แบบฝกหัดที่ 5 งานขึ้นรูปบันไดวน ในบทนีเ้ ราจะมาทดลองเขียนบันไดวนดังรูปที่ 16.1 ซึง่ ผูอ านสามารถนําหลักและวิธกี ารในบทนีไ้ ป ประยุกตใชในการเขียนแบบประเภทอืน่ ๆ ได อาทิ เชน การเขียนเกลียว ขดลวด สปริง และอืน่ ๆ เปนตน รูปที่ 16.1
การเขียนบันไดโดยทัว่ ไป เราจะเริม่ เขียนจากหนาตัดของบันไดใน 2 มิติ สวนการเขียนบันไดวนก็มี หลักการเชนเดียวกัน โดยเราจะเขียนหนาตัดดานบน(Top view)ของบันไดวน จากนัน้ จะแปลงหนาตัด ใหเปน Region แลวจึงเคลือ่ นยาย Region หนาตัดของบันไดแตละขัน้ ไปยังระดับตางๆ ใน 3 มิติ แลวจึง เพิ่ มความหนาให ขั้ นบันใดและลู กกรง จากนั้ นจึ งเขียนราวบันใดและสวนประกอบตางๆ โดยมี รายละเอียดและขั้นตอนการเขียนบันไดวนดังตอไปนี้ 1. เปดไฟล 16-406-02-1.dwg โดยใชคาํ สัง่ File4Open จากโฟลเดอร \Exercise บนแผน DVD-ROM แนบทายหนังสือคูม อื ฯ ในไฟลนมี้ หี นาตัดของบันไดวน ซึง่ สรางจากคําสัง่ CIRCLE และ LINE อยูใ นเลเยอร Profile จะปรากฏจอภาพดังรูปที่ 16.2
chap-16.PMD
405
12/10/2549, 22:01
406
รูปที่ 16.2
2D Drafting
2. ขยายวิวพอรท Top โดยคลิกบนวิวพอรท Top (มุมซายลาง) แลวคลิกบนปุม บนทูลบาร 3D Modeling 3. จากรูปที่ 16.2 ใหแนใจวาเลเยอร เปนเลเยอรใชงาน แลวใชคําสัง่ Draw4Boundary เพื่อสราง REGION แบบปดของขั้นบันไดแตละขั้น เมื่อ ปรากฏไดอะล็อค Boundary Creation ใหปลดเครือ่ งหมาย ออกจากเช็คบอกซ Island detection แลวเลือก Region จากแถบรายการ Object Type แลวคลิกบนปุม Pick Points แลวคลิกจุดที่ 1,2,3,....,10,11,12 แลวคลิกขวาหรือกดปุม Q โปรแกรม จะสราง Region แบบปดขึน้ 12 ชิน้ ซึง่ เปนหนาตัดของขัน้ บันไดแตละขัน้ และขัน้ บันไดทัง้ หมดอยูใ นเลเยอร Step จะปรากฏดังรูปที่ 16.3 รูปที่ 16.3
4. แชแข็ง(Freeze)เลเยอร Profile แล วกําหนดเลเยอร เลเยอรใชงาน แลวเปลีย่ นจอภาพเปน 4 วิวพอรท โดยคลิกบนปุม 3D Modeling
เป น บนทูลบาร
5. จากรูปที่ 15.4 ในวิวพอรท Isometric เขียนเสนตรงกําหนดความสูงของขั้นบันได ทัง้ หมดหรือความสูงระหวางพื้น โดยใชคําสัง่ Draw4Line
chap-16.PMD
406
12/10/2549, 22:01
แบบฝกหัดที่ 5 งานขึ้นรูปบันไดวน
407
{จากรูปที่ 16.3 ใหแนใจวา # อยูใ นสถานะเปด} {เลือ่ นเคอรเซอรไปยังจุดที่ 13 เมือ่ ปรากฏมารคเกอร คลิกซาย } Specify next point or [Undo]: @0,0,3.45 {พิมพ @0,0,3.45 แลวกดปุม Q} Specify next point or [Undo]: {คลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ออกจากคําสัง่ } Command: _line
Specify first point:
6. ขยายภาพในทุกๆ วิวพอรท โดยคลิกบนปุม ไอคอน จะปรากฏดังรูปที่ 16.4
บนทูลบาร 3D Modeling
รูปที่ 16.4
7. จากรูปที่ 16.4 แบงเสนตรงในแนวดิง่ ออกเปน 12 สวน(ตามจํานวนขัน้ บันได) โดย ใชคําสั่ง Draw4Point4Divide Command: _divide Select object to divide:
{คลิกบนเสนตรงจุดที่ 1}
Enter the number of segments or [Block]:
Note
12 {กําหนดจํานวนเซกเมนต โดยพิมพ 12 Q}
หลังจากที่ใชคําสั่ง DIVIDE เราจะยังไมเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ เนื่องจากโปรแกรมเพียงสราง จุดเล็กๆ แบงเสนตรงออกเปน 12 สวน จุดเล็กๆ เหลานั้นกําลังถูกเสนตรงในแนวตั้งปดบังอยูจึงไม สามารถมองเห็นได
8. ปรับแตงรูปแบบและขนาดของจุด(Points)โดยใชคําสั่ง Format4 Point Style จะปรากฏไดอะล็อค Point Style ใหคลิกบนรูป แลวกําหนด Point Size = 3 % แลวคลิกปุม OK จะปรากฏดังรูปที่ 16.5
รูปที่ 16.5
9. ใชคําสั่ง View4Regen All จุดตางๆ จะเปลี่ยนรูปแบบ ดังรูปที่ 16.5 10. กําหนด Object Snap เฉพาะโหมด END และโหมด NOD ใหทํางานอัตโนมัติ โดยใชคําสัง่ Tools4Drafting Settings จะปรากฏไดอะล็อค Drafting Settings คลิกใหปรากฏ
chap-16.PMD
407
12/10/2549, 22:01
408
เครือ่ งหมาย บนเฉพาะเช็คบอกซ และเช็คบอกซ แลวปลดเครือ่ งหมาย ออกจากออฟเจกทสแนปในโหมดอืน่ ๆ ทัง้ หมด แลวคลิก บนปุม OK ออฟเจกทสแนปโหมด END และโหมด NOD จะออกมาทํางานโดย อัตโนมัติเมือ่ ใดก็ตามทีม่ กี ารกําหนดตําแหนง
2D Drafting
11. ละลาย(Thaw)เลเยอร Profile แล วกํา หนดเลเยอร เลเยอรใชงาน
เป น
12. คลิกบนวิวพอรท Isometric แลวคลิกบนปุม เพื่อขยายวิวพอรท Isometric จากนั้นใชคําสัง่ View4Zoom4Realtime และ View4Pan4Real Time ขยายภาพและเลือ่ นภาพใหมขี นาดใหญทสี่ ุดเทาทีจ่ ะเปนไปไดดงั รูปที่ 16.6 รูปที่ 16.6
13. จากรูปที่ 16.6 เคลือ่ นยายหนาตัดของบันได(1)และลูกกรง(2) ขึน้ ไปยังระดับขัน้ ที่ 1 ในแนวแกน Z ของเสนตรงทีแ่ บงไวในขัน้ ตน โดยใชคําสัง่ Modify4Move {จากรูปที่ 16.6 ใหแนใจวา # อยูใ นสถานะเปด} {คลิกบนหนาตัดของขัน้ บันไดตรงจุดที่ 1} Select objects: 1 found, 2 total {คลิกบนหนาตัดของลูกกรงตรงจุดที่ 2} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม Q} Specify base point or [Displacement] : {คลิกตรงจุดที่ 3 เมือ ่ ปรากฏเครือ่ งหมาย (Endpoint)} Specify second point or <use first point as displacement>: {คลิกตรงจุดที่ 4 เมือ ่ ปรากฏ เครือ่ งหมาย (Node) จะปรากฏดังรูปที่ 16.7 (ซาย)} Command: _move
Select objects: 1 found
chap-16.PMD
408
12/10/2549, 22:01
แบบฝกหัดที่ 5 งานขึ้นรูปบันไดวน
409
รูปที่ 16.7
14. จากรูปที่ 16.7 (ซาย) เคลือ่ นยายหนาตัดของบันไดขัน้ ตอไป โดยใชคําสัง่ Modify4 Move ตามวิธีในขอ 13 โดยแทนทีจ่ ดุ 1, 2, 3, 4 ดวยจุดที่ 5, 6, 7, 8 จะปรากฏ ดังรูปที่ 16.7 (ขวา) 15. จากรูปที่ 16.7 (ขวา) เคลือ่ นยายหนาตัดของบันไดขัน้ ตอไป โดยใชคําสัง่ Modify4 Move ตามวิธใี นขอ 13 โดยแทนทีจ่ ดุ 1, 2, 3, 4 ดวยจุดที่ 9, 10, 11, 12 จะปรากฏ ดังรูปที่ 16.8 (ซาย) รูปที่ 16.8
16. จากรูปที่ 16.6 เคลือ่ นยายหนาตัดของบันไดขัน้ ตอไป โดยคลิกขวา เพือ่ ทําซ้ํา คําสัง่ Modify4Move ตามวิธใี นขอ 13 จนกระทัง่ ปรากฏดังรูปที่ 16.8 (ขวา) Note
เมื่อเคลื่อนยายขั้นบันไดไปถึงขั้นที่ 6 จะเริ่มมองเห็นจุดที่จะใช Osnap คอนขางลําบาก เนื่องจาก มีเสนขั้นบันไดซอนกันหลายเสน เราจะตองใชคําสั่ง View4Zoom4Window เพื่อขยายภาพ ใหสามารถมองเห็นจุด Osnap ชัดเจนขึ้นและใชคําสั่ง View4Zoom4Previous เพื่อกลับไปยัง มุมมองเดิม
17. จากรูปที่ 16.8 (ขวา) เปดโหมดแสดงผลแบบเอกซเรย โดยคลิกบนปุม X-ray mode บนแดชบอรด เพิม่ ความหนาของขัน้ บันได โดยใชคําสัง่ Draw4Modeling 4Extrude chap-16.PMD
409
12/10/2549, 22:01
410
Command: _extrude Current wire frame density: ISOLINES=4
2D Drafting
{คลิกบนหนาตัดของขัน้ บันไดตรงจุดที่ 13,14,15,...,22,23,24} {คลิกขวาหรือกดปุม Q} Specify height of extrusion or [Direction/Path/Taper angle]: 0.05 {พิมพคา ความหนา 0.05 Q จะปรากฏดังรูปที่ 16.9 (ซาย)} Select objects to extrude:
Select objects to extrude:
รูปที่ 16.9
18. จากรูปที่ 16.9 (ซาย) เพิม่ ความหนาของลูกกรง โดยคลิกขวา เพือ่ ทําซ้ําคําสัง่ Draw 4Modeling4Extrude Command: _extrude Current wire frame density: ISOLINES=4
{คลิกจุดที่ 1 และ 2 คลิกจุดที่ 3 และ 4 เพือ่ เลือกหนาตัดลูกกรงแบบ Window} {คลิกขวาหรือกดปุม Q} Specify height of extrusion or [Direction/Path/Taper angle]: 1.25 {พิมพคา ความหนา 1.25 Q จะปรากฏดังรูปที่ 16.9 (ขวา)} Select objects to extrude:
Select objects to extrude:
Note
chap-16.PMD
อันทีจ่ ริงเราตองการเพิม่ ความหนาของลูกกรงเทานัน้ แตเราไมสามารถเลือกวัตถุทงั้ หมดได เนือ่ งจากมี เสนตรงและเสนโคงที่ปรากฏอยูบนจอภาพ ใน AutoCAD 2007 เราสามารถเพิ่มความหนาเสนตรง และเสนโคงใหมคี วามหนาใน 3 มิตไิ ด แตเราไมตอ งการเพิม่ ความหนาใหกบั วัตถุอนื่ ๆ นอกจากหนาตัด ลูกกรง ดังนั้น เราจะตองเลือกเฉพาะหนาตัดลูกกรงทีเ่ ปนวงกลมเพียงอยางเดียวเทานั้น อนึ่ง เหตุที่เรา สามารถเลือกวัตถุแบบ Window แลวมีโซลิดถูกเลือกเขามาในกลุม ดวย ซึง่ สามารถทําได เนือ่ งจากคําสัง่ Draw4Modeling4Extrude จะไมสามารถเพิ่มความหนาใหกับโซลิดที่มีความหนาอยูแลวได
410
12/10/2549, 22:01
แบบฝกหัดที่ 5 งานขึ้นรูปบันไดวน
411
19. คลิกบนปุม เพื่อแสดง 4 วิวพอรท แลวคลิกบนปุม วิวพอรท จะปรากฏดังรูปที่ 16.10
เพื่อขยายภาพในทุก
รูปที่ 16.10
20. ซอนจุด โดยใชคําสัง่ Format4Point Style จะปรากฏไดอะล็อค Point Style ใหคลิก บนรูป แลวคลิกปุม OK 21. กําหนด Object Snap เฉพาะโหมด Center ให ทํางานอั ตโนมั ติ โดยใช คําสั่ ง Tools4Drafting Settings จะปรากฏไดอะล็อค Drafting Settings คลิกใหปรากฏ เครือ่ งหมาย บนเฉพาะเช็คบอกซ แลวปลดเครือ่ งหมาย ออกจาก ออฟเจกทสแนปในโหมดอืน่ ๆ ทัง้ หมด แลวคลิกบนปุม OK ออฟเจกทสแนปโหมด Center จะออกมาทํางานโดยอัตโนมัตเิ มือ่ ใดก็ตามทีม่ กี ารกําหนดตําแหนง Note
ตอไปเขียนราวบันไดโดยใชหนาตัดราวบันไดเปนรูปวงกลม
22. ใชคําสัง่ Format4Layer แลวสรางเลเยอรใหมชื่อ Rail ใชสีสมรหัส 60 แลว กําหนดใหเปนเลเยอร Rail เปนเลเยอรใชงาน 23. จากรูปที่ 16.10 คลิกบนวิวพอรท Front (มุมซายบน) หรือวิวพอรท Left (มุมซายลาง) แลวคลิกบนปุม เพือ่ ขยายวิวพอรท แลวใชคาํ สัง่ View4Zoom4Realtime และ คําสัง่ View4Pan4Real Time เพือ่ ขยายและเลือ่ นภาพบันไดใหปรากฏมีขนาด ใหญเต็มพืน้ ทีว่ าดภาพมากทีส่ ดุ ดังรูปที่ 16.11 (ซาย) 24. จากรูปที่ 16.11 (ซาย) เขียนเสนโคงราวบันได โดยใชคําสัง่ Draw4Spline
chap-16.PMD
411
12/10/2549, 22:01
412
รูปที่ 16.11
2D Drafting
{จากรูปที่ 16.11 (ซาย) ใหแนใจวา # อยูใ นสถานะเปด} {คลิกตรงจุดที่ 1 เมือ่ ปรากฏเครือ่ งหมาย (Center)} Specify next point: {คลิกตรงจุดที่ 2 เมือ ่ ปรากฏเครือ่ งหมาย (Center)} Specify next point or [Close/Fit tolerance] <start tangent>: {คลิกตรงจุดที่ 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 เมือ่ ปรากฏเครือ่ งหมาย (Center)} Specify next point or [Close/Fit tolerance] <start tangent>: {คลิกขวาหรือกดปุม Q} Specify start tangent: {คลิกขวาหรือกดปุม Q} Specify end tangent: {คลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ออกจากคําสัง่ จะปรากฏดังรูปที่ 16.11 (ขวา)} Command: _spline
Specify first point or [Object]:
25. จากรูปที่ 15.16 เขียนหนาตัดราวบันไดรูปวงกลม โดยใชคําสั่ง Draw4Circle4 Center, Radius Command: _circle
{จากรูปที่ 16.11 (ขวา) ใหแนใจวา
# อยูใ นสถานะปด} {คลิกประมาณจุดที่ 13 หรือคลิก
Specify center point for circle or [3P/2P/Ttr (tan tan radius)]:
ณ ตําแหนงใดๆ เพือ่ กําหนดจุดศูนยกลางของวงกลม} 0.04 {พิมพรศั มีของหนาตัดวงกลม 0.04 หนวย จะปรากฏ ดังรูปที่ 16.12 (ซาย)}
Specify radius of circle or [Diameter]:
รูปที่ 16.12
chap-16.PMD
412
12/10/2549, 22:01
413
แบบฝกหัดที่ 5 งานขึ้นรูปบันไดวน Note
ทุกครัง้ ทีม่ กี ารเปลีย่ นวิวพอรท ขนาดของจุด(Points)จะเปลีย่ นแปลงไป ซึง่ อาจจะมีขนาดใหญหรือเล็ก เกินไป เราควรใชคําสัง่ View4Regen All เพื่อปรับขนาดของจุดตามทีก่ ําหนดไวดว ยคําสั่ง Format4 Point Style ทุกครั้ง
26. จากรูปที่ 16.12 (ซาย) เพิม่ ความหนาใหกับหนาตัดวงกลม CIRCLE ใหวิ่งไปตาม แนวเสน Spline โดยใชคําสัง่ Draw4Modeling4Sweep Command: _sweep
{จากรูปที่ 16.12 (ซาย) ใหแนใจวา
# อยูใ นสถานะเปด}
Current wire frame density: ISOLINES=4
{คลิกบนสวนโคงของวงกลม CIRCLE ตรงจุดที่ 14} {คลิกขวาหรือกดปุม Q} Select sweep path or [Alignment/Base point/Scale/Twist]: {คลิกบนเสนโคงสไปลนตรงจุดที่ 15 จะปรากฏดังรูปที่ 16.12 (ขวา)}
Select objects to sweep:
Select objects to sweep:
27. เปลีย่ นจอภาพเปน 4 วิวพอรท โดยคลิกบนปุม
บนทูลบาร 3D Modeling
28. ขยายวิวพอรทไอโซเมตริก โดยคลิกบนวิวพอรท Isometric แลวคลิกบนปุม ไอคอน บนทูลบาร 3D Modeling แลวคลิกบนปุมไอคอน เพื่อขยายชิ้นงานให ปรากฏเต็มพืน้ ทีว่ าดภาพ จะปรากฏดังรูปที่ 16.13 (ซาย) รูปที่ 16.13
29. จากรูปที่ 16.13 (ซาย) เขียนรูปทรงกลมปดหัวทายราวบันได โดยใชคําสัง่ Draw4 Modeling4Sphere เมือ่ ปรากฏขอความ Specify center point or [3P/2P/Ttr]: เลื่อนเคอรเซอรไปยังจุดที่ 16 เมื่อปรากฏมารคเกอร ใหคลิกซาย เมื่อปรากฏ Specify radiusor [Diameter] <0.0400>: ãËé ¾Á Ծà ìÈ ÑÁÕ 0.04Q คลิกขวาเพือ่ ทําซ้ํา คําสั่ง Draw4 Modeling4Sphere เลือ่ นเคอรเซอรไปยังจุดที่ 17 เมือ่ ปรากฏ มารคเกอร ใหคลิกซาย ใหพมิ พรศั มี 0.04 Q จะปรากฏดังรูปที่ 16.13 (กลาง)
chap-16.PMD
413
12/10/2549, 22:01
414
30. จากรูปที่ 16.13 (กลางและขวา) รวมโซลิดใหกลายเปนชิ้นเดียวกัน โดยใชคําสั่ง Modify4Solid Editing4Union เมือ่ ปรากฏ Select objects คลิกโซลิดจุดที่ 19, 20, 21 และ 22 แลวคลิกขวา
2D Drafting
31. จากรูปที่ 16.13 (ซาย) เพิ่ มความหนาใน 3 มิติใหกับเสา โดยใชคําสั่ง Draw4 Modeling4Extrude Command: _extrude
{จากรูปที่ 16.13 (ซาย) ใหแนใจวา
# อยูใ นสถานะปด}
Current wire frame density: ISOLINES=4 Select objects to extrude: Select objects to extrude:
{คลิกบนหนาตัดวงกลมจุดที่ 18} {คลิกขวาหรือกดปุม Q}
Specify height of extrusion or [Direction/Path/Taper angle]:
จะปรากฏดังรูปที่ 16.14 (ซาย)}
4.7 {พิมพคา ความสูง 4.7 Q
รูปที่ 16.14
32. จากรูปที่ 16.14 (ซาย) เปดโหมดแสดงผลแบบเอกซเรย โดยคลิกปุม X-ray mode บนแดชบอรด แลวหมุนมุมมอง โดยกดปุม S คางไว แลวคลิกปุม สครอล (ปุม กลาง)ของเมาส เพือ่ เรียกคําสัง่ View4Orbit4Contrained Orbit ออกมาใช งาน แลวหมุนมุมมองใหปรากฏดังรูปที่ 16.14 (ขวา) เปนอันวาเราไดเขียนโครงสรางหลักของบันไดวนเสร็จเรียบรอยแลว หากผูอานตองการเขียนสวน ประกอบปลีกยอยตางๆ ของบันไดวนตอไปอีกก็สามารถทําได โดยนําประสบการณที่ ไดรับจาก แบบฝกหัดในบทกอนๆ มาประยุกตใชในการเขียนสวนประกอบอืน่ ๆ ตอไปได ****************************
chap-16.PMD
414
12/10/2549, 22:01