆ ตอไป - เซลลูโลสและลิกนิน ที่เปนสวนประกอบในเซลพืชซึ่งเปนสารเคมีในอาหารในกลุม คารโบไฮเดรต สัตวที่กินพืชเปนอาหารไมสามารถยอยเซลลูโลสและลิกนินไดโดยตรง ตองอาศัย micro- organism เชนเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิดที่อาศัยอยูในทางเดินอาหารของสัตวกิน พืช คารโบไฮเดรตเปนแหลงอาหารที่ใหพลังงานแกรางกาย - สารอาหารที่ใหพลังงานแกตัวสัตวไดแก ไขมัน น้ํามัน คารโบไฮเดรตและโปรตีน - ในการวัดพลังงานที่มีในอาหาร จะมีหนวยวัด 3 แบบดวยกันคือ 1.British Thermal Unit แตนิยมใชหนวยนี้ในการวัดคาความรอนของน้ํามัน แกส ไฟฟา 2. จูล ( Joul ) มีขอตกลงในระดับนานาชาติที่จะใชหนวยนี้สําหรับคาพลังงานในอาหาร โดย 1 กิโลจูล ( kilojule, kj ) เทากับ 1000 จูล 3. calories ( แคลอรี ) ในการคํานวณเรื่องอาหารจะใชแคลอรีเปนหลัก หนวยที่ใชคือ 1000 แคลอรี ( carolies ) เทากับ 1 กิโลแคลอรี ( kilocalories ) หรือถาเราเปรียบเทียบกับ จูล ( joul ) 4.2 กิโลจูล ( kj ) เทากับ 1 แคลอรี -ใน 1 กรัมของไขมันจะใหพลังงาน 10 แคลอรี - 1 กรัมของคารโบไฮเดรตจะใหพลังงาน 3.6 แคลลอรี่ - 1 กรัมของโปรตีนใหพลังงาน 4 แคลอรี่ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
76
- ความตองการพลังงานของสัตวตอวันจะขึ้นอยูกับ 1.ความรอนที่เสียไปตอพื้นผิวของรางกาย สัตวขนาดเล็กจะมีพื้นที่ตอปริมาตรหรือตอน้ําหนักมากกวา สัตวที่มีขนาดใหญ 2.อายุ 3. ฤดูกาลและกิจกรรมของสัตว เชน ชวงตั้งทอง ชวงใหอาหารลูกออน ชวงการจําศีล 4. ชนิดสัตวเชน สัตวเลือดอุนที่ตองรักษาอุณหภูมิรางกายของตัวเองใหค งที่ สวนสัตวเลือดเย็นที่ตอง พึ่งพาพลังงานจากสิ่งแวดลอมเชนแสงอาทิตย 5.ประสิทธิภาพการใชอาหารของสัตวชนิดนั้น (ยอยและดูดซึม ) - วิตามิน เปนสารอาหารที่รางกายตองการในปริมาณนอยและสามารถดูดซึมไดในทางเดินอาหาร - วิตามินเปนสารอาหารที่มีความสําคัญของขบวนการเคมีในรางกาย โดยแบงวิตามินออกเปน 2 กลุม คือ 1. วิตามินที่ละลายในไขมัน เชนวิตามินเอ ดี อี 2. วิตามินที่ละลายในน้ํา เชน วิตามินซี ไทอามีน กรดฟลอลิค - แรธาตุเปนสารอาหาร ที่รางกายตองการในปริมาณนอย เปนสวนประกอบสําคัญในปฏิกริยาเคมีใน รางกายและโครงสรางของรางกายเชน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เปนสวนประกอบของกระดูก โซเดียม เปนสวนประกอบของเหลวในรางกาย เหล็กเปนสวนประกอบของเม็ดเลือกแดง
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
77
บทที่ 7 อาหารสําหรับสัตว เนื้อหา - อาหารคืออะไร - เราจะเลือกอาหารที่ใหแกสัตวอยางไร - อาหารสําหรับสัตวกินพืช - อาหารสําหรับสัตวที่กินทั้งพืชและสัตวอาหารสําหรับสัตวกินเนื้อ - อาหารสําหรับนก - เราจะรูไดอยางไรวาสัตวไดรับอาหารที่เหมาะสมหรือไม - อาหารสําหรับสัตวเกิดใหม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
78
อาหารคืออะไร คือ สิ่งที่รางกายกินเขาไปเพื่อประโยชนดังตอไปนี้ 1. สารประกอบที่รางกายตองการเพื่อสรางโครงสรางของรางกาย รวมทั้งเพื่อสรางโครงสรางใหมและ ซอมแซมสวนที่สึกหรอ สวนนี้มาจากโปรตีน ดวยทั่วไปโปรตีนควรเปนสวนประกอบของอาหารใน สัตวทั่วไปประมาณ 12-20 เปอรเซ็นต สัตวที่ตองการโปรตีนมากกวาปกติคือสัตวที่เกิดใหมและสัตวที่ กําลังตั้งทอง 2. สารประกอบที่ใหพลังงานซึ่งมาจากไขมันและน้ํามัน (ประมาณ หนึ่งในหกของอาหารทั้งหมด ) และไดจากคารโบไฮเดรต คือกลุมแปงและขาว (ประมาณ หนึ่งในสาม) ของอาหารทั้งหมด โปรตีน เปนสารอาหารที่ใหพลังงานแตพลังงานที่ไดจากโปรตีนไมเพียงพอ 3. สารประกอบที่ทําใหปฏิกิริยาทางเคมีในรางกายดําเนินไปตามปกติ คือวิตามินและแรธาตุเปนสารที่ ตองการในปริมาณนอยแตเปนสิ่งที่ขาดไมได 4.สารประกอบประเภทเยื่อใย เปนสารประกอบในอาหารในกลุมสัตวที่กินพืชเปนอาหาร สามารถ เปลี่ยนสารประกอบนี้ใหเปนสารประกอบโปรตีนโดยใชแบคทีเรียที่มีในกระเพาะเปนตัวชวย 5.น้ํา สัตวกินเขาไปเพื่อทดแทนสวนที่ขับถายออกจากรางกายดวยวิธีตาง ๆ การทดแทนเขาไปดวยการ กินน้ําโดยตรงหรือไดรับจากอาหารซึ่งอาจเปนปริมาณที่เพียงพอ แตอยางไรก็ตามเราตองจัดน้ําใส ภาชนะไวใหสัตวกิน
60 50 40
ความชื้น โปรตีน
30
ไขมัน
20
แปง
10
เยื่อใย
0 ชนิดสารอาหาร
แผนภูมิ แสดงอัตราสวนอาหารของอูฐโหนกเดียวที่สวนสัตวนครราชสีมา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
79
อาหารที่สัตวกินเขาไปมีความเกี่ยวเนื่องกับโครงสรางของรางกายเชน ลักษณะทางเดินอาหาร ลักษณะฟน
กอนที่จะผานบทนี้ไปคุณควรตองหาขอมูลกอนวางานคลังอาหารในสวนสัตวที่คุณทํางานอยู หรือในชนิดสัตวที่คุณรับผิดชอบอยู มีการวิเคราะหอาหารที่นําใหสัตวกินหรือไม วิธีการวิเคราะหอาหารโดยใชโปรแกรมเอ็กเซล
ใหดูแผนแทรกหลังหนาที่ 79 วา มีหัวขอใดที่ตองใชในการสรางตารางบาง O ในแงของการจัดการเรื่องอาหาร คงไมใชเรื่องของคุณคาทางอาหารอยางเดียวยังตองคํานึงถึง - ราคา - การเก็บรักษาอาหารใหใหมสด - การยากงายในการจัดซื้อ จัดหาอาหารชนิดนั้นๆ - การเตรียมอาหารแกสัตว ตองผานกระบวนการเชนหุง ตม หั่นกอนหรือไม - ภาชนะที่ใสใหสัตวกินเปนรูปแบบที่เหมาะสมหรือไม การวางภาชนะเปนเรื่องที่ตองใหความ เอาใจใส - ความสะอาดของอาหารและภาชนะที่ใส การวางกับพื้นในสัตวบางชนิดไมควรทําถาสัตวเหลา นั้นอยูในจุดที่แสดง และถาเปนสัตวที่สามารถหยิบกินไดจากภาชนะ ไมควรวางกับพื้นดิน - ตรวจสอบปริมาณที่ใหเพียงพอหรือไม ผูเลี้ยงตองรูจักสังเกตวาสัตวที่กินอิ่มนั้นแสดงพฤติกรรม ของการกินอิ่มอยางไร เชนไมเดินหาอาหารภายในคอก นั่งหรือนอนพัก หรือในกรณีที่สัตวอยูรวมกัน หลายตัว สัตวบางชนิดมีลําดับชั้นในกรงเลี้ยงเดียวกัน ตองคอยสังเกตพฤติกรรมตัวที่ดอยกวาวา ไดรับ อาหารเพียงพอหรือไม - ความชอบของสัตวที่มีตออาหารชนิดนั้น - สามารถปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อไมใหสัตวจําเจไดหรือไม - การใชอาหารเพื่อใหสัตวมีกิจกรรมในสวนแสดงมากขึ้นหรือไม - จํานวนมื้อที่เหมาะสมวาควรใหวันละกี่มื้อ และเวลาใด ถาเปนสัตวที่ตองจัดแสดงใหผูเที่ยวชม มื้ออาหารก็เปนกิจกรรมที่นาสนใจที่ทําการการชมสัตวนาสนใจยิ่งขึ้น - สุขภาพของสัตวที่กินอาหารที่เราจัดให โดยดูจากอัตราการปวย ตาย อัตราการใหลูก
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
80
จากบทที่ 6 เราทราบแลววาอาหารที่ใหแกสัตวคือ อาหารสดจากธรรมชาติ อาหารสําเร็จรูป( อาหารเม็ด ) วิตามินและแรธาตุ การเลือกวาจะใชอาหารชนิดใด รูปแบบไหนเราจะใชแหลงขอมูลจาก 1. ขอมูลจากปา งานวิจัยของนักสัตววิทยาที่ทําการศึกษาชนิดของสัตวชนิดนั้นจากแหลงที่สัตวอยูใ น สภาพปาธรรมชาติที่เปนถิ่นที่อยูเดิม ซึ่งจะมีตัวอยางชนิดของอาหารชนิดนั้น เพื่อใหเราไดภาพคราวๆ วาสิ่งที่เราควรจะจัดหาใหถูกกับความตองการทางรางกายของสัตวชนิดนั้น และเมื่อนําอาหารที่สัตวกิน ในปามาวิเคราะหเราก็จะทราบวาระดับความตองการคุณคาของอาหารของสัตวชนิดนั้นเปนอยางไร 2..ขอมูลเดิมภายในสวนสัตวเอง ซึ่งใหขอมูลในแงวัสดุที่หาไดงายในทองถิ่นนั้น ราคาไมแพงจนเกิน ไป ประวัติการเจ็บปวยหรือตายที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับอาหารหรือไม 3..ขอมูลจากสวนสัตวอื่นที่มีผลงานดานสุขภาพที่ดี ถาเปนตัวอยางในประเทศก็จะดีในแงการหาชนิด ของอาหารสามารถทําไดและราคาไมสูงเกินไป 4..งานวิจัย ซึ่งหมายถึงงานที่ผานกระบวนการทางวิทยาศาสตร เชน การทดลอง การเก็บขอมูลและ การประมวลผลทางสถิติ ไดรับการตรวจสอบจากผูทรงความรูและไดรับการตีพิมพในวารสารที่นาเชื่อ ถือ O เราแบงชนิดของสัตวตามอาหารที่สัตวนั้นกินไดเปน 1..สัตวที่พืชเปนอาหาร อาจแบงไดเปน สัตวที่หญา เปนอาหารหลัก กินใบไมเปนอาหารหลัก กิน ผลไมเปนอาหารหลัก 2..สัตวที่กินพืชและสัตว 3..สัตวทสี่ ัตวเปนอาหารหลัก 4. นก
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
81
ตารางเปรียบเทียบ สูตรฟนกับการใชงาน ชนิดสัตว ฟนตัด ฟนเขี้ยว สุนัข เนื้อ
สัตวกิ น บน 3 – ลาง 3 ลักษณะคลายสิ่ว
บน 1 - ลาง 1 ขนาดใหญ เ พื่ อ ใช กั ด เหยื่อใหตาย
ฟนกอนฟนกราม การใชงาน และฟนกราม -Molar carnassials teeth บน 4 – ลาง 4 ( ฟนกอนฟนกรามบนและฟนกราม บน 2- ลาง 3 ลางมีลักษณะเพื่อการฉีกเนื้อ ) ใชเพื่อตัดเนื้อ - โดยรวมฟนจะมีหนาที่ตัด สับ เนื้อและทําใหกระดูกแตก
หมู สัตวกินทั้ง บน 3-ลาง3 คลายสิ่วขนาดเล็ก พืชและสัตว
บน 1- ลาง1
มา สัตวกินพืช
บน 1 ลาง 1
บน 3 ลาง 3
ใชเพื่อตัด
บน 4 และ ลาง 3 ฟนกราม บน 4 และ ลาง 3 เคี้ ย ว กดบี บ อาหารให เ ล็ ก แล ะ ในตัวฟน จะมีรอยหยัก ละเอียด ที่ทําใหเกิดสัน ในตัวฟน ที่จ ะช วยบดอาหารให ละเอียด
ซึ่งจะมีทั้งที่
เล็กลงและไมมีก็มี
ไบซัน สัตวเคี้ยว บนไมมี บนไมมี เอื้อง ลาง 3 ใชเพื่อตัด- กัด ลาง 1 ขนาดเล็ก
บน 4 และ บน 3 ฟนกรามมีลักษณะยาว ลาง 4 และ บน 3 เพื่อชวยการบดเคี้ยวอาหาร ส าร เค ลื อ บ ฟ น ( enamel ) จะมีลักษณะ เปนสัน
บน 3 และ บน 3 ฟนกรามมีลักษณะยาว ลาง และ บน 3 เพื่อชวยการบดเคี้ยวอาหาร
หญา
carnassial adj. Zoology denoting the large upper premolar and lower molar teeth of a carnivore, adapted for shearing flesh. อาหารสําหรับสัตวที่กินพืชเปนอาหารหลัก พืชเปนผูผลิตขั้นตนของหวงโซอาหาร เปนผูผลิตสารอาหารและเก็บสารอาหารเหลานั้นไวใน ใบ กิ่ง กาน ราก น้ําเลี้ยงลําตน สัตวกินพืชคือผูที่สามารถเปลี่ยนสารอาหารที่อยูในพืช เพื่อนําสาร อาหารเหลานั้นมาใชเพื่อหลอเลี้ยงรางกาย สวนประกอบของเซลพืช ประกอบดวยเซลวอลที่มีสวนประกอบของเซลลูโลส หรือ ลิกนิน การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
82
สัตวกินพืชจะใชฟนเพื่อทําใหขนาดของพืชที่กินเขาไปเล็กลง แตสัตวไมสามารถยอยเซลลูโลสหรือลิก นินไดโดยตรง อาหารที่ถูกทําใหขนาดเล็กลงจะเขาไปอยูในกระเพาะอาหารที่กระเพาะสวนหนา (สัตว เคี้ยวเอื้อง เชนวัว กวาง ) หรือไปยังสวนซีกั้มหรือโคลอน (เปนสวนของลําไสใหญที่มีทําหนาที่ใ น การยอยอาหารซึ่งมีแบคทีเรียเขามารวมในขบวนการยอยอาหาร ตัวอยางเชน มา ชาง ) เมื่ออยูในสวน เหลานี้แลวจะมีแบคทีเรียและโปรโตซัวจะเปนตัวยอยและหมักเซลลูโลสและลิกนิน เพื่อเปลี่ยนใหเปน กรดอะมิโนและกรดไขมัน กรดไขมันจะถูกดูดซึมเพื่อเปนอาหาร สวนของแบคทีเรียและโปรโตซัวก็ ไหลไปที่กระเพาะแทหรือสวนของลําไสแลวถูกยอยในสวนดังกลาว กรดไขมันคืออาหารที่สัตวกินพืชสามารถดูดซึมไปใชได แบคทีเรียและโปรโตซัวบางสวนจะ ไหลผานไปที่กระเพาะแทหรือไปที่ลําไสเล็กเพื่อยอยในสวนเหลานี้ เซลของพืช เซลลูโลสและลิกนิน เซลของแปง น้ําตาล โปรตีน
กรดไขมัน
แบคทีเรียและโปรโตซัว
ก.เขาสูกระเพาะแท หรือ ข.ไปที่ลําไส หรือ ค.กินซ้ําเขาไปอีกครั้งในสภาพมูลที่ออนนิ่ม อาหารของสัตวกินพืช เขียนลงในสมุดจดขอ ความสํา คัญวา สัตวกินพืชการยอยอาหารขึ้นกับแบคทีเรียในทางเดิ น อาหาร
การที่จะทําใหแบคทีเรียที่มีอยูในทางเดินอาหารสามารถชวยการยอยเซลพืชไดอยางมีประสิทธิ ภาพ อาหารที่สัตวกินเขาไปตองมีปริมาณของเยื่อใยและไนโตรเจนที่เพียงพอ เมื่อแบคทีเรียที่อยูใ น ขบวนการยอ ยเซลพืชคุนเคยกับอาหารที่สัตวกินเขา ไป การเปลี่ยนอาหารในแตล ะครั้งตองคอยๆ เปลี่ยน ไมควรเปลี่ยนอยางรวดเร็วเกินไป เนื่องจากจะมีผลตอการยอยอาหารของสัตวชนิดนั้นๆ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
83
ทางเดินของอาหารของไบซัน ซึ่งเปนสัตวกินพืชที่มีขบวนการเคี้ยวเอื้อง 1กินเขาปาก 2 เขาหลอดอาหาร 3 เขาไปที่กระเพาะอาหารสวนรูเมน 4 กลับมาเคี้ยวที่ปาก 5 ผานหลอดอาหาร 6.กลับมาที่กระเพาะอาหารสวนรูเมนและเรติคูรัม 7.กระเพาะอาหารสวนอโบมาซัมมีการดูดซึมของเหลว8. มีการยอยที่กระเพาะอาหารสวนอะโบ มาซัม 9.มีการดูดซึมสารอาหารที่ลําไส ทางเดินอาหารของมา ( ซึ่งไมใชสัตวเคี้ยวเอื้อง ) 1.กินเขาปาก 2 ผานหลอดอาหาร.3.กระเพาะอาหาร 4.ลําไส 5. ซีกั้ม .6.กลับมาที่ลําไส . 7.ไปที่ลําไสใหญ หรือโคลอน ใหลองเปรียบเทียบเสนทางการเดินทางของสัตวที่เปนสัตวเคี้ยวเอื้อง ( ไบซัน ) และสัตวกินพืช ที่ใชสัตวเคี้ยงเอื้อง ( มา) เขียนเสนทางการเดินของอาหารในสมุดจดขอความสําคัญ
อาหารของสัตวกินพืชจะอยูในลักษณะของกลุมอาหารที่ 1-2-3 ของกลุมลักษณะอาหารที่กลา วไว ในบทที่ 6 โดยขึ้นกับความชอบของสัตวแตละชนิด เชน 1. ใบไม ยอดออน เปลือกไม เนื้อไม 2. ใบไม กิ่งออน ดอกไม รากไม 3. เมล็ด ผลไมเปลือกแข็ง ผลไมเปลือกนิ่ม ในชวงตนของบทนี้เราไดแบงสัตวเลี้ยงลูกดวยนมที่กินพืชออกเปนสามกลุมดวยกัน โดยแบงตาม ความชอบของสัตวชนิดนั้นๆ คือ 1. สัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานมกลุมกินหญาเปนอาหารหลัก สัตวกลุมนี้เปนสัตวที่อยูอาศัยในทุงกวาง ซึ่ง การกินอาหารตองกินใหเร็วโดยใชฟนตัดที่ยาวเพื่อกัดและเคี้ยว จากนั้นจึงหลบเขายังบริเวณที่ปลอดภัย การยอยอาหารจึงมีขบวนการอื่นเขารวมคือการนําอาหารมาเคี้ยวซ้ําอีกครั้งคือการเคี้ยวเอื้อง การยอย ดวยแบคทีเรียที่สวนซีกั้มหรือโคลอน หญาเปนอาหารที่หยาบ มีเยื่อใยมาก ในชวงที่หญามีจํานวน มาก สัตวจึงมีการสะสมอาหารเหลานี้ไวในรูปของไขมันเพื่อเก็บไวใชในชวงฤดูหนาว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
84
ใหเปรียบเทียบอาหารของกลุมสัตวกินหญาทีก่ ลาวในชวงตอไปกับสัตวชนิดเดียวกันที่อ ยูในสวนสัตว ของคุณ
1.1 . กลุมไบซัน วัว วิลเดอรบีท แยค โดยสัตวกลุมนี้เปนสัตวที่มีการ 4 กระเพาะและมีการเคี้ยวเอื้อง อาหารที่ใหอาจเปน หญาสด พืชกินหัวและขาวโอท แบบที่ 2 หญาแหง 59 % พืชกินหัว 25% และอาหารเม็ด 14-25 % แบบที่ 3 หญาแหง พืชกินหัวและอาหารเม็ด 1.2 กลุม อัลปากา ลามา กัวนาโค เจมสบอค คลายกับกลุมที่หนึ่งแตสิ่งที่ตองเพิ่มคือตองเพิ่มวิตามินอี เขาไป 1 มิลลิกรัมตอกิโลกรัม (ตัวสัตว) 1.3 กลุมมาลาย มา บาน ลา แรดขาวซึ่งมีขบวนการยอยดวยแบคทีเรียที่ลํา ไสใ หญอาหารสวนซีกั้ม การเลือกใชอาหารเม็ดควรเลือกอาหารเม็ดที่มาจากมา 2. สัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานมกลุมที่กินใบไมเปนอาหารหลัก สัตวเหลานี้จะอยูในพื้นที่ที่เปนปาที่มีลักษณะเปนไมพุมหรือ ปาละเมาะ โดยเลือกกินใบไม กานและผลไม โดยสวนตางๆที่กลาวมามีคุณคาทางอาหารมากกวาหญา และชอบสวนที่ออนมากกวา สวนที่แก
ใหเปรียบเทียบอาหารที่ใหกลุมสัตวกินใบไมที่ใหขอมูลไวขางลางนี้กับสัตวกลุมเดียวกันที่อยูในสวน สัตวของคุณ
2.1.ในกลุมเกง กวางปามาเลเซีย แกะ คูดู แบ็คบัค อีแ ลนด เปนสัตวมีกระเพาะอาหารสวนรูเมน สวนกลุมนี้กิน แบบที่ 1 ใบไม กิ่งไมออนของตนไม แบบที่ 2 พืชตระกูลถั่วแบบแหง 45 % พืชกินหัว 23 % และอาหารเม็ด 14-23 % การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
85
2.2 กลุม อูฐ ยีราฟ ความตองการอาหารจะคลายกับกลุมที่ 1 แตมีความตองการวิตามินอี ในปริมาณ 1 มิลลิกรัมตอ 1 กิโลกรัมของตัวสัตว 2.3 กลุมชาง สมเสร็จ แรดดํา แรดอินเดีย เปนสัตวกินใบไมที่มีการยอยที่สวนของซีกั้ม อาหารแบบที่ 1 คือ ใบไม กิ่งไมและเปลือกไม อาหารแบบที่ 2 พืชตระกูลถั่วอัดแหง 45 % หญาอัดแหง 7 % พืชกินหัว 23 % อาหารเม็ด สําหรับมา 25 % สัตวที่เปนตัวอยางของสัตวที่ใบไมและหญาเปนอาหารคือ แรดขาว ซึ่งเปนสัตวกินพืชที่กินหญาเปนอาหารหลัก โดยมีลักษณะของริมฝปาก บนเปนรูป เหลี่ยม ชวงการกินอาหารจะผงกหัวลงเพื่อกินหญา แรดดํา ซึ่งเปนสัตวที่กินใบไมเปนอาหารหลัก ในชวงที่กินอาหาร จะแหงนหนา ขึ้นเพื่อกิน ใบไม 3. สัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานมที่ใชการกินมูลซ้ําเพื่อชวยในการยอย สัตวในกลุมนี้จะผานอาหารที่เปนเซลลูโลสและลิกนินไปที่สวนของซีกั้ม จากนั้นจะผานจาก ทวารในรูปของมูลที่นิ่มโดยมีแบคทีเรียและโปรโตซัวออกมาดวย มูลที่นิ่มจะถูกกินซ้ําเขา ไปผานไป ในทางเดินอาหารเพื่อที่จะผา นกระบวนการยอยอีกครั้ง เมื่อถูกยอยเปนครั้งที่ส องมูลสวนนี้จะถูก ขับถายออกในรูปของมูลแข็ง
ลองเปรียบเทียบอาหารที่ใหกับสัตวในกลุมที่กินมูลนิ่มเพื่อชวยในการยอยที่ใหขางลางนี้กับสัตวกลุม เดียวกันที่อยูในความรับผิดชอบของคุณ
3.1.หนูแฮมสเตอร หนูเจอรบิล หนูแรท หนูไมท และกระรอก - อาหารแบบที่ 1 เปนผลไมเปลือกแข็ง หรือเมล็ดพืช พืชกินหัว - อาหารแบบที่ 2 ใชอาหารเม็ดสําหรับหนู 30% ผสมกับเมล็ดพืช 10 % กินรวมกับพืชกินหัว 60 % agouti บีเวอร เมน กระตาย วอรมแบท อาหารแบบที่ 1 ชอบกินใบไม ใหมีกิ่งไมรวมอยูดวย 4. อาหารสําหรับสัตวที่กินทั้งพืชและสัตว ( Omnivorus ) สัตวที่กินอาหารในกลุมอาหารที่ 2-3-4 ของเนื้อหาในบทที่ 6 สัตวกลุมนี้จะกินพืชเนื่องจากเปนอาหาร ที่หาไดงายและลาสัตวกินเนื้อดวย การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
86
คํา วา “ omni “ มาจากคําวาภาษาลาตินที่แ ปลวา ทั้งหมด ( all ) โดยจะกินพืชและสัตวที่ ตนเองหาได ตองการอาหารประเภทเยื่อใยถึงแมตัวเองจะไมสามารถยอยอาหารได นิสัยการกินของ สัตวกลุมนี้จะกินอยางเรงรีบและจะรีบกลืนอาหารลงไป
ลองเปรียบเทียบอาหารที่ใ หแกสัตวใ นกลุมที่กินทั้งพืชและสัตวกับสัตวที่อยูในความดูแลของคุณกับ ขอมูลที่ใหขางลางนี้
4.1.หมู หมี - พืชกินหัว ใบไม กิ่งไม แมลง สัตวขนาดเล็ก เชน หนู ปลา แบบที่ 1 เมล็ดพืช 40 % พืชกินหัว 20 % ไข นมผง แบบที่ 2 อาหารเม็ด 25 % (อาจเปนอาหารสําเร็จรูปของหมู ) พืชกินหัว ใบไมและเมล็ดพืช 75 % 4.2 .ตัว แบดเจอร บีเวอร หนูหลายชนิด - แบบที่ 1 รากพืช กิ่งไม สัตวขนาดเล็ก ผลไม - แบบที่ 2 อาหารสูตร ZF 6 ( อาจใชในการเปรียบเทียบเมื่อตองการซื้ออาหารสําเร็จรูป )หรือ ใช เนื้อและขนมปง 50 % ผลไมและพืชกินหัว 40 % อาหารสําเร็จรูปสําหรับสุนัข 10 % 4.3. ลิง เชน ลิงกอลิลา ลิงอุรังอุตัง ลิงชิมแพนซี ลิงบาบูน ลิง macaque เชนลิงแสม ลิงกัง ลิงแมนดริล ตัวอยางอาหาร เชน ใบไม เมล็ดพืช ผลไม เนื้อสัตว - ใหอาหารสําเร็จรูปสําหรับลิง 20 % ( ในเมืองไทยใชอาหารสุนัขสําหรับรูปแบบเม็ดแหง ซึ่งมีหลาย ยี่หอ หลายระดับคุณภาพตามราคา ) ใบไม ผลไม ผัก เมล็ดพืช เมล็ดพืชเปลือกแข็ง 80 % - ลิงโลกใหม ในทวีปอเมริกาใต เชน มารโมเสท (marmoset ) ทามารีน ( tarmarin ) ลิงกระรอก ( squirrel monkey ) - แบบที่ 1 ใบไม ผลไม ไข แมลง กิ้งกา กิ่งไม - แบบที่ 2 อาหารสําเร็จรูปสํา หรับลิง 25 % ผักและผลไม 25 % เนื้อสดสับ ( raw chopped meat ) 25 % ไข เนย แมลง 25 % 5. อาหารในสัตวที่ลาสัตวอื่นเปนอาหาร- สัตวผูลา สัตวกินเนื้อ สัตวที่ลา ฆาสัตวอื่นเปนอาหารและกินเนื้อสัตวนั้นสดๆ เราเรียกสัตวกลุมนี้วา carnivore โดย การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
87
กินสวนกลามเนื้อ ตับ ไต กระเพาะอาหาร ลําไส สมอง และขน สวนที่สัตวชอบกินคือกลามเนื้อ ที่มีเลือดติดอยู สวนที่เปนเยื่อใยคือหนังและขน สัตวเหลานี้จะออกลาสัตวเมื่อเวลาที่หิว เมื่อกินอาหารอิ่มจะ นอนพัก ชวงที่สัตวกําลังเจริญเติบโต สัตวจะเติบโตไดดีถาถาปริมาณอาหารที่สัตวลาไดเพียงพอ แต ในสัตวที่โตเต็มที่แลวอาหารที่เหลือจากการใชกิจกรรมตางจะสะสมเปนไขมัน
ใหตรวจสอบชนิดของอาหารและปริมาณที่คุณใหกับสัตวที่กินเนื้อในสวนสัตวของคุณ
5.1 กลุมแมวและเสือ เชน เสือชีตาร จากัวร เสือดาว สิงโต เสือโครง เสือพูมา ใชเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อมา (พบวามีบางสวนสัตวไมใหเนื้อมาแกเสือโครงเปนอาหาร ) โดยเนื้อที่ใหเปนเนื้อพรอมกระดูก เพื่อใหสัตวไดใชฟนและกลามเนื้อสวนบริเวณหนามากขึ้น หรือใชอาหารแมว ผสมรวมดวยในกรณีที่ ใหเนื้ออยางเดียว (ซึ่งตองฝกใหกิน ) 5.2 ในหมาปา หมาใน อีเห็น ชะมด ใชเนื้อ รวมกับปลา ในปริมาณ 75 เปอรเซ็นต ผักและผลไม 25 เปอรเซ็นต และอาหารเสริม( วิตามินและเกลือแร) สํา หรับสัตวกินเนื้อ ใชอาหาร ZF 6 ( ดูใ น อางอิงทายบท ) 75 เปอรเซ็นต 5.3 สัตวที่กินปลาเปนอาหาร เชนแมวน้ํา สิงโตทะเล นกเพนกวิน นกที่อาศัยอยูตามชายฝงทะเล ซึ่ง ทั้งหมดเปนสัตวที่กินปลาที่จับจากทะเล ปลาที่ใหสัตวกลุมนี้จะแชในหองเย็น สารอาหารที่มีในปลา จะลดลงการใสวิตามิน โดยเฉพาะไทอามีน และตองเพิ่มเกลือทะเลใสในปลา 5.4 นาก กินปลาและเนื้อ รวมทั้งปลาไหล ตองการไขมันแบบเหลวในอาหาร อาจเพิ่มมาการีน ( เนย เทียม )เนื่องจากสัตวกลุมนี้ใชไขมันออกมาที่ขนตามลําตัวเพื่อกันน้ํา อาหารที่ใ หใชอาหารสูตร ZF 6 45 เปอรเซ็นต มาการีและไขขาว 8 เปอรเซ็นต ปลา 35 % อาหารสําเร็จรูปของลิง 12 % สัตวที่กินเนื้อเปนอาหารหมายถึงการใชโปรตีนเปนแหลงพลังงาน จะมีของเสียที่ออกมากับ ปสสาวะในรูปของไนโตรเจนและซัลเฟอร สัตวทุกชนิด ตองการน้ําสะอาดและปริมาณเพียงพอ ถึงแมวาสัตวเหลา นี้จะไดน้ํา บางสวนจากอาหาร หรือใน อาหารที่กินมีน้ําอยูมากพอ การจัดถาดใสน้ําไวใหสัตวกินยังเปนสิ่งจําเปนที่ตองกระทํา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
88
6. อาหารสําหรับนก นกเปนสัตวที่บินได สามารถเคลื่อนที่ไปหาอาหารตามแหลงอาหารได แตในสวนสัตวเรา ไมสามารถจัดหาอาหารที่มีความหลากหลายแบบที่นกอยูอิสระได
เมื่ออานการแบงชนิดของนกตามชนิดอาหารที่นกกินซึ่งแบงได 6 ชนิด และอาหารที่ใชใ น สวนสัตวของนกทั้ง 6 ชนิด ในสวนสัตวของคุณใชอาหารในลักษณะใด ก. นกที่กินเมล็ดพืช และผลไม นกในกลุมนี้เ ชน นกฟนช นกกระจอก ไกฟา นกแกว ในการบด อาหารใชบดที่กระเพาะบด ( gizzard ) ในสวนสัตวจะใชอาหารที่ประกอบดวยชนิดอาหารตอไปนี้ โดยแตละชนิดอาหารจะมีขนาด เม็ดของอาหารที่แตกตางกัน เมล็ดพืชตางๆ 50 เปอรเซ็นต ถั่วเหลือ งหรือ ถั่วลิสงปน 20 เปอรเซ็นต นมผง 20 เปอรเซ็นต อีก 10 เปอรเซ็นตเปนผลไมเชน กลวย แอปเปล มะละกอ หั่นเปนชิ้น รวมทั้งการตัดกิ่งไมเล็กๆใหนกไดกัดแทะตามนิสัยโดยเฉพาะ นกแกวที่มีนิสัยชอบกัดแทะกิ่งไมที่ใ ส เขาไป - ใชอาหารสําหรับลูกไกหรือลูกไกงวงซึ่งมีโปรตีนอยูมากสําหรับลูกนก - อาหารไกงวงสําหรับนกที่โตเต็มที่แลว ข. นกที่มีสีสรรสวยงามเชนนกฟลามิงโก นกสกาเลท ไอบิส นกแกว ตองการคาโรทีน ที่อยูใน รูปเปนผงหรือการใชแครอท ค. นกที่กินทั้งพืชและสัตว เชน นกเงือก ตองการอาหารที่มาจากพืชและสัตว ตัวอยางอาหารเชน ไข แมลง หนูขนาดเล็ก ใบไม รวมทั้งการใชอาหารสําหรับลิง ง. นกที่กินเนื้อเปนอาหาร แบงออกไดเปน 2 กลุมคือ 1..กลุมที่กินเนื้อ เชน เหยี่ยว อินทรี นกแสก อาหารที่ใหกลุมนี้เปนหนูขนาดเล็กหรือใหญ กระตาย 2..กลุมที่กินปลาเปนอาหาร เชน นกเพนกวิน นกกระทุง ใหปลาซึ่งถามีหลายชนิดจะดีกวาใหกินชนิด เดียวซ้ํากันทุกวัน การใหสัตวทั้งตัวจะมีเยื่อใยจากขนและหนัง จ. นกที่กินน้ําหวานจากดอกไม เชนนกแกวโรรี่ ในสวนสัตวใชน้ําตาลผสมน้ําและอาหารเลี้ยงเด็ก ออน ใหวางในถาดที่สามารถแขวนได แตตองมีการเปลี่ยนอาหารบอย ๆ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
89
ถาในสวนสัตวของคุณมีนกในกลุมเดียวกับนกฮัมมิ่งเบิรด ซึ่งกินเกสรจากดอกไม คุณจะใช อาหารชนิดใดและมีการเตรียมอาหารอยางไร
น้ําสะอาดเปนสิ่งจําเปนสําหรับนก การมีขนาดถาดน้ํา ในขนาดที่พอเหมาะกับขนาดของนก การลางถาดน้ําทุกวัน และน้ํามาจากแหลงที่เชื่อถือไดในเรื่องของความสะอาด การสังเกตสัตวปวยโดยใชปริมาณของอาหารที่สัตวกินเหลือเปนตัวบงชี้ ผูเลี้ยงสัตวกิจกรรมแรกของการปฏิบัติงานคือการนับจํานวนสัตววา สัตวที่อยูในการดูแลของ ตนนั้นอยูครบอยูไม ในขณะเดียวกันก็สังเกตสุขภาพของสัตว ซึ่งจุดสังเกตเชน การเคลื่อนไหวของ สัตว สีขน ผิวหนัง จมูก มูลที่ถา ยออกมา การแสดงความอยากอาหาร รวมทั้งปริมาณอาหารที่ สัตวกิน ถา เราสังเกตพบวาสัตวกินอาหารนอยลง ตองสังเกตอาการอื่นๆ เพิ่มเติมอยางใกลชิด รวมทั้งการเขียนรายงานแจงถึงอาการปวยที่เกิดขึ้นดวย อาหารสําหรับลูกสัตว
ใหเขียนถึงวิธีการดูแล ลูกสัตวออนที่ทานมีประสบการณในการเลี้ยงดูมา 2 ชนิด เราไดแบงชนิดของลูกสัตวออกเปน 1.เมื่อออกจากมดลูกจะอยูใ นถุงหนาทอ งของแม อยูใ นสภาพที่ยังโตไมเต็มที่ ตัวอยา งเชน จิงโจ โอปสซัม 2.. .เกิดในสภาพที่การเคลื่อนไหวยังไมดี ไมมีขนตามลําตัว ตัวอยางเชน หนู mice และกระตาย 3 .เกิดในสภาพที่การเคลื่อนไหวยังไมดี มีขนตามลําตัว บางชนิดยังไมสามารถมองเห็นไดในชวงแรก เชนสุนัขที่จะนอนในรังนอนที่แมสุนัขทําไว กลุมลิงจะถูกอุมโดยแม 4. กลุมที่สามารถเคลื่อนตัวไดอยางรวดเร็วและรูไดวาใครคือแม เชนหนูตะเภา กวาง หมูและแมวน้ํา
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
90
ใหเลือกชนิดของลูกสัตวที่ทานเคยดูแล โดยสาเหตุที่แมไมสามารถเลี้ยงลูกได เชน แมไมดูแ ล ลูก ลูกสัตวที่ไดรับจากประชาชน โดยใหเขียนถึงชนิดอาหารที่ให ลักษณะการเตรียมอาหาร อัตรา การเจริญเติบโต
น้ํานมและนมน้ําเหลือง สัตวเลี้ยงลูกดวยนมทุกชนิดกินนมจากแม ซึ่งน้ํานมของสัตวแตละชนิดก็มีความเหมาะสมตาม ชนิดสัตว โดยน้ํานมจะใหโปรตีนที่ยอยที่เหมาะกับการเจริญเติบโต ไขมันและคารโบไฮเดรตจะให พลังงาน ซึ่งปริมาณของสารตางๆเหลานี้จะมีความแตกตางกันตามชนิดของสัตว ชนิดสัตว
ไขมัน
คารโบไฮเดรต
วัว ลิง มา แมว กระตาย แมวน้ํา
5.2 4.1 1.7 10.5 17.5 44.0
4.7 6.9 6.8 4.1 1.4 0.8
kj/100 มิลลิลิตร ของน้ํานม 4.6 332 227 714 1117 1953
ในน้ํานมที่มีคารโบไฮเดรตหรือน้ําตาลนอยจะมีปริมาณของไขมันสูง ในน้ํานมของแมวน้ําซึ่งมี พลังงานสูงโดยมีปริมาณของไขมันอยูสูง ในมาเปนสัตวที่มีโครงสรางของทางเดินอาหารเพื่อใช แบคทีเรียยอยอาหารกลุมพืชน้ํานมจะมีคารโบไฮเดรตสูง ในสัตวกลุมลิงจะมีน้ําตาลสูง (แลคโตส ) ใหคุณเขียนประสบการณของคุณเองวา คุณเคยสังเกตหรือไมวาลูกสัตวกินนมจากแมในแตละวัน มากนอยเพียงใด ( ชวงเวลาที่ใหนมในแตละครั้ง จํานวนมื้อในแตละวัน ) หรือในกรณีที่คุณนํา ลูกสัตว มาเลี้ยงเองและลูกสัตวนั้นเจริญเติบโต แข็งแรงเปนปกติ ซึ่งมีตัวอยางในสัตวตางดังตอไปนี้ 1.จิงโจ จะเกาะติดที่หัวนมของแมซึ่งสามารถกินนมไดอยางตอเนื่อง 2.ลูกหมูจะกินนมทุกชั่วโมง โดยจะมีเตานมประจําของตัวเองและจะเขามากินโดยแมทําเสียงสง สัญญาณบอก 3.กระตายจะทิ้งลูกไวในรังและกลับมาใหนมลูกวันละหนึ่งครั้ง การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
91
4.ตัว tree shrew ใหกินนมทุกสองวัน 5..น้ํานมของแมวน้ํา เปนน้ํานมที่มีไขมันสูงซึ่งใหพลังงานไดสูง จะใหนมแกลูกสัปดาหละหนึ่งครั้ง การจัดสภาพภายในคอก จํานวนสัตว โครงสรางสังคมภายในคอก การเปดโอกาสใหแมกับ ลูกอยูตามลําพังเปนการลดความเครียดที่จะเกิดขึ้นกับแมและลูกเปนสิ่งสําคัญที่จะทําให แมแ ละลูก สรางสายสัมพันธระหวางกัน นมน้ําเหลืองคือน้ํานมที่กลไกของรางกายของแมสัตวในกลุมลิง กลุมสัตวกินพืชที่มีการเคี้ยว เอื้อง ( ruminant ) กลุมเสือและแมว ซึ่งประกอบดวย โปรตีนที่สัตวที่เกิดขึ้นใหมสามารถยอยได เปน การปรับสภาพของทางเดินอาหารใหทํางานเปนปกติ มีสารแอนไทบอดี้ที่ปกปองลูกสัตวเกิดใหมจาก เชื้อโรค สาเหตุการตายของลูกสัตว ใชวาลูกสัตวทุกตัวที่เกิดในสภาพปาธรรมชาติจะมีชีวิตรอดเติบใหญไดทุกตัว ในสวนสัตวก็ เชนเดียวกัน มักมีปญหาเกิดขึ้นเชนเดียวกัน โดยเฉพาะลูกที่เกิดกับแมที่มีลูก ครอกแรกหรือตัวแรก สาเหตุการตายของลูกในสวนสัตวเชน 1. แมขาดประสบการณในการเลี้ยงลูก 2. ไมมีน้ํานม 3. แมไมเลี้ยงลูกหรือไมยอมใหนมลูก 4. ถูกทํารายจากตัวผูหรือตัวเมียที่เดนมากกวา 5. จากความผิดปกติของลูกเอง 6. ถามีลูกสัตวหลายตัวในครอกเดียวกัน เกิดการแกงแยงเกิดขึ้นระหวางลูกสัตวดวยกัน
Q
มีสาเหตุอื่นที่เปนสาเหตุการตายของลูกสัตวที่คุณมีประสบการณ
การเลี้ยงลูกสัตวโดยมนุษย ลูกสัตวที่เราแยกออกจากแมสัตวอาจจะไมมีภูมิคุมกันที่ไดจากแม ดังนั้นสิ่งแวดลอมทั้งหมด ตองสะอาด เชน ขวดนม จุกนม - ถาสามารถหานมน้ําเหลืองไดก็จะเปนเรื่องที่ดี
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
92
- นมจากวัวเปนเปนอาหารที่ใชทดแทนได แตการปรับแตงเพิ่มเติมใหไดใกลเคียงก็เปนสิ่งจํา เปน โดยหาขอมูลถึงสวนประกอบของสัตวชนิดนั้นๆ กอนที่จะปรับแตงน้ํานมใหเหมาะสม ใหกลับไปดูตารางสวนประกอบของนมอีกครั้งหนึ่งวา ทําไมนมของสัตวชนิดนั้นจึงมีความ เหมาะสมจําเพาะสําหรับสัตวชนิดนั้น - น้ํานมผงใชในคนสามารถนําไปใชเลี้ยงสัตวกลุมลิงได - น้ํานมผงที่ใชในกลุมแมวและสุนัขสามารถนําไปใชในกลุมสัตวกินเนื้อได ความสะอาดของขั้นตอนการเตรียมน้ําและภาชนะที่ใสนมเพื่อใหลูกสัตวกินตองสะอาดและ ความรอนของนมอยูในระดับเดียวกับความรอนของเลือดสัตวชนิดนั้นๆ (นาจะหมายถึงอุณหภูมิ ปกติของสัตวชนิดนั้น ) ในขั้นตอนการเตรียมน้ํานมตองทําในอุณหภูมิที่พอเหมาะเพื่อมิใหวิตามินและ โปรตีนถูกทําลาย ในลูกสัตวที่ตองไดรับนมน้ําเหลืองแตไมไดรับเนื่องจากปญหาใดก็แลวแต น้ํานมที่ชงใหควร ลดความเขมขนลงครึ่งหนึ่ง เมื่อการใชนมชนิดนั้นไมมีปญหาทองเสีย ใหเพิ่มความเขมขนมาอยูใน ระดับปกติ การเลี้ยงลูกสัตวเปนงานที่ตองอยางตอเนื่อง ผูเลี้ยงดูตองมีความรับผิดชอบ มีความชอบใน งานแบบนี้โดยสวนตัว จุดมุงหมายของงานนี้คือสัตวนั้นตองสามารถปรับตัวเขากับสิ่งแวดลอมในกรง เลี้ยงได ดังนั้นสัตวควรไมมีความผูกพันยึดติดกับคนมากเกินไป การหยานม เมื่อลูกสัตวมีการเจริญเติบโตขั้นตอนการเปลี่ยนอาหารจากนมไปเปนอาหารตามธรรมชาติจะมีแ ม สัตวเปนผูเปลี่ยน ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีความซับซอ นมากขึ้นในสัตวที่กิ นเนื้อเปนอาหาร ซึ่งตองมี ขบวนการเรียนรูที่จะลาเหยื่อดวยตนเองในปาที่ตนเองอาศัยอยู โดยลูกสัตวจะมีแมเปนผูสอนวิธีการลาเหยื่อ โดยลารวมกับสมาชิกตัวอื่นๆในฝูง ซึ่งสัตวเหลา นี้ จะสามารถลาสัตวไดโดยตนเองเมื่อถึงชวงอายุตัวเต็มวัยพอดี ซึ่งมันอาจตองโดนไลออกจากฝูงหรือ ตองยอมเปนลูกฝูงในอันดับที่รองลงมา ในกลุมสัตวกินพืช (ทั้งกินหญาและกินใบไม ) การเปลี่ยนอาหารจากนมมาเปนพืชไมซับซอน ในชวงที่ยังกินนมอยูนมจะผานไปยังอโบมาซัมโดยที่ไมผานรูเมน ซึ่งการเกิดกรณีที่นมเขาสูรูเมนอาจ เกิดขึ้นไดในกรณีการเลี้ยงลูกสัตวถูกเลี้ยงโดยคน ทําใหเกิดอาการมีลมมากกวาปกติในกระเพาะอาหาร
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
93
ใหเขียนสิ่งเหลานี้ลงในสมุดจดขอความสําคัญ - ยกตัวอยางลูกสัตวในแตละกลุมลักษณะที่มี 4 กลุมดวยกัน - ใหเขียนสวนประกอบของน้ํานมในสัตวแตละชนิดที่มีในหนังสือเลมนี้เพื่อใหเห็นวาน้ํานมของสัตว แตละชนิดนั้นมีความแตกตางกัน - ใหเขียนขอมูลที่คุณรูถึงความถี่ที่ลูกสัตวกินอาหารจากแม - ใหเขียนถึงการใชน้ํานมจากสัตวตางชนิดเพื่อใชทดแทน ใชจากสัตวชนิดใด มีการปรุงแตงเพิ่มเติม เพื่อใหไดสวนประกอบใกลเคียงกับชนิดนั้นอยางไร ใชความเขมขนเทาไหร (อัตราสวนของน้ําและนม )และตองมีการเพิ่มน้ําตาลเขาไปหรือไม - ใหเขียนชวงอายุของลูกสัตวที่หยานม ที่คุณทราบ
ใหคุณเขียนประสบการณถึงชวงการเปลี่ยนอาหารจากนมมาเปนอาหารที่กินในชวงโตเต็มที่แลว
การบาน ใหคุณกลับไปตรวจในสมุดเขียนขอความสําคัญ( neat book ) วาคุณเขียนขอความเหลานี้แลวหรือยัง 1 คําวา DART ซึ่งหมายถึง dry – age – rodent - turnover 2 ในสมุดเขียนขอความสําคัญมีความตองการของอาหารของรางกายรางการคือเพื่อการเจริญเติบโต พลังงานในการทํากิจ กรรมตาง สุข ภาพแข็งแรงเพื่อ ตอสูกับเชื้อโรค น้ํา ในรางกายเพื่อ ใหกลไกใน รางกายที่อาศัยน้ําเปนไปโดยปกติ 3.สิ่งที่เปนตัวบงชี้ถึงคุณภาพอาหารที่คุณใหสัตวกินมีความเหมาะสมหรือไม สัตวกินอาหารนั้น ดูสีขน ดูมูลที่สัตวถายออกมา ดูพฤติกรรม 4. คุณไดเขียนขอความในเรื่องเหลาครบถวนแลว - ลูกสัตวที่เกิดใหม - การหยานมของลูกสัตว - ในสัตวกลุมตอไปนี้ใหคุณยกตัวอยางอาหารที่คุณใหแกสัตวของคุณคืออะไร 1.สัตวกินพืช 2.สัตวกินทั้งพืชและสัตว การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
94
3.สัตวกินเนื้อ 4.นก ใหคุณเลือกชนิดสัตวที่คุณมีขอมูลสัตวชนิดนี้เปนอยางดีแลวตอบคําถามตอไปนี้ 1.อาหารที่สัตวชนิดนี้กินในธรรมชาติ 2.อาหารที่คุณใหสัตวชนิดนี้กินในสวนสัตว 3.คุณจัดหาอาหารเหลานั้นมาไดอยางไร (ซื้อ ปลูกเอง ) 4.คุณมีการจัดวางอาหารอยางไรแกสัตว 5.การตรวจสอบคุณภาพอาหารทําไดอยางไร 6.คุณตรวจสอบอาหารวาอาหารที่คุณใหแกสัตวเหมาะสมแกสัตวอยางไร
เพิ่มเติมจากหนังสือ MERK ฉบับพิมพครั้งที่ 5 นกน้ํา ( Aquatic Bird ) -..นกเพนกวิน นกกระทุง ( pelican ) กินปลาหลายชนิด ปลาหมึก กุง ในสวนสัตวจะใช ปลาชนิด ตางๆ เชน smelt, capelin, herring, mackerel, whitingและปลาหมึก - คุณภาพปลาเปนสิ่งสําคัญ ( การตรวจสอบคุณภาพปลากอนที่จะเอาเขาตูแช การแชปลา คุณภาพ ของตูแช การละลายน้ําแข็งกอนใหสัตวกิน ) - การใหปลาทั้ง 2 ชนิดหรือมากกวาจะดีกวาเนื่องสัตวจะไดสารอาหารที่ครบถวนมากกวา - นกเพนกวินตองเพิ่มเกลือทะเล ไขมันไมอิ่มตัว วิตามินดี - เกลือทะเลจะทําใหตอมเกลือของนกเพนกวินทํางานเปนปกติ ในปริมาณ 0.5-1.0 กรัมเกลือทะเล/ นก/วัน - กรดไขมันแบบไมอิ่มตัว ( polyunsaturated fatty acid ) ชวยบํารุงระบบสืบพันธุและการผลัดขน (molting ) โดยการใหน้ํามันพืชแบบน้ํามันจากขาวโพด ( corn oil ) 2-3 ซีซี/ ตัว/วัน - ใหวิตามีนดี 3 250-500 IU/กิโลกรัมของปลา ใหกับนกที่ไมคอยไดสัมผัสกับแสงแดด - ในฤดูผสมพันธุใหแคลเซี่ยมคารบอเนตหรือไดแคลเซี่ยมฟอสเฟตเพื่อชวยในการสรางเปลือกไข ของนก - นกฟลามิงโกใชอาหารสําเร็จรูปของปลา Trout ขนาดเบอร 4 + อาหารเม็ดลูกเปด + อาหารลูกไก + อาหารเม็ดสุนัข + สารเพิ่มสี แคโรทีน( carotenoid ) - นกน้ํากลุมเปด ( Duck ) จะกินอาหารสําหรับเปด หรือ อาหารเม็ดสําหรับไกฟา สับรวมกับ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
95
ผักใบเขียว อาหารเม็ดสําเร็จรูปสุนัข ใชในนกเปดกลุมดําน้ําเพื่อหาอาหาร ( diving duck ) นกพิราบ เปนนกที่กินเมล็ดพืช อาหารที่มีขายสําเร็จรูปจะอยูในลักษณะเมล็ดพืชหลายชนิดผสม กัน นกแกว - นกแกวที่กินเมล็ดพืชขนาดใหญ เชนนกแกวมาคอว นกแกว parrot นกกระตั้ว ใหเมล็ดทานตะวัน ( sunflower ) เมล็ดพืชกลุมดอกคําฝอย ( safflower ) ขาวเดือย ( millet ) ถั่วลิสง ( peanut ) + อาหาร สําเร็จรูปของลิงหรือของสุนัข + ผลไมเชน แอปเปล กลวย สม องุน + ผักใบเขียว แครอท ขาวโพด มันเทศ อาหารเสริมเชน ไขแดงตม การใหอาหารควรแยกภาชนะระหวางอาหารแหง กับอาหารที่มีน้ํา ผสมอยูมาก -. วิตามินหรือผงเกลือแรใหไดทั้งแบบผสมน้ําและโรยเปนผงบนอาหาร -. ตัวอยางอาหารของนกแกวที่นํามาวิเคราะหคุณคาทางอาหาร โปรตีน 15-30 % แคลเซียม 0.18-1.5 % ฟอสฟอรัส 0.29-1.06 % -. อาหารที่มีปริมาณของเหล็ก ซิงค ทองแดง แมงกานิส จะมีพิษตอตัวนก -.นกแกวขนาดเล็กเชน คอกคาเทล หงสหยก เลิฟเบริด ใหอาหารสําเร็จรูปชนิดที่เปนเมล็ดพืชผสม ผสมกับผักเขียวสดหั่น ขนมปง ผลไม -. ปริมาณอาหารที่ให 10-15 % ของน้ําหนักตัว ในชนิดนกที่เล็กใหเพิ่มมากขึ้น นกอินทรีและเหยี่ยว - .กลุมนก นกแรง ( vulture ), เหยี่ยว ( falcon ), hawks , นกเคาแมว ( owl ),นกอินทรี ( eagle ) , kite, ใหกินสัตวทั้งตัวเชนลูกไกที่อายุไมเกิน 5 สัปดาห นกกระทา หนู นกพิราบ การใหอาหารหลายชนิด รวมกันจะทําใหสัตวกินอาหารดีขึ้น - .กลุมนก Piscivorus, Blade eagle, Sea eagle, เปนกลุมที่กินปลาเปนอาหารหลัก - กลุมที่กินแมลงเชน Kestrel การใหแมลงตองคลุกแมลงดวยผงแคลเซียมกอน - การใหกินปลาหรือลูกไก ใหเพิ่มวิตามินไทอามีน 30 มิลลิกรัมตออาหาร 1 กิโลกรัม ไมตองควัก เอาอวัยวะภายในออก - .อาหารสําเร็จรูปของนกกลุมนี้เมื่อนําไปวิเคราะหคุณคาทางอาหารมีความชื้น 55-60 % โปรตีน 40-50.0 % - นกเหยี่ยวขนาดเล็กกินอาหารตอวันประมาณ 25 % ของน้ําหนักตัว ในนกขนาดใหญจะกินอาหาร ประมาณ 4 % ของน้ําหนักตัว - การชั่งน้ําหนักนกทุกวันเพื่อตรวจสุขภาพและเปนการกําหนดปริมาณอาหารที่จะใหแกนกดวย การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
96
นกที่บินไมได ( Ratite birds ) - นกบินไมไดที่มีขนาดใหญเชน นกกระจอกเทศ นกเรีย นกอีมู นกคาสโซวารี่ อาหารที่ใ หมีอาหาร สําเร็จรูปสําหรับนกกลุมนี้ เมื่อนําอาหารนี้มาวิเคราะหหาคุณคาของอาหารมีปริมาณโปรตีน 20-24 % เยื่อใย 12-19 % แคลเซียม 1.2-2.0 % ฟอสฟอรัส 0.6-1.1 % ในนกที่อยูในชวงการวางไขใ หเพิ่ม ปริมาณแคลเซียมเปน 2.8 % - .การใชอาหารสําเร็จรูปของเปด ไก กระตาย สุนัข เพิ่มเปลือกหอย - นกคาสโซวารี่ใหเพิ่มผลไมและผักหั่นเพิ่มเขาไปดวย - ลูกนกที่มีปญหาเรื่องขาบิด ใหการลดอัตราการเจริญเติบ โดยลดอาหารที่ใหพลังงานลงและเพิ่ม ปริมาณอาหารที่ใหเยื่อใยใหมากขึ้น ( ใหลดอาหารที่มีโปรตีนสูงเชนอาหารเม็ดไก เพิ่มปริมาณของผัก ใบเขียวใหมากขึ้น ( อัตราสวนอาหารเม็ดตอผักเขียว 9 ตอหนึ่ง - ผูแปล ) - นกกีวีกินหัวใจที่ตัดเปนชิ้นคลายตัวหนอน - นกอื่นๆ เชน นกเงือก นกทูแคน นกทูแคนัท เปนนกกินผลไม อาหารที่ใหเชน large –frugivore mixture กับแมลง ผักเขียว อาหารเม็ดสุนัขหรืออาหารสําหรับนกลาเหยื่อ - นกทูแคนและนกเงือกจะเกิดปญหาเหล็กสะสม ตองพิจารณาถึงชนิดอาหารใหดี โดยตองดูถึงปริมาณ สารอาหารที่มีในอาหารชนิดนั้นดวย สัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานม การเลี้ยงลูกสัตวออน -. เลือกนมที่ทําใหอัตราการเจริญเติบโตและระบบทางเดินอาหารเปนปกติ โดยดูสูตรนมกอนที่จะ เลือกใชวามีความใกลเคียงกับสูตรนมตามธรรมชาติของสัตวชนิดนั้นๆ หรือไม - .สิ่งที่ตอ งใหความสํา คัญในการเลี้ยง เชน ปริมาณ อัตราสวนของนมและน้ํา วิธีการปอน เพื่อ ปองกันการเกิดอาหารเขาหลอดลม - ใชอุปกรณที่สะอาดและฆาเชื้อโรค - ปริมาณแลคโตสในน้ํานมของสัตวแตละชนิดจะมีความแตกตางกัน เชนกลุมแมวน้ํา กระตา ยให เลือกสูตรนมที่มีน้ําตาลต่ํา หรือในสัตวบางชนิดจะมีปญหากับการใชน้ําตาลซูโครส - สัตวกีบ ( ungulate ) ใชนมผงสําหรับใหกับลูกวัว ลูกมา แกะหรือแพะ - นมสํา หรับใหกับลูกสุนัข ( milk dog replacer ) สามารถใหไดกับสัตวใ นกลุม สุนัข (canid ) procynid, หมี (bear), คางคาว, edentata, กระตาย, หนู, - ในกลุมแมวปาใช milk cat replacer - .ในลิงใชนมที่ใชเลี้ยงมนุษย หรือใช soy – base human milk replacer การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
97
- . สัตวกีบ ( ungulate ) สัตวในตระกูลจิงโจตองไดนมน้ําเหลืองภายใน 24 ชั่วโมง -. น้ํานมเหลืองของวัวสามารถใชกับสัตวปากลุมเคี้ยวเอื้องไดหลายชนิด และนมน้ํา เหลืองสามารถแช เย็นเก็บไวได - .หากมีสัตวเ ชนแพะกํา ลังใหนมลูก สามารถนํา น้ํา นมแพะมาใหลูกแอนติโ ลพที่กํา ลังกินนมได เนื่องจากมีปริมาณไขมันในน้ํานมที่ใกลเคียงกัน - .กลุมหมา แมว หนู กวาง ตองกระตุนการขับถายดวยการใชผาชุบน้ําอุนเช็ดบริเวณทวารและอวัยวะ เพศ - .ความถี่ในการใหนมหรืออาหาร จะขึ้นอยูกับชนิดของสัตวชนิดนั้นๆ สูตรนม น้ําหนัก อายุของตัว สัตวและแรงงานที่มี - .โดยทั่วๆ จะใหนมทุก 2-4 ชั่วโมง พลังงานที่ไดรับประมาณ 210* BW ยกกําลัง 0.75 Kcal ( BW = น้ําหนักของตัวสัตว ) - .การติดตามสุขภาพของลูกสัตวใหจดบันทึกความอยากอาหาร น้ําหนักทุกวันวันละหนึ่งครั้ง การจัด การลูกสัตวตองใหความสําคัญกับการลดพฤติกรรมฝงใจที่มีตอคน คางคาว - .คางคาวที่กินแมลงเปนอาหารอาหารที่เปนตัวเลือกเชน หนอน มิลเวอรม จิ้งหรีด ตัวแมลงจะมี แคลเซียมต่ํา ใหโรยที่ตัวแมลงโดยการใชแคลเซียมผง ทุกๆ 2 วัน หรือการใชโดยใชอัตราสวนแปง สาลี 40 % ผสมกับ อาหารสุนัขบดละเอียด 40 % และแคลเซียมผง 20 % - .การเสริมวิตามินใหไดโดยการหยดลงในน้ํา - การใหแมลงแกคางคาวอาจใชการยื่นอาหารใหดวยมือหรือบางชนิดฝกใหกินอาหารจากจาน - คางคาวที่กินผลไมเปนอาหารสามารถฝกใหกินอาหารเหลวจากจานได - ผลไมที่สามารถใหคางคาวกินไดเชน กลวย มะละกอ แอบเปล พีช องุน แครอท มันเทศ โรย อาหารเสริมที่ผลไมเชน นมผง ผงโปรตีน น้ํามันขาวโพด วิตามินและแรธาตุ สัตวกินเนื้อ -. การใหสัตวกินเฉพาะเนื้ออยางเดียวทําใหขาดแคลเซียม วิตามินเอและไอโอดีน - ในกลุมแมวปาตองการอัตราสวนของโปรตีนสูงและตองการวิตามินเอ มากกวาสัตวกลุมหมา โดย ตองการโปรตีน 45-50 % ไขมัน 30-35 % 3-4 % เยื่อใย 1.2-1.5 แคลเซี่ยม 1-1.2 % ฟอสฟอรัส และ วิตามินเอ 20K –40K IU วิตามินเอตอกิโลกรัม - แมวปาไมสามารถเปลี่ยนแคโรทีน ( carotene ) ไปเปนวิตามินเอได ไมสามารถเปลี่ยน ทริปโตเฟน ( tryptophan ) ไปเปนไนอาซีนได ไมสามารถเปลี่ยน ลิโนลิอิค ( linolenic )ไปเปน อาราชิโนนิคแอ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
98
ซิด ( arachidonic acid ) ได ไมสามารถสังเคราะหเทารินได ( taurine ) และตองการอารจีนีนถาหากไม มีอารจีนีน จะเกิดกรณีแอมโมเนียเปนพิษ - การใหอาหารในลักษณะนิ่มแบบที่มีสารอาหารครบถวน ( เปนลักษณะเนื้อบด แชแข็ง ) จะมีสวน ทําใหเกิดหินปูนมากขึ้น ตอ งใหกระดูกติดเนื้อ อยา งนอย 2 ครั้งตอ สัปดาห (เลือกสวนที่สัตวชอบ ) เชน เสือขนาดใหญใชสวนขาหนาของวัวหรือมา แมวขนาดกลางใชหางวัว กระดูกซี่โครงของกระตาย แมวขนาดเล็กใชหนู mice หรือ หนู rat - การใหยาในลักษณะเม็ดหรือน้ําใชเหยื่อเปนตัว เชน ไก หนู ปลา - การเพิ่มเยื่อใยสําหรับสัตวกลุมนี้โดยการเพิ่มหญาสดสับหรือใหไปทั้งแบบเต็มใบ - .กลุมสุนัข สามารถใชเพิ่มอาหารเม็ดสําเร็จรูปของสุนัขได ตองใหกระดูกดวยถาอาหารที่ใหเปนแบบ เนื้อบดที่นิ่ม ใน Fox และ Coyote ตองเพิ่มผลไมและผักเขาไปดวย - สัตวกลุม Mustelidae ( weasels, martens, skunk, otter ) และ Viverids ( ชะมด ) ใชอาหารแมวแบบ อัดกระปอง ( canned cat food, ลักษณะเปนเนื้อบด ) หรือ เนื้อ บดแบบแชแข็งสํา หรับแมว ( frozen feline diet ) และยังเพิ่มผลไม ผัก ไขตม ใน - กรณีที่ใหยาใหเขาไปในสัตวทั้งตัวเชน ปลา หนู mice ลูกไก ใหกระดูกซี่โครงสัตวเพื่อใหสัตวแทะ ชวยทําใหสุขภาพฟนของสัตวดีขึ้น - .ตัว ferret สามารถใหอาหารเม็ดแหงของแมวกินได - .สัตวในกลุม procyonids ( แรคคูน ) ใชอาหารสุนัขขนาดเล็ก ผสมกับแอปเปล กลวย แครอท ซึ่ง จะชวยลดปญหาน้ําหนักมากเกินไปได - หมีใชอาหารผสมระหวางอาหารสุนัขแบบเนื้อบด อาหารสุนัขแบบเม็ดแหง ปลาและ commercial carnivore biscuit - Black bear เชน หมีควาย ( Asiatic black bear ) sun bear เชน หมีหมา ( Malayan Sun Bear ) , Sloth bear , Spectacle bear จะใหกลวย ผักใบเขียวและอาหารสุนัขเม็ดแหง สัตวเลี้ยงลูกดวยนมที่อาศัยอยูในทะเล ( Marine Mammal ) -. ปลาเปนอาหารหลักสําหรับสัตวกลุม marine mammal ยกเวนกลุม herbivore sirenias เชน พะยูน ( dugongsและ manatee) - .การตรวจสอบปลาควรทําในชวงกอนที่จะนําปลาเขาตู ขณะที่แชในตูแชวาตูแชมีความเย็นเพียงพอ หรือไม ขั้นตอนการละลายน้ําแข็ง ชวงจะนําไปใหสัตวกินซึ่งชวงนี้ควรตองตรวจสอบปลาทุกตัว -. สอบถามจากคนสงปลาถึงชวงวันที่จับปลา ดูสภาพปลาที่นํามาสงวา เหงือกเปนสีแดงหรือไม ตายัง ไมเหี่ยว กดดูเนื้อแนน ผิวหนังไมเปอย ไมมีกลิ่นเหม็น ไมมีน้ําเนาที่ออกจากตัวปลาที่ทําการละลาย การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
99
เอาน้ําแข็งออก ตาสวนเลนสจะขาวขุนถาเก็บไวในที่อุณหภูมิต่ํากวา -30 องศาเซลเซียส ถาอุณหภูมิสูง กวา -30 องศาเซลเซียสจะทําใหเกิด peroxidative -. การเก็บปลาไวในตูแช ไมควรเก็บนานเกิน 6 เดือน ในปลาที่มีปริมารไขมันสูงไมควรเก็บไวเกิน 3-4 เดือน เชนปลา mackerel -. ในการละลายน้ําแข็งออกจากตัวปลา ใชการวางปลาไวที่อุณหภูมิหองดีกวาการแชในน้ํา - .คุณภาพของปลาจะมีความแตกตางกันตามชนิดปลา ฤดูกาล จุดที่จับปลา - .ตัวอยางปลาเชน herring, mackerel, blue runner, capelin, anadromouse smelt - ในกลุมแมวน้ํา ( pinnipped ) อาจเพิ่ม ปลาหมึก สวนตัววอลัสกินหอยกาบ ( clam) - .ชนิดของปลาที่ใหแกสัตวควรมี 2 ชนิดของปลาขึ้นไป เพื่อใหสัตวไดรับอาหารที่สมดุล -. เพิ่มวิตามินไทอามีน ( วิตามินบี 1 ) 25 มิลลิกรัมตอน้ําหนักปลา 1 กิโลกรัม การเพิ่มวิตามินอีใน ปลาเนื่องจากเนื้อปลาจะเกิดขบวนการ oxidative destruction และขบวนการ peroxide formation โดย ที่ปลาที่มีไขมันมากจะเกิดขบวนการ oxidative destruction ไดมากขึ้น โดยเพิ่มวิตามินอีในปริมาณ 100 IU/ ปลา กิโลกรัมตอวัน - .การเพิ่มเกลือ( Nacl ) ในปริมาณ 3 กรัมตอน้ําหนักปลา 1 กิโลกรัม ในสัตวกลุมแมวน้ํา ( Pinniped ) ที่อยูในน้ําจืดเพื่อปองกันการเกิด กรณีโซเดียมในเลือดลดต่ํามากวาปกติและชวยใหตอม เกลือทําหนาที่เปนปกติ - .ในกลุมแมวน้ํายังตองเพิ่มวิตามินซีและวิตามินเอเขาไปในอาหารดวย - .ปริมาณอาหารที่จะใหกับสัตวขึ้นอยูกับปริมาณของไขมันที่มีในตัวปลา อุณหภูมิของน้ํา กิจกรรม ของสัตว เชนในปลาโลมา ( dolphin ) ใหปลา 7-10 กิโลกรัมตอวัน ในแมวน้ําที่โตเต็มที่แลวใหปลา วันละ 5-8 % ของน้ําหนักตัว สัตวกลุมลิง ( Primate ) -.ในปจจุบันมีอาหารที่ทําสําเร็จรูปขายมีหลายรูปแบบ เชน ในรูปขนมปงแหง monkey biscuit, canned primate feed , marmoset diet แตเมืองไทยมีการใชนอย สวนใหญจะใชอาหารสุนัขเปนสิ่ง ทดแทน - .การใหผลไมหลายชนิดรวมกันและผัก เชน แอปเปล กลวย แครอท มันเทศ สม โดยใหอัตราสวน ของผลไม นอยกวา 25 % ของอาหารทั้งหมด - .อาหารสวนใหญตองเปนอาหารที่มีสารอาหารครบถวนเชน monkey biscuit, canned primate ( หรือ จะใชอาหารสุนัขที่สามารถหาซื้อไดในเมืองไทยที่มีขายทั่วไป ) - ลิง new world monkey เชน ลิงทามารีน ลิงมารโมเสท ตองการโปรตีนในปริมาณสูง การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
100
- ลิงเอพ เชน กอลิลา ชิมแพนซี ตองการอาหารที่มีเยื่อใยสูง มากกวา 20 % ในขณะที่อาหาร สําเร็จรูปทีใ่ หกับลิงในการทดลองจะมีปริมาณเยื่อใยประมาณ 5 % ดังนั้นตองเลือกชนิดของอาหารที่ เพิ่มปริมาณของเยื่อใยอาหารใหมากขึ้น - .ผักและผลไม เปนอาหารที่ใหพลังงานสูง ( มีน้ําตาลและแปง ) แตมีปริมาณของโปรตีนและ แคลเซียมต่ํา - .เพื่อเปนการเพิ่มรสชาดของอาหารลิง การแชอาหารในน้ําผลไมจะทําใหรสชาดของอาหารดีขึ้น เชนแช monkey biscuit ในน้ําผลไม - ชนิดของอาหารที่ใหกับสัตวกลุมลิงไดเชน โยเกิตร ไขตม องุน ถั่วลิสง ขนมปง จิ้งหรีด หนอนมิ ลเวิรม ลูกหนูอายุนอย แตในกรณีของลิงมารโมเสทการใหลูกหนูอายุนอยกินทําใหเกิดกรณี Lymphocytic choriomeningitis - .ในการเพิ่มกิจกรรมใหกับสัตวที่อยูในกรงตัวอยางที่สามารถทําไดโดยการใชอาหารเชน การโปรย อาหารภายในคอก อาหารที่ใชอาจเปนเมล็ดขาว ขาวโพดคั่ว มะพราวที่หั่นเปนชิ้นเล็กๆ เพื่อใหลิงมี กิจกรรมการเดินหาอาหารกิน - .การใชหญาแหง ฟางแหงปูในคอก ซึ่งใชเปนวัสดุปูรองแลวยังมีลิงบางชนิดกินเขาไปดวย - งดการใหอาหารที่เปนเนื้อสัตวแกลิงเอพขนาดใหญ เนื่องจากกรณีการเกิด hypercholesterolemia - . ในกลุมลิงควรใหอาหาร 2 มื้อ ในลิงขนาดเล็กจํานวนมื้อที่ใหตองใหบอยครั้งมากขึ้น - ในลิงกลุม new world monkey การดูดซึมวิตามินดีไปใชทําไดไมดี อาหารที่ใหสําหรับมารโมเสท จึงมีอัตราสวนของวิตามินดีมากกวา new world monkey ชนิดอื่นๆ การนําอาหารสําเร็จรูปที่ผลิตมา เพื่อมารโมเสทจึงไมเหมาะสมในการที่จะนํามาใหลิงชนิดอื่นๆ กิน เนื่องจากจะชักนําใหเกิดกรณีเปน พิษเนื่องจากวิตามินดี -. กลุมลิงทุกชนิดตองการวิตามินซี อาหารสําเร็จของลิงถึงแมวาจะผสมวิตามินซีมาดวย แตวิตามินซี สลายตัวภายใน 6 เดือน การเสริมวิตามินซีแบบผงหรือการใหผลไมและผักสดจะชวยใหลิงไดรับ วิตามินอยางเพียงพอ - .ลิงโคโลบัส (อยูในกลุมคาง )เปนสัตวที่ระบบการทางเดินอาหารแบบ pre - gastric fermentation in complex stomach ตองการอาหารที่มีเยื่อใยสูง ตัวอยางอาหารเชน ใชอัตราสวน 50 % high-fiber biscuit , 40 % ผักใบเขียวและใบไมสด, 10 % ผลไม การให Alfalfa pellet สามารถใหไดแบบใหกินอยางเต็มที่ ในกรณีที่ไมสามารถหาอาหารที่มี เยื่อใยสูงได การใหใบไมสดมากกวา 50 % และให monkey biscuit นอยกวา 25 % - ลิงหลายชนิดจะเกิดอาการเปนพิษจากสาร “ gluten “ ใหดูในเอกสารที่มากับอาหารวามีสวนผสม การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
101
ของ ขาวสาลี ( wheat ) ขาวไร ( rye ) หรือ oat หรือไม - สัตวกีบ ( ungulate ) - การใชหญาแหง ซึ่งสัตวที่ชอบกินเชน มาลาย ชาง ไบซัน ควายปา วิลเดอรบีท อูฐ - . สัตวที่ตองการใบไมซึ่งมีโปรตีนสูง อาหารที่สวนสัตวหาได เชน หญาแอฟฟาฟา ใชไดกับ ยีราฟ กวาง ดุยเกอร แรด สมเสร็จ ซึ่งใบไมยังใหปริมาณแคลเซียมและไนโตรเจนที่สูงกวาดวย (ใน เมืองไทยการจัดหาใบไมใหกับสัตวเหลานี้จึงตองจัดหาใหเพียงพอ หากตองเลี้ยงสัตวกลุมที่กินใบไม ตองเตรียมปลูกตนไมไวดวย ) - การวิเคราะหคุณภาพของอาหารจะเปนการชวยวางโปรแกรมอาหารไดวาตองเพิ่มชนิดของอาหาร ปริมาณที่เพียงพอ เพื่อใหสัตวไดอาหารในปริมาณและคุณคาที่เหมาะสมหรือไม - .อาหารสําเร็จรูป เมื่อจะใชอาหารประเภทนี้ ตองดูวาปริมาณของเยื่อใยของอาหารเหมาะสมหรือไม การใหอาหารเม็ดมากเกินไปปญหาที่จะเกิดตามมาเชน rumen acidosis, colic และน้ําหนัก ที่มาก เกินไป - ขนาดของอาหารเม็ด สําหรับกลุมกวาง ( cervidae ) ควรมีขนาดประมาณ 3/16 นิ้ว สวนกลุม มา สมเสร็จ ( perissodactyl ) มีขนาดประมาณ ½ นิ้ว - อาหารสําเร็จรูปของมาจะมีทองแดงสูง ( copper ) แตจะมีวิตามินอีต่ํา - อาหารวัวสําเร็จรูปมีวิตามินอีต่ํา และมีปริมาณของ non-protein nitrogen อยูสูงซึ่งสัตวในกลุมที่มี ขบวนการ fermentation ที่ hind gut ไมสามารถนําไปใชได - สมเสร็จใช omnivore biscuit รวมกับ อาหารสําเร็จของหมู -. สัตวกีบขนาดใหญ มากกวา 250 กิโลกรัม ปริมาณอาหารที่ใหอยูที่ 1.5-2.5 เปอรเซ็นตของน้ําหนัก ตัวตอวัน สัตวกีบขนาดกลางปริมาณอาหารที่ใหอยูในชวง 2-4 % ของน้ําหนักตัว ตอวัน - .เมื่อคุณภาพของหญาแหงลดลงตองเพิ่มปริมาณอาหารเม็ดใหกับสัตว - .ระดับของที่วางอาหารใหวางไวในระดับของสายตาสัตว - การวางอาหารเม็ดในสวนของคอกกักสัตวจะมีผลดี ในการกรณีที่ตองการสังเกตสุขภาพของตัวสัตว หรือในกรณีที่ตองการจับสัตวจะทําไดงายยิ่งขึ้น จํานวนทีว่ างอาหารตองวางใหมากเพียงพอเพื่อใหสัตว ทุกตัวไดมีโอกาสเขาถึงอาหารได - .การวางน้ํา ใหสัตวทุกตัวเขาถึงได การตัดใบไมสดใหสัตวกินจะเปนการลดความนาเบื่อหนาย ( Give fresh browse to relieve boredom. ) สัตวเลื้อยคลาน
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
102
-. สัตวเลือดเย็น ( poikilotermic animal ) เปนสัตวที่พึ่งพาสิ่งแวดลอมและสิ่งแวดลอมที่เหมาะสมมีอยู ชวงหนึ่ง ( ambient temperature ) รูปแบบของสิ่งแวดลอมสําหรับสัตวชนิดนั้นตองจัดการใหเหมาะสม ดวย - ปจจัยที่มีผลตอการกินอาหารของสัตวเลื้อยคลาน เชน ชวงแสง อุณหภูมิ ความชื้น วัสดุรองพื้น อุปกรณที่ตกแตงภายในคอก -. สภาพสิ่งแวดลอมเชนอุณหภูมิ ความชื้น ภายในคอกมีในระดับที่สัตวเลื้อยคลานสามารถเลือกที่จะ อยูได มีจุดหลบใหสัตวไดหลบจากสายตาของผูเที่ยวชม เพื่อลดความเครียดของสัตวลง เชน การวาง กระถางตนไม วางทอนไมใหสัตวไดซอนตัว - เหยื่อ เชน กระตาย หนู mice ลูกไก ควรใหเมื่อสัตวถูกทําใหตายแลวเพื่อปองกันกรณีเหยื่อทําราย สัตวผูลา แตงูบางชนิดที่ตองการเหยื่อในลักษณะที่ยังมีชีวิต บางชนิดที่ทราบเปาหมายของเหยื่อโดย การใชวิธีจับความรอนจากตัวสัตว - ในกรณีที่ใชเหยื่อที่แชเย็นไว ตองแชเย็นไวไมเกิน 6 เดือน ซึงมีสัตวบางชนิดที่การกินเหยื่อหรือไม ขึ้นอยูกับสภาพแหงหรือชื้นของตัวซากดวย - .สัตวบางชนิดจะกินเหยื่อเฉพาะที่ตัวเองรูจักและเคยชินเทานั้น ดังนั้นการฝกหัดและจัดตารางเพือ่ ให สัตวคุนเคยกับชนิดอาหารใหมากกวา 2 ชนิด การใชอาหารที่ทําขึ้นเองอยางเชนกรณีงูจงอางกินไส กรอกที่ทําขึ้นเองนั้น เกิดจากการฝกหัดใหสัตวกินอาหารดังกลาวตั้งแตอายุยังนอย - มีขอสังเกตที่นาสนใจคือการขาดวิตามินซีเปนสาเหตุหนึ่งของการเกิดชองปากอักเสบ - ของเสียที่สัตวเลื้อยคลานถายออกมาสวนใหญเปน uric acid สัตวเลื้อยคลานที่อาศัยอยูในน้ําจะเปน ยูเรียหรือแอมโมเนีย สัดสวนของสารที่ขับถายออกมาจะเปนสารชนิดใดขึ้นอยูกับปริมาณและความ เขมขนของอาหาร สภาพปริมาณน้ําในรางกาย ระยะเวลาของอาหารแตละมื้อ - เกาตท เกิดขึ้นเนื่องจากการสะสมของ urate crystal ในขอตอ ไต สาเหตุการเกิดยังไมทราบแนชัด ขอสันนิฐาน เชน อาหารที่มีปริมาณของโปรตีนอยูสูง ไตที่ทํางานไมเปนปกติ การขาดวิตามินเอ โปรตีนที่คุณภาพไมดี แนวทางการรักษาดวยวิธีการลดปริมาณโปรตีน แตยังวิธีที่เปนขอสงสัยกันอยู แนวทางการปองกันคือการจัดน้ําใหสัตวอยางเพียงพอ - .การสังเคราะหวิตามินจะเกิดขึ้นเมื่ออยูในชวงอุณหภูมิที่เหมาะสมและชวงแสงที่มีความยาวคลื่น 290-315 นาโมเมตร การเพิ่มวิตามินในอาหารเมื่อสิ่งแวดลอมที่มีในคอกไมเหมาะสม - สัตวเลื้อยคลานที่ตองการรับแสงแดด ถาไมไดแสงแดดจะเปนสาเหตุที่ทําใหเกิด โรคกระดูกออน ( ricket ) กระดูกหักงาย การทํางานของไตไมปกติ อาการแข็งเกร็งตามรางกาย อาการที่สัตวแสดงเชน ไมอยากเคลื่อนที่ ผอมแหง ไมกินอาหาร การวินิจฉัยโรคใหใชการถายภาพเอ็กเรย การตรวจเลือดเพื่อ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
103
หาระดับของคาแคลเซียมในเลือดอาจไมชัดเจน การฉีดวิตามินดีและแคลเซียมอาจไดผลในระยะสั้นๆ การตรวจสอบชนิดของอาหารเปนแนวทางที่ตองตรวจยอนกลับไปดู - การเกิด metestatic calcification ใน อีกัวนาเขียวสาเหตุอาจไมไดเกิดจากความเปนพิษของวิตามิน ดี โดยมีตัวอยางในอีกัวนาที่มีกระดูกหักหลายแหงและมีระดับของ 25-droxyl vitaminD3 ในระดับต่ํา การสรางสวนซอมแซมยังเกิดขึ้นได จระเข -. อาหารที่ใหสัตวกินเชน หนู ไก ปลา อาหารที่ใชเปนปลาและเนื้อ เพื่อไดอาหารที่สมดุลชนิดอาหาร ที่ใหอยางนอย 3 ชนิดขึ้นไป - ปลาที่แชเย็น ตองเพิ่มวิตามินไทอามีน 25-30 มิลลิกรัม เอลิเกเตอรสามารถยอยคารโบไฮเดรตไดแต ปริมาณที่ใหไมควรเกิน 20 % งู -. กินสัตวที่มีกระดูกสันหลัง ไมมีกระดูกสันหลังและไข -.งูในตระกูล Boids, python, vipers, colubrids, crotalids; จะกินหนู ลูกไก ลูกเปด กระตาย ถาใชเหยื่อ ที่แชเย็น เมื่อเอาใหสัตวกินตองไมเย็นจนเกินไป ระดับอุณหภูมิของเหยื่อตองเทากับอุณหภูมิหองหรือ อุนๆ จะดีกวา - .งูในตระกูล king cobra, hog-nose, ตองการกินอาหารที่เปนสัตวเลือดเย็น เชนงูชนิดอื่น ๆ ตัวอยาง งูจงอางชอบกินงูสิง - ขนาดของเหยื่อตองเหมาะสมกับขนาดของตัวงู - . เพื่อเปนการปองกันการเกิดการอาเจียน ปลอยใหอยูตัวเดียวและงดการสัมผัสตัวงูอยางนอย 3 วัน - .งูสวนใหญจะกินอาหารทุกๆ 1-2 สัปดาห ถาเปนงูที่มีกิจกรรมนอยระยะหางระหวางมื้ออาจมากกวา 4 เดือน Turtle เตาน้ํา เปนสัตวเลื้อยคลานที่อาศัยอยูในน้ําจืดหรือน้ําทะเล มีกระดองที่มีลักษณะเปนหนังหุม และแบบที่ลักษณะคลายกระดูก ขามีลักษณะเปนใบพายเพื่อเหมาะกับการวายน้ํา ( n.1 a marine or freshwater reptile with a bony or leathery shell and flippers or webbed toes. [Many species in the order Chelonia.] ุ the flesh of a sea turtle, used chiefly for soup.) - .เตาน้ําจืดสวนใหญจะกินอาหารที่เปนสัตวและกินพืชดวย บางชนิดกินสัตวอื่นเปนอาหารเมื่อเขาสูรุน หนุมสาวก็จะเปลี่ยนเปนกินทั้งพืชและสัตว และเมื่อถึงอายุโตเต็มวัยก็จะกินพืชเพียงอยางเดียว - .อาหารควรมีปริมาณโปรตีน 30-50 % ชนิดที่กินทั้งพืชและสัตวใหเพิ่มผักและผลไม การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
104
- สามารถใชเจลาตินเพื่อใหอาหารเปนเนื้อเดียวกัน Tortoises เตาบก เปนสัตวเลื้อยคลานที่เคลื่อนที่ชาบนนก อยูในเขตภูมิอากาศอบอุน มีกระดอง สามาถ ดึงหัวและขากลับเขาในกระดองได ( n. a slow-moving land reptile of warm climates, enclosed in a scaly or leathery domed shell into which it can retract its head and legs. [Family Testudinidae: many species.] ) - Tortoise เปนสัตวที่กินพืชเปนอาหารหลัก ตองการพืชเพื่อใหระบบทางเดินอาหารทํางานเปนปกติ ชนิดที่มีขนาดเล็กตองการจํานวนของมื้ออาหารที่มากขึ้น - ชนิดที่มีขนาดใหญ เชน เตาอัลดาบาหรือกาลาปากอส ให alfafa pellet ได - ตัวอยางของชนิดผักที่ใหแบบรวมกันเชน บล็อคเคอรี่ (คลายกะหล่ําดอก กะหล่ําดอก ใชคําวา cauliflower ) ถั่วเขียว ผักกาด ( lettuce ) kale แครอท - ผักและผลไมจะใหโปรตีน แคลเซียม ต่ํา พืชที่สัตวกลุมนี้เลือกกินจะมีโปรตีนมากกวา 15% - การใหโปรยเปลือกหอยหรือเปลือกถั่วลิสงเปนการกระตุนในสัตวมีพฤติกรรมการเดินกินอาหาร Lizard ( สัตวเลื้อยคลานที่มีลําตัวและหางยาว มีขา 4 ขาง เปลือตาสามารถเคลื่อนไหวได มีเกล็ด ตามลําตัว อยูซับออรเดอร ราเซอรทิเลีย ( n. a reptile that typically has a long body and tail, four legs, movable eyelids, and a rough, scaly, or spiny skin. [Suborder Lacertilia: many species.] ) - กลุมที่กินแมลงเปนอาหาร เชน day gecko, leopard gecko, whip tail, anole lizard, chameleon; จะ กินหนอนมิลเวิรม จิ้งหรีด ในกลุมที่มีขนาดลําตัวใหญ จะกินลูกหนูอายุนอยและไสเดือน -. กลุมที่กินเนื้อเปนอาหารหลัก เชน ตะกวด เหี้ย ( monitor lizard ), Gila monster, Mexican bear lizard จะกินหนูที่โตเต็มที่แลว ลูกไก และไข - กลุม ที่กินทั้งพืชและสัตว เชนอีกัวนา กินผัก แมลงและ vertebrate prey - lizard จะกินอาหารทุกวัน หรือให 2-3 วันครั้ง ถาเปนชนิดที่กินเนื้อที่มีขนาดใหญใหกิน 1-2 สัปดาหตอครั้ง - .กลุมที่กินพืชเปนอาหารตองการอาหารที่เปนพืชเพื่อใหทางเดินอาหารดําเนินไปไดเปนปกติ อาหารที่ ใหไมแนะนําการใหแมลงและอาหารสุนัข
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
105
บทที่ 8 ความปลอดภัย เนื้อหา - หลักความปลอดภัยเมื่อทํางานกับสัตว - การออกแบบสวนสัตว เพื่อความปลอดภัย - อุปกรณ - กฏเพื่อสุขภาพและความปลอดภัย - สรุปและการตรวจสอบ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
106
ความปลอดภัยคือการไมตองประสบกับสิ่งอันเปนอันตรายใดๆ ขณะที่ทํางานในสวนสัตว เรา ตองบอกกับตัวเองเสมอวา - สถานที่นี้คือที่แหงใด - อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นคืออะไร - อันตรายที่จะเกิดกับเราไดและเราจะหลีกเลี่ยงไมใหเกิดขึ้นไดอยางไร - คําเตือนใจที่วา “ ปลอดภัยไวกอน ” เปนประโยคที่ตองระลึกอยูเสมอในขณะที่ปฏิบัติงาน ทักษะของการทํางานอยางปลอดภัย กอนที่จะลงมือทํางานทุกครั้งตองทราบกอนวา - รูถึงความเสี่ยงหรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นไดมีอะไรบาง - กําหนดวิธีปฏิบัติงานที่จะกําจัดหรือการลดอันตรายที่จะเกิดขึ้น - จดจําขั้นตอนการทํางานดังกลาวใหได ในกรณีที่งานนั้นทํารวมกันหลายคน ใหชวยกันตักเตือน เพื่อนที่ทํางานรวมกัน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดกับเพื่อนรวมงานคนอื่นๆ - มีการซอมการปฏิบัติงานเปนชวงๆไป
A ในงานที่ทานทําอยูนั้น - ใหเขียนถึงงานของทานมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในรูปแบบใดบาง - ใหเขียนถึงวิธีการปองกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น - เมื่อมีผูเลี้ยงสัตวเขามาทํางานใหม อะไรคือสิ่งที่ทานจะตอ งพูดใหผูเลี้ยงสัตว ทราบถึงอันตรายที่ อาจเกิดขึ้นและวิธีการปองกันตัวเอง
ใหเขียน สิ่งเหลานี้ลงในสมุดจดงาน “ ขอคิดเพื่อความปลอดภัยในการทํางาน “ 1. อันตรายที่อาจเกิดขึ้นไดคืออะไร 2. การปองกันอันตราย การหลีกเลี่ยง ทําไดอยางไร 3. ขั้นตอนการทํางานจะตองอยางไร 4. มีการซอมการปฏิบัติงานนั้นเปนชวงๆ อยางสม่ําเสมอ
ในบทนี้ตองการใหการทํางานในสวนสัตวปลอดภัยเทาจะเปนไปได โดยใหความสนใจใน การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
107
ขบวนการที่ไดกลาวไปแลว รวมทั้งมีการตรวจสอบความปลอดภัยดวย การทํางานในพื้นที่ที่เกี่ยวของกับสัตว มี 3 หัวขอที่ตองพิจารณาคือ 1.ความปลอดภัยของเจาหนาที่เลี้ยงสัตวในขณะทํางานใกลชิดกับสัตว 2.ความปลอดภัยของเจาหนาที่เลี้ยงสัตวเมื่อตองเขาไปภายในคอกกักหรือสวนแสดง 3 ความปลอดภัยของตัวสัตวเอง ยกตัวอยางเราจะไปยิงยาสลบกับละมั่งฝูงหนึ่ง ในขั้นตอนการเขาควบคุมตัวสัตว - ตองใหระดับของการสลบเพียงพอที่เขาจับตัวสัตว เชนสัตวนอนลงในทานอนกับพื้นแลว ทีมงาน จึงจะเขาควบคุมตัวสัตว ถาเราเขาคุมตัวสัตวในขณะที่สัตวยังสลบในระดับที่ไมเพียงพอ ถาเปนละมั่ง ตัวผูอันตรายที่เกิดกับผูเขาควบคุมสัตวอาจเกิดจากเขาสัตวได - ในแงของความปลอดภัยของสัตวทั้งฝูง ในชวงที่จะสัตวตื่น การบาดเจ็บของสัตวบางตัวภายในฝูง อาจเกิดขึ้นได ถาถาสัตวตกใจตื่นทั้งฝูง การวิ่งไปมาของสัตวทั้งฝูงอาจมีบางตัวที่โดนตัวอื่นดันใหวิ่ง ในแนวที่ชนสิ่งกีดขวางเชนตนไมหรือกอนหิน ที่ทําใหเกิดการบาดเจ็บแกสัตวได - ในชวงการทําใหสัตวฟนตองมีพื้นที่ที่เพียงพอ ไมทําการฟนสัตวในบริเวณพื้นที่เปนซีเมนต ให สัตวฟนในพื้นดินและในบริเวณดังกลาวไมมีสัตวที่ปกติอยูในบริเวณ เนื่องจากตัวที่กําลังฟนยังควบ คุมการทรงตัวไมได ความรูสึกตัวยังนอยอยูมาก อาจเกิดกรณีโดนเหยียบหรือชนจากสัตวตัวอื่น ซึ่ง อาจเกิดการบาดเจ็บขึ้นได ในการวางยาสลบ ใหเตรียมตัวในเรื่องขั้นตอนการทํางานตั้งแตเริ่มตนจน กระทั่งสัตวฟนขึ้นจนสมบูรณ โดยลดอันตรายที่จะเกิดกับตอสัตวใหนอยที่สุดแลว 1.ความปลอดภัยของผูเลี้ยงสัตวในขณะทํางานใกลชิดตัวสัตว ชนิดสัตวที่เราคาดวาจะปลอดภัยจะเปนสัตวเลี้ยงเชนสุนัขและแมว ซึ่งเชื่องและคุนเคยกับเรา ที่เปนเจาของ ในแงของสัตวที่เปนอันตรายแกเราไดเราแบงเปนสองกลุมคือ 1.1. กลุมที่ชัดเจนวาดุรายและมีการทํารายที่รุนแรง 1.2.กลุมที่โดยปกติแลวไมเปนอันตราย แตการเขาทํารายเปนแบบคาดการไมได ไมแสดงอาการอะไร ใหเห็นเปนสัญญาณลวงหนา ในสัตวที่จะเปนอันตรายได เราตองทํางานดวยความระมัดระวัง แตในสัตวที่เราไมสามารถ คาดเดาอารมณวาจะทํารายเราหรือไม เชน หมา แมวที่เปนสัตวเลี้ยงที่เราหยอกเลนทุกวัน สัตวเหลานี้ เรามักบอกกับตัวเองเสมอวาเราคุนเคยกับสัตวเหลานี้ ทําใหเราลืมนึกถึงเรื่องความปลอดภัยไป ดังนั้น ไมวาจะเปนสัตวชนิดใดก็ตามตองมีความระมัดระวังเสมอ สัตวเกือบทุกชนิดมีอวัยวะบางสวนเพื่อเปนอาวุธ เชน ฟนเพื่อใชกัดในสุนัข จะงวยปากเพื่อ จิกในนก เขาหรืองาเพื่อใชแทง สัญญาณที่สัตวแสดงวาพรอมจะทําราย เชน การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
108
ดวงตา เปลือกตาหรี่ลง หู หลูลง ปาก อาปากแสดงเขี้ยวใหเห็น ขนตามลําตัวหรือขนนกที่พองขึ้น ทาทาง เชน ทาทางตัวสั่น หัวต่ําลง เสียง เสียงขู เมื่อคนเลี้ยงผานเขาไปในกรงเลี้ยง ขอสังเกตอันแรกที่ผูเลี้ยงตองมองคือ ทาทางของสัตว สัตว ที่คาดเดาอารมณไมได อารมณอ าจมีการปรวนแปรไปตามฤดูก าล อารมณทางเพศ สภาพสังคม ภายในกรงเลี้ยงที่เปลี่ยนไป ผูเลี้ยงคนใหม -
ใหคุณเขียนชนิดสัตวที่อยูในกลุมอันตรายตองทํางานดวยความระมัดระวัง และกลุมที่ปกติแลว ไมเปนอันตราย แตการเขาทํารายเปนแบบคาดการณไมได รวมทั้งเขียนอาการของสัตวที่แสดงกอนที่ จะเขาทําราย
A
ใหคุณเขียนขอมูลในสัตว 2 ชนิด ชนิดที่ 1 เปนชนิดที่คุณทราบเรื่องราวของสัตวชนิดนั้นดี
ชนิดที่ 2 คุณทราบเรื่องราวของสัตวชนิดนี้เพียงเล็กนอ ย โดยใหเขียนในหัวขอ ถามีคนเลี้ยงสัตวค น ใหมเขาไปทํางานกับสัตวทั้ง 2 ชนิดนั้น คุณจะบอกขอควรระวัง ขั้นตอนการทํางาน อุปกรณที่จะใช ปองกันตัว ข. ใหคุณสอบถามในคําถามเดียวกันกับผูเลี้ยงสัตวที่ความชํานาญ วาจะมีความแตกตางกับแนวคิดของ คุณหรือไม
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
109
2.ความปลอดภัยของผูเลี้ยงสัตวเมื่อตองเขาไปภายในคอกกักหรือสวนแสดง ทั้งกลุมสัตวอันตรายหรือ กลุมสัตวที่เชื่อใจไมไดวาจะทําอันตรายหรือไม มีแนวคิดสําหรับการตรวจสอบความปลอดภัยในการ ทํางาน เมื่อตองเขาไปภายในคอกกักหรือสวนแสดง เชน - ระบบของคอกกักและประตูที่ปลอดภัย เมื่อผูเลี้ยงสัตว เขาไปทํางานภายในคอกกัก สามารถนํา สัตวเขาออกไดโดยสะดวก ระหวางคอกกักและสวนแสดง - บริเวณที่เปดปดประตูแบบรางเลื่อนที่ควบคุมดวยคันชักอยูในบริเวณที่ปลอดภัย - กอนที่จะเขาไปทํางานในสวนแสดงสัตวตองแนใจวา สัตวทุกตัวเขาไปในคอกกักเรียบรอยแลว - คอกกักของลิงขนาดใหญเชนชิมแพนซี ลวดตาขายของคอกไมชํารุดที่สัตวเอามือลอดออกมาเพื่อ ทํารายได - ในจุดที่ตองกุญแจ ตองมีครบทุกจุดและแข็งแรงพอที่จะทนแรงสัตวไดเชน ลิงขนาดใหญ - ผูเ ลี้ยงสัตวที่เขาใหมตองอยูในการฝกสอนของผูเ ลี้ยงเกาเปนระยะเวลาหนึ่งกอนที่จะปลอยให ทํางานเพียงลําพังได หลังจากเขาใจขั้นตอนการทํางานที่ปลอดภัยแลว อุบัติเหตุมักเปนผลจากการขาดความระมัดระวัง ขาดความรอบคอบในการปฏิบัติงาน คิดถึง เรื่องอื่นๆ ความคิดไมอยูกับงานที่กําลังทําอยู ขอคิดเพิ่มเติม - ทํางานดวยความระมัดระวังและรอบคอบ - อยาทํางานที่มีความเสี่ยงหรือระบบการปองกันไมพรอม - ทําตามลําดับขั้นตอนของการทํางานที่มีไวเพื่อความปลอดภัย - ผูที่ไมมีสวนเกี่ยวของกับการทํางานไมอนุญาตใหเขาในสวนคอกกักสัตว - กอนที่ผูเลี้ยงสัตวจะเขาจัดการในสวนแสดง ตองมั่นใจวาสัตวอยูในคอกกักทั้งหมดแลว ประตูได ใสกุญแจแนนหนาแลว - เมื่อยืนอยูใกลคอกสัตวที่มีลักษณะเปนซี่กรง (เหล็กเสน) ใหระวังการโดนดึงแขนหรือขาจากสัตว เชนลิง ชะนี - อยาใหผูที่ไมเกี่ยวของในงานถือกุญแจ
Q
ใหเขียนแนวคิดเพื่อความปลอดภัยในการทํางานของผูเลี้ยงสัตวในสวนสัตวในสวนอื่นๆ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
110
ความปลอดภัยของสัตว การลดความเครียดที่จะเกิดกับสัตว ผูเลี้ยงจะตองเปนผูสังเกตพฤติกรรมสัตววา สัตวแสดง อาการตื่นกลัวหรือ ตอบสนองตอสิ่งเรารอบขาง เชน ในกรณีการซอ มแซมคอกที่มีเสียงดัง หรือ การออคเชื่อมที่เกิดประกายไฟ การใชแกสตัดเหล็กที่เห็นเปนเปลวไฟ ในตัวอยางเหลานี้ตอ งสังเกต พฤติกรรมสัตวใหดี เคยมีกรณีที่สัตวพยายามหนีจากคอกเมื่อเห็นแสงไฟจากการออคเชื่อม ซึ่งถาสัตว หลุดออกจากคอกไดจะมีปญหาหลายอยางติดตามมา การเขาจับสัตวเพื่อการขนยาย ตัวอยางเชน จะเขาจับแอนติโลพชนิดหนึ่ง โดยการยิงลูกดอก ยาสลบที่สัตวตัวเปาหมาย เมื่อสัตวสลบแลวจับสัตวเขาลังขนยาย กระบวนการทํา งานเหลานี้ สราง ความตกใจใหกับตัวอื่นๆ เราตองมั่นใจวา ความสูงของรั้วกันสัตวก ระโดดออกจากคอกได ถาสัตว โดดออกจากคอก ตัวสัตวจะอยูในสถานะที่เราจะเขาควบคุมไดลดนอยลงมาก วัตถุที่อาจจะเปนอันตรายกับสัตวไดเชน - ถุงพลาสติก ปากกา เหรียญที่สัตวกินเขาไป - ถามีกระจกแตกตองจัดการเก็บออกจากบริเวณนั้นทุกชิ้น - เชือกที่เอาเขาไปเพื่อจับบังคับสัตวตองอยาลืมไวในคอก - ตะปูที่นําเขาไปในงานซอมแซมคอกตองตรวจตราใหดีกอนที่จะจบงานชิ้นนั้น - อยานําพืชที่เปนอันตรายแกสัตวไดเชนกระถินสัตวจะตายไดถากินในปริมาณมากและตอเนื่อง - อยาใหมีวัตถุที่จะเปนตัวขวางแนวที่สัตววิ่ง เชนรั้วที่กั้นภายในคอกนกกระจอกเทศ - คูแหงที่ลึก มีสัตวบางตัวที่จะหลบเมื่อตกใจวิ่งขึ้นวิ่งลง เทาหรือขาเกิดบาดแผลกลายเปนแผลติด เชื้อเรื้อรัง - วัตถุรองพื้นที่ติดไปกับอาหารและเขาสะสมในทางเดินอาหาร - อาหารที่สัตวรับจากประชาชน - บาดแผลที่เกิดจากวัตถุในคอกที่ชํารุด เชนเสนลวดตาขายที่ชํารุด - เสนลวด เชือกฟางที่มัดหญาแหงแลวไมเก็บออกนอกคอก - ผาพลาสติกกันแดดที่หลุดลุยตองระวังการกินเขาไปของสัตว มีสัตวบางชนิดที่ไดรับอันตรายจากนิสัยตามธรรมชาติของสัตวชนิดนั้น เชนการกินหินหรือ กอนกรวด จระเข ชาง นกในกลุมที่บินไมได เชนนกกระจอกเทศ นกอีมู นกคาสโซวารี่ หรือ สัตวที่มีการเคลื่อนที่อยางรวดเร็ว โดยไมมีการการระวังสิ่งของที่มีการกีดขวางทางอยูแ ลวเกิดกรณีวิ่ง ชน เชน มาลาย กวางและแอนติโลพ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
111
A
.1.ใหคุณเขียนเหตุการณที่สัตวภายในสวนสัตวของคุณเองไดรับบาดเจ็บหรือตายจากวัตถุตางๆ 2. ใหเขียนวิธีการปองกันไมใหเหตุการณนี้ขึ้นซ้ําอีก
การออกแบบสวนสัตวเพื่อความปลอดภัย เราไดกลาวถึงการออกแบบสวนสัตวไวในบทที่ 5 แลว ซึ่งขอพิจารณาอีกสวนหนึ่งที่สําคัญคือ ความปลอดภัยของผูเที่ยวชม ตัวสัตว ผูเลี้ยงสัตว ตัวอยางเชน - เพื่อความปลอดภัยของผูเที่ยวชมในการสัญจรควรแยกทางเดินเทาออกจากทางเดินของยานพาหนะ เชนรถยนตพวง รถกอลฟ - ปายเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นไดเปนปาย 2 ภาษา เชนไทยและอังกฤษ - การบํารุงรักษาสวนสัตวใหอยูที่สภาพที่เรียบรอย เชน ทางเดินเทา บันได สะพาน ถนน ทาง ลาดชัน - แนวขอบของคอกสัตวตองมีความชัดเจน วาเปนสวนที่ผูเที่ยวชมไมสามารถเขาในสวนของบริเวณ ของสัตวหรือบริเวณเฉพาะเจาหนาที่ผูเกี่ยวของเทานั้น - ประตูที่ใชตองมีความเหมาะสมกับการใชงานทั้งที่เปนประตูของสัตวและสวนของผูเลี้ยงสัตว - พื้นคอกที่ไมทําใหสัตวลื่น - คอกสามารถปองกันสัตวที่จะเขาในบริเวณคอกเชน งูที่จะเขามากินสัตว กันหนูที่จะเขามารบกวน แยงอาหารสัตว และเปนพาหะนําโรค
ใหคุณเขียนถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวัส ดุ สิ่งของ สิ่งกอ สรา งที่เกิดขึ้นในสวนสัตว ตามประสบการณของคุณ ประตู แนวคิด - ขนาดของประตูตองมีความเหมาะสมกับขนาดของตัวสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
112
- งา ยตอ การควบคุมเปดปด แข็งแรง ทนทาน เหมาะสมกับชนิดสัตว ประตูแบงเปน 2 แบบ ใหญๆ คือ 1.ประตูแบบบานพับ ( swing door ) การใชประตูแบบนี้มีคําถามเกิดขึ้นเชน - คุณจะรูไดอยางไรวาสัตวอยูหลังประตูหรือไม ถาประตูของคุณทึบทั้งหมด - เมื่อคุณเปดประตูคุณจะตองใชพื้นที่สวนหนึ่ง - เราจะบังคับเปด-ปดประตูจากระยะไกลไดอยางไร ประตูแบบนี้เราตองอยูในบริเวณที่จับบานจับ ไดเทานั้น - ทิศทางที่ประตูจะเปดเขาไปคือเปดเขาไปในคอกหรือดันออกนอกคอก แบบไหนจะปลอดภัยกวา กันในการปองกันสัตวออก - กลอนประตู ควรจะมีทั้งสองดาน เพื่อใหสามารถปดประตูไดจากทั้งสองดาน 2. ประตูแบบที่บังคับไดจากระยะไกล ( remote door ) จะเปนประตูแบบรางเลื่อน หรือแบบกิโยติน ( บังคับปดเปดโดยดึงขึ้นลง บังคับจากลวดสลิงจากดานนอกคอกกักที่สัตวนั้นอยู ) แบบกิโยตินจะมี ขอเสียที่หากประตูใหญการบังคับตองใชแรงงานหลายคนและมีลิงบางชนิดที่จะเรียนรูการเปดปดได หรือเกิดกรณีที่เสนลวดที่บังคับขาด แบบรางเลื่อนจะมีแบบที่ใสลอดานใดดานหนึ่งที่ดานลางหรือดานบน หรือแบบที่มีลอทั้งบน และลาง มีคันบังคับการเปดปดจากบริเวณที่อยูดานนอกบริเวณที่สัตวอยู การออกแบบลอและรางตอง ใหแนนหนา มั่นคง ใชวัสดุที่ทนตอสนิม หากเปนบริเวณที่รางอยูสัมผัสกับน้ําเสมอๆ การใชกุญแจ มีคําถามที่นาสนใจ เชน 1 มีกุญแจเพียงพอกับการใชหรือไม 2 กุญแจตองมีการเปดเปนครั้งคราว เนื่องจากพบวาแมกุญแจมักจะมีปญหาเปดไมออกเมื่อไมมีการ หมุนดวยลูกกุญแจ 3 มีการเขียนเครื่องหมายที่ตัวกุญแจหรือไมเพื่อใหทราบไดทันที่วา กุญแจดอกนี้ใชกับแมกุญแจดอก ใด 3.ใครเปนผูถือกุญแจบาง 4. ในกรณีฉุกเฉิน กุญแจสํารองอยูที่ใด ผูที่ไมคุนเคยจะรูไดอยางไรวาลูกกุญแจที่ตองการอยูที่ใด 5.เมื่อลูกกุญแจหาย สิ่งที่ตองทําคืออะไร 6. ผูเลี้ยงสัตว ไมควรเอากุญแจคอก กรงกลับบานดวย ตองเก็บไวในสวนสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
113
A
ทานมีคําถามที่เกี่ยวของกับการใชกุญแจนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม
การใชอุปกรณที่ปลอดภัย การตรวจสอบและซอมแซมอุปกรณเครื่องมือ เครื่องใชตางๆ ใหอยูในสภาพที่พรอมใชงาน การปลอยอุปกรณทิ้งไวโดยไมดูแลและไมวางใหเปนที่เปนทางอาจจะกอใหเกิดอันตรายกับผูที่ผานเขา ไปในบริเวณดังกลาว ซึ่งอาจจะเปนผูที่ใชอุปกรณนั้นเองก็ได อุปกรณที่ชวยในการผอนแรง เชนรถเข็น แบบเข็นน้ํา 2 ลอที่ชวยผอนแรงในการขนหญา เขาไปในคอก ซึ่งจะชวยลดปญหาการปวดหลังหากบางวันที่คนยกใชทายกที่ไมถูกตองหรือน้ําหนัก ที่ ยกมากเกินไป เมื่อตองยกของ สิ่งที่ตองคิดกอนที่จะยกของเชน 1. ถามีของหลายชิ้นที่ตองการยกในครั้งเดียว จะมีของบางชิ้นหลนใสเทาเราหรือไม 2.เสนทางที่เราจะยกของไป มีสิ่งของกีดขวางอยูหรือไม 3.จุดที่เราจะวางของลงเปนจุดใด ในการยกของนั้น 1.ตั้งหลังใหตรง 2.อยาหมุนตัวมากเกินไป 3.เตรียมกลามเนื้อในสวนที่ตองออกแรงใหพรอม
วิธีการจัดการกับปญหาคนถูกไฟดูด มีขั้นตอนการแกไขปญหาอยางไร เขียนลงในสมุด จดขอความสําคัญ
กรณีไฟไหม วัสดุที่เปนเชื้อไฟไดดี เชน ฟางแหง พลาสติก ไม อันตรายที่เกิดขึ้นจากไฟที่มีกับคนและสัตว 1.ความรอน เปลวไฟ ที่ทําใหเกิดการเผาไหมทีผิวหนัง 2.การสําลักควันไฟ 3.การบาดเจ็บที่เกิดจากความตื่นตระหนก การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
114
ในหัวขอตอไปนี้ ใหคุณเขียนรายละเอียดลงในสมุดจดขอความสําคัญ ในการจัดการกับ กรณีไฟไหม - มีการฝกซอมดับไฟหากเกิดกรณีไฟไหมขึ้น เพื่อเปนการเตรียมเจาหนาที่ของสวนสัตว - มีกําหนดผูรับผิดชอบในการดับเพลิงใหเรียบรอย - การสรางสัญญาณ หรือ มีการสื่อสารเชนวิทยุเพื่อบอกเหตุแกเจาหนาที่คนอื่นอยางไร วาเกิดกรณี ไฟไหมขึ้น - การฝกอบรมใหเจาหนาที่รูถึงวิธีการเบื้องตนในการดับไฟทําไดอยางไร - ในอาคารมีทางออกฉุกเฉินและมีเครื่องหมายชี้ทางออกฉุกเฉิน
ความปลอดภัยของผูเที่ยวชม เราโฆษณาประชาสัมพันธใหประชาชนทั่วไปมาเที่ยวชมสวนสัตว เมื่อเราเปนผูชักชวนเขามาใน สวนสัตว สวนสัตวตองเปนผูรับรองความปลอดภัยเมื่อเขา มาเที่ยวในสวนสัตว โดยเจาหนาที่สวน สัตวทุกคนมีหนาที่ ที่ตองดูแลความปลอดภัยแกผูเที่ยวชมทุกคนที่เขามาในสวนสัตว สิ่งที่แสดงใหผูเที่ยวชมใหเห็นถึงความปลอดภัย เมื่อเขามาเที่ยวสวนสัตว โดยการจัดการ สวนแสดงสัตวที่สามารถกันสัตวใหอยูในอาณาเขตของสัตว การเที่ยวชม ทางสัญจรมีความปลอดภัย รวมทั้งลายลักษณอักษรที่แสดงไวที่บัตรและปายทางเขาวา “ สวนสัตวไดมีการจัดการเพื่อใหการเที่ยว ชมสวนสัตวแหงนี้มีความปลอดภัย “ ซึ่งเมื่อเปนขอความที่ชัดเจนแลว เจา หนา ที่ทุกคนตองรวมกัน รักษาคําสัญญาที่ใหกับผูเที่ยวชม อันตรายที่อาจเกิดขึ้นไดเชน เชนกรณีเด็กขี่จักรยานเชาและเกาะไปกับรถพวงที่วิ่งนํา เที่ยวชม ในสวนสัตว เมื่อเห็นเหตุการณเชนเราตองมีหนาที่เขา ตักเตือ น เพื่อ มิใหก ารบาดเจ็บที่เกิดขึ้นได เกิดขึ้น การแตงตัวใหผูเที่ยวชมรูวาเราคือเจาหนาที่ของสวนสัตวเปนสิ่งสําคัญ เมื่อผูเที่ยวชมตองการ ความชวยเหลือ ในกรณีตางๆ เมื่อเขามาใชบริการในสวนสัตวสามารถหาหรือทราบวาบุคคลที่เขา สามารถสอบถามหรือรองขอความชวยเหลือได คือบุคคลใด
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
115
- ผูเลี้ยงสัตวซึ่งเปนเจาหนาสวนหนึ่งของสวนสัตว มีหนาที่ตองเขาตักเตือนบุคคลที่เสี่ยงตอการเกิด อันตราย - หากเกิดอันตรายขึ้นเชนเด็กขี่จักรยานลม เกิดบาดแผล ถาบาดแผลเล็กนอย การเขาชวยเหลือชวย พาเด็กไปลางแผลในสถานที่ที่จัดเตรียมไว หรือถาเกิดกรณีที่บาดเจ็บรุนแรงการติดตอกับสํานักงาน กลางเพื่อนําผูบาดเจ็บสงโรงพยาบาลโดยเร็ว - ทั้ง 2 กรณีเปนการสรางความประทับ ใจใหกับผูเที่ยวชมวา เมื่อเขามาในสวนสัตวมีเจาหนาที่คอย ดูแลความปลอดภัยและชวยเหลือเมื่อมีเกิดปญหาขึ้น การเขาดําเนินการในการตักเตือน ควรทํา ดวยความนิ่มนวล เชนเห็นเหตุการณที่เด็ก ขี่ จักรยานเกาะรถพวงอาจเริ่มตนดวยการยกมือหามกอน ซึ่งพอเปนสัญญาณหามการกระทําดังกลาวได สัตวหลุดจากกรง มีขอควรพิจารณาดังนี้ แสดงวา คอกไมสามารถควบคุมสัตวได 1. ถาสัตวไมมีอาการตกใจดูเหมือนวาแนวรั้วจะสามารถปองกันสัตวกระโดดขามไดแตเมื่อสัตวตกใจ ความสูงของคอกที่มีกลับไมเพียงพอ ถาเกิดเหตุการณเกิดขึ้นแลวอยานิ่งนอนใจรีบแกไขเมื่อเหตุการณ สงบลงไมวาผลของเหตุการณจะเปนอยางไรก็ตาม 2.วัสดุที่เปนผนังคอกชํารุด โดยเฉพาะสวนที่เปนตาขาย ตองมีการตรวจสอบทุกเชาวามีความชํารุดเกิด ขึ้นหรือไม 3.ขนาดของซี่กรงใหญเกินไป เชนนกที่มีขนาดเล็กกวาขนาดของซี่กรง .4. ประตู ไมสามารถทนแรงของสัตวได เชนลิงชิมแพนซี 5. ประตูไมเหมาะสม สัตวใชจังหวะทีผ่ ูเลี้ยงสัตวเปดประตู สัตวใชจังหวะดังกลาวสวนออกมา 6. สัตวที่มีพฤติกรรมดุรายและมีอาวุธประจําตัว คอกกักตองมีพื้นที่สองชั้นเมื่อพนจากประตูคอกกัก แลวยังมีพื้นที่อีกสวนหนึ่ง ไมควรหลุดจากประตูแลวออกสูพื้นที่ภายนอกเลย 7. ลักษณะสวนแสดงทีส่ ัตวมีโอกาสหลุดงายเชนเกาะชะนี ความกวางของคูน้ําตองอยางนอย 3.5 เมตร และสรางสภาพเกาะใหมีรมเงา ตกแตงคอกใหเหมาะกับพฤติกรรมสัตว เมื่อสัตวหลุดออกมาเราตองทําอยางไร - การจัดการสัตวขึ้นอยูกับชนิดสัตว เชน ชะนีหรือลิง สวนมากจะขึ้นตนไม การใชลูกดอกยาสลบ ยิง เมื่อไดจังหวะที่ดี มีมือยิงลูกดอกที่ไวใจได ซึ่งตองมีการฝกยิง ใชงานเปนประจํา อุปกรณที่มี ประสิทธิภาพ จุดที่ยิงไดสวนมากจะเปนจุดที่อยูสูงของตนไม บางครั้งสัตวจะคางตองปนขึน้ ไปเอา ที่อันตรายคือสัตวจะหลนจากที่สูง ตองเตรียมอุปกรณรองรับใหดี - ปองกันไวจะดีที่สุด การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
116
ลองคุยกับที่ปรึกษาของเราในสวนสัตว วาในกรณีสัตวหลุด (ลองเขียนแผนในสัตวหลายชนิด) ไฟไหม เราจะมีวิธีจัดการกับปญหาฉุกเฉินแบบนี้อยางไร สรุป ในบทนี้ ใหแนวคิดตางๆ เพื่อใหคุณมีแนวคิดที่วา 1. ในฐานะที่เปนผูเลี้ยงสัตวใหทํางานไดอยางปลอดภัยเมื่อ เขาใกลตัว สัตว มีความปลอดภัยเมื่อเขาใน งานในคอกกักหรือสวนแสดง มีความปลอดภัยในการใชอุปกรณตางๆ 2.ใหผูเที่ยวชมที่เขามาในสวนสัตว มีความปลอดภัย 3.สัตวที่อยูในสวนสัตว ไดรับการดูแลจากผูเลี้ยงสัตวใหมีความปลอดภัย ตรวจสอบสิ่งตอไปนี้วา - คุณรูถึง “ ขอคิดเพื่อความปลอดภัยในการทํางาน “ - คุณสามารถนํา ขอคิดเพื่อความปลอดภัยในการทํางาน ไปปรับใชกับงานของคุณได - คุณรูถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการทํางานแลว วิธีการปองกัน และวิธีปฏิบัติงานที่ปลอดภัยแลว - คุณรูแลววาสัตวที่คุณทํางานอยูทํารายคุณดวยวิธีใดและถาถูกทํารายการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจะเปนรูป แบบใด - คุณรูถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องมือที่คุณใชบอยๆ อุปกรณ ไฟฟา - คุณรูวิธีการชวยเหลือคนปวยในกรณี คนเปนลมหมดสติจากอาการตกใจ ( shock ) - คุณรูวา ในฐานะที่เปนผูเลี้ยงสัตว คือสวนหนึ่งของสวนสัตวที่ตองใหความปลอดภัยกับผูเที่ยวชม - ในกรณีที่เกิดสัตวหลุด ไฟไหม คุณทราบระหัสวิทยุที่แจงใหทราบในกรณีดังกลาว - คุณเปนคนหนึ่งใชไหมเมื่อเห็นผูเที่ยวชมตองการความชวยเหลือไมวาในกรณีใด คุณเปนคนหนึ่งที่ เขาไปสอบถามและชวยเหลือดวยความเต็มใจ
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
117
บทที่ 9 ความสะอาดและการทําความสะอาด เนื้อหา --ความสะอาดและการทําความสะอาด - การปองกันการแพรกระจายของเชื้อโรค - สารเคมีที่ใชฆาเชื้อโรค - วิธีการจัดการ - โรคสัตวสูคน - สัตวตาย - ขอมูลเพิ่มเติม
สว นแสดงสัตวเปนสวนที่ป รากฏตอสายตาของผูเที่ย วชม ความสะอาดของอาคารสถานที่จึง เปน องคประกอบที่สําคัญ การจัดการสถานที่ใหสะอาดเรียบรอ ยและเปนระเบียบ ทําใหสถานที่ดูนามอง นาเที่ยวชม ซึ่งเปนหลักทั่วไปของการจัดการสวนสัตว การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
118
ความสะอาดและการทําความสะอาด - ความสะอาด ( Clean ) หมายถึงการไมมีสิ่งสกปรก - การทําความสะอาด ( Cleanliness ) คือกิจกรรมที่เอาสิ่งสกปรกออกไป - คําวา Hygiene คือการทําความสะอาด ซึ่งเปนกิจกรรมที่สําคัญในการปองกันโรค ที่จะทําใหสัตวใน สวนสัตวและผูเลี้ยงสัตวมีสุขภาพแข็งแรง การทําความสะอาดจึงเปนสิ่งสําคัญที่จะทําใหสวนสัตวเปนสถานที่ที่ปลอดภัยสํา หรับสัตว ผู เที่ยวชม และผูเลี้ยงสัตว การเก็บกวาดเพื่อเอาสิ่งสกปรกที่มีอยูในสวนสัตวออก ทําใหสถานที่ดูนามอง นาเที่ยวชม ซึ่ง เปนหลักทั่วไปของการจัดการสวนสัตว สิ่งที่ตองเอาออกจากคอกเชน เศษอาหาร เศษหญาที่สัตวกิน เหลือ มูลที่สัตวถายออกมา รวมทั้งมีวิธกี ารจัดการกับของเสียเชน น้ําลางคอก น้ําที่ออกจากสระน้ําที่มี การใชน้ําปริมาณมากเชน น้ําทิ้งจากบอแมวน้ํา เพนกวิน มูลสัตว ขน หนัง ไขมัน ทําใหเกิดกลิ่นที่ไมพึงประสงค เปนตัวเก็บเชื้อโรค เชื้อโรคคือ สิ่งมีชีวิตที่เปนตนเหตุทําใหเกิดโรค ตัวอยางเชน การแพรก ระจายของเชื้อราใชการแพรกระจายของ สปอร หรือในพยาธิโดยไขที่มีขนาดเล็ก การควบคุมการแพรกระจายจากสัตวตัวหนึ่งไปยังสัตวอีกตัวหนึ่งจึงเปนสิ่งที่มีความสําคัญ สิ่ง เหลานี้จะอยูในสิ่งสกปรกตาง ๆ การทําความสะอาดที่ตองการเอามูลและขนออกเพื่อตองการลดการ แพรกระจายเชื้อโรคเหลานี้นั้นเอง การแพรกระจายของเชื้อโรค การแพรกระจายเชื้อโรคของสัตวตัวใดตัวหนึ่งไป หรือคนใดคนหนึ่งไปยังสัตวตัวอื่นหรือคน อื่นๆ ซึ่งเชื้อโรคมีขนาดเล็ก การแพรกระจายโดยผานละอองของเหลวขนาดเล็ก ผานอากาศ ผา น พาหะนําโรคเชนยุงแมลงวัน ตัวอยางการแพรกระจายเชื้อโรค เชน 1.ในน้ําลายซึ่งจะปนเปอนในอาหาร ผานมาทางการเลียดวยลิ้น การกัด ตกคางที่ผนัง ตกคางในถวย น้ําและน้ํา 2.วัตถุรองพื้น 3.จากดินผานไปที่บาดแผล 4.ปนเปอนในทุงหญา 5.เปนละอองที่กระจายจากตัวสัตวเวลาจามหรือไอ 6.การสัมผัสระหวางตัวสัตวดวยกัน 7.แมลงวัน ยุง หอยที่เปนพาหะหรือตัวพาหะนําโรค การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
119
8.อาหารที่ปนเปอนมูลหรือปสสาวะของหนู หรือมูลของนก 9.แบคทีเรียจากมือของผูเลี้ยงสัตวผานไปที่อาหารของของสัตว 10.ผานผาที่ใชจับตัวนก จากบูตของผูเลี้ยงสัตวที่ย่ําจากคอกสูคอก การปองกันการแพรกระจายของเชื้อโรค สัตวที่มีสุขภาพแข็งแรง สัตวที่มีสุขภาพดี การจัดการทั่วไปที่จะทําใหสัตวมีสุขภาพดีจะทําใหจํานวนของเชื้อโรคที่ออก จากตัวสัตวนอยลง รวมทั้งสัตวที่แข็งแรงยังมีความตานทานตอโรคดีกวาดวย สัตวที่อยูในชวงอายุหนุมสาวจะมีความตานทานตอโรคดีกวาสัตวที่อยูในชวงอายุมาก จัดการ สัตวที่ดี อาหารที่มีคุณคาเหมาะสมและปริมาณที่เพียงพอเปนการชวยรักษาระดับความแข็งแรงของ รางกายสัตวไวได สิ่งที่ชวยในการทําความสะอาด การทําความสะอาดกรงสัตวใหสะอาด โดยการใชอุปกรณและสารเคมีตั้งแตน้ําสะอาด การ ใชสบูหรือสารเคมีอื่นๆ ตัวอยางสิ่งที่ใชทําความสะอาดเชน - ใชน้ํากับสบูเพื่อทําความสะอาดที่มือและรองเทาบูต - น้ําสะอาดสําหรับทําความสะอาดพื้นและผนัง - น้ํารอนอุณหภูมิระหวาง 25-60 องศาเซลเซียส - ไอน้ํา ที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ใชสําหรับพื้นที่เปนดิน วัสดุปูรอง - เมื่อมีการใชน้ําผสมกับสารเคมีทําความสะอาดเชนสบู น้ํายาทําความสะอาด ซึ่งตองมีการลางออก ดวยน้ําสะอาดทุกครั้ง - น้ําสะอาดจะมีประสิทธิภาพในการทําความสะอาดไดนอยกวาน้ําผสมน้ํายาทําความสะอาด น้ําที่ รอนมีประสิทธิภาพในการฆาเชื้อโรคไดมากกวาน้ําเย็น การใชน้ําเย็นมักจะใชรวมกับเครื่องฉีดน้ํา แรงดัน - การใชผงซักฟอกจะชวยลดแรงตึงผิวของไขมันทําใหการทําความสะอาดทําไดดียิ่งขึ้น การใชสาร ทําความสะอาดในลักษณะน้ํายาลางจาน ( tepol) เปนการใชที่เหมาะสมกับพื้นและผนัง - คราบไขมันการทําความสะอาดใหใชผาชุบน้ํายาทําความสะอาดเช็ดเสียกอน กอนที่จะลางออกดวย น้ําสะอาด - พื้นที่การไหลของน้ําไมสะดวก เมื่อใชน้ําลางตองกวาดน้ําที่คางอยูตามพื้นลงทางระบายน้ําใหแหง
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
120
- .สวนประกอบของคอกที่เปนเหล็ก เชน ซี่กรง ตาขายถาถูกน้ําเปนประจํา การสึกกรอนเปน สนิมจะเกิดขึ้นอยางรวดเร็ว ในกรณีนี้ตองพิจารณาใชวัสดุที่ปลอดสนิมเชน สแตนเลส แตราคาจะ แพงแตในระยะยาวจะคุมคากวา - ภาชนะใสอาหารเชนถวยของนกแกว ถาดอาหารของลิง ชะนีตองลางทําความสะอาดดวยน้ํายาลาง จานเพื่อเอาคราบไขมันออกแลวลางออกดวยน้ําสะอาด ตากใหแหงกอนที่จะนํากลับไปใชใหม ดังนั้น การมีภาชนะที่มากพอเพื่อใหมีการหมุนเวียนใช - การใชไอน้ําเพื่อทําความสะอาดพื้นที่ที่เปนดิน พื้นคอกปูน วัสดุรองพื้นคอก - น้ําสะอาดผสมกับน้ํายาทําความสะอาดสําหรับพื้นผิวทุกแบบ จากนั้นจึงลางออกดวยน้ําสะอาด - การใชน้ําผสมกับน้ํายาทําความสะอาดจะมีประสิทธิภาพในการทําความสะอาดไดดีกวา น้ํารอนจะ มีประสิทธิภาพที่ดีกวาน้ําอุณหภูมิปกติ - ถวยโลหะควรลางดวย bicarbonate of soda ในปริมาณ 25 กรัมตอน้ํา 1ลิตร ซึ่งสารชนิดนี้จะมีผล ทําลายเนื้อโลหะนอย
- การเช็ดกระจกโดยใชกระดาษหนังสือพิมพจะชวยใหการทําควาสะอาดทําไดงายยิ่งขึ้น - สวนใหญน้ํายาทําความสะอาด (detergent solution ) จะลางเอาไขมันที่อยูบนผิวหนังออก ควรใสถุง มือเมื่อสัมผัสกับน้ํายาเหลานี้ ใหคุณเขียนขอความลงในสมุดขอความสําคัญวาแตละชนิดของพื้นผิวเชน ซีเมนต พื้นดิน พื้นหญา ทราย กระจก มีวิธีทําความสะอาดอยางไร อุปกรณ น้ํายาเคมี และมีขั้นตอนอยางไร ใหคุณเขียนถึงวิธีการทําความสะอาดมา 1 วิธีที่ใชเวลาและแรงงานนอย
Q
ทําไมการทําความสะอาดจึงเปนการลดการแพรกระจายของเชื้อโรค
ทําไมเราจึงตองใชถุงมือและผาปดจมูก ชวงเวลาใดในการทํางานที่เราจะตองใชอุปกรณนี้เสมอ
น้ํายาทําความสะอาด - คําวา disinfection หมายถึงวิธีการที่กําจัดสิ่งสกปรก เชื้อโรค - สารเคมีที่ใชในการกําจัดสิ่งสกปรกนั้นเราใชศัพทคําวา disinfectant - คําศัพทที่เรียกขบวนการกําจัดสิ่งสกปรกยังมีอีกคําหนึ่งคือ sanitation การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
121
- คําศัพทที่ใชเรียกสารเคมีที่ใชทําความสะอาดและปลอดภัยกับผิวหนังของคนคือคําวา antiseptic โดยความหมายของคํานี้คือหยุดการติดเชื้อที่บาดแผล - ขบวนการที่ทําความสะอาดแบบปราศจากเชื้อ เราเรียกขบวนการนั้นวา sterilization ตัวอยางของ disinfectant ชื่อสารเคมี ชื่อทั่วไป ความเขมขน การใช Halogen -hypochlorite Chloros (ICI ) 1-5 % - ใชเพื่อฆาเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ราคา ถูก แตตองใชดวยความระมัดระวัง Hypochlorite 3–5% - กัดกรอนโลหะ ใชไมไดกับพื้นดิน Domestos หรือกับวัสดุอินทรยสารอื่นๆ Phenlos( Cresol )
- Lysol (BP)
4%
- pine oil, Jeyes, 4 % Jeypine Quaternary ammonium Nonidet( Shell ) - 0.5 % Compounds - Cetavlon (ICI ) - 1 % Ampholytic Compounds Formaldehyde ( 5 % solution of formalin )
Tego MGH
-1%
-
-
- ใชฆาเชื้อแบคทีเรียผสมน้ําสบู เพื่อ เปนน้ํายาฆาเชื้อ - ใชฆาเชื้อแบคทีเรีย ผสมในน้ําสบู เพื่อเปนน้ํายาฆาเชื้อ - น้ํายาฆาเชื้อแบคทีเรีย - ไมผสมน้ําสบู ใชกับบาดแผลที่ ผิวหนัง ใชสําหรับฆาเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ไมมีพิษตอสัตว กลิ่นฉุนแสบจมูก ราคาถูก ใชไดดี ในอากาศที่ชื้น ใชฆา เชื้อ แบคทีเ รีย ใหใชดวยตวามระมัดระวัง
น้ํ า ยาฆ า เชื้ อ โรคทุ ก ชนิดตองใชดวยความระมัดระวัง เชน ฮาโลเจน (ฮาปรคลอไรด ) บริเวณที่ใชควรมีการถา ยเทอากาศ สะดวก สวมถุงมือ ใสเสื้อผาที่มิดชิด ปองกันผิวหนัง การจัดการสัตว - การจัดการสวนสัตวที่สามารถเคลื่อนยายสัตวไปยังสวนตางๆ ของสวนแสดง เชนจากคอกกัก การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
122
ไปสวนแสดง หรือจากสวนแสดงไปคอกกักไดโดยงายก็จะทําใหการทําความสะอาดทั้งสวนของคอก กัก สวนแสดงเปนไปโดยสะดวก สามารถทําไดทุกวัน ทําใหการสะสมของเชื้อโรคลดลง - พื้น ผนัง เพดานทําจากวัสดุที่สามารถทําความสะอาดได - ใหความสําคัญกับการกําจัดหนู แมลงสาบ มด นกปา พยาธิภายนอกตางๆ เชน หมัด ไร - ภาชนะใสน้ําและอาหารตองทําความสะอาดทุกครั้งที่เปลี่ยนอาหารใหม - ภาชนะใสน้ําและอาหารลางดวยน้ํารอนและใชน้ํายาฆาเชื้อโรคที่ปลอดภัย - วัสดุรองนอน วัสดุทํารัง คอนที่นกเกาะ ตองเปลี่ยนใหมถาสภาพเริ่มเกา - แหลงที่จะเปนตัวแพรกระจายเชื้อโรค เชน พื้นดินภายในคอก รองเทา บูต สัตวใ หมที่นํา เขาฝูง สัตวที่เปนพาหะนําโรคเชน หมัด ไร ตัวอยางการปองกันการแพรกระจายของเชื้อโรค - สัตวนําเขาใหมตองแยกสวนออกจากสัตวที่อยูเดิมจนกวาจะแนใจวาจะไมมีการนําเชื้อโรคติดตอไป ยังสัตวอื่น ระยะการกักกันโรคสัตวอยูในชวง 60-90 วัน - อาหารที่สัตวกินเหลือตองมีการนําออกจากคอก เชนหญาแหงที่กองกับพื้น วัสดุรองพื้นที่เปน ดินหรือตองมีการนําวัสดุรองพื้นใหมเขาไปเพิ่มเมื่อเวลาผานไปชวงหนึ่ง - ทางเขาสูคอกสัตวแตละคอกควรมีอางน้ํายาฆาเชื้อโรค เพื่อฆาเชื้อโรคที่ติดมากับรองเทาบูต และ เมื่อจบงานในแตละวันตองลางทําความสะอาดรองเทาบูตใหสะอาด - - ผูเลี้ยงสัตวที่ทํางานกับสัตว ตองลางมือใหสะอาดกอ นรับประทานอาหารหรือกอนที่จะเตรียม อาหารใหสัตว - ผูเลี้ยงสัตวตองใชผาปดจมูกทุกครั้งที่ทํางานที่มีฝุนคลุง นี้คือตัวอยางของการปองกันการแพรกระจายของเชื้อโรคจากสัตวสูคนหรือคนสูสัตว ซึ่งขอ กําหนดเหลานี้ตองถือเปนกฎแหงความปลอดภัยที่สําคัญ การปฏิบัติตามขอกําหนดเหลานี้เปนคุณ ลักษณะที่ดีของผูเลี้ยงสัตวที่ทํางานในสวนสัตว
ใหคุณเขียนบรรยายถึงวิธีปองกันการแพรกระจายของเชื้อโรค จากสัตวสูคนและจากคนสูสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
123
ลางมือภายหลังการทํางานที่เกี่ยวของกับสัตว อยาเอามือสัมผัสกับหนาขณะที่ทํางานอยู อยากิน ดื่ม สูบบุหรี่ แตงหนาขณะทํางานกับสัตว โรคสัตวสูคน. - จุดมุงหมายประการหนึ่งของสวนสัตวคือการเลี้ยงสัตวใหมีสุขภาพแข็งแรงและลดปริมาณ ของเชื้อโรคใหนอยที่สุด - เมื่อมีสัตวปวย ในฐานะทีเ่ ราเปนผูเลี้ยงสัตวที่ดูแลสัตวนั้นและอยูใกลชิดสัตวอยู ใหเราพึง ระลึกไวเสมอวาเรามีโอกาสที่จะรับเชื้อจากสัตวนั้นได - การปวยของผูเลี้ยงสัตวไมวาจะเปนการปวยในระดับใดก็ตาม เมื่อไปพบแพทยตองบอกอาชีพ วาเราทํางานในสวนสัตว กลุมสัตวที่เราเกี่ยวของดวยคืออะไร เพื่อเปนขอมูลในการวินิจฉัยโรคดวย - ในสวนของผูบังคับบัญชาตองติดตามสอบถามอาการของผูเลี้ยงสัตวคนนั้น - ตัวอยางของโรคติดตอที่มาสูคนเชน โรค dysentery ในลิง โรคซาลโมแนลลาจาก สัตวเลื้อยคลาน - สัตวที่จากปาหรือไมทราบแหลงที่มา ตองระวังเรื่องของโรคติดเชื้อไวเสมอ ความรูสึก อันหนึ่งที่ไมเปนความจริง คือสัตวปาที่อยูอยางอิสระในปาจะมีสุขภาพดี - ดังนั้นสัตวที่เขามาใหมการใหการดูแลเอาใจใสที่จะชวยใหสัตวมีสุขภาพรางกายแข็งแรง เชน การถายพยาธิภายนอก ภายใน การจัดอาหารที่เหมาะสม รวมทั้งการกักดูอาการสัตวจนกวาจะแนใจ วาสัตวไมเปนพาหะนําโรค - เมื่อเราศึกษาโรคสัตวสูคน จะมีความรูสึกวามีโรคสัตวสูคนจํานวนมากจนเกิดความกลัวกับ การเขาจัดการกับสัตวเหลานี้ การจัดการในเรื่องการปองกันตามเนื้อหาที่ไดกลาวไปแลวเปนผลดีตอตัว ของผูเลี้ยงสัตวเองซึ่งอาจมีงานตองทํา มีขั้นตอนที่มากขึ้น แตเปนการลดความเสี่ยงที่มีใหลดลง - ตัวอยางโรคสัตวสูคนที่ตองใหความระมัดระวัง 1. ไวรัส บี ในลิงปา ตองระวังน้ําลายจากลิงปา ลิงที่เขาใหมหรือลิงที่ไมทราบแหลงที่มาโดย เฉพาะในชวง 6 สัปดาหแรก รวมทั้งลิงที่มีแผลสดที่ปลายลิ้นใหรายงานใหสัตวแพทยทราบ 2. ตับอักเสบ ทําใหเกิดอาการอักเสบที่ตับ ซึ่งเชื้อจะผานมาที่มูลสัตวและผานไปที่น้ําและอาหาร สิ่งทีตองระวังโรคนี้ ติดมาสูคนเนื่องจากสัตวที่ปวยดวยโรคนี้มักไมแสดงอาการใหเห็น 3. แบคทีเรียที่มผี ลใหคนเกิดอาการทองเสีย ซึ่งพบในสัตวหลายชนิด จะผานมาที่คนโดยการ สัมผัสดวยมือ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
124
4. นกปาและนกที่เขาใหมในกลุมนกแกว โดยเฉพาะนกหงสหยกจะเปนพาหะนําโรคในกลุมทาง เดินหายใจ เชนโรคไขนกแกว ( psittacosis) 5. เชื้อราที่ผิวหนัง เชนที่ศรีษะ ขาหนีบ เทา ดังนัน้ ในชวงที่ทํางานใกลชิดกับสัตวไมควรเอามือ มาเกาที่หัว ภายหลังทํางานเสร็จตองลางมือใหสะอาด เมื่อเลิกงานใหกลับบานเพื่อเปลี่ยนเครื่องแตงตัว อาบน้ําใหเรียบรอย กอนที่จะมีกิจกรรมอื่นๆ ตอไป เชน ตองอาบน้ําเปลี่ยนเครื่อ งแตงตัวใหเรียบรอย กอนที่จะอุมลูกออน อาบน้ําเปลี่ยนเครื่องแตงกายกอนที่ไปรวมงานสังคมอื่นๆ เนื่องจากเราสัมผัสกับ เชื้อโรคในคอกสัตวมาทั้งวัน หรือถาไมกลับบา นการอาบน้ําในที่ทํา งานและการเตรียมชุดอีก ชุดหนึ่ง เปลี่ยนใหเรียบรอย ในกรณีที่เห็นสัตวแสดงอาการคันมากวาปกติตองแจงอาการนั้นตอสัตวแพทย 6.โรคบาดทะยัก เชื้อแบคทีเรียของโรคบาดทะยักจะอยูในลําไสของมาและวัว และจะผานมาที่ พื้นดินเมื่อสัตวมีการถายมูลออกมา ดินที่ปนเปอนเชื้อโรคจะผานเขาที่บาดแผล ผูเลี้ยงสัตวที่มีบาด แผลและไมทําการลางบาดแผล ผูเลี้ยงสัตวนั้นอาจจะเจ็บปวยจากเชื้อนี้ แตสําหรับเชื้อชนิดนี้สามารถ ฉีดเพื่อสรางภูมคุมกันได ( anti toxoid ) การไปพบแพทยรวมทั้งเลางานที่คุณทํา การแจงแกผูบังคับ บัญชาถึงความบาดเจ็บที่เกิดขึ้น 7.โรคพิษสุนัขบาเปนโรคที่อันตรายที่มากับสัตวที่นําเขามา ในลิงตองการการกักโรคอยางนอย 6 เดือน เปนโรคที่รายแรงที่คนรับจากสัตวหลายชนิด คนเลี้ยงสัตวตอ งระวังการโดนกัดและการเลียจากสัตว สัตวจะแสดงอาการเปนสองแบบคือ - แบบที่หนึ่ง แสดงอาการหงอยซึมและอาการกลืนลําบาก - แบบที่สองแสดงอาการบาคลั่ง ทํารายสัตวอื่น ดังนั้นเมื่อเห็นอาการสัตวผิดปกติไปใหแจงให สัตวแพทยทราบ 8.โรคแอนแทร็กซ เปนโรคที่อันตรายถึงแมวาจะเกิดขึ้นไมบอยครั้งนักในสวนสัตว สัตวกีบคือกลุม สัตวที่เกิดโรคนี้ไดบอยครั้ง อาการที่พบคือ การตายอยางกระทันหัน มีเลือดสีดํา ไหลจากทวาร จมูก หรือทั้งสองทาง ลางมือใหสะอาดหลังทํางานกับสัตว - ไมสูบบุหรี่ ดื่มน้ํา กินอาหาร ใหสวมผาปดจมูกในชวงที่ทํางานใกลสัตว - รายงานการเจ็บปวยใหผูบังคับบัญชาทราบ - เมื่อไปพบแพทยตองแจงใหแพทยทราบถึงลักษณะงานของคุณเอง -
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
125
การแยกสัตวและการกักโรค เปนวิธีการปองกันโรคติดตอในสัตว ในกรณีของสวนสัตวการรับสัตวเขามาใหม สัตวตัวนั้น อาจจะปวยไดจากความออนเพลียและเครียดจากการเดินทาง โดยขั้นตอนการกักโรคตองทําภายใตขบวนการที่ถูกตองและอยูภายใตการควบคุมของเจาที่ทาง ราชการ เมื่อ ไดปฏิบัติต ามขั้นตอนทุก อยา งแลว ทั้งการสัง เกตอาการและการตรวจสอบทาง หองปฏิบัติการก็เปนการยืนยันวาสัตวนั้นมีสุขภาพดีปลอดโรคที่จะติดตอไปยังสัตวตัวอื่นๆ หลายประเทศมีกฎหมายที่รัฐบาลมีอํานาจที่จะควบคุมการแพรกระจายของโรคระบาดที่เกิดขึ้น ในสัตวปศุสัตว ซึ่งการเขาควบคุมตองมีหลักฐาน (การประกาศเขตพืน้ ที่เปนเขตโรคระบาด ) ขอมูล ที่ยืนยันชัดเจนวาสัตวนั้นมีการติดเชื้อจริงจึงจะสามารถเขา ควบคุมโดยถูกตองตามกฎหมายได เชน หามมีการนําสัตวออกนอกประเทศในโรคพิษสุนัขบา ในกรณีโรคปากและเทาเปอยใหทําลายสัตวที่มี การติดเชื้อและแสดงอาการชัดเจน ซึ่งขบวนการเหลานี้ตองการความเอาใจใสจากผูเลี้ยงสัตวเอง การเกิดเขตควบคุมโรคติดตอ ในสัตว เปนสิ่งที่มีผลกระทบตอสวนสัตวในหลายระดับเชน ถาสวนสัตวอยูในเขตที่มีการระบาด สวนสัตวตองถูกสั่งใหปดสวนสัตวซึ่งเสียหายตอรายไดหรือการ เกิดโรคระบาดขึ้นผูเที่ยวชมจะเกิดความไมมั่นใจถึงความปลอดภัยในการเขา ชมสวนสัตว รายไดที่ เกิดขึ้นจะลดลงอยางเห็นไดชัด ตัวอยางเหตุการณที่เกิดขึ้นจริงคือเมื่อเกิดวิกฤติก ารณไขหวัดนก ที่มี สวนสัตวบางแหงตองถูก สั่งปดและตองใชเวลานานที่จะเรียกความมั่นใจใหกับผูเที่ยวชมกลับมาใช บริการอีกครั้ง หรือแมแตในชวงที่มีก ารระบาด สวนสัตวที่ไมไดมีคําสั่งใหปดสวนสัตวก็ไดรับ ผลกระทบไปดวยเมื่อเกิดความตื่นกลัวในหมูของผูเที่ยวชมเกิดขึ้น การจัดการคอกสัตวที่ส ะอาด มีการจัดการสัตวที่ถูก ตอง สัตวดูมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ บริเวณทั่วไปที่สะอาดทุกๆวัน ไมวาผูเที่ยวชมเขามาเที่ยวเมื่อไหร เปนสรางความมั่นใจแกผูเที่ยวชม วา การจัดการของสวนสัตวนี้ดีไดมาตรฐาน นี้คือการสรางความมั่นใจที่ตองสรางใหไดทุกครั้งที่ผู เที่ยวชมเขามาในสวนสัตว
ใหคุณเขียนชื่อสัตวที่คุณตองใหการระมัดระวังในเรื่องโรคสัตวสูคนลงในสมุดจดขอความสําคัญ
-
ใหรายงานแกผูบังคับบัญชาทราบในกรณีถูก สัตวกัด ขวน หรือการบาดเจ็บที่ผิวหนังจาก สัตวที่คุณดูแลอยู
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
126
เมื่อจะตองไปทํางานตอหลังจากที่ไปพบแพทยแลว การปกปดแผลใหมิดชิดกันฝุนหรือสิ่ง สกปรกอื่นๆเปนสิ่งที่จําเปน - ลางมือทุกครั้งหลังการทํางานกับสัตว - อยาเอามือขยี้ตาหรือเขาหองน้ําโดยที่มือยังไมไดลาง หลังหรือระหวางที่ปฏิบัติงานอยู - อยาสูบบุหรี่ กินอาหาร ดื่มน้ํา ขณะที่ทํางานอยูในบริเวณคอกสัตวหรือจากมือที่ยังไมไดลาง ใหสะอาด - สวมหนากากเมื่อทํางานในลักษณะงานที่มีฝุนหรือตองทํางานกับสัตวที่ฝุนออกจากตัวมากเชน นกกระตั้ว - การเขาจัดการกับสัตวปวย ตองใสถุงมือ ถามีบาดแผลตองปดบาดแผลใหเรียบรอ ย ลา งมือ ทุกครั้งเมื่อเสร็จงาน -
สัตวตาย สภาพแวดลอมในสวนสัตวมีการจัดการที่ไมมีศัตรูผูลา มีการจัดการดานการสุขาภิบาล ดาน อาหาร การปองกันโรค ดังนั้นสัตวในสวนสัตวชนิดที่สามารถปรับตัวเขากับสภาพของสวนสัตวได จะ มีอายุยืนยาวกวา สาเหตุของการตายกอนอายุขัยมีสาเหตุ เชน - ถูกทํารายจากสัตวที่อยูภายในกรงหรือคอกเดียวกัน - ลูกสัตวถูกทํารายจากสัตวตัวอื่นๆ - สาเหตุจากผูเที่ยวชมที่โยนวัตถุที่ทําใหเกิดการอุดตันในทางเดินอาหาร - โรคในจากระบบทางเดินอาหาร อาหารเปนพิษ อาหารไมยอย - อุบัติเหตุ - โรคที่เกิดขึ้นที่หัวใจและหลอดเลือด - คลอดยาก - ความเครียด - เมื่อสัตวตายจากการติดเชื้อ ตอ งเตือนตัวเองเสมอวาเชื้อ โรคที่อยูใ นตัวสัตวนั้นยังอยูในตัวสัตว อันตรายจากเชื้อโรคนั้นยังมีอยู - ดังนั้นซากสัตว มูล ปสสาวะ และสิ่งคัดหลั่งเปนสิ่งที่ผูเขาสัมผัสตองทําดวยความระมัดระวัง ตองลางมือใหสะอาดทุกครั้งที่สัมผัสซากสัตว การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
127
- ไมใหสัตวที่อยูในคอกเดียวกันสัมผัสกับซาก ใหรีบนําซากนั้นออกจากคอก - เก็บซากไวในถุงพลาสติกที่หนาเหนียว โดยใหหุมดวยถุง 2 ชั้น - นําซากนั้นทําการพิสูจนหาสาเหตุการตายหรือนําแชในตูเย็น - ผูที่จะทําการผาซากและผูชวยตองสวมถุงมือ ผาปดจมูก ผาคลุมกันเปอนใหเรียบรอย - การผาซากพิสูจนควรทําโดยผูมีประสบการณและมีการวิธีการทางวิทยาศาสตรเขาชวยเชน การเพาะเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส มีการจดบันทึก ถายภาพเปนหลักฐาน รวมทั้งการตีพิมพเผยแพร เพื่อเปนการปรับปรุงการจัดการสัตวชนิดนั้นๆใหดียิ่งขึ้น - ปญหาที่มักเกิดขึ้นที่มีความเกี่ยวของกับกรณีสัตวตาย 1.สัตวบางตัวที่มีอายุมากอยูในสภาพที่เจ็บปวดและไมสามารถรักษาใหมีสภาพที่ดีขึ้นได แนวทางจัด การมีอยู 2 ทางคือ ปลอยใหสัตวนั้นตายไปตามสภาพหรือการใชวิธีเมตตาฆาตซึ่งขึ้นอยูกับชนิดสัตว และการตัดสินของผูที่เกี่ยวของทั้งหมด ถาสัตวตัวนี้อยูในปาอาจตายตกเปนเหยื่อของสัตวชนิดอื่นหรือ ตายจากสภาพรางกายที่เสื่อมจนทรงสภาพไมไหว 2.มีสัตวบางชนิดที่สามารถออกลูกเพิ่มจํานวนอยางรวดเร็ว จนกระทั่งพื้นที่ในสวนแสดงไมเพียงพอ เชน กวาง แอนติโลพ โดยเฉพาะเพศผูเมื่อ โตเต็มที่แ ลวการตอสูระหวา งกันจะเกิดขึ้น ซึ่งก็จะ เหมือนกับการตอสูที่เกิดขึ้นในปาที่แยงชิงอาณาเขตกัน สิ่งที่ทํา ไดคือการขนยายไปยังสวนสัตวอื่นที่ ตองการสัตวชนิดนั้นไปจัดแสดง หรือถามีโครงการที่จะปลอยสัตวนั้นเขาสูปา หากมีวิธีการที่จะตอง ทําตอเนื่องไปอยางถูกตองและเหมาะสมแลว ถาไมมีแนวทางทั้งสองวิธีดังกลาวการลดจํานวนสัตวลง ดวยการเมตตาฆาตก็เปนวิธีการแบบหนึ่งที่จะควบคุมประชากรสัตว ซึ่งเรื่อ งนี้ตอ งไดรับการรับรอง จากนโยบายของหนวยงานนั้นๆวาวิธีการเปนสิ่งที่ส ามารถปฏิบัติได ตองผานการอนุญาตจากเปน ลําดับชั้นใหถูกตอง
เนื้อหาเพิ่มเติม สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เปนสาเหตุของการเกิดโรคแบงเปน 4 กลุมคือ แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัว สิ่งมีชีวิตขนาดใหญที่เปนสาเหตุของโรคเชน พยาธิ แมลงเชนเห็บ หมัด ไร ที่เปน พาหะนําโรค - แบคทีเรีย เปนสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กที่ส ามารถเพิ่มจํานวนไดอ ยางรวดเร็วในสภาพที่มีความชื้น เชนภายในรางกายของสัตว ในสภาพที่แหงแบคทีเรียสามาถมีชีวิตรอดไดโดยการสรา งเซลหุม ที่ แข็งแรงอีกชั้น อยูไดในดิน อาหาร อากาศ น้ําลายของสัตว ไอ จาม มูล ปสสาวะ แบคทีเรีย เปนสาเหตุของโรคอาหารเปนพิษ บาดทะยัก วัณโรค ปอดอักเสบ เปนตน การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
128
- ไวรัส เปนสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ตองอาศัยในรางกายของสิ่งมีชีวิต หรือมีชีวิตไดชวงหนึ่งในละออง น้ําในอากาศ ไวรัสที่มีขนาดใหญที่สุดคือกลุมที่ทํา ใหเกิดฝดาษในคน วัวและไก ไวรัสเปนสาเหตุ ของไขหวัด พิษสุนัขบา ปากและเทาเปอย ไขหัดในสุนัข ไวรัสบีในลิง - เชื้อรา เพิ่มจํานวนและแพรกระจายในรูปของสปอร ในอากาศ หรือในพื้นผิวที่แหง เปนสาเหตุ ของโรคกลาก ( ringworm ) โรคไขจากสปอรของเชื้อราที่อยูในฟางแหง ( aspergillosis ) - โปรโตซัว เปนพยาธิ (parasit ) ที่อยูในทางเดินอาหารของสัตวหรืออยูในเลือด เปนสาเหตุของโรค มาเลเรียที่พบในนกและในสัตวกลุมลิง (รวมทั้งคนดวย ) โรคบาบีเซียในมาบานและมา ลาย โรค sleeping sickness โปรโตซัวที่อ ยูในทางเดินอาหาร เชน อะมีบา( amoaeba )ในงูแ ละลิง คอคซิเดีย ( coccidia )ในนก ไก และกระตาย giardia ในตัวชินชิลา บาลานทิเดียม ( balantidium ) ในลิงชิมแพน ซี สาเหตุอื่นที่ทําใหเกิดโรค -แมลง เชน ไร หมัด บอท ฟาย ( bot fly ) - พยาธิ เชน พยาธิตัวกลม พยาธิเสนดาย พยาธิตัวแบน พยาธิใบไม
สัตวแพทยในสวนสัตวตองพยายามที่จะตองมีหองวินิจฉัยโรคในสวนที่สามารถทําไดดวยตนเอง เชน การดูพยาธิจากมูลสัตว การยอมสีเม็ดเลือด การยอมสีแบคทีเรีย เพื่อเปนการเพิ่มศัก ยภาพของ งานตัวเองในสวนสัต ว หรือมีวิธีการเก็บตัวอยางแบคทีเรียเพื่อสงตอ หรือมีการติดตอ กับหอ ง ปฏิบัติงานทางดานพยาธิวิทยา เชน สถาบันสุขภาพสัตว ของกรมปศุสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
129
บทที่ 10 การควบคุมสัตว เนื้อหา - การทํางานใหสัตวเกิดความเครียดนอยที่สุด - การวางแผน - วิธีการควบคุมสัตว - การปลอยสัตว - การขนยายสัตว
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
130
การควบคุมสัตวนั้นมีจุดประสงค เชน ยายสัตวไปสูสถานที่แหงใหม ตรวจสุขภาพหรือเพื่อ การรักษา การทํางานใหสัตวเกิดความเครียดนอยที่สุด เมื่อเรากระทําในสิ่งใดที่มีผลตอรางกายและสภาพจิตใจความเครียดของตัวสัตวจะเกิดขึ้นได แมแตสัตวที่เปนสัตวเลี้ยงที่มีความคุนเคยกับมนุษยมาก ตัวอยางเชน ในนกแกวที่เชื่องมากตัวหนึ่ง ใหจับคอนไวภายในคอกและติดเครื่องวัดอัตราการเตนของหัวใจไว เมื่อมีคนเดินเขามาใกลพบวาอัตรา การเตนของหัวใจสูงขึ้นแมวานกจะไมไดแสดงอาการตื่นกลัวแตอยางใด การเขาบังคับสัตวจะทําใหสัตวเกิดความเครียดขึ้น แมจะทําดวยความนิ่มนวลอยางที่สุดก็ตาม ความเครียดจะมีผลตอสุขภาพ การสืบพันธุ หรือทําใหรางกายสัตวบาดเจ็บ ดังนั้นการเขาจับตัวสัตว ทุกครั้งตองทําดวยใจอันเปนเมตตาและทําเฉพาะที่มีความจําเปนเทานั้น ความเครียดของสัตวปาที่เกิดขึ้นจะมากกวาสัตวที่เลี้ยงเปนเพื่อนหรือสัตวปศุสัตว ความเครียด ที่เกิดขึ้นอยางรุนแรงทําใหสัตวตายไดอยางกระทันหัน ตัวอยางเชน hare ( กระตายพันธุหนึ่ง ) จิงโจ วอลลาบี้ ( wallaby ) ในกรณีที่สัตวเกิดอาการเครียดทั้งฝูง อัตราการตายโดยรวมของทั้งฝูงจะมีอัตราสูงขึ้น การ ตายอาจจะไมเกิดขึ้นทันทีแตอาจจะเกิดตามมาในระยะหลัง เนื่องจากความออนเพลีย สภาพรางกายที่ ออนแอลง สัตวทุกชนิดเกิดความเครียดไดทั้งหมด ไมวาจะเปนกบ งู นก การวางแผน กอนที่จะทําการควบคุมสัตว มีความจําเปนที่จะตองคิดเสียกอนวาใครจะตองทําอะไร ชวงเตรียมการ กอนที่จะลงมือคุณตองทราบหรือตองตัดสินใจวาในเรื่องตอไปนี้ 1 ใครเปนผูตัดสินใจวาจะทําการควบคุมสัตวหรือไม 2.จะทําวันไหน เวลาเทาไหร 3.ตองมีสัตวแพทยรวมงานหรือไม คนไหน ถาไมมีจะเปนใคร 4.ตองมีการกันฝูงชนใหใหหางจากจุดที่จะทําการเขาควบคุมสัตวหรือไม 5. ตองใชอุปกรณอะไรบาง 6.ขั้นตอนการทํางานตองทําอยางไรบาง 7.ขั้นตอนการปลอยสัตวตองทําอยางไรบาง ในขั้นตอนการทํางาน 8.ดูวาอุปกรณอยูครบถวนแลวหรือยัง การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
131
9.ตรวจสอบดูวาพื้นที่ที่เราจะทํางานมีการวางวัสดุมีคมบนพื้นหรือไม 10.ตรวจสอบดูวาในบริเวณที่จะเขาทํางาน มีสัตวตัวอื่นๆ อยูหรือไม เปนสัตวชนิดใด 11. ตรวจสอบเสนทางที่สัตวชนิดนั้นจะหนีอยางไรและไดปดเสนทางนั้นแลวหรือยัง 12. ย้ําขั้นตอนการปฏิบัติงานอีกครั้ง กอนลงมือทํางาน 13.ตรวจสอบจุดที่จะปลอยสัตว 14.เตรียมคนไวหนึ่งคนเพื่อจดขอมูลทั้งหมดตั้งแตเริ่มจนกระทั่งสัตวฟน 15. ในการทํางานการควบคุมสัตว ในกรณีที่ไมใชงานเรงดวน ตองมีการวางแผนลวงหนาและมีเวลา ในการทํางานที่เพียงพอ 16. มีการจดการบันทึก วามีอะไรเกิดขึ้นบาง เพื่อใชเปนที่อางอิงสําหรับการทํางานครั้งตอไป วิธีการทีใ่ ชในการควบคุมสัตวมีดังนี้ 1 การควบคุมดวยการฝกสัตว ( Psychological tool )วิธีการนี้ตองมีความเขาใจในพฤติกรรมของสัตว ชนิดนั้นๆ ตัวอยางของวิธีการนี้เชน การใชเสียง การฝกสัตวบางชนิดซึ่งทํากันในสัตวที่ใชเปนละคร สัตวได 2 การลดการเห็นสิ่งแวดลอมของสัตวลง ตัวอยางของกรณีนี้เชน ความเครียดของนกแกว parakeet จะลดลงเมื่ออยูในหองที่มืด กอนที่จะจับตัวนกเพื่อตรวจหรือใหยา การใชผาบังที่ตาของกลุมนกเหยี่ยว ( falcon ) ซึ่งจะทําใหสัตวสงบลงได เพียงพอที่จะสัมผัสกับตัวสัตวอยางเบาๆ ได 3.การจํากัดพื้นที่ ตัวอยางเชน การใชก รงบีบสําหรับลิง macaque การจับนกแกวดวยผา ขนหนู การ บังคับนกกระจอกเทศในซองที่เหมือนกับซองที่ใชกับวัวและควาย 4.การเพิ่มระยะการจับบังคับ ตัวอยางเชน 4.1การใชเชือกเหวี่ยงเขาที่เขาเพื่อจับกวางตัวผูที่มีเขาแก 4.2 การใช สแนร ( snare n.1 a trap for catching small animals, consisting of a loop of wire or cord that pulls tight. ) 4.3 สวิง ( net )ลักษณะของสวิงควรจะตองมีการปรับเปลี่ยนไปตามขนาดชนิดสัตว ตั้งแตแมลง เปน ตนไป เมื่อจับสัตวในสวิงไดงานที่สามารถทําไดเชน การใหยา การตรวจรางกาย การใหยาสลบ สิ่งที่ ตองใหความสําคัญกับการใชงานสวิงเชนขนาดความกวางของตาขา ย ใหเหมาะกับขนาดของตัวสัตว ถาตาของตาขายใหญเกินไปสัตวจะลอดออกมาได วัสดุที่ใชทําซึ่งจะมีความออน ความแข็งที่แตกตาง กัน เชนไนลอน เชือกฝาย ปอมะนิลา net1n.1 a length of open-meshed material of twine, cord, etc., used typically for catching fish. ุ a net supported by a frame at the end of a handle, used for catching fish or insects.) การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
132
4.4 การใชอุปกรณพรางตา ( Physical barrier ) ตัวอยางการใชเชน - การใชแผนไมกันการเตะของนกคาสโซวารี่ - การยายสัตวกลุมกวางจากคอกหนึ่งไปอีกคอกหนึ่งโดยการใชทางเดินที่สรางจากผาพลาสติค ทึบ ซึ่งควรจะเปนแนวตรง 4.5 การใชอุปกรณชวยจับบังคับ (.Physical force ) ตัวอยางการใชเชน - การจับโดยใชถุงมือหรือผาขนหนู ซึ่งแรงที่กดที่ตัวสัตวจะมีความแตกตางกัน การจับนกแกวที่ หนัก 100 กรัมกับจับลิงที่หนัก 12 กิโลกรัม การจับกดที่แรงเกินไปอาจทําใหเกิดกระดูกหักได - การใชถุงมือที่หนาจะทําใหจะลดความรูสึกการสัมผัสที่มือลง นอกจากนั้นความหนาจะทําให การบีบตัวสัตวใหแนนลดลง - สัตวที่มีฟนแหลมคมเชนกลุมสัตวกินเนื้อจะสามารถกัดถุงมือหนังทะลุได การใสถุงมือจึงไม เปนการบอกวาปลอดภัยจากเขี้ยวสัตวได 4.6 . การบังคับสัตวโดยการใชยาสลบ ขอควรระวังในการใชยาเชน - การใหยาสลบเกินขนาดจะเปนอันตรายตัวสัตว - สัตวที่ไดรับยานอยเกิน สัตวอาจแสดงอาการทรงตัวไดไมเต็มที่ การเดินและลมลงอาจเปน อันตรายแกสัตวได - การใหยาดวยการยิงจากระยะไกล อุปกรณที่มีประสิทธิภาพ ผูยิงที่มีฝมือเชื่อถือได เพื่อให ปริมาณยาที่มีในหลอดยาครั้งนั้นที่เปนปริมาณที่จะใหสัตวสลบเขาสูตัวสัตวทั้งหมด หากปริมาณยาที่ เขาตัวสัตวเขาไมครบปริมาณและตองยิงซ้ํา ปญหาที่อาจจะเกิดตามมามีกรณีเชน สัตวไดปริมาณยามาก เกินไป - การใชยากับสัตวที่เราไมคุนเคยการสอบถามจากผูมีประสบการณในการใชยา ซึ่งอาจจะมี คําแนะนําอื่นๆ ดวย อันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผูรวมในการจับสัตวดวยการใชยาสลบ - สัตวที่ยังไมอยูในสภาพที่เขาทํางานได แตผูรวมงานทุกคนอยูในสภาวะที่ตองเขาจับบังคับซึ่งอาจ ไดรับอันตรายจากการเขาควบคุมสัตวได เชนโดนเขาหรือโดนเทาเตะ - หลอดฉีดยาสลบระยะไกลไมไดมาตรฐาน น้ํายาสลบกระเด็นเขาตาหรือปาก ยาสลบบางชนิด ที่ตองมีระบบการปองกันผูใชอยางรัดกุม เนื่องจากผลของยาจะมีผลตอผูใชหากรับเขาในรางกาย การถือกระบอกปนสําหรับยิงยาสลบไมวาจะอยูในสถานการณใดก็ตาม - อยาหันกระบอกปนไปยังบุคคลใดบุคลหนึ่ง การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
133
อยาหันกระบอกปนไปที่เทาของตัวเอง - ผูที่รวมในการจับสังเกตวา ตัวเองอยูในแนวของการยิงหรือไม สิ่งที่ตองระวังเมื่อเขาจับตัวสัตว - ฟน เขี้ยวที่กัด จะงอยปากของนกที่กัดขบได พิษของงู - กรงเล็บ เดือยของไก - ไลขวิดดวยเขา โดนชน โดนเตะดวยเทา - พิษที่ผิวหนัง - ขนของเมน เครื่องแตงกายที่ชวยปองกันรางกาย - ถุงมือหนัง - ผาขนหนู - ชุดหมี (เสื้อที่ติดกับกางเกง ) - รองเทาบูต ขอควรจํา - ในชวงที่เขาทํางานควรใชเสียงใหนอยที่สุด - ในการทํางาน ถาพบวางานครั้งนั้น ถายังทําตอไปจะเกิดอันตรายแกสัตวหรือคนอาจจะยกเลิก ในครั้งนั้นกอน เตรียมตัวใหพรอมมากกวานี้จึงกลับมาทําใหม - ในการทํางานแตครั้งตองมีการจดบันทึกการทํางานไว เพื่อชวยใหการทํางานครั้งตอไปมีจุดบก พรองที่นอยลง - กอนที่จะทํางาน ทบทวนขั้นตอนการทํางานทั้งหมดวาทั้งสัตวและผูปฏิบัติงานปลอดภัย -
การขนยายสัตว - การจับสัตวผูจับสัตวตองรูถึงพฤติกรรมของสัตวชนิดนั้นๆ เชน ความแข็งแรงของสัตว ราง กายของสัตวสวนใดจะทํารายผูจับสัตวได เพื่อจะไดเลือกอุปกรณ วิธีการ ในการเขาควบคุมสัตว - เวลาที่ใชในการจับสัตว ไมควรทําในชวงที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป หรือความชื้นสูงมากเกินไป เชน การวางยาสลบกวางควรเลือกชวงเชาหรือเย็นที่อ ากาศไมรอนมาก และชวงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง เชน ชวงที่มีฝนตก - การขนยายสัตวโดยใชกลองขนยายหรือใชกระบะทายของรถ เปนกระบวนการที่สราง ความเครียดใหกับสัตวมาก ยิ่งระยะเวลายิ่งนาน โอกาสที่สัตวจะเกิดความเครียดและความรอนใน การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
134
รางกายยิ่งสูงมากขึ้น ดังนั้นการจัดการสัตวในทุกๆ ชวงจึงมีความสําคัญ ไมวาชวงการจับกอนเขา กลอ ง ชวงที่สัตวอยูในกลองและชวงการปลอย จะตัวอยา ง การจับเนื้อทรายเขา กลอ งขนยาย มี แนวคิดบางประการดังนี้ 1.ถาเลือกการใชยาสลบเพื่อใหสัตวสลบกอนที่จะนําเขากลอง การมีคอกกักทําใหพื้นที่ที่สัตวจะหนีได นอยลงทําใหการยิงยาสลบทําไดงายขึ้น มีอุปกรณเชนลูกดอกยาสลบระยะไกล รูชนิดยาและปริมาณยา ที่เพียงพอสําหรับการสลบของสัตว 2.เมื่อสัตวสลบแลวเราตองทําอะไรบางเชน ถายังไมไดทํา เครื่องหมายสัตวก็ทําใหเรียบรอย ตองการ เจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพสัตว ใหยาปฏิชีวนะ ยาถายพยาธิแบบฉีด การวัดอุณหภูมิรางกาย วัดขนาด ชั่งน้ําหนักสัตว วัดอัตราการเตนของหัวใจเพื่อเปนการประเมินสภาพสัตว ในชวงที่สัตวอยูใ นสภาพ สลบ ขนาดกลองตองพอเหมาะและสอบถามผูที่มีประสบการณมากอนวาสัตวชนิดนี้สามารถทําได หรือ ไม เมื่อ นํากลองขนยายวัตวขึ้นรถใหใ ชเชือกผูกติดกับตัวรถตอ งทํา ใหแนนหนา ผูขับรถเปน บุค คลที่เรามั่นใจในฝมือ และประสบการณ รูเ สนทางการเดินทางเปนอยา งดี การมีเครื่องมือ ติดตอสื่อสาร เชนวิทยุเพื่อ สอบถามอาการระหวางการเดินทางระหวา งสัตวแพทยหรือหัวหนา ที่ ควบคุมไปกับคนที่ดูแลอยูใกลตัวสัตว มีโทรศัพทมือถือเพื่อติดตอกับปลายทางวาขณะนี้รถที่ขน 3. เมื่อทํางานเหลานี้เสร็จเรียบรอยแลว นําสัตวเขาลัง (ลังกอนที่จะเริ่มงานตองตรวจสอบขนาดให เรียบรอยวาเหมาะสมกับตัวสัตวที่เราจะขนยาย รวมทั้งดูความแข็งแรงของลังขนยายใหเรียบรอย ) การใหยาแกฤทธิ์ยาสลบเพื่อใหสัตวสลบในเวลานอยที่สุดดวยปริมาณที่เหมาะสม เพื่อลด อัตราการเกิดกาซเพิ่มปริมาณขึ้นในกระเพาะอาหาร การลดความรอนที่เกิดกับตัวสัตว เชนการใชน้ํา ราดตัวสัตวในสวนที่ต่ํากวาหัวลงมา สวนพับในของขาหลัง 4. การติดตามดูการฟนของสัตวขนกวาสัตวจะสามารถนั่งได จนกระทั่งสามารถลุกขึ้นยืนได นั้นคือ สภาพที่นาพอใจระดับหนึ่งของสัตวที่ฟนจากฤทธิ์ของยาสลบ 5. ตําแหนงการวางกลองในรถถามีกลองหลายใบตองดูวาเมื่อวางกลองแลวทุกกลองมีโอกาสไดรับลม 6.การนําสัตวใสกลองถาทําไดควรใชสัตวหนึ่งตัว ตอหนึ่งกลอง ถาจะตองใชหลายตัวตอสัตวหนึ่งกลอง สัตวถึงจุดไหนแลวเพื่อเตรียมตัวสําหรับการยกสัตวลงคอก เพื่อใหฝา ยที่อยูปลายทางเตรียม คนชวย เตรียมรถยก เตรียมน้ําและอาหารใหสัตว หรือหากเปนเวลากลางคืนการเตรียมไฟที่สอง สวางเพียงพอ การรับสัตวที่มาจากตางประเทศ จุดที่ไปบอยครั้งเชน คลังสินคาที่สนามบินดอนเมือง เมื่อไดรับการ ติดตอจากผูสง สิ่งที่ตองสอบถามใหชัดเจนคือ การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51
135
- คลังสินคาที่เปนจุดรับสัตวคือคลังสินคาใด - เจาหนาที่ที่ไปดําเนินการเรื่องเอกสารคือใคร( ทราบเบอรโทรศัพทไวเพื่อการติดตอสื่อสาร ) - วันและเวลาที่เครื่องลง เพื่อจะไดกําหนดเวลาที่รถจะตองเดินทาง เพื่อการนัดกับรถเครนในกรณีที่ ตองวา จางรถยกจากดา นนอก สอบถามขนาดกลองที่ใสสัตวมา และจํา นวนกลอง เพื่อจัดรถให เหมาะสมกับขนาดกลอง - เตรียมกลองถายรูปไวอาจมีความจําเปนตองใช - การรับสัตวเขาใหมไมวากรณีใดก็ตามตองมีคอกกักเพื่อกักสัตว มีความพรอมเรื่องสภาพสังคม พื้นที่ที่จะปลอยออกแสดง หากความพรอมในสิ่งเหลา นี้ไมมีแลว การรับสัตวเขามาจะเปนการเพิ่ม ปญหาใหกับคอกสัตวชนิดนั้นๆ มากยิ่งขึ้น 7.การปลอยสัตวออกจากกลอง ถากลองมีขนาดใหญและมีน้ําหนักมาก เพื่อความปลอดภัยของตัวสัตว การเตรียมรถยกเพื่อยกกลองลงไวมีความจําเปนอยางยิ่ง หรือการจัดซื้อเครนที่ติดกับรถ 6 ลอ ซึ่งเปน เครื่องมือที่ยังใชงานอื่นไดอีกหลายอยางเชนการตกแตงสถานที่ จัดสวน 8.คอกที่นําลง ตองเตรียมอาหารและน้ําสําหรับสัตวไวใหเรียบรอย (ตองสอบถามขอมูลจากผูสงสัตวถึง ชนิดอาหารที่ตองเตรียมไวและลักษณะของภาชนะควรเปนอยางไรดวย ) มั่นใจในเรื่องของระบบ ประตูวาแข็งแรง แนนหนา สามารถใชงานไดปกติ ตัวกลอนสามารถปดไดอยางปกติ 9.ทีมงานที่เตรียมรับสัตวลงคอกตองมองวิธีการวาเมื่อรถมาถึงรถจะเขาสูตําแหนงใดของคอก รถยกจะ ตองจอดอยูจุดไหน ถาไมใชรถยกแตใชคนยกอุปกรณที่จะใชตองมีอะไร เตรียมไวแลวหรือยัง คนที่จะ มาชวยยกตองมีกี่คน นัดหมายเวลาหรือสามารถติดตอใหเขามาไดทันที 10. ตองเตรียมน้ํา เตรียมอาหารสําหรับผูที่ชวยในการยกลังเปนสินน้ําใจเล็กๆ นอย 11.กักสัตวไวระยะหนึ่งจะนอยหรือมากเพียงใดขึ้นอยูกับชนิดสัตวและสภาพของสังคมของสัตวที่จะ ปลอยสัตวชนิดใหมเขารวม - วิธีการจับสัตวในสัตวชนิดหนึ่งอาจไมสามารถใชกับสัตวชนิดอื่นๆได วิธีการที่เหมาะกับสัตว ชนิดใดตองประกอบดวยเรียนรู ประสบการณและการปฏิบัติบอยๆครั้งอยางตอเนื่อง - วิธีการที่ไมเหมาะสมจะทําใหเกิดอันตรายแกสัตวหรือรวมทั้งเกิดกับผูบังคับสัตวดวย
การจัดการสัตวในสวนสัตว/ วิชิต กองคํา / 1 มิย 51