Autocad 2006 2d Chap-14

  • November 2019
  • PDF

This document was uploaded by user and they confirmed that they have the permission to share it. If you are author or own the copyright of this book, please report to us by using this DMCA report form. Report DMCA


Overview

Download & View Autocad 2006 2d Chap-14 as PDF for free.

More details

  • Words: 8,995
  • Pages: 48
กลุมคําสั่งของ Express Tools

กลุมคําสั่งของ Express Tools ใน AutoCAD 2006 เปนเวอรชั่นเดียวกันกับ Express Tools ใน AutoCAD 2005 ดังนัน้ จึงไมมีคําสั่งใหมที่เพิม่ ขึ้น แตกไ็ มมีคําสั่งใดทีถ่ ูกยกเลิก อยางไรก็ตาม คําสัง่ Express4Modify4Delete Duplicate Objects และคําสัง่ Express4Modify4Flatten Objects ทีเ่ คยถูกยกเลิกออกจากเมนูคอลัมน Express ใน AutoCAD 2004 ไดถกู นํากลับมาปรากฏบนเมนูอีกครั้ง สวนคําสัง่ Express4Modify4Cookie Cutter Trim ซึ่งใชในการตัดเสนจํานวนมากที่หายไปจากเมนูคอลัมน Express ยังคงไมไดนํากลับมาปรากฏบนเมนูคอลัมน Express แตสามารถเรียกใชงานผานคําสัง่ EXTRIM บนบรรทัดปอนคําสัง่ ได Note

Express เปนเมนูคอลัมนที่บรรจุคําสั่งตางๆ ซึ่งอํานวยความสะดวกในการใชงานตอผูใช AutoCAD ไดเปนอยางมาก Express Tools เริม่ มีใชครัง้ แรกในรีลสี 14 ซึง่ ขณะนัน้ ใชชอื่ วา Bonus ตอมาไดรบั ความ นิยมเพิ่มมากขึ้น Autodesk, Inc. จึงไดพัฒนาเพิ่มเติมและนําเขามาใชงานใน AutoCAD 2000 โดย เปลี่ยนชื่อใหมเปนเมนูคอลัมน Express ตอมาไดมีการแยก Express Tools ออกจําหนายไมรวมกับ Package ของ AutoCAD 2000i และ 2002 แตในปจจุบัน Express Tools ไดถูกนํากลับมารวมเขาเปน Package เดียวกันกับ AutoCAD 2006 เรียบรอยแลว แตจะตองเลือก Install Express Tools ตัง้ แตขนั้ ตอน การติดตั้งโปรแกรม มิฉะนั้น จะไมปรากฏเมนูคอลัมน Express บนเมนูบารของ AutoCAD 2006

เมนูคอลัมน Express ของ Express Tools มีการจัดแบงหัวขอ คําสัง่ ตางๆ ดังรูปที่ 14.1 โดยมีหวั ขอหลักเกีย่ วกับ Layer, Blocks, Text, Layout tools, Dimension, Selection tools, Modify, Draw, File tools, Web tools และ Tools หลังจากทีเ่ ราไดรจู กั ความเปนมา ของ Express Tools มาบางพอสมควรแลว ตอไปเราจะเริ่ม ศึกษารายละเอียดการใชงานแตละคําสั่งของ Express Tools โดยมีรายละเอียดดังตอไปนี้ รูปที่ 14.1

14.1Express Layers Layer Manager | LMAN | 4

4

ใชสําหรับนําเลเยอรพรอมทัง้ สถานะ(Layer states)ตางๆ ทีถ่ กู สรางไวในไฟลแบบแปลนหนึง่ ไปใชในอีกไฟลหนึง่ โดย ที่เราไมตองเสียเวลาสรางเลเยอรตางๆ ขึน้ มาในไฟลแบบแปลนใหม นอกจากนี้เรายังสามารถควบคุมและจัดการ สถานะปด/เปด(On/Off) แชแข็ง/ละลาย(Freeze/Thaw) ล็อค/ปลดล็อค (Lock/Unlock) สี(Color) รูปแบบเสน

chap-14.PMD

411

13/10/2549, 1:35

412

(Linetype) ความหนาเสน (Lineweight) รูปแบบการพิมพ(Plot Style) และสถานะการพิมพ หรือไมพมิ พ(Plot/No plot) ของเลเยอร เราสามารถบันทึกสถานะของเลเยอรในรูปแบบตางๆ เพือ่ ความสะดวกทีจ่ ะเรียกคืนกลับมาใชงาน ซึง่ จะ ชวยใหเราไมตอ งบันทึกเลเยอรเก็บไวในไฟลตน แบบหรือเทมเพล็ทไฟล .dwt เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคดังรูป ที่ 14.2 (ซาย)

2D Drafting

LAYER_STATE1

LAYER_STATE2

LAYER_STATE3

LAYER_STATE4

รูปที่ 14.2

Saved Layer states: แสดงรายชือ่ สถานะเลเยอร(Layer states)ทัง้ หมดทีถ่ กู บันทึกไว Redefined: แสดงชือ่ สถานะ เลเยอรที่กําลังถูกใชงาน Restored ใชปุมนีส้ ําหรับกําหนดสถานะเลเยอรใชงาน Save... ใชปุมนี้สําหรับคัดลอก สถานะเลเยอรทกี่ ําลังถูกใชงานหรือสถานะเลเยอรมีชื่อปรากฏใน Restored: เพือ่ สรางสถานะเลเยอรข้นึ ใชงานใหม

Edit ใชกําหนดสถานะตางๆ ของเลเยอร เมือ่ คลิกบนปุม นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อค Layer Properties Manager บนจอภาพ

ซึ่งเราสามารถกําหนดสถานะ Freeze, Thaw, On, Off, Lock, Unlock, Color, Linetype, Lineweight, Plot Style, Plot/ No plot ของเลเยอรไดตามตองการ หากยังมิไดมีการสรางสถานะเลเยอรมากอน จะปรากฏไดอะล็อคใหเราตั้งชื่อ สถานะเลเยอร Rename ใชสําหรับเปลีย่ นชื่อสถานะของเลเยอรที่ถกู เลือก Delete ใชสําหรับลบสถานะเลเยอรที่ ถูกเลือก Import ใชสําหรับนําเลเยอรและสถานะเลเยอรทถี่ กู บันทึกในไฟลฟอรแมต .lay ดวยปุม Export ของคําสัง่ นี้ เขามาในไฟลแบบแปลนใชงาน Export ใชสําหรับสงเลเยอรและสถานะของเลเยอรไปเก็บไวในไฟลฟอรแมต .lay เพือ่ สะดวกในการเรียกเลเยอรและสถานะเลเยอรที่ตองการนําไปใชงานในไฟลแบบแปลนอืน่ ๆ Options เมือ่ คลิก ปุมนี้ จะปรากฏไดอะล็อคสําหรับกําหนดวาสถานะใดบางที่จะสามารถเรียกคืนกลับมาใชงานดังรูปที่ 14.2 (ขวา) โดยทีโ่ ปรแกรมกําหนดมาใหทกุ สถานะของเลเยอรสามารถเรียกคืนมาใชงานไดทงั้ หมด หากปลดเครือ่ งหมาย หนา เช็คบอกซของสถานะใดๆ เราจะไมสามารถเรียกคืนสถานะของเลเยอรนนั้ ได Note

อันที่จริง คําสั่งนี้ไดมีการบรรจุเปนมาตรฐานของคําสั่ง Format4Layer ซึ่งมีการบรรจุปุม Save state และ State Manager ซึ่งมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ เราสามารถที่จะบันทึกเลเยอรและ สถานะตางๆ เพื่อนําไปใชกับไฟลแบบแปลนอื่นๆ ไดเชนเดียวกัน ดังนั้น เราควรเลือกใชงานคําสั่ง Format4Layer แทนที่จะเลือกใชคําสั่งนี้

14.2 Express Layers Layer Walk | LAYWALK | 4

4

ใชคําสั่งนีส้ ําหรับตรวจสอบวาเลเยอรใดมีวัตถุอะไรอยูใ นเลเยอรนั้นบาง การตรวจสอบสามารถทําไดอยางรวดเร็ว เพราะเมือ่ เราคลิกบนชือ่ เลเยอรใด ก็จะปรากฏวัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรนนั้ บนพืน้ ทีว่ าดภาพ วัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรอนื่ จะถูกปด

chap-14.PMD

412

13/10/2549, 1:35

413

กลุมคําสั่งของ Express Tools

ไมใหปรากฏบนพืน้ ทีว่ าดภาพชัว่ คราว เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.3 (ซาย-บน) เลือ่ นเคอรเซอรไปที่ เสนขอบดานลางของไดอะล็อค จนกระทัง่ ปรากฏหัวลูกศร บนเสนขอบของไดอะล็อค คลิกและลากเพือ่ ขยาย ไดอะล็อคใหมขี นาดใหญขนึ้ ดังรูปที่ 14.3 (กลาง-ลาง) บนไดอะล็อค LayerWalk คลิกบนชือ่ เลเยอรทตี่ อ งการใหปรากฏ วัตถุที่อยูในเลเยอรนั้นบนพืน้ ที่วาดภาพดังรูปที่ 14.3 (กลาง-ลาง) และรูปที่ 14.3 (ขวา-บน) เมื่อออกจากไดอะล็อค LayerWalk สถานะตางๆ ของเลเยอรจะกลับสูส ภาพเดิมเหมือนสถานะกอนเขาสูค ําสัง่ นี้ แตถา เราปลดเครือ่ งหมาย ออกจากเช็คบอกซ Restore on exit สถานะของเลเยอรจะเหมือนกับทีป่ รากฏอยูในขณะที่เราอยูในไดอะล็อค LayerWalk รูปที่ 14.3

ในกรณีที่ตองการใหคงสภาพวัตถุในเลเยอรเดิมไวใหปรากฏบนพื้นที่วาดภาพตลอดเวลาที่เราเลือก เลเยอรใหม เราสามารถกดปุม E คางไว แลวคลิกบนชื่อเลเยอรใหม

Note

14.3 Express Layers Layer Match | LAYMCH | 4

4

ใชสําหรับยายวัตถุทถี่ กู เลือกไปอยูใ นเลเยอรใหม โดยเลือกจากวัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรเดิมและวัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรใหมดงั รูปที่ 14.4 เลเยอร Hole เลเยอร Body

เลเยอร Body เลเยอร Body

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.4

หลังใชคําสั่ง

{จากรู ปที่ 14.4 (ซาย)} Select objects to be changed: {ใหเลื อกวั ตถุ ที่ต องการเปลี่ ยนเลเยอร} Select objects: 1 found, 2 total {คลิ กบนวงกลมสีเขียวทั้ง สองวง} Command: laymch

chap-14.PMD

413

13/10/2549, 1:35

414

{คลิกขวาหรือกดปุม Q} 2 found. {พบ 2 ชิ้น} Select objects:

2D Drafting

{คลิกบนเสนสีน้ําเงินใดๆ} 2 objects changed to layer Body. {วงกลมทัง้ สองจะยายเขาไปอยูใ นเลเยอร Body (สีนา้ํ เงิน)} Select object on destination layer or [Type-it]:

Note

ในบรรทัด Select object on destination layer or [Type-it]: เราสามารถพิมพชื่อเลเยอรเขาไปโดยตรง

14.4 Express Layers Change to Current Layer | LAYCUR | 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเปลีย่ นวัตถุทถี่ ูกเลือกใหเคลือ่ นยายเขาไปอยูใ นเลเยอรใชงาน กอนเรียกใชคําสัง่ นีใ้ หเลือกเลเยอร ใชงาน เพือ่ กําหนดเลเยอรทตี่ อ งการเปลีย่ นเสียกอน แลวจึงจะเริม่ ใชคาํ สัง่ ดังตอไปนี้ เลเยอร 0

เลเยอร Arrow Head

กอ นใชคําสั่ง Command: laycur

รูปที่ 14.5

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.5 (ซาย)}

{คลิกวัตถุที่ตองการเปลี่ ยนเลเยอร} Select objects: {คลิกบนเสนทั้ง หมดที่ เป นสวนประกอบของลูก ศร} Select objects: {คลิ กขวาหรื อกดปุ ม Q} 7 found. {พบวัตถุ 7 ชิ้น} 7 objects changed to layer Arrow Head (the current layer). {วั ตถุ ทั้ ง 7 จะย ายเข าไป อยูในเลเยอรใชงานชื่อ Arrow Head} Select objects to be changed to the current layer:

14.5 Express Layers Copy Objects to New Layer | COPYTOLAYER | 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับคัดลอกวัตถุไปยังเลเยอรใหม โดยทีว่ ตั ถุตน ฉบับยังอยูค งที่ ณ ตําแหนงเดิมและมีเลเยอรเดิม ในการ คัดลอกเราสามารถเลือกทีจ่ ะคัดลอกและวางวัตถุไวทเี่ ดิมหรือคัดลอกและเคลือ่ นยายวัตถุไปวางยังตําแหนงใหมได วัตถุทถี่ กู คัดลอก ยายไปอยูใ นเลเยอร ใหมเพียงเลเยอรเดียว

วัตถุตนฉบับอยู ในหลายเลเยอร

กอ นใชคําสั่ง

chap-14.PMD

414

รูปที่ 14.6

หลังใชคําสั่ง

13/10/2549, 1:35

415

กลุมคําสั่งของ Express Tools

{จากรู ปที่ 14.6 (ซาย)} Select objects: 67 found {เลื อกวั ตถุทั้งหมดที่ ตอ งการคั ดลอกไปไวใ นเลเยอรใหม} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม Q จะปรากฏไดอะล็อค COPYTOLAYER ดังรูปที่ 14.7 คลิกบนชื่อเลเยอรที่ตองการหรือคลิกบนปุม Pick แลวคลิกลงบนวัตถุที่อยูใ นเลเยอรเปาหมาย แลวคลิกบนปุม OK เพื่อออกจากไดอะล็อค} 67 objects copied and placed on layer "0". {วัตถุ 67 ชิ้นไดถูกคั ดลอกไปไวในเลเยอร 0) Base point or to finish: {หากตอ งการใหวัตถุ ใหม อยู ในตําแหน งเดิ ม ให กดปุ ม Q หากตองการคัดลอกวัตถุไปไวยังตําแหนงใหม ใหคลิกบนพื้นที่วาดภาพ เพื่อกําหนด จุด Base point และจุด second point of displacement ตามลําดับ} Command: copytolayer

รูปที่ 14.7

Note

ถาตองการคัดลอกวัตถุซึ่งอยูในเลเยอรตางๆ กันไปยังเลเยอรใหมหลายๆ เลเยอร เราจะตองใชคําสั่ง นี้คดั ลอกคราวละเลเยอรไมสามารถคัดลอกวัตถุทั้งหมดจากทุกๆ เลเยอรในคราวเดียว

14.6 Express Layers Layer Isolate | LAYISO | 4

4

ใชสําหรับปด(Off)เลเยอรทั้งหมด ยกเวนเลเยอรของวัตถุทถี่ กู เลือก พรอมทั้งกําหนดเลเยอรของวัตถุที่ถกู เลือกเปน เลเยอรใชงานดังรูปที่ 14.8

กอ นใชคําสั่ง Command: layiso

รูปที่ 14.8

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.8 (ซาย)}

Select object(s) on the layer(s) to be isolated:

chap-14.PMD

415

13/10/2549, 1:35

416

{คลิกบนวัตถุที่อยูในเลเยอรที่ตองการใหปรากฏบนจอภาพ} Select objects: {คลิ กขวาหรื อกดปุ ม Q} Layer 0 has been isolated. {จะปรากฏเฉพาะวั ตถุทั้งหมดที่อยู ในเลเยอร 0 (ศู นย) เทานั้ น เลเยอรอื่นๆ จะถูกปด(Off)ทั้งหมด}

Select objects: 1 found

2D Drafting

Note

คําสั่งนีค้ อนขางสะดวกในการใชงาน เมื่อตองการแสดงวัตถุเฉพาะในเลเยอรเดียวเทานั้น

Note

ใชคําสั่ง Express4Layers4Turn All Layers On ในการเรียกคืนสถานะ On ของเลเยอรทั้งหมด

14.7 Express Layers Isolate Layer to Current Viewport | LAYVPI 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับซอน(Current VP Freeze)วัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรของวิวพอรทอืน่ ๆ ทัง้ หมด ยกเวนวัตถุทอี่ ยูใ นวิวพอรท ใชงาน คําสัง่ นีจ้ ะใชงานไดในโหมดเลเอาทเปเปอรสเปสเทานัน้ และจะตองมีววิ พอรทมากกวา 1 วิวพอรท

กอ นใชคําสั่ง Command: layvpi

รูปที่ 14.9

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.9(ซาย) }

Select an object on the layer to be Isolated in viewport or [Options/Undo]:

{คลิกเพื่อเลือกวิวพอรทใชงาน แลวคลิกบนตัวอักษรหรือเสนบอกขนาดหรือวัตถุอื่นๆ ใน วิวพอรทที่ตองการใหวัตถุนั้นปรากฏอยูเฉพาะในวิวพอรทใชงาน แตไมปรากฏในวิวพอรทอื่นๆ Layer DIMS has been frozen in all viewports but the current one.

{โปรแกรมรายงานวาเลเยอร DIMS ถูกแชแข็งในวิวพอรททัง้ หมด ยกเวนในวิวพอรทใชงาน} Select an object on the layer to be Isolated in viewport or [Options/Undo]:

{คลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ออกจากคําสัง่ วัตถุที่ถูกเลือกนั้นจะถูกซอนในวิวพอรทอื่นๆ ทั้งหมดดังรูปที่ 14.9 (ขวา)}

Note

chap-14.PMD

วิวพอรทที่ใชในคําสัง่ นีห้ มายถึงวิวพอรทในเลเอาทหรือเปเปอรสเปส

416

13/10/2549, 1:35

417

กลุมคําสั่งของ Express Tools Note

ในกรณีที่ตองการแสดงภาพจากโมเดลสเปสใหปรากฏในวิวพอรทหลายวิวพอรท โดยที่ในแตละ วิวพอรทมีมาตราสวนทีแ่ ตกตางกันและภาพทีป่ รากฏในแตละวิวพอรทมาจากวัตถุชนิ้ เดียวกัน การสราง หลายวิวพอรทเชนนีจ้ ะทําใหขนาดของตัวอักษรและเสนบอกขนาดทีป่ รากฏในแตละวิวพอรทมีขนาด ไมเทากัน โดยปกติจะมีตวั อักษรและเสนบอกขนาดจะปรากฏมีขนาดถูกตองในวิวพอรทเดียว เทานัน้ เราสามารถใชคําสั่งนี้เพื่อซอน(Current VP Freeze)เลเยอรตัวอักษร และเสนบอกขนาดในวิวพอรท อื่นๆ ทั้งหมดไดอยางรวดเร็ว แทนที่จะใชคําสั่ง Format4Layer แลวเขาไปใชปุม Current VP Freeze ในแตละวิวพอรทดวยตนเอง

14.8 Express Layers Layer Off | LAYOFF | 4

4

ใชสําหรับปด(Off)เลเยอรทตี่ องการ โดยคลิกลงบนวัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรทตี่ อ งการปด

กอ นใชคําสั่ง Command: layoff

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.10 {จากรูปที่ 14.10 (ซาย)}

Select an object on the layer to be turned off or [Options/Undo]:

อยูใ นเลเยอรที่ตอ งการปด} Layer DIM has been turned off.

{เลเยอร DIM ถูกปด}

Select an object on the layer to be turned off or [Options/Undo]:

ซึง่ อยูในเลเยอรที่ตอ งการปด} Layer BOM has been turned off.

{เลเยอร BOM ถูกปด}

Select an object on the layer to be turned off or [Options/Undo]:

Q เพื่อออกจากคําสั่ง}

Note

{คลิกบนวัตถุที่

{คลิกบนวัตถุอื่นๆ

{คลิ กขวาหรือ

หากวัตถุที่ถูกเลือกอยูในเลเยอรใชงานจะปรากฏขอความ Really want layer PIPE (the CURRENT layer) off? [Yes/No] : ถามวาตองการปดเลเยอรใชงานหรือไม หากเราตองการใหตอบ Y

Options กําหนดรูปแบบในการแชแข็งวัตถุที่เปนบล็อคและเอกซเรฟ(Xref) Entity level nesting แชแข็งเลเยอร วัตถุที่ถูกเลือก ถึงแมวาวัตถุที่ถูกเลือกจะเปนสวนหนึ่งของบล็อคหรือเอกซเรฟ No nesting แชแข็งเลเยอรวตั ถุที่ ถูกเลือก หากวัตถุที่ถูกเลือกเปนบล็อคหรือเอกซเรฟ เลเยอรที่บล็อคหรือเอกซเรฟนั้นจะถูกแชแข็ง Block level nesting แชแข็งเลเยอรวัตถุที่ถูกเลือก ถาวัตถุที่ถูกเลือกเปนสวนประกอบของบล็อคเลเยอรที่บล็อคนั้นอยูจะถูก แชแข็ง(เหมือนตัวเลือก No nesting) ถาวัตถุที่ถูกเลือกเปนสวนประกอบของ Xref เลเยอรของวัตถุจะถูกแชแข็ง (เหมือนตัวเลือก Entity level nesting)

chap-14.PMD

417

13/10/2549, 1:35

418

14.9 Express Layers Turn All Layers On | LAYON 4

4

2D Drafting

ใชคําสัง่ นี้เพื่อเปด(On)เลเยอรที่ถูกปด(Off)ทั้งหมด รวมทั้งเลเยอรทถี่ กู ปดดวยคําสั่ง Layer Isolate คําสั่งนี้ตาง จากคําสัง่ LAYUNISO เพราะคําสัง่ นีจ้ ะเปดเลเยอรทถี่ กู ปดทัง้ หมด ไมวา เลเยอรจะถูกปดดวยคําสัง่ Format4Layer หรือปดดวยแถบรายการควบคุมเลเยอรหรือปดดวยคําสัง่ Layer Isolate ก็ตาม

14.10 Express Layers Layer Freeze | LAYFRZ | 4

4

ใชสําหรับแชแข็ง(Freeze)เลเยอรทตี่ อ งการ โดยคลิกลงบนวัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรทตี่ อ งการแชแข็ง

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.11

Command: layfrz

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.11 (ซาย)}

Select an object on the layer to be frozen or [Options/Undo]:

{คลิกบนเส นลีดเดอร

หรือตัวอักษรหรือวัตถุของเลเยอรที่ตองการแชแข็ง} Layer TEXT has been frozen. {เลเยอร TEXT ไดถูกแชแข็ง เสนลีดเดอรจะหายไปทั้งหมด} Select an object on the layer to be frozen or [Options/Undo]: {คลิ ก บนวั ต ถุ ของ เลเยอรที่ตองการแชแข็งตอไปหรือคลิกขวาหรือกดปุม Q เพื่อออกจากคําสั่ง}

Note

หากวัตถุที่เราคลิกอยูในเลเยอรใชงาน เราไมสามารถแชแข็งเลเยอรของวัตถุนั้นได เราจะตองเปลี่ยน เลเยอรใชงานเปนเลเยอรอื่นเสียกอน จึงจะสามารถแชงแข็งเลเยอรนั้นได

Note

ดูรายละเอียดการใชตัวเลือก Options ในคําสั่ง Layer Off

14.11 Express Layers Thaw All Layers | LAYTHW 4

4

ใชคาํ สัง่ นีส้ าํ หรับละลาย(Thaw)เลเยอรทงั้ หมดทีถ่ กู แชแข็งอยู เพือ่ เรียกวัตถุทอี่ ยูภ ายในเลเยอรทงั้ หมดกลับมาปรากฏ บนพืน้ ทีว่ าดภาพ

14.12 Express Layers Layer Lock | LAYLCK | 4

4

ใชสําหรับล็อคเลเยอรวตั ถุทถี่ กู เลือก เพือ่ ปองกันไมใหมกี ารแกไขวัตถุทอี่ ยูใ นเลเยอรนนั้

chap-14.PMD

418

13/10/2549, 1:35

419

กลุมคําสั่งของ Express Tools Command: laylck

{คลิกบนวัตถุที่อยูในเลเยอรที่ตองการล็อค} has been locked. {เลเยอร CALLOUTS ไดถู กล็อ คแล ว}

Select an object on the layer to be locked: Layer CALLOUTS

14.13 Express Layers Layer Unlock | LAYULK | 4

4

ใชสําหรับปลดล็อคเลเยอรของวัตถุทถี่ กู เลือก เพือ่ ใหเราสามารถทีจ่ ะแกไขปรับแตงวัตถุไดเชนเดิม Command: layulk

{คลิกบนวัตถุในเลเยอรที่ตองการปลดล็อค} {เลเยอร CALLOUTS ไดถูกปลดล็อคแลว}

Select an object on the layer to be unlocked: Layer CALLOUTS has been unlocked.

14.14 Express Layers Layer Merge | LAYMRG 4

4

ใชคาํ สัง่ นีส้ าํ หรับรวมเลเยอรหนึง่ เขากับอีกเลเยอรหนึง่ โดยยายวัตถุตา งๆ ทัง้ หมดจากเลเยอรเดิมเขา ไปในเลเยอรใหม พรอมทัง้ ลบเลเยอรเดิมทิง้ ไป

เลเยอร MOTOR

เลเยอร MOTOR

เลเยอร PIPE

เลเยอร MOTOR

กอ นใชคําสั่ง Command: laymrg

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.12 {จากรู ปที่ 14.12 (ซาย)}

Select object on layer to merge or [Type-it/Undo]:

เลเยอรใหม ในที่นคี้ ลิกบนวัตถุ PIPE} Selected layers: PIPE {โปรแกรมรายงานเลเยอรของวัต ถุ}

{คลิกบนวัตถุที่ ตองการรวมเขากับ

{คลิกขวาหรือ Q} Select object on target layer or [Type-it]: {คลิ กบนวั ตถุ ที่อ ยู ในเลเยอร เป าหมายในการ รวมเลเยอรเขาดวยกัน ในที่นี้คลิกบนวัตถุ MOTOR} ******** WARNING ******** {คําเตือน มีบล็อค 2 ชิ้นอยูในเลเยอรที่กําลังจะถูกลบ บล็อคนั้นจะถูก สราง ใหมและจะถูกยายไปอยูใ นเลเยอร MOTOR}

Select object on layer to merge or [Type-it/Undo] <done>:

There are 2 block definition(s) which reference the layer(s) you are deleting. The block(s) will be redefined and the entities referencing

chap-14.PMD

419

13/10/2549, 1:35

420

the layer(s) will be changed to reference layer M OTOR.

{เรากําลังจะ 2D Drafting

You are about to permanently merge layer PIPE into layer MOTOR.

รวมเลเยอร PIPE เขากับเลเยอร MOTOR อยางถาวร} Do you wish to continue? [Yes/No] : Y {พิมพ Y แลว Q เพื่อยืนยันการรวมเลเยอร} Redefining block "4X3RED" {สรางบล็อค 4X3RED ใหม} Redefining block "90S4" {สรางบล็อค 90S4 ใหม} Merging layer PIPE into layer MOTOR. {กําลังรวมเลเยอร PIPE เขากับเลเยอร MOTOR} All entities which were on layer PIPE have been moved to layer MOTOR.

{วัตถุทั้งหมดที่เคยอยูในเลเยอร PIPE ไดถูกยายไปยังเลเยอร MOTOR ทั้งหมดแลว} Deleting layer "PIPE". {กําลังลบเลเยอร PIPE} 1 layer deleted. {เลเยอร PIPE ไดถูกลบทิ้งไปแลว}

14.15 Express Layers Layer Delete | LAYDEL 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับลบเลเยอรของวัตถุทถี่ กู เลือกวัตถุอนื่ ๆ ทีอ่ ยูใ นเลเยอรเดียวกันทัง้ หมดจะถูกลบไปพรอมทัง้ เลเยอร

กอ นใชคําสั่ง Command: laydel

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.13 {จากรูปที่ 14.13 (ซาย)}

Select object on layer to delete or [Type-it/Undo]:

{คลิกบนวัตถุซึ่งอยู ในเลเยอร

ที่ตองการลบ ในที่นี้คลิกลงบนตัวอักษรใดๆ ที่มีสีเขียว} Selected layers: Text {โปรแกรมรายงานชื่ อเลเยอรที่จะถูกลบ}

Select object on layer to delete or [Type-it/Undo] <done>: ******** WARNING ******** {คําเตือน}

{คลิกขวาหรือ Q}

You are about to permanently delete layer Text from this drawing.

{โปรแกรมไดเตือนวาเรากําลังจะลบเลเยอรออกจากแบบแปลนอยางถาวร} Do you wish to continue? [Yes/No] :Y {พิมพ Y แลว Q เพื่อยืนยันการลบเลเยอร} Deleting layer "Text". {เลเยอร TEXT พรอมทั้งวัตถุที่อยูในเลเยอรทั้งหมดถูกลบทิ้งไปอยางถาวร} 1 layer deleted.

Note

chap-14.PMD

เราไมสามารถลบเลเยอร 0 (ศูนย) เลเยอรที่ถกู ล็อคและเลเยอรใชงานได หากตองการลบเลเยอรทกี่ ําลัง ใชงานอยู เราจะตองเปลี่ยนเลเยอรนั้นไปเปนเลเยอรที่มิไดใชงานกอน เราจึงจะสามารถลบเลเยอรได

420

13/10/2549, 1:35

421

กลุมคําสั่งของ Express Tools

14.16 Express Blocks List Xref/Block Entities | XLIST | 4

4

ใชสําหรับแสดงคุณสมบัตขิ องวัตถุทเี่ ปนสวนประกอบยอยภายในของบล็อคหรือเอกซเรฟ(Xref)

กอ นใชคําสั่ง

Command: xlist

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.14

{จากรูปที่ 14.14 (ซาย)}

{คลิกบนวัตถุใดๆ ที่เปนสวนประกอบของบล็อค หรือเอกซเรฟจะปรากฏไดอะล็อครายงานคุณสมบัติของวัตถุที่เปนสวนประกอบภายในของ บล็อคหรือเอกซเรฟ}

Select nested xref or block object to list:

14.17 Express Blocks Copy Nested Objects | NCOPY | 4

4

ใชสําหรับคัดลอกวัตถุที่เปนสวนประกอบอยูภายในบล็อคโดยทีไ่ มตองระเบิด(Explode)บล็อคนัน้ กอนหรือคัดลอก สวนประกอบของเอกซเรฟ(Xref)โดยทีไ่ มตอ งตัดการเชือ่ มโยง(Bind)

วัตถุทถี่ กู คัดลอก

เอกซเรฟ

รูปที่ 14.15

บล็อค

วัตถุทถี่ กู คัดลอก

{จากรูปที่ 14.15 (ซาย)} Select nested objects to copy: {คลิกบนวัต ถุที่เป นส วนประกอบของบล็อ คหรื อเอกซเรฟ ตองการคัดลอก} Select nested objects to copy: {คลิ ก ขวาหรื อ Q} Select objects: Specify base point or displacement, or [Multiple]: {คลิก ณ ตําแหนง ใดๆ เพือ่ กําหนดจุดอางอิงในการคัดลอกหรือพิมพ M เพือ่ เลือกโหมดการคัดลอกแบบหลายชิน้ }

Command: ncopy

chap-14.PMD

421

13/10/2549, 1:35

422

Specify second point of displacement or <use first point as displacement>:

2D Drafting

{คลิก ณ ตําแหนงใหม เพื่อกําหนดจุดแทนที่ของวัตถุ สวนประกอบของบล็อคที่ถูกเลือกจะถูก คัดลอกไปยังตําแหนงใหมดังรูปที่ 14.15}

14.18 Express Blocks Trim to Nested Objects | BTRIM | 4

4

ใชสําหรับทริม(Trim)วัตถุโดยใชบล็อคหรือเอกซเรฟเปนแกนตัด(Cutting edge) เสนตรงธรรมดา

บล็อค

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.16

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.16 (ซ าย)} Select cutting edges: {คลิกบนวัตถุชนเดี ิ้ ยวหรือหลายชินซึ ้ งเป ่ นสวนประกอบของบล็อคทีใช่ เปนแกนตัด} Select objects: {คลิ กขวาหรื อ Q} Select object to trim or [Project/Edge/Undo]: {คลิ ก บนปลายเส นที่ ต อ งการตั ด } Select object to trim or [Project/Edge/Undo]: {คลิกขวาหรือ Q จะปรากฏดังรูปที่ 14.16 (ขวา)} Command: btrim

Note

อันที่จริงคําสัง่ Modify4Trim ใน AutoCAD 2006 ก็สามารถใชเสนสวนประกอบของบล็อคเปน ขอบตัด(Cutting edges)ไดอยูแลว ดังนั้น เราอาจจะไมจําเปนที่จะตองใชคําสั่งนี้

14.19 Express Blocks Extend to Nested Objects | BEXTEND | 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับตอเสนตรงหรือเสนโคงไปชนวัตถุทเี่ ปนสวนประกอบของบล็อคหรือเอกซเรฟ

บล็อค

เสนตรงธรรมดา

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.17

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.17 (ซาย)} extend: {คลิก บนวัต ถุชิ้ นเดี ยวหรื อหลายชิ้ นที่ เปนสวนประกอบของบล็ อค

Command: bextend Select edges for

chap-14.PMD

422

13/10/2549, 1:35

423

กลุมคําสั่งของ Express Tools

Select

ที่ใชเปนขอบเขตในการตอเสน} edges for extend: {คลิ ก ขวาหรื อ Q}

{คลิกบนปลายเสนที่ตองการตอ} [Project/Edge/Undo]:{คลิ ก ขวาหรื อ Q จะปรากฏดั งรู ปที่

Select object to extend or [Project/Edge/Undo]: Select object to extend or

14.17 (ขวา)}

Note

อันทีจ่ ริงคําสัง่ Modify4Extend ใน AutoCAD 2006 ก็สามารถใชเสนสวนประกอบของบล็อคเปน ขอบเขตในการตอเสนไดอยูแลว ดังนั้น เราอาจจะไมจําเปนที่จะตองใชคําสั่งนี้

14.20 Express Blocks Explode Attributes to Text | BURST | 4

4

ใชสาํ หรับระเบิดบล็อคพรอมทัง้ แปลงแอททริบวิ ตใหเปนตัวอักษรธรรมดา เมือ่ ปรากฏขอความ Select objects: ใหคลิก ลงบนบล็อคหรือแอททริบวิ ตทตี่ อ งการระเบิดใหเปนตัวอักษรธรรมดา แลวคลิกขวา เพือ่ ออกจากคําสัง่

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.18

14.21 Express Blocks Convert Shape to Block | SHP2BLK 4

4

ใชสําหรับแปลง Shape ที่ Load ออกมาจากไฟล .shx บนพืน้ ทีว่ าดภาพใหเปลีย่ นสภาพกลายเปนบล็อคดังนี้

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.19

หลังใชคําสั่ง

Command: shp2blk

{คลิกบน Shape ทีต่ อ งการแปลงใหเปนบล็อค} {คลิกขวาหรือกดปุม Enter} Enter the name of the block to create : {พิมพชอ ื่ บล็อคใหมหรือคลิกขวาหรือกดปุม Enter เพือ่ ใชชอื่ บล็อคทีโ่ ปรแกรมกําหนดมาให} The shape BOX has been replaced with block BOX. {Shape ถูกแปลงเปน Block แลว} Select shape entity to convert: Select objects: 1 found

14.22 Express Blocks Export Attribute Information | ATTOUT 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ าํ หรับแยกขอมูลแอททริบวิ ตทงั้ หมดทีบ่ รรจุอยูใ นไฟลแบบแปลน .dwg ออกไปใชกบั โปรแกรมคอมพิวเตอร อื่นๆ เพื่อใชในการคํานวณ อาทิ เชน ประมาณราคาวัสดุ เปนตน โปรแกรมจะสราง ASCII Text File ซึ่งบรรจุขอ มูล

chap-14.PMD

423

13/10/2549, 1:35

424

แอททริบวิ ตทงั้ หมด กอนจะใชคาํ สัง่ นี้ เราจะตองเปดไฟลแบบแปลน .dwg ทีบ่ รรจุแอททริบวิ ตออกมาเสียกอน ในทีน่ เี้ ปด ไฟล 14-424-20.dwg ออกมาใชงาน

2D Drafting

รูปที่ 14.20 Command: attout

{พิมพ All เพือ่ เลือกวัตถุในไฟลแบบแปลนทัง้ หมด แลวกดปุม Q} 18 found {พบวัตถุทงั้ หมด 18 ชิน ้} Select objects: {คลิกขวาหรือ Q โปรแกรมจะสรางไฟล .txt บรรจุขอ  มูลแอททริบวิ ตทงั้ หมด} Select objects: ALL

Output file: "C:\14-424-20.txt" created.

Note

หากตองการเปดไฟลขอ มูลแอททริบวิ ต .txt ที่โปรแกรมสรางขึน้ เราสามารถใชโปรแกรม Microsoft Excel เปดไฟลดังกลาวออกมา ซึ่งโปรแกรมจะทําการแยกคอลัมนให หากเราใชตวั เลือกทีโ่ ปรแกรม กําหนดมาใหทั้งหมด เนือ่ งจากไฟลที่สรางจากคําสั่งนีเ้ ปนไฟลที่แยกคอลัมนแบบ Tab-delimited

Note

สังเกตุวาขอมูลแอททริบิวตทใี่ ชโปรแกรม Note Pad เปดออกมาดังรูปที่ 14.20 (ซาย) การจัดฟอรแมต จะแยกตามแท็ปซึง่ จะตรวจสอบคอนขางยาก เพราะคอลัมนอาจจะตรงหรือไมตรงกันก็ได แตเมือ่ ใช Microsoft Excel เปดไฟลเดียวกันออกมาดังรูปที่ 14.20 (ขวา) การจัดรูปแบบในการแสดงผลจะสามารถ ตรวจสอบไดงาย เพราะมีการแยกคอลัมนอยางชัดเจนและสามารถนําคาในตารางไปใชในการคํานวณ ไดอกี ดวย

Note

สังเกตุอกี อยางหนึง่ วาการ Export แอททริบวิ ตดว ยคําสัง่ นีม้ คี า Handle ของบล็อคอยูใ นคอลัมนแรกของ ทุกเรคคอรดของฐานขอมูล คา Handle นีใ้ ชสาํ หรับอางอิงเพือ่ เรียกวัตถุออกมาใชงาน ดังนัน้ เราสามารถ แกไขขอมูลแอททริบวิ ตใน Notepad ไดทนั ที แลวนําขอมูลกลับไปกําหนดคืนใหกบั บล็อคแอททริบวิ ต ดวยคําสั่ง Import Attribute Information

14.23 Express Blocks Import Attribute Information | ATTIN 4

4

ใชสาํ หรับนําฐานขอมูลซึง่ ถูกบันทึกในรูปของ ASCII text file จากคําสัง่ Export Attribute Information กลับเขามาเพือ่ แกไขแอททริบวิ ตทอี่ ยูใ นไฟลแบบแปลนใชงานตามคา Handle ของวัตถุ เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อค เพือ่ ใหเรา คนหาและเลือกไฟลฟอรแมต .txt ใหคน หาไฟลทสี่ รางจากคําสัง่ Export Attribute Information ตามตองการ คาตางๆ ของแอททริบวิ ตจะถูกแทนทีด่ ว ยคาทีอ่ ยู ในไฟลทงั้ หมด

chap-14.PMD

424

13/10/2549, 1:35

425

กลุมคําสั่งของ Express Tools Note

เราสามารถใช Notepad เปดไฟลแอททริบิวต .txt ที่สรางจากคําสั่ง Export Attribute Information ออกมา แลวแกไขคาแอททริบิวตตา งๆ ในฐานขอมูลไดตามตองการ หลังจากทีแ่ กไขคาตางๆ เรียบรอย แลว เราสามารถใชคําสั่งนีเ้ พื่อเรียกคาตางๆ ที่แกไขแลวกลับไปแทนที่ในไฟลแบบแปลนใชงานได

14.24 Express Blocks Convert block to xref | BLOCKTOXREF 4

4

ใชคาํ สัง่ นีส้ าํ หรับแทนทีบ่ ล็อคดวยเอกซเรฟจากไฟลแบบแปลน .dwg เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.21 เราสามารถคลิกบน ชือ่ บล็อคบนไดอะล็อคหรือคลิกบนปุม Pick แลวคลิกเพือ่ เลือกบล็อค บนพืน้ ทีว่ าดภาพ คลิกบนปุม OK ของไดอะล็อค จะปรากฏไดอะล็อค ใหเราเลือกไฟลเอกซเรฟ .dwg ซึ่งเราตองการนํามาแทนที่บล็อค คนหาไฟลเอกซเรฟ .dwg ทีเ่ ราตองการแทนทีบ่ ล็อค แลวคลิกบนปุม Open

รูปที่ 14.21

Note

เอกซเรฟไฟลทนี่ าํ มาแทนทีบ่ ล็อคจะมีการกําหนดจุดสอดแทรกและขนาดใหตรงกับบล็อคเดิม มิฉะนัน้ ตําแหนงของบล็อคและเอกซเรฟนัน้ จะไมตรงกัน เราสามารถใชคําสัง่ BASE เพือ่ กําหนดจุดสอดแทรก ใหมในไฟลเอกซเรฟได

บล็อค

เอกซเรฟไฟล

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.22

หลังใชคําสั่ง

14.25 Express Blocks Replace block with another block | BLOCKREPLACE 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับแทนทีบ่ ล็อคชิน้ หนึง่ ดวยบล็อคอีกหนึง่ ซึง่ อยูใ นไฟลแบบแปลนเดียวกัน บล็อคทุกชิน้ ทีม่ ีชอื่ เหมือน กันทัง้ หมดจะถูกแทนที่ เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.23 (ซาย) แสดงขอความ Select the block to be replaced ใหคลิกบนชือ่ บล็อคทีจ่ ะถูกแทนทีห่ รือคลิกบนปุม Pick แลวคลิกบนบล็อคทีจ่ ะถูกแทนทีบ่ นพืน้ ทีว่ าดภาพ จะปรากฏข อความ Select a block to replace CBORE ดัง รู ป ที่ 14.23 (ขวา) ให คลิ กบนชื่ อบล็ อค ที่จะนํามาแทนที่ หรือ คลิกบนปุม Pick แลว คลิกบน บล็อคทีจ่ ะนํา รูปที่ 14.23

chap-14.PMD

425

13/10/2549, 1:35

426

มาแทนทีบ่ นพืน้ ทีว่ าดภาพ แลวคลิกปุม OK จะปรากฏขอความ Purge unreferenced items when finished? : ถามวาตองการลบบล็อคทีม่ ไิ ดใชงานหรือไม ใหคลิกขวา เพือ่ ลบบล็อคทีม่ ิไดใชงาน บล็อคชือ่ CBORE จะถูกแทนที่ ดวยบล็อคชือ่ Nut ทัง้ หมดดังรูปที่ 14.24 (ขวา)

2D Drafting

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.24

14.26 Express Texts Remote Text | RTEXT 4

4

ใชคําสัง่ นี้สําหรับสอดแทรกรีโมทเทกซ(Remote Text)จากแอสกี้เทกซไฟล(ASCII Text Files)หรือจาก DIESEL Expression ซึง่ ใชสําหรับกําหนดรูปแบบของบรรทัดแสดงสถานะ เราควรใชรีโมทเทกซกบั ขอความตัวอักษรหลายๆ บรรทัดหรือหลายๆ ยอหนาซึง่ ถูกเก็บไวในไฟลฟอรแมต .txt เมือ่ สอดแทรก ขอความตัวอักษรเขามายังไฟลแบบแปลน ใชงานแลว เรายังคงตองการไฟล .txt ตนฉบับอยูท กุ ครัง้ ทีม่ กี ารเปดไฟลแบบแปลนซึง่ บรรจุรโี มทเทกซ หากไฟลตน ฉบับ .txt ถูกเคลือ่ นยายหรือหายไปจะปรากฏเพียงกรอบสีเ่ หลีย่ มผืนผาหรือขอความ RTEXT: file open error แทน รูปที่ 14.25

Command: rtext Current settings: Style=Standard Height=2.5000 Rotation=0

{คลิกขวาหรือ Q เพือ่ เลือกตัวเลือก File แลวคนหาไฟล 14-426-25.txt จากโฟลเดอร \Exercise แผน DVD-ROM แนบทายหนังสือ} Specify start point of RText: {คลิก ณ ตําแหนงทีต ่ อ งการสอดแทรกขอความตัวอักษร}

Enter an option [Style/Height/Rotation/File/Diesel] :

Current values: Style=Standard Height=2.5000 Rotation=0 Enter an option [Style/Height/Rotation/Edit]:

Text จะถูกสอดแทรกบนพืน้ ทีว่ าดภาพ}

{คลิกขวาหรือ Q เพือ่ ออกจากคําสัง่ Remote

Style เปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร Height กําหนดความสูงตัวอักษร Rotation กําหนดมุมหมุนของขอความ File เลือกขอความตัวอักษรจากไฟล .txt เขามาใชงาน Diesel เลือกขอความตัวอักษรจาก Diesel Expression ออกมาใชงาน Edit แกไขขอความตัวอักษรในรีโมทเทกซไฟลซงึ่ จะมีผลกับไฟลตนฉบับ

chap-14.PMD

426

13/10/2549, 1:35

427

กลุมคําสั่งของ Express Tools Note

หากตองการแกไขขอความ เราสามารถใช Notepad หรือโปรแกรมเทกซอิดิทเตอรอื่นๆ เปดไฟลตน ฉบับ .txt ออกมาแกไข ผลการแกไขจะเปลีย่ นแปลงก็ตอ เมือ่ เราเปดไฟลแบบแปลนทีบ่ รรจุรีโมทเทกซ ทีถ่ ูกแกไขใหม

14.27 Express Texts Text Fit | TEXTFIT | 4

4

ใชสําหรับยืดหรือหดความกวางของตัวอักษร TEXT หรือ DTEXT ใหฟต พอดีกบั ระยะทีก่ าํ หนด

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.26

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.26 (บน)} {คลิกบนตัวอักษรทีต่ อ งการปรับแตงความกวาง} Specify end point or [Start point]: S {พิมพ S ในกรณีทต ่ี อ งการกําหนดจุดเริม่ ตนใหมหรือ ตองการเคลือ่ นยายตัวอักษรไปยังตําแหนงใหม} Specify new starting point: {คลิกเพือ ่ กําหนดจุดเริม่ ตนใหมของตัวอักษร} ending point: {เลือ ่ นเมาสเพือ่ ลากเสนตรงชัว่ คราวแทนความกวางใหมของตัวอักษร แลวคลิกเพือ่ กําหนดความกวางของตัวอักษร จะปรากฏดังรูปที่ 14.26 (ลาง)} Command: textfit

Select Text to stretch or shrink:

Note

คําสั่งนี้ไมสามารถใชกับขอความตัวอักษรที่สรางจากคําสั่ง MTEXT และ RTEXT

14.28 Express Texts Text Mask | TEXTMASK | 4

4

ใชสําหรับปดกัน้ หรือปดบังไมใหวตั ถุตางๆ ทีอ่ ยูภ ายในขอบเขตของตัวอักษร TEXT และ MTEXT ปรากฏบนจอภาพ

กอ นใชคําสั่ง

WIPEOUT

chap-14.PMD

427

รูปที่ 14.27

หลังใชคําสั่ง

3D FACE

SOLID

13/10/2549, 1:35

428

Command: textmask

2D Drafting

Current settings: Offset factor = 0.3500, Mask type = Wipeout

{คลิกบนเสนขอบของตัว อักษรหรือเลือกรูปแบบ Masktype หรือกําหนดระยะหาง Offset จากตัวอักษร}

Select text objects to mask or [Masktype/Offset]: 1 found

Current settings: Offset factor = 0.3500, Mask type = Wipeout

{คลิกขวาหรือ Q} {กําลังสรางไวบเอาทปด บังวัตถุทงั้ หมด} 1 text items have been masked with a Wipeout. {ตัวอักษรถูกปดบังดวยไวบเอาทแลว} Select text objects to mask or [Masktype/Offset]: Masking text with a Wipeout Wipeout created.

Note

ตัวเลือก Masktype มีรปู แบบ 3 แบบใหเราไดเลือกใชงานคือ Wipeout พืน้ เปนสีขาว 3D Face โปรแกรม จะสราง 3D Face ภายใตตวั อักษร ไมสามารถใชกบั งาน 2 มิติ สวน Solid เราสามารถเลือกสีของพืน้ หลัง ของโซลิดทีอ่ ยูด า นหลังตัวอักษรไดตามตองการ

Note

Offset factor คือสเกลแฟคเตอรระยะหางของชองวางเปรียบเทียบกับความสูงของตัวอักษรทีถ่ ูกเลือก

14.29 Express Texts Unmask Text | TEXTUNMASK 4

4

ใชคําสั่งนี้สําหรับลบ Wipeout, 3D Face และ Solid ทีป่ ดบังดานหลังของตัวอักษรทีส่ รางจากคําสั่ง TEXTMASK เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏขอความดังนี้ Command: textunmask Select text or MText object from which mask is to be removed.

{คลิกตัวอักษรหนึง่ หรือมากกวาหนึง่ ทีต่ อ งการลบ Textmask ออก} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q สวนทีป่ ด บังวัตถุทอี่ ยูด า นหลังจะถูกลบทิง้ ไป} Select objects: 1 found

Removed mask from one text object.

14.30 Express Texts Explode Text | TXTEXP | 4

4

ใชสําหรับระเบิดตัวอักษร TEXT, DTEXT หรือ METXT ใหเปนเสนตรงและเสนโคงธรรมดา Command: txtexp Select text to be EXPLODED: 1 found

{คลิกบนตัวอักษรกลุม เดียวหรือหลายกลุม ตามตองการ}

Deleting block "WMF0". 1 block deleted. 1 text object(s) have been exploded to lines. The line objects have been placed on layer 0.

Note

chap-14.PMD

{ตัวอักษรไดถกู ระเบิดออกเปนเสนแลว} {เสนทีเ่ กิดขึน้ ถูกยายไปอยูเ ลเยอร 0}

เรามักจะใชคําสั่งนี้สําหรับแปลงตัวอักษรใหเปนเสนตรงและเสนโคงธรรมดา เพื่อนําไปสรางเปน ตัวอักษรแบบ 3 มิติ หากตัวอักษรทีร่ ะเบิดเปนฟอนท .ttf หลังจากทีร่ ะเบิดดวยคําสัง่ นีแ้ ลวอาจจะมีเสน สวนเกินที่เราไมตอ งการ บางครัง้ เรายังไมสามารถทีจ่ ะลบออกไดทันที อาจจะตองใชคําสัง่ Modify4 Explode ระเบิดอีกครั้งหนึ่งเสียกอนที่จะสามารถลบเสนสวนเกินที่ไมตองการได จึงจะสามารถ แปลงใหเปน Region เพื่อนําไป Extrude ใหกลายเปน 3 มิติได

428

13/10/2549, 1:35

429

กลุมคําสั่งของ Express Tools

14.31 Express Texts Convert Text to Mtext | TXT2MTXT 4

4

ใชสําหรับแปลงตัวอักษร TEXT, DTEXT ใหเปนตัวอักษรแบบ MTEXT Command: txt2mtxt Select text objects, or [Options]:

{คลิกลงบนตัวอักษร TEXT หรือ DTEXT หรือคลิกขวา จะปรากฏไดอะล็อค Text Options ใหเราเลือกโหมดการสราง MTEXT ซึง่ มีตวั เลือกดังนี}้

Select objects:

Selection set oder ตัวอักษรหลายๆ ชุดจะถูกแปลงเปน MText ชิ้นเดียวตาม ลําดับที่ถกู เลือก Sort top-down ตัวอักษรหลายๆ ชุดจะถูกแปลงเปน MText ชิ้นเดียวตามแกน Y ลงมา Create word-wrap MText หากปรากฏเครือ่ ง

รูปที่ 14.28

หมาย โปรแกรมจะพยายามเพิ่มชองวางขึ้นที่ปลายบรรทัด เพื่อใหยอหนา มวน(Wrap)อยางมีระเบียบ

14.32 Express Texts Arc Aligned Text | ARCTEXT | 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเขียนตัวอักษรตามแนวเสนโคง(Arc)ดังรูปที่ 14.29

รูปที่ 14.29 Command: _.arctext

{คลิกบนเสนโคง(Arc)ทีต่ อ งการเขียนตัวอักษรโคง หรือคลิกบนตัวอักษรโคงทีต่ อ งการแกไข จะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.30}

Select an Arc or an ArcAlignedText:

Reverse text reading order เขียนตัวอักษร จากหลังยอนกลับไปขางหนา Align to the left จัดตัวอักษรชิดซาย Align to the right จัดตัว อักษรชิดขวา Fit along the arc ขยายหรือหด

รูปที่ 14.30

chap-14.PMD

429

ตั ว อั ก ษรให ฟ ต พอดี กั บ เส น โค ง ที่ ถู กเลื อ ก Center along the arc จั ดตั วอั กษรให อยู ระหวางกลางเสนโค งที่ ถูกเลือก On convex side จัดใหตัวอักษรอยู ด านนอกของสวนโคง On concave side จัดใหตวั อักษรอยูด า นในของ สวนโคง Outward from center สวนบนของ ตั วอั กษรชี้ ขึ้ นจากจุ ดศู น ย กลางของส วนโค ง Inward to center สวนบนของตัวอักษรชี้ลง

13/10/2549, 1:35

430

ไปยังจุดศูนยกลางของสวนโคง Bold ตัวอักษรตัวหนา Italic ตัวอักษรตัวเอียง Underline ตัวอักษรขีดเสนใต Color เปลีย่ นสีของตัวอักษร Style เปลี่ยนรูปแบบของตัวอักษร Font เลือกฟอนทเพือ่ กําหนดรูปแบบของตัวอักษร Text พิมพตัวอักษรที่ตองการ Text height กําหนดความสูงของตัวอักษร Width factor กําหนดแฟคเตอรความ กวางของตัวอักษร Char spacing กําหนดระยะหางระหวางตัวอักษรแตละตัว Offset from arc กําหนดระยะ หางระหวางเสนโคงและตัวอักษร Offset from left กําหนดระยะหางของตัวอักษรจากปลายเสนโคงดานซาย Offset from right กําหนดระยะหางของตัวอักษรจากปลายเสนโคงดานขวา

2D Drafting

รูปที่ 14.31

Fit along arc

Align to the left

Align to the right

Center along the arc

On convex side

On concave side

Outward from center

Inward to center

กอนที่เราจะสามารถเขียนตัวอักษรตามสวนโคงได เราจะตองใชคําสั่ง Draw4Arc43 Points เพื่อเขียนเสนโคงขึ้นมาหนึ่งเสนเสียกอน จึงจะสามารถใชคําสัง่ นี้เขียนตัวอักษรบนเสนโคงได

Note

14.33 Express Texts Justify Text | TJUST 4

4

ใชคําสั่งนี้สําหรับแกไขเปลี่ยนแปลงการจัดตัวอักษรชิดซายขวา(Justification) โดยที่ไมมกี ารเคลือ่ นยายตัวอักษร ไปยังตําแหนงใหม กอ นใชคําสั่ง Start หรือ BL

รูปที่ 14.32

MC

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.32 (บน)} Select objects: 1 found {คลิกบนตัวอักษรทีต ่ อ งการ (เดิมตัวอักษรถูกจัดชิดซายลาง)} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q} Command: tjust

Enter new justification...

{เลือกตัว เลือกเพือ่ ปรับการจัดตัวอักษร ในทีน่ พี้ มิ พ MC เพือ่ ใชตวั เลือก Middle Center } 1 objects modified. {หลังจากทีต ่ วั อักษรถูกแกไขแลว เราจะไมเห็นผลการเปลีย่ นแปลง จนกวา จะคลิกใหปรากฏจุด Grips สีนา้ํ เงิน จะปรากฏดังรูปที่ 14.32 (ลาง)} [Start/Center/Middle/Right/TL/TC/TR/ML/MC/MR/BL/BC/BR] <Start>: MC

chap-14.PMD

430

13/10/2549, 1:35

431

กลุมคําสั่งของ Express Tools

14.34 Express Texts Rotate Text | TORIENT 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับหมุนตัวอักษร TEXT, MTEXT, แอททริบวิ ตและตัวอักษรแอททริบวิ ตซงึ่ เปนสวนประกอบของบล็อค

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.33

Command: torient

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.33 (ซาย)}

Select TEXT, MTEXT, ATTDEF, or BLOCK inserts w/attributes...

{คลิกบนตัวอักษร TEXT, MTEXT, แอททริบวิ ตและบล็อคแอททริบวิ ต} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q} New absolute rotation <Most Readable>: {ปอนคามุมในการหมุนตัวอักษร (มุมแอบโซลุท) หรือคลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ใชตวั เลือก Most Readable เพือ่ ปรับมุมของตัวอักษรให อานไดงา ยทีส่ ดุ โปรแกรมจะปรับมุมของตัวอักษรใหโดยอัตโนมัตดิ งั รูปที่ 14.33 (ขวา)} Select objects: 1 found

1 objects modified.

Note

สังเกตุวา เมือ่ ใชตวั เลือก Most Readable โปรแกรมจะหมุนตัวอักษรใหสามารถอานไดงา ย แตยงั คงคามุม เอียงเดิมของตัวอักษร

Note

คําสั่งนี้แตกตางจากการใชคําสั่ง ROTATE ธรรมดาหมุนตัวอักษร เพราะมุมในการหมุนเปนมุมแบบ แอบโซลุทไมเหมือนคามุมในคําสั่ง ROTATE ซึ่งเปนแบบรีเลทีฟ ยกตัวอยาง เชน หากเดิมตัวอักษร ทํามุมเอียง 45 องศากับแกน X หากเราปอนคามุม 0 องศาในคําสัง่ นี้ ตัวอักษรจะกลับไปอยูใ นแนวนอน แตถาใชคําสัง่ ROTATE และตองการใหตวั อักษรกลับไปอยูใ นแนวนอนตองปอนคามุม -45 ดังนัน้ ถา ใชคําสัง่ ROTATE เราจะตองทราบมุมเดิมของตัวอักษร แตถา ใชคําสัง่ Rotate Text นี้ เราไมจําเปนตอง ทราบมุมเดิมของตัวอักษร เราสามารถปอนคามุมแอบโซลุทใหมไดทนั ที

14.35 Express Texts Enclosed Text with Object | TCIRCLE 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเขียนวงกลม, สล็อท(Slot) หรือสีเ่ หลีย่ มผืนผาลอมรอบตัวอักษร TEXT หรือ MTEXT หรือ ATTDEF แอททริบิวตทถี่ กู เลือก Command: tcircle

{จากรูปที่ 14.34 }

Select TEXT, MTEXT or ATTDEF objects...

{คลิกบนตัวอักษรทีต่ อ งการ} {คลิกขวาหรือกดปุม Q} Enter distance offset factor <0.35>: {กําหนดแฟคเตอรของระยะหางจากตัวอักษรหรือคลิก Select objects: Specify opposite corner: 3 found Select objects:

chap-14.PMD

431

13/10/2549, 1:35

432

ขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ใชคา ทีโ่ ปรแกรมกําหนดมาให} Enclose text with [Circles/Slots/Rectangles] :

หรือสีเ่ หลีย่ มผืนผา}

2D Drafting

{เลือกโหมดวงกลม สล็อท

Create circles of constant or variable size [Constant/Variable] :

{เลือกโหมดขนาดคงทีห่ รือขนาดทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปตามขนาดและจํานวนของตัวอักษร} {วงกลม 3 วงไดถกู สรางขึน้ ดังรูปที่ 14.34}

Creating Circles...Done. 3 Circles created.

รูปที่ 14.34

กอ นใชคําสั่ง

Circle Constant

Slot Constant

Slot Variable

Circle Variable

Rectangle Constant

Rectangle Variable

14.36 Express Texts Automatic Text Numbering | TCOUNT 4

4

ใชสาํ หรับเขียนหมายเลขเรียงลําดับหรือเติมตัวเลขลําดับเขาไปยังตัวอักษร ซึง่ สามารถเติมตัวเลขนําหนาหรือพวงทาย หรือแทนทีต่ วั อักษรทัง้ หมด กอ นใชคําสั่ง Prefix Suffix Overwrite ใชตัวเลือ ก X

รูปที่ 14.35

chap-14.PMD

กอ นใชคําสั่ง

Prefix

Suffix

Overwrite

ใชตัวเลือ ก Y

432

13/10/2549, 1:35

433

กลุมคําสั่งของ Express Tools Command: tcount

{จากรูปที่ 14.35}

Select objects: Specify opposite corner: 8 found

หรือแกไขใหเปนตัวเลข} {คลิกขวาหรือกดปุม Q}

{เลือกตัวอักษรทัง้ หมดทีต่ อ งการเติมตัวเลข

Select objects:

{หากตัวอักษรทีถ่ กู เลือกอยูใ นแนวนอน ดังรูปที่ 14.35 (บน) ใหเลือกตัวเลือก X หากตัวอักษรทีถ่ กู เลือกอยูใ นแนวตัง้ ดังรูปที่ 14.35 (ลาง) ใหเลือกตัวเลือก Y หากตองการใชลาํ ดับการเลือก ใหเลือก Select-order} Specify starting number and increment (Start,increment) <1,1>: {กําหนดคาตัวเลข เริม่ ตนและคาตัวเลขทีเ่ พิม่ ขึน้ หากกําหนดคาเปน 1,5 จะเริม่ นับตัวเลขตัง้ แตเลข 1 เพิม่ ขึน้ เปน 6,11,16,21 ตามลําดับ }

Sort selected objects by [X/Y/Select-order] :

Placement of numbers in text [Overwrite/Prefix/Suffix/Find&replace..]<Suffix>:

{พิมพ O หากตองการเขียนทับตัวอักษรเดิมหรือพิมพ P หากตองการเพิม่ เติมตัวเลขนําหนาหรือ พิมพ S หากตองการเพิม่ เติมตัวเลขพวงทายหรือพิมพ F เพือ่ คนหาและแทนที}่ 8 objects modified. {ตัวอักษรทีถ ่ กู เลือกทัง้ 8 ตัวไดถกู แกไขแลว}

14.37 Express Texts Change Text Case | TCASE 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเปลีย่ นตัวอักษรพิมพใหญใหเปนตัวพิมพเล็กหรือจากตัวพิมพเล็กใหเปนตัวพิมพใหญ ตัวอักษรที่ สามารถใชไดคอื TEXT, MTEXT, แอททริบวิ ตและตัวอักษรของเสนบอกขนาด รูปที่ 14.36

{จากรูปที่ 14.36} Select objects: 1 found {คลิกบนตัวอักษรหนึง่ หรือมากกวาหนึง่ ทีต ่ อ งการ} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q จะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.36} Command: tcase

Sentence case เปลี่ยนเปนรูปประโยค โดยกําหนดใหตัวอักษรตัวแรกเปนพิมพใหญ lowercase เปลี่ยนเปน ตัวพิมพเล็กทั้งหมด UPPERCASE เปลี่ยนเปนตัวพิมพใหญทั้งหมด Title เปลี่ยนเปนตัวพิมพใหญหัวเรื่ อง tOGGLE cASE สลับตัวพิมพใหญเปนพิมพเล็กและสลับตัวพิมพเล็กเปนพิมพใหญ

14.38 Express Layout Tools Change Space | CHSPACE 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเคลือ่ นยายวัตถุทอี่ ยูใ นโมเดลสเปสไปยังเปเปอรสเปสหรือวัตถุจากเปเปอรสเปสไปยังโมเดลสเปส ในขณะทีใ่ ชคําสัง่ นี้ เราจะตองอยูใ นโหมด Layout ใดเลเอาทหนึง่ เทานัน้ แลวจึงจะสามารถเรียกคําสัง่ นีอ้ อกมาใชงาน Command: chspace

{จากรูปที่ 14.37 (ซาย)}

Select objects: Specify opposite corner: 6 found

เคลือ่ นยายสเปส ในทีน่ เี้ ลือกเสนชีน้ าํ และตัวอักษร}

chap-14.PMD

433

{คลิกเพือ่ เลือกวัตถุทงั้ หมดทีต่ อ งการ

13/10/2549, 1:35

434

Select objects:

{คลิกขวาหรือกดปุม Q}

{กดปุม Q} 2D Drafting {วัตถุทงั้ 6 ชิน้ ทีถ่ กู เลือกได

Set the SOURCE viewport active and press ENTER to continue. 6 object(s) changed from MODEL space to PAPER space.

เปลีย่ นจากโมเดลสเปสไปอยูใ นเปเปอรสเปสเรียบรอยแลว}

{วัตถุได ถูกเปลีย่ นสเกลโดยใชแฟคเตอร 0.494175317520852 เพือ่ รักษาขนาดเดิมไวดงั รูปที่ 14.37 (ขวา)}

Objects were scaled by a factor of 0.494175317520852 to maintain visual

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.37

หลังใชคําสั่ง

ในกรณีทตี่ อ งการเปลีย่ นวัตถุจากโมเดลสเปสไปอยูใ นเปเปอรสเปส กอนอืน่ เราจะตองดับเบิล้ คลิกในวิวพอรท ทีม่ องเห็นวัตถุในโมเดลสเปส เพือ่ เขาสูฟ ลอสติง้ โมเดลสเปสเสียกอนจึงจะสามารถเรียกใชคาํ สัง่ นีไ้ ด

Note

14.39 Express Layout Tools Align Space | ALIGNSPACE 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับจัดตําแหนงและขนาดวัตถุในโมเดลสเปสใหตรงกับวัตถุทอี่ ยูใ นเปเปอรสเปส

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.38

หลังใชคําสั่ง

หลังปรับวิวพอรท

{จากรูปที่ 14.38 (ซาย) ใหแนใจวา OSNAP # อยูใ นสถานะเปด} FIRST alignment point in MODEL space: {กําหนดจุดอางอิงใน Model space โดยคลิกตรงจุดที่ 1} Command: alignspace

chap-14.PMD

434

13/10/2549, 1:35

435

กลุมคําสั่งของ Express Tools

{กําหนดจุดอางอิงใน Model space โดยคลิกตรงจุดที่ 2 (หากมีจดุ อางอิงเพียงจุดเดียวใหคลิกขวา)} FIRST alignment point in PAPER space: {กําหนดจุดอางอิงใน Model space โดยคลิกตรงจุดที่ 3} SECOND alignment point in PAPER space: {กําหนดจุดอางอิงใน Model space โดยคลิกตรงจุดที่ 4} SECOND point in MODEL space or for none:

Paper space = Model space 1 = 0.3996 {แสดงมาตราสวนในเปเปอรสเปสตอโมเดลสเปส 1: 0.3996} Current zoom factor = 2.5024xp

Note

{แสดงคามาตราสวนทีเ่ ปลีย่ นสเกลวิวพอรท}

จากรูปที่ 14.38 (ซาย) สังเกตุวา สวนบนซึง่ เปนทีน่ งั่ ของเกาอีอ้ ยูใ นโมเดลสเปส สวนขาเกาอีซ้ งึ่ ยึดติดกับ พื้นอยูในเปเปอรสเปส เห็นไดชัดเจนวาวัตถุทั้งสองมีขนาดตางกัน สังเกตุไดจากระยะของจุดที่ 1-2 และจุดที่ 3-4 เมือ่ ใชคําสัง่ นี้ โปรแกรมจะเปลีย่ นสเกลของวิวพอรทในโมเดลสเปสใหม เพือ่ ใหวตั ถุทอี่ ยู ในโมเดลสเปสปรับขนาดและตําแหนงเขาไปหาวัตถุที่อยูในเปเปอรสเปสโดยอัตโนมัติ แตเรายังไม สามารถมองเห็นวาวัตถุที่อยูใ นโมเดลสเปสอยูใ นตําแหนงตรงพอดีกับวัตถุทอี่ ยูใ นเปเปอรสเปส เนือ่ ง จากเสนกรอบวิวพอรทลงไปไมถึงสวนลางของเกาอี้ดังรูปที่ 14.38 (กลาง) แตถาเราขยายวิวพอรทลง ดานลาง เราจะเห็นวาวัตถุที่อยูใ นโมเดลสเปสและเปเปอรสเปสอยูต รงกันพอดีดงั รูปที่ 14.38 (ขวา)

14.40 Express Layout Tools Synchronize Viewports | VPSYNC 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับจัดตําแหนงและปรับสเกลวิวพอรทสองวิวพอรทใหตรงกัน

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.39

{จากรูปที่ 14.39 (ซาย)} Select objects: 1 found {คลิกบนเสนกรอบวิวพอรทที่ 1 ทีต ่ อ งการใชเปนวิวพอรทหลัก} Command: vpsync

Select viewports to be aligned to master viewport.

{คลิกบนเสนกรอบวิวพอรทที่ 2 ทีต่ อ งการปรับใหตรงกัน} {คลิกขวาหรือกดปุม Q จะปรากฏดังรูปที่ 14.39 (ขวา)} Paper space = Model space {แสดงมาตราสวนในเปเปอรสเปสตอโมเดลสเปส 1: 5.011} Select objects: 1 found Select objects:

1.000 = 5.011 Current zoom factor = 0.200xp

{แสดงคามาตราสวนทีเ่ ปลีย่ นสเกลวิวพอรท}

14.41 Express Layout Tools List Viewport Scale | VPSCALE 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับแสดงมาตราสวนหรือสเกลของวิวพอรทดังรูปที่ 14.40

chap-14.PMD

435

13/10/2549, 1:35

436 รูปที่ 14.40

2D Drafting

Command: vpscale

{จากรูปที่ 14.40}

Select edge of viewport. Select objects: 1 found

{คลิกบนเสนกรอบวิวพอรทตรงจุดที่ 1 ทีต่ อ งการทราบสเกล}

PS:MS == 1:2 {โปรแกรมรายงานมาตราสวน 1:2 ออกมา (เปเปอรสเปสตอโมเดลสเปส)}

14.42 Express Layout Tools Merge layout | LAYOUTMERGE 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับรวมเลเอาท(Layouts)เขาดวยกัน เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะ ปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.41 เลือก Layout ทีต่ อ งการรวม แลวคลิก บนปุม OK แลวเลือก Destination Layout อีกแผนหนึง่ ทีต่ อ งการนํา มารวมกัน แลวคลิกบนปุม OK จะปรากฏขอความ Delete unused layouts? : ถามวาตองการลบ Layouts ที่ไมไดใชงานหรือไม คลิกขวา เพือ่ ลบ Layout ทีไ่ มไดใชงาน Layout วัตถุทอี่ ยูใ น Layout ทัง้ สองจะเขามารวมกันใน Destination Layout

รูปที่ 14.41

14.43 Express Dimension Leader Tools Attach Leader to Annotation | QLATTACH 4

4

4

ใชสําหรับเชือ่ มเสนชีน้ ําลีดเดอรไลนเขากับตัวอักษร MTEXT หรือพิกดั ความเผือ่ (Tolerance)

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.42

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.42} {คลิกบนเสนชีน้ ําลีดเดอรไลน} Select Annotation: {คลิกบนตัวอักษรทีส ่ รางจากคําสัง่ MTEXT หรือคลิกบนพิกดั ความเผือ่ }

Command: _.qlattach Select Leader:

14.44 Express Dimension Leader Tools Detach Leader from Annotation | QLDETACHSET 4

4

4

ใชสําหรับปลดเสนลีดเดอรไลนออกจากคําอธิบายตัวอักษร MTEXT หรือพิกดั ความเผือ่ (Tolerance)

chap-14.PMD

436

13/10/2549, 1:35

437

กลุมคําสั่งของ Express Tools Command: _.qldetachset

{คลิกบนเสนชีน้ ําลีดเดอรไลนเสนเดียวหรือหลายเสน} {คลิกขวาหรือ Q} Number of unlocked leaders = 1. {โปรแกรมรายงานจํานวนเสนชีน ้ ําทีถ่ กู เลือก} Number with annotation detached = 1. {จํานวนคําอธิบายเสนชีน ้ ําทีถ่ กู ปลดออก}

Select objects: 1 found Select objects:

14.45 Express Dimension Leader Tools Global Attach Leader to Annotation | QLATTACHSET 4

4

4

เชือ่ มเสนลีดเดอรไลนเขากับตัวอักษร MTEXT หรือพิกดั ความเผือ่ (Tolerance) Command: _.qlattachset

{คลิกบนเสนชีน้ ําลีดเดอรไลนและตัวอักษร MTEXT} {คลิกขวาหรือ Q} Number of Leaders = 2 {โปรแกรมรายงานจํานวนเสนชีน ้ ําทีถ่ กู เลือก} Number with annotation attached = 2. {โปรแกรมรายงานจํานวนคําอธิบายเสนชีน ้ ําทีถ่ กู เชือ่ มเขาดวยกัน} Select objects:

Select objects:

14.46 Express Dimension Dimstyle Export | DIMEX 4

4

ใชสําหรับนําสไตลเสนบอกขนาด(Dimension styles)ทีอ่ ยูใ นไฟลแบบแปลนใชงานไปใชในไฟลแบบแปลนอืน่ ๆ โดย เก็บบันทึกสไตลเสนบอกขนาดไวในไฟลฟอรแมต .dim

Export Filename ตั้ ง ชื่ อไฟล เก็ บรู ปแบบเส นบอกขนาดที่ ต องการ

รูปที่ 14.43

Note

ทายชือ่ ไฟลตอ งมี .dim เปนนามสกุลไฟลเสมอหรือคลิกบนปุม Browse เพื่อเลือกโฟลเดอรสําหรับจัดเก็บไฟล Available Dimension Styles แสดงรายชือ่ รูปแบบเสนบอกขนาดที่มีการกําหนดไวในไฟลแบบแปลน ใชงานทั้ งหมด Text Style Options กําหนดตั วเลื อกของรู ปแบบ ตัวอักษรของตัวเลขบอกขนาด Text Style Name Only บันทึกชือ่ สไตล ตัวอักษรเทานัน้ Full Text Style Information บันทึกขอมูลทัง้ หมด ของสไตลตัวอักษร

หากตองการเลือกสไตลเสนบอกขนาดในชองหนาตาง Available Dimension Styles มากกวาหนึง่ สไตล ใหกดปุม E คางไว แลวคลิกบนชื่อสไตล

14.47 Express Dimension Dimstyle Import | DIMIM 4

4

ใชสําหรับนําสไตลเสนบอกขนาด(Dimension styles)ทีถ่ กู บันทึกในไฟล .dim เขามาใชงาน

รูปที่ 14.44

chap-14.PMD

437

Import Filename แสดงชือ่ ไฟลเก็บรูปแบบเสนบอกขนาด คลิกบนปุม Browse เพื่อคนหาไฟล .dim ที่บันทึกไวในโฟลเดอร Import Options กําหนดตัวเลือกในการนํารูปแบบ ของเสนบอกขนาดเขามาใชงาน Keep Existing Style เก็ บรู ปแบบของเส นบอกขนาดเดิ มไว ใช ง านต อไป Overwrite Existing Style เขียนทับรูปแบบของเสนบอกขนาดเดิม

13/10/2549, 1:35

438

14.48 Express Dimension Reset Dim Text Value | DIMREASSOC 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเรียกคืนคาทีโ่ ปรแกรมวัดระยะไดใหกบั ตัวเลขของเสนบอกขนาด

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.45

2D Drafting

หลังใชคําสั่ง

Command: dimreassoc Select dimension objects with non-associative text.

{คลิกบนเสนบอกขนาดหนึง่ เสนหรือมากกวา ซึง่ มีตวั เลขบอกขนาดไม สัมพันธกบั ระยะทีว่ ดั ไดจริง} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q ตัวเลขของเสนบอกขนาดทัง้ หมดจะกลับไปใชคา ที่ โปรแกรมวัดระยะไดจริง} Select objects: 1 found

1 objects modified.

Note

โดยปกติ หากเราใชคําสั่ง Modify4Object4Text4Edit... แลวคลิกบนเสนบอกขนาดจะปรากฏ ไดอะล็อค Multiline Text Editor แสดงเครื่องหมาย < > บนไดอะล็อค นั่นหมายถึงคาของตัวเลขบอก ขนาดจะเปนระยะที่โปรแกรมวัดไดจริง แตถา ปรากฏเปนคาตัวเลขอื่นๆ แสดงวาตัวเลขของเสนบอก ขนาดนัน้ ไดถูกแกไขไมใหใชระยะทีโ่ ปรแกรมวัดได

14.49 Express Selection Tools Get Selection Set | GETSEL 4

4

ใชสําหรับเลือกวัตถุทตี่ องการ เพือ่ เก็บไวใชงานกับคําสัง่ อืน่ ๆ ตอไป Command: getsel

{คลิกบนวัตถุใดๆ ทีอ่ ยูใ นเลเยอรของวัตถุทงั้ หมดที่ ตองการเลือกหรือกดปุม Q เพือ่ เลือกเลเยอรทงั้ หมด} Select an object of the Type you want <*>: {คลิกบนวัตถุใดๆ ทีเ่ ปนวัตถุประเภทเดียว กันกับวัตถุทงั้ หมดทีต่ อ งการเลือกหรือกดปุม Q เพือ่ เลือกวัตถุทงั้ หมด}

Select an object on the Source layer <*>:

2081 objects have been placed in the active selection set.

{โปรแกรมไดรวบรวมวัตถุทงั้ หมดไวในกลุม การเลือกแลว}

Note

chap-14.PMD

จุดประสงคของการใชคําสัง่ นีก้ ็เพือ่ ทีจ่ ะเลือกกลุม ของวัตถุไวกอนลวงหนา ซึง่ เราสามารถนํากลุม ของ วัตถุทถี่ ูกเลือกไปใชงานในคําสัง่ อื่นๆ เชน MOVE, COPY, SCALE และอืน่ ๆ เปนตน เมื่ออยูในคําสั่ง MOVE, COPY, SCALE หรื อคําสั่ งอื่ นๆ หากตองการเรียกกลุ มของวัตถุ ที่ ถูกเลือกดวยคําสั่ งนี้ ออกมาใชงาน ใหใชตัวเลือก P (Previous)ในบรรทัด Select objects: ของคําสั่งนั้น

438

13/10/2549, 1:35

439

กลุมคําสั่งของ Express Tools Note

คําสัง่ นีใ้ ชในกรณีทเี่ ราตองการเลือกวัตถุทงั้ หมดทีอ่ ยูใ นเลเยอรใดเลเยอรหนึง่ ไดอยางสะดวก เมื่อปรากฏ ขอความ Select an object on the Source layer <*>: คลิกบนวัตถุใดๆ ที่อยูในเลเยอรที่ตองการ เมือ่ ปรากฏขอความ Select an object of the Type you want <*>: ใหกดปุม Q เพือ่ ใหโปรแกรมเลือก วัตถุทงั้ หมดทีอ่ ยูในเลเยอรเดียวกันกับวัตถุที่ถกู เลือกในขางตน

14.50 Express Selection Tools Fast Select | ‘FS | 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเลือกวัตถุทงั้ หมดทีม่ สี ว นใดสวนหนึง่ ทับกันหรือพาดผานกัน

14.51 Express Modify Multiple Entity Stretch | MSTRETCH | 4

4

ใชสําหรับยืดวัตถุใหยาวขึ้นหรือหดวัตถุใหสั้นลง โดยใชกรอบสี่เหลี่ยมผืนผาชั่วคราวหลายๆ กรอบลอมรอบสวน ของวัตถุหลายๆ สวนไดในคราวเดียว

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.46

Command: mstretch

{จากรูปที่ 14.46 (ซาย)}

Define crossing windows or crossing polygons... Options: Crossing Polygon or Crossing first point Specify an option [CP/C] : Specify other corner:

{คลิกจุดที่ 2}

{คลิกจุดที่ 1}

Options: Crossing Polygon, Crossing first point or Undo Specify an option [CP/C/Undo] : Specify other corner:

{คลิกจุดที่ 4}

{คลิกจุดที่ 3}

Options: Crossing Polygon, Crossing first point or Undo Specify an option [CP/C/Undo] : Specify other corner:

{คลิกจุดที่ 6}

{คลิกจุดที่ 5}

Options: Crossing Polygon, Crossing first point or Undo Specify an option [CP/C/Undo] :

{คลิกขวาหรือ Q}

Done defining windows for stretch...

{คลิกจุดที่ 7 เพือ่ กําหนดจุดฐาน} {เลือ่ นเคอรเซอรขนึ้ ในแนวดิง่ แลวพิมพระยะหาง 3 หนวย แลวกดปุม Q สวนประกอบของชิน้ งานทัง้ 3 สวนจะถูกยืดขึน้ ในแนวดิง่ 3 หนวยดังรูปที่ 14.46 (ขวา)}

Specify an option [Remove objects] : Second base point:

14.52 Express Modify Move Copy Rotate | MOCORO | 4

4

ใชสําหรับเคลือ่ นยาย คัดลอก หมุนและเปลีย่ นสเกลวัตถุทถี่ กู เลือกดังรูปที่ 14.47

chap-14.PMD

439

13/10/2549, 1:35

440 รูปที่ 14.47

2D Drafting กอ นใชคําสั่ง

Move

Copy

Rotate

Scale

{จากรูปที่ 14.47 (ซาย)} {คลิกบนวัตถุทตี่ อ งการเคลือ่ นยาย คัดลอก หมุนและเปลีย่ นสเกล} Select objects: {คลิกขวาหรือ Q} Base point: {คลิกบนพืน ้ ทีว่ าดภาพ เพือ่ กําหนดจุดอางอิงในการเคลือ่ นยาย คัดลอก หมุนหรือ เปลีย่ นสเกล} [Move/Copy/Rotate/Scale/Base/Undo]<eXit>: M {เลือกตัวเลือก Move หรือ Copy หรือ Rotate หรือ Scale หรือ Base ทีต่ อ งการ} Second point of displacement: {คลิกบนพืน ้ ทีว่ าดภาพ เพือ่ กําหนดจุดแทนที}่ [Move/Copy/Rotate/Scale/Base/Undo]<eXit>: {คลิกขวาหรือ Q เพือ ่ ออกจากคําสัง่ } Command: _.mocoro

Select objects: 1 found

14.53 EXTRIM อันทีจ่ ริงคําสัง่ นีค้ อื Express4Modify4Cookie Cutter Trim ปจจุบนั ถูกยกเลิกออกจากเมนู Express แตยงั สามารถ เรียกคําสัง่ นีผ้ า นคียบ อรดได คําสัง่ นีใ้ ชสําหรับตัดเสนจํานวนมากๆ ทีโ่ ผลพน จากเสนทีถ่ กู เลือก

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.48 Command: extrim

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.48 (ซาย)}

Pick a POLYLINE, LINE, CIRCLE, ARC, ELLIPSE, IMAGE or TEXT for cutting edge... Select objects: 1 found

chap-14.PMD

440

{คลิกบนเสนโพลีไลน เสนตรงไลน วงกลม เสนโคง วงรี อิมเมจหรือ

13/10/2549, 1:35

441

กลุมคําสั่งของ Express Tools

ตัวอักษรเพือ่ ใชเปนขอบตัดเสน (1)} {คลิก ณ ตําแหนงใดๆ (2) บนดานทีต่ อ งการตัดเสนตางๆ ทิง้ ไป}

Specify the side to trim on:

Note

คําสัง่ นีม้ จี ดุ ประสงคในการตัดเสนเหมือนกับคําสัง่ TRIM เพียงแตเราเลือกเสนทีจ่ ะเปนขอบเขตในการตัด แลวก็คลิกบนพืน้ ทีว่ า งดานทีต่ อ งการตัดเสนออก เสนทัง้ หมดทีถ่ กู เสนขอบเขตในการตัดพาดผานจะถูกตัด ทิง้ ไปทัง้ หมด โดยเราไมจาํ เปนทีจ่ ะตองคลิกทีเ่ สนแตละเสน ซึง่ ประหยัดเวลาในการตัดเสนจํานวนมาก

14.54 Express Modify Extended Clip | CLIPIT 4

4

ใชสําหรับซอนบางสวนของวัตถุ(รูปบิทแม็ป, บล็อค, เอกซเรฟ และ Wipeout) ทีอ่ ยูด า นหลังโดยใชสว นโคงของวงกลม และเสนโพลีไลนกําหนดขอบเขตในการซอนวัตถุดงั รูปที่ 14.49

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.49

หลังใชคําสั่ง Command: clipit

{จากรูปที่ 14.49 (ซาย)}

Pick a POLYLINE, CIRCLE, ARC, ELLIPSE, or TEXT object for clipping edge... Select objects:

{คลิกบนเสนโพลีไลนหรือวงกลมหรือเสนโคง (1) เพือ่ กําหนดขอบเขตในการตัด}

Pick an IMAGE, a WIPEOUT, or an XREF/BLOCK to clip... {คลิกบนรูป Bitmap

หรือวัตถุทสี่ รางจากคําสัง่ WIPEOUT หรือเอกซเรฟหรือบล็อคทีต่ อ งการตัด (2)}

Enter maximum allowable error distance for resolution of arc segments <0.9800>:

0.1 {กําหนดความละเอียดในการตัดของสวนโคง หากกําหนดคามาก ขอบทีโ่ คงจะมีความละเอียดนอย หากกําหนดคานอยขอบทีโ่ คงจะมีความละเอียดมากดังรูปที่ 14.49 (ลาง)}

14.55 Express Modify Convert Shape to Block | SHP2BLK 4

4

ใชคาํ สัง่ นีส้ าํ หรับแปลง Shape ใหกลายเปน Block (ดูรายละเอียดในการแปลง Shape ใหเปน Block ในหัวขอ 14.21) Note

chap-14.PMD

ในการเรียก Shape เขามาใชงาน เราจะพิมพคําสั่ง LOAD ผานบรรทัด Command: เพื่อโหลด Shape จากไฟล .shx แลวพิมพคําสั่ง SHAPE เพื่อสอดแทรก Shape เขามาใชงานในแบบแปลน

441

13/10/2549, 1:35

442

14.56 Express Modify DrawOrder by Color | CDORDER 4

4

2D Drafting

ใชคําสั่งนี้สําหรับการจัดเรียงลําดับการปรากฏอยูหนา(Front)หรืออยูหลัง(Back)ของวัตถุตางๆ บนพื้นที่วาดภาพ โดยใชรหัสสีเปนตัวกําหนดลําดับการปรากฏอยูหนาหรืออยูห ลังของวัตถุ เมื่อเรียกคําสัง่ ออกมาใชงาน จะปรากฏ ขอความ Select objects ใหคลิก เพือ่ เลือกวัตถุตา งๆ ทีต่ อ งการจัดเรียงลําดับการปรากฏใหม แลวคลิกขวาหรือ Q จะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.50 คลิกบนตัวเลขรหัสสีในชองหนาตาง แลวคลิกบนปุม Move Up เพือ่ ยายไปอยูด า น หนา 1 ระดับหรือคลิกบนปุม Move Down เพือ่ ยายไปอยูด า นหลัง 1 ระดับ เมือ่ เรียงลําดับรหัสสีตา งๆ เรียบรอยแลว คลิกบนปุม OK เพือ่ ออกจากไดอะล็อค วัตถุตางๆ จะปรากฏอยูห นาหรือหลังตามลําดับของรหัสสีทกี่ าํ หนด รูปที่ 14.50

Draworder จัดลําดับการปรากฏของวัตถุตามวิธขี องคําสัง่ DRAWORDER Handles จัดลําดับการปรากฏของวัตถุ

โดยจัดเรียงวัตถุทอี่ ยูภ ายในฐานขอมูลไฟลแบบแปลน วัตถุจะถูกลบและสรางขึน้ ใหมตามลําดับรหัสทีท่ จี่ ดั เรียงลําดับ Front จัดลําดับวัตถุตามสีจากหนาไปหลังและวางวัตถุไวดา นหนาของวัตถุอนื่ ๆ ทีม่ สี ที ไี่ มไดปรากฏในชองหนาตาง แสดงรหัสสี Back จัดลําดับวัตถุตามสีจากหนาไปหลัง และวางวัตถุไวดา นหลังของวัตถุอนื่ ๆ ทีม่ สี ที ไี่ มไดปรากฏใน ชองหนาตางแสดงรหัสสี Modify Blocks หากปรากฏเครือ่ งหมาย บนเช็คบอกซน้ี โปรแกรมจะจัดเรียงวัตถุสว น ประกอบของบล็อคดวย Move Up เคลือ่ นยายรหัสสีไปดานหนา Move Down เคลือ่ นยายรหัสสีไปดานหลัง

14.57 Express Modify Delete duplicate objects | OVERKILL 4

4

คําสัง่ นีใ้ ชสําหรับลบวัตถุทซี่ อ นกันอยูใ หเหลือวัตถุเพียงชิน้ เดียวเทานัน้ รูปที่ 14.51

จากรูปที่ 14.51 (ซาย) เราจะเห็นวามีวัตถุปรากฏอยูบนพืน้ ที่วาดภาพเพียง 2 ชิน้ เทานัน้ คือเสนตรงและวงกลม แต อันทีจ่ ริงมีเสนตรง 7 เสนซอนกันอยูแ ละมีวงกลม 7 วงซอนกันอยูเ ชนเดียวกัน เราสามารถใชคําสัง่ นี้ลบเสนทัง้ หมด ทีซ่ อ นกันอยูอ อกไปได โดยใหเหลือเพียงเสนตรงและวงกลมอยางละเสนเทานัน้ เมือ่ เรียกคําสัง่ ออกมาใชงาน จะปรากฏ ขอความ Select objects: ใหเลือกวัตถุทงั้ หมดทีซ่ อ นกัน แลวคลิกขวา จะปรากฏไดะล็อคดังรูปที่ 14.51 (ขวา)

Object comparison setiings เช็คบอกซทั้งหมดในกลุ มนี้ ทํางานเหมือนกั นทั้ งหมด อาทิ เช น LAYERS,

chap-14.PMD

442

13/10/2549, 1:35

443

กลุมคําสั่งของ Express Tools

LINETYPE, COLOR, LINEWEIGHT, PLOTSTYLE หากคลิกใหปรากฏเครื่องหมาย หนาเช็คบอกซใด วัตถุ ทีซ่ อนกันและมีคุณสมบัตทิ ี่เหมือนกันตามทีร่ ะบุจะถูกลบทิง้ ตัวอยาง เชน หากวัตถุซอนกันแตอยูต า งเลเยอร หากไม คลิกใหปรากฏเครือ่ งหมาย หนาเช็คบอกซ LAYER โปรแกรมจะไมลบเสนทีซ่ อนกัน Numeric fuzz ใชสําหรับ กําหนดระยะต่าํ สุดทีจ่ ะลบวัตถุทซี่ อ นกัน ถากําหนดคา Fuzz เทากับ 1 หากมีวงกลม 2 วงซอนกันมีจดุ ศูนยกลางเดียวกัน วงหนึง่ มีรัศมี 100 หนวย อีกวงหนึง่ รัศมี 100.8 ถึงแมวาวงกลมทัง้ สองมิไดซอนกันพอดี โปรแกรมจะถือวาวงกลม ทัง้ สองนีซ้ อ นกันอยู Lines, Arcs and Plines ใชเช็คบอกซในกลุมนี้สําหรับกําหนดรูปแบบในการลบเสนที่ ซอนกัน PLINES ถามีเครือ่ งหมาย หนาเช็คบอกซน้ี โปรแกรมจะตรวจสอบ แตละเซกเมนตเสนตรงและเซกเมนต สวนโคงของโพลีไลน เมือ่ ตรวจพบเสนทีซ่ อนหรือจุดเวอรเทกซทซี่ อนกัน โปรแกรมจะจัดการลบเสนทีซ่ อนและจุด เวอรเทกซที่เกินทิ้งไปดังรูปที่ 14.52 (ซาย) OVERLAP เราสามารถควบคุมวัตถุทที่ ับวัตถุอื่นบางสวนซึ่งจะทําให เหลือเพียงเสนทีย่ าวกวาเพียงเสนเดียวดังรูปที่ 14.52 (ขวา-บน) END TO END ถาวัตถุไมไดซอนกันอยู แตมปี ลาย เสนชนกันและเสนทั้งสองอยูในระนาบหรือเวคเตอรเดียวกัน โปรแกรมจะทําการตอเสนทั้งสองใหกลายเปนเสน เดียวกันดังรูปที่ 14.52 (ขวา-ลาง) กอน

เสนซอน กอน

หลัง

กอน

หลัง

รูปที่ 14.52

หลัง

14.58 Express Modify Flatten Objects | FLATTEN 4

4

คําสัง่ นีใ้ ชสาํ หรับแปลงวัตถุ 3 มิติ Surface และ Solid ใหกลายเปนวัตถุ 2 มิติ และยังสามารถแปลงเสน Spline ใหกลาย เปนเสน Polyline ดังรูปที่ 14.53 DISPSILH = 0

DISPSILH = 1

รูปที่ 14.53

วัตถุ 3 มิติ

วัตถุ 2 มิติ

วัตถุ 2 มิติ

Spline

Pline

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

Command: Flatten Select objects to convert to 2d...

แปลงใหเปน 2 มิต}ิ

{หมุนมุมมองของวัตถุ 3 มิตใิ หหนั เหตามทิศทางทีต่ อ งการ

{คลิกบนวัตถุ 3 มิตทิ ตี่ อ งแปลงใหเปนวัตถุ 2 มิตหิ รือคลิกบนเสนโคง Spline เพือ่ แปลงใหเปนเสนโพลีไลน} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q} Remove hidden lines? : {คลิกขวาหรือกดปุม  Q เพือ่ ซอนเสนทีถ่ กู บัง วัตถุ 3 มิตจิ ะกลาย เปนวัตถุ 2 มิตแิ บนๆ หรือเสนโคง Spline จะกลายเปนเสนโพลีไลน} Select objects: 1 found

chap-14.PMD

443

13/10/2549, 1:35

444

Note

นอกจากการแปลงวัตถุ 3 มิตใิ หเปนวัตถุ 2 มิตแิ ลว เรายังสามารถใชคําสัง่ นีส้ ําหรับแปลงเสนโคงทีส่ ราง จากคําสั่ง SPLINE ใหกลายเปนเสน Polyline ไดดวย

2D Drafting

14.59 Express Modify Multiple copy | COPYM | 4

4

ใชคาํ สัง่ นีส้ ําหรับคัดลอกวัตถุแบบหลายๆ ชิน้ ในคราวเดียว นอกจากนีเ้ รายังสามารถใชคําสัง่ นีเ้ ปนคําสัง่ ARRAY แบบ ไดนามิกไดอกี ดวย

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.54

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.54 (ซาย) ใหแนใจวา OSNAP อยูใ นสถานะเปด} {เลือกวัตถุทงั้ หมดทีต่ อ งการใชเปนวัตถุตน ฉบับ ในทีน่ คี้ ลิกวงกลม(1)} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q} Base point: {คลิกบนพืน ้ ทีว่ าดภาพ เพือ่ กําหนดจุดอางอิง โดยปกติมกั จะอยู ภายในขอบเขตของวัตถุตน ฉบับ ในทีน่ คี้ ลิกจุดตัดที(่ 2)} Command: copym

Select objects: 3 found

{คลิก ณ ตําแหนงใหมทตี่ อ งการคัดลอกวัตถุ ในทีน่ คี้ ลิกจุดที่ (3) หรือเลือกตัวเลือก Divide หรือ Measure หรือ Array แบบไดนามิกหรือ Undo เพือ่ ยกเลิก} Second point or [Repeat (last)/Divide/Measure/Array (dynamic)/Undo] <exit>: {คลิก ณ ตําแหนงใหมทตี่ อ งการคัดลอกวัตถุตอ ไป ในทีน่ คี้ ลิกจุดที่ (4),(5),(6),(7),(8),(9)} Second point or [Repeat (last)/Divide/Measure/Array (dynamic)/Undo] <exit>:

Second point or [Repeat (last)/Divide/Measure/Array (dynamic)/Undo] <exit>:

{คลิกขวาหรือกดปุม Q จะปรากฏดังรูปที่ 14.54 (ขวา)}

14.59.1 ในกรณีทใี่ ชตวั เลือก Divide เพือ่ คัดลอกแบบแบงวัตถุออกเปนสวนๆ เทาๆ กัน

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.55

หลังใชคําสั่ง

{จากรูปที่ 14.55 (ซาย) ใหแนใจวา OSNAP อยูใ นสถานะเปด} {คลิกจุดที่ 1 และ 2} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q} Base point: {คลิกจุดที่ 3} Command: copym

Select objects: 3 found

Second point or [Repeat (last)/Divide/Measure/Array (dynamic)/Undo] <exit>:

{พิมพตวั เลือก D เพือ่ เลือกโหมด Divide} {คลิกตรงจุดที่ 4 เพือ่ กําหนดระยะหางในการคัดลอก} Number of copies: 5 {พิมพจํานวนทีต ่ อ งการคัดลอก ไมนบั รวมวัตถุตน ฉบับ} Select division ending point: _nod of

chap-14.PMD

444

13/10/2549, 1:35

D

กลุมคําสั่งของ Express Tools

445

Second point or [Repeat (last)/Divide/Measure/Array (dynamic)/Undo] <exit>:

{คลิกขวาหรือกดปุม Q จะปรากฏดังรูปที่ 14.55 (ขวา)}

Note

ในกรณีที่ใชตัวเลือก Measure มีวิธีการใชงานเหมือนกับตัวเลือก Divide เพียงแตตัวเลือก Divide นั้น แบงระยะที่กําหนดออกเปนสวนๆ เทาๆ กัน แตตัวเลือก Measure จะแบงวัตถุออกตามระยะหางที่ กําหนด โดยจะปรากฏขอความ Distance between copies: แทน Number of copies ซึ่งเราจะตองระบุ ระยะหางระหวางวัตถุแตละชวงทีต่ อ งการ

14.59.2 ในกรณีทใี่ ชตวั เลือก Array เพือ่ คัดลอกแบบ Array แบบไดนามิก รูปที่ 14.56 (2) (1)

(3)

(4)

{จากรูปที่ 14.56 (1) ใหแนใจวา OSNAP อยูใ นสถานะเปด} Select objects: Specify opposite corner: 3 found {คลิกจุดที่ 1 และ 2} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q} Base point: {คลิกจุดที่ 3 เพือ ่ กําหนดจุดอางอิงในการคัดลอก} Command: copym

Second point or [Repeat (last)/Divide/Measure/Array (dynamic)/Undo] <exit>:

{พิมพ A เพือ่ เลือกโหมด Array}

A

{คลิกขวาหรือกดปุม Q} {ระบุคา มุมเอียงของ Array หรือปดโหมดออรโธ(F8) แลว คลิกตรงจุดที่ 4 ดังรูปที่ 14.56 (2)} Pick a corner point to establish COLUMN and ROW distances: {เลือ ่ นเคอรเซอรเพือ่ กําหนดระยะหางในแกน X และแนวแกน Y โดยคลิกตรงจุดที่ 5 ดังรูปที่ 14.56 (3)} Pick location for array element or <enter> when done: {โปรแกรมจะกําหนดจุด Snap และแสดงจุด Grid ตามระยะหางทีเ่ ราไดกําหนดโดยอัตโนมัต}ิ Pick location for array element or <enter> when done: {คลิกตามตําแหนงทีเ่ รา ตองการคัดลอกวัตถุแบบ Array ครัง้ ละจุด} Pick (dynamic)/Measure/Divide : Specify angle <0>:

Second point or [Repeat (last)/Divide/Measure/Array (dynamic)/Undo] <exit>:

{คลิกขวาหรือกดปุม Q จะปรากฏดังรูปที่ 14.56 (4)}

Note

chap-14.PMD

สังเกตุวา การคัดลอกดวย Array แบบ Dynamic นัน้ เราจะตองคลิก ณ ตําแหนงตางๆ ทีต่ อ งการวางวัตถุ ดวยตนเอง หากตองการคัดลอกแบบอัตโนมัติ ในบรรทัด Pick (dynamic)/Measure/Divide : เราจะตองเลือกตัวเลือก Divide หรือ Measure ในกรณีที่เลือก Divide โปรแกรมจะถาม Other corner for array fill: เราจะตองกําหนดระยะหางในแนวคอลัมนและแถว จะปรากฏขอความ Enter number of columns: ใหปอนจํานวนวัตถุที่ตองการคัดลอกตามคอลัมน จะปรากฏขอความ Enter number of rows: ใหปอนจํานวนแถวทีต่ อ งการ โปรแกรมจะทําการคัดลอกวัตถุทั้งหมดใหโดยอัตโนมัติ

445

13/10/2549, 1:35

446

14.60 Express Modify Extended Offset | EXOFFSET 4

4

2D Drafting

ใชคาํ สัง่ นีส้ าํ หรับสรางเสนคูข นานแบบพิเศษ เมือ่ ใชคาํ สัง่ นี้ เราสามารถเลือกเลเยอรใชงานได นอกจากนี้ เรายังสามารถ เลือกโหมด Fillet หรือ Chamfer ใหกบั วัตถุสรางใหมไดและยังสามารถสรางออฟเซทแบบตอเนือ่ งไดโดย ไมตอ งเลือก วัตถุเดิมซ้าํ ซาก คําสัง่ นีเ้ หมือนกับคําสัง่ Modify4Offset เพียงแตวา มีตวั เลือก Gaptype ใหเลือกเพิม่ เติมเทานัน้

กอ นใชคําสั่ง

Current

Multiple

Gaptype = Fillet

Gaptype = Chamfer

รูปที่ 14.57 Command: exoffset

{จากรูปที่ 14.57 (ซาย) ใหแนใจวา OSNAP อยูใ นสถานะปด}

Settings: Distance = 10, Layer = SOURCE, Gaptype = Normal Specify offset distance or [Through] <10>:

ตัวเลือก Through ผานจุดใดๆ}

{กําหนดระยะหางออฟเซทหรือพิมพ T เพือ่ ใช

Select object(s) to offset or [Options/Undo]:

O {พิมพ O เพือ่ กําหนดตัวเลือก}

Settings: Distance = 10, Layer = SOURCE, Gaptype = Normal

L {พิมพ L เพือ่ เลือกเลเยอร} Specify layer for new objects [Source/Current] <Source>: C {พิมพ C เพือ ่ สราง ออฟเซทในเลเยอรใชงาน เราตองกําหนดเลเยอรใชงานไวกอ นลวงหนา มิฉะนัน้ โปรแกรม จะใชตวั เลือก Source ซึง่ โปรแกรมจะสรางออฟเซทตามเลเยอรของวัตถุตน ฉบับ} Specify an option to set [Distance/Layer/Gaptype]: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q} Select object(s) to offset or [Options/Undo]: {คลิกบนวัตถุตนฉบับ(1) } Specify an option to set [Distance/Layer/Gaptype]:

1 object(s) found. Shift+Pick for multiple; Ctrl+Pick to erase source object.

{คลิกบนดานทีต่ อ งการสรางออฟเซท(2) หากกดปุม S คางไว แลวคลิกซาย เราจะสามารถสรางเสนคูข นานไดแบบตอเนือ่ ง โดยทีไ่ มตอ งเลือกวัตถุตน ฉบับซ้าํ อีกหรือจะใชตวั เลือก Multiple ก็ได หากกดปุม E คางไว แลวคลิกซาย เสนตนฉบับจะ ถูกลบทิง้ ไป} Select object(s) to offset or [Options/Undo]: {คลิกขวาหรือ Q เพือ ่ ออกจากคําสัง่ } Side to offset or [Multiple/Options/Undo]:

Note

ในปจจุบัน คําสั่ง Modify4Offset

ของ AutoCAD 2006 สามารถทํางานไดเทียบเทาคําสั่งนี้แลว

14.61 Express Draw Breakline Symbol | BREAKLINE | 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับสรางสัญลักษณ Breakline ดังรูปที่ 14.58

กอ นใชคําสั่ง

chap-14.PMD

446

รูปที่ 14.58

หลังใชคําสั่ง

13/10/2549, 1:35

447

กลุมคําสั่งของ Express Tools

{จากรูปที่ 14.58 (ซาย) ใหแนใจวา OSNAP อยูใ นสถานะเปด} Block= BRKLINE.DWG, Size= 10, Extension= 3 {สัญลักษณ Breakline มาจากไฟล brkline.dwg จากโฟลเดอร \Express, ขนาด = 10 หนวย, สวนทีย่ นื่ = 3 หนวย} Specify first point for breakline or [Block/Size/Extension]: {เลือกตัวเลือกหรือคลิกตรงจุด ที่ 1 เพือ่ กําหนดจุดแรกของเสน Breakline} Specify second point for breakline: {คลิกตรงจุดที่ 2 เพือ ่ กําหนดจุดทีส่ องของ Breakline} Specify location for break symbol <Midpoint>: {คลิก ณ ตําแหนงทีต ่ อ งการสัญลักษณ ปรากฏหรือคลิกขวาหรือ Q เพือ่ ใหสญ ั ลักษณปรากฏอยูต รงกลางดังรูปที่ 14.58 (ขวา)} Command: breakline

Block โดยที่โปรแกรมกําหนดมาใหสัญลักษณ Breakline ถูกนํามาจากไฟล brkline.dwg จากโฟลเดอร \Express ใชตวั เลือกนีเ้ พือ่ เลือกบล็อคอืน่ ๆ เขามาใชงานแทนไฟล brkline.dwg ได Size กําหนดขนาดของสัญลักษณเปนหนวย ของพืน้ ที่วาดภาพ Extension กําหนดขนาดของสวนที่ยื่นออกเปนหนวยของพื้นที่วาดภาพ ในกรณีที่ตองการสรางสัญลักษณใหมขึ้นมาใชงานเอง เราควรเปดไฟล brkline.dwg จากโฟลเดอร \Express ออกมาแกไข แลวบันทึกเปนชื่อใหม แลวจึงใชตัวเลือกบล็อค ซึ่งจะปรากฏขอความ Enter the block name for breakline symbol : ใหพมิ พชอ่ื ไฟลใหม (เติม .dwg ตอทายดวย) แลวจึงทําการสอดแทรกสัญลักษณใหมเขามาใชงาน

Note

14.62 Express Draw Super Hatch | SUPERHATCH | 4

4

ใชคําสั่งนี้สําหรับระบายลวดลายแฮทชลงบนพื้นที่แบบปด โดยเราสามารถใชรูปอิมเมจ(Image) บล็อค(Block) เอกซเรฟ(Xrefs)หรือไวบเอาท(Wipeout)เปนลวดลายแฮทชดงั รูปที่ 14.59 อิมเมจ

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

กอ นใชคําสั่ง

หลังใชคําสั่ง

รูปที่ 14.59

บล็อค

เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อค Super Hatch ขึน้ มาบนจอภาพดังรูปที่ 14.59 (ขวา) เราสามารถเลือกที่จะใชรูป อิมเมจ(Image) บล็อค(Block) เอกซเรฟ (Xrefs)หรือไวบเอาท(Wipeout)หรือใชวตั ถุดงั กลาวทีอ่ ยูบ นพืน้ ทีว่ าดภาพ ได

Image... เมือ่ คลิกบนปุมนีจ้ ะปรากฏไดอะล็อค ใหเราเลือกรูปบิทแม็ปเหมือนกับการสอดแทรกรูปอิมเมจดวยคําสัง่

Insert4Raster Image

Insertion point <0,0>:

{คลิก ณ ตําแหนงใดๆ บนพืน้ ทีว่ าดภาพทีต่ อ งการใหรปู อิมเมจปรากฏ}

Base image size: Width: 1.000000, Height: 0.540678, Millimeters

chap-14.PMD

447

13/10/2549, 1:35

448

Specify scale factor <1>:

{เลือ่ นเคอรเซอรปรับลดหรือขยายขนาดของรูปอิมเมจ แลวคลิกซาย} {คลิกขวาหรือ Q}

2D Drafting

Is the placement of this IMAGE acceptable? [Yes/No] : Selecting visible objects for boundary detection...Done.

{คลิก ณ ตําแหนงใดๆ ของขอบ

Specify an option [Advanced options] :

เขตนอกสุดของวัตถุทตี่ อ งการระบาย}

{คลิกขวาหรือ Q} {ใชคาํ สัง่ TFRAMES สําหรับปด/เปด

Specify an option [Advanced options] : Use TFRAMES to toggle object frames on and off.

กรอบของขอบเขตวัตถุ}

Note

หากไมตองการใหเสนกรอบของรูปบิทแม็ปปรากฏ เราสามารถใชคําสั่ง Modify4Object4Image

4Frame เพือ ่ ปด/เปดเสนกรอบของรูปบิทแม็ป

Block... เมื่ อคลิ กบนปุ มนี้ จะปรากฏไดอะล็ อค ให เ ราเลื อกบล็ อคเหมื อนกั บการสอดแทรกบล็ อคด วยคําสั่ ง คลิกบนปุม Block... แลวเลือกชือ่ บล็อคทีไ่ ดสอดแทรกเขามากอนแลว Insert4Block Specify insertion point or [Scale/X/Y/Z/Rotate/PScale/PX/PY/PZ/PRotate]:

ตําแหนงใดๆ บนพืน้ ทีว่ าดภาพทีต่ อ งการใหบล็อคปรากฏ}

{คลิก ณ

Enter X scale factor, specify opposite corner, or [Corner/XYZ] <1>:{คลิกขวา}

{คลิกขวาหรือ Q} {เลือ่ นเคอรเซอรเพือ่ หมุนบล็อค แลวคลิกซาย} Is the placement of this BLOCK acceptable? {Yes/No] : {คลิกขวาหรือ Q} Enter Y scale factor <use X scale factor>: Specify rotation angle <0>:

Select a window around the block to define column and row tile distances. Current rectangle modes: Width=0.3005

{กําหนดระยะออฟเซทของบล็อค โดยเขียนกรอบสีเ่ หลีย่ มชัว่ คราวสีมว งใหมขี นาดใหญกวาทีโ่ ปรแกรมกําหนดมาให}

Specify block [Extents] First corner <magenta rectang>: Current rectangle modes: Width=0.3005

{คลิกขวาหรือ Q} {คลิก ณ ตําแหนงใดๆ ของ

Specify block [Extents] First corner <magenta rectang>: Specify an option [Advanced options] :

ขอบเขตนอกสุดของวัตถุทตี่ อ งการระบาย} Specify an option [Advanced options] :

{คลิกขวาหรือ Q}

Xref Attach เราสามารถนําแบบแปลนที่ถกู เขียนเก็บไวในไฟล .dwg เขามาใชเปนลวดลายแฮทช โดยรักษาการ

เชื่อมโยงกับไฟลตน ฉบับแบบ Xref เมื่อคลิกบนปุมนีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคสําหรับเลือกไฟลแบบแปลน .dwg เมื่อ เลือกไฟลแลวจะปรากฏไดอะล็อค External Reference ขึน้ มาบนจอภาพ ใหเราเลือกรูปแบบของการเชือ่ มโยงขัน้ ตอน ตอไปจะเหมือนกับการใชปุม BLock Wipeout ใชปมุ นี้สําหรับสราง Wipeout Curve error tolereance ภายในขอบเขตของวัตถุแบบปด Select existing ใชปุมนี้สําหรับเลือกบล็อค, อิมเมจ, เอกซเรฟจากพืน้ ที่วาดภาพ เพือ่ นํามาใชเปนลวดลายแฮทช Curve error tolerance กําหนดความละเอียดของความโคงดังรูปที่ 14.60 หากกําหนดคาสูง สวนโคงจะปรากฏเปนสันเหลีย่ ม แตจะทํางานไดเร็ว หากกําหนดคาต่ํา สวนโคงจะ รูปที่ 14.60 ปรากฏราบเรียบ แตใชเวลานานมากขึ้น

14.63 Express File tools Move Backup Files | MOVEBAK 4

4

ใชสาํ หรับกําหนดโฟลเดอรทจี่ ะจัดเก็บไฟลสาํ รอง .bak ทีโ่ ปรแกรมสรางใหโดยอัตโนมัติ ทุกครัง้ ทีเ่ ราเปดไฟลแบบแปลน แลวใชคําสั่ง File4Save

chap-14.PMD

448

13/10/2549, 1:35

449

กลุมคําสั่งของ Express Tools Command: movebak

{พิมพชอื่ โฟลเดอรใหม อาทิ เชน c:\my documents ทีต่ อ งการจัดเก็บไฟล .bak ทัง้ หมดทีโ่ ปรแกรมบันทึกโดยอัตโนมัต}ิ

New value for MOVEBAK, or . for none <>:

14.64 Express File tools Convert PLT to DWG | PLT2DWG 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับนําไฟล HPGL ซึง่ ถูกบันทึกในรูปแบบ Plot file ฟอรแมต .plt เขามาในแบบแปลนใชงาน เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคใหเลือกไฟล .plt ทีต่ อ งการนําเขามาใชงาน

14.65 Express File tools Edit Image | IMAGEEDIT 4

4

ใชสําหรับเรียกโปรแกรมแอพพลิเคชัน่ ทีใ่ ชสาํ หรับแกไขไฟลอมิ เมจ โดยใชงานรวมกับคําสัง่ IMAGEAPP ซึง่ ใชระบุ Path ทีเ่ ก็บโปรแกรมแอพพลิเคชัน่ สําหรับแกไขอิมเมจไฟล เมื่อเรียกคําสัง่ นี้ จะปรากฏขอความ Select objects: ใหคลิก ลงบนรูปบิทแม็ปที่ตอ งการแกไข จะปรากฏไดอะล็อคสําหรับเลือกไฟลรูปบิทแม็ปแลวคลิกบนปุม Open โปรแกรม แอพพลิเคชัน่ ทีถ่ กู ระบุในคําสัง่ IMAGEAPP จะถูกเรียกออกมาแกไขรูปบิทแม็ปทีถ่ ูกเลือก Command:

IMAGEAPP

C:\Program Files\Adobe\Adobe Photoshop CS2\photosop.exe {ระบุโฟลเดอรและไฟลของแอพพลิเคชัน่ โปรแกรมทีต่ อ งการ ใชสาํ หรับแกไขรูปภาพทีถ่ กู เลือกดวยคําสัง่ Express4File tools4Edit Image}

Raster editing application or . for system default <.>:

14.66 Express File tools Redefine Path | REDIR 4

4

ใชสําหรับแกไข Saved Path ซึง่ ใชจดั เก็บไฟล Xref, Image, Shape, Style และ Rtext Command: redir Current REDIRMODE: Styles,Xrefs,Images,Rtext Find and replace directory names

* {พิมพชอื่ ไดเร็คตอรีห่ รือโฟลเดอรเดิม หรือพิมพเครือ่ งหมายดอกจัน * เพือ่ ใชไดเร็คตอรีห่ รือโฟลเดอรเดิมทัง้ หมด} Replace "*" with: C:\My Documents\My Pictures\Product {พิมพชอ ื่ โฟลเดอรใหม C:\My Documents\My Pictures\Product} Searching for old dir: * {คนหาโฟลเดอรเดิมทัง้ หมด} Enter old directory (use '*' for all), or ? :

in order to replace it with: C:\MY DOCUMENTS\MY PICTURES\PRODUCT Cannot find font: C:\MY DOCUMENTS\MY PICTURES\PRODUCT\TXT IMAGE

sowden1

SOWDEN1.JPG ->

C:\MY DOCUMENTS\MY

PICTURES\PRODUCT\SOWDEN1.JPG 0 style/shape records modified. 1 image references modified.

{ไฟลอมิ เมจ 1 ไฟลไดถกู เปลีย่ น Path ใหมแลว}

0 xrefs modified. 0 rtext objects modified.

chap-14.PMD

449

13/10/2549, 1:35

450

Note

คําสัง่ นี้มีประโยชน ในกรณีทมี่ ีการเคลื่อนยายไฟล Xref, Image, Shape, Style และ Rtext ไปเก็บไวใน โฟลเดอรใหม ซึง่ ถาเราเปดไฟลแบบแปลนทีม่ ีการสอดแทรกไฟลเหลานัน้ ไว โปรแกรมจะไมสามารถ คนหาไฟลเหลานัน้ พบได เราสามารถใชคําสัง่ นี้ เพือ่ ระบุโฟลเดอรใหมที่เราไดยา ยไฟลเหลานัน้ ไปเก็บ ไวซงึ่ โปแกรมจะกําหนด Path ใหกบั ไฟลเหลานั้นใหมทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ซึ่งสะดวกในการใชงาน ในกรณีที่มไี ฟลถูกสอดแทรกเขามาใชงานจํานวนมาก

2D Drafting

Note

หากกดปุม Q บนบรรทัดขอความ Enter old directory (use '*' for all), or ? : จะปรากฏ ไดอะล็อค REDIRMODE เราสามารถคลิกใหปรากฏเครื่องหมาย หนาเช็คบอกซเฉพาะของวัตถุที่ เราตองการแกไขเปลีย่ นแปลง Saved Path เทานัน้ ไมจําเปนตองเลือกทัง้ หมด ตัวอยาง เชน หากตองการ แกไข Saved Path ของไฟล Xref ทั้งหมด เราก็สามารถคลิกใหปรากฏเครื่องหมาย หนาเช็คบอกซ Xrefs เทานั้น โปรแกรมจะไดไมเสียเวลาคนหาวัตถุอื่นๆ ที่ไมตองการ

14.67 Express File tools Update Drawing Properties data | PROPULATE 4

4

ใชคําสั่งนี้ในการกําหนดคุณสมบัติใหไฟลแบบแปลนจํานวนมากๆ ในครัง้ เดียว อาทิ เชน Tiltle, Subject, Author, Keywords, Comments, Hyperlink base, Last saved by, Revision number เมือ่ ใชคําสัง่ จะปรากฏขอความดังนี้ Command: Propulate Default template file: C:\Program Files\AutoCAD 2006\Express\template.prp

{โปรแกรมรายงานชือ่ เทมเพล็ทไฟลและโฟลเดอรทเี่ ก็บคุณสมบัตติ า งๆ ทีเ่ ราจะนําไป กําหนดใหกบั ไฟลแบบแปลนจํานวนมาก} Enter an option [Active template/Edit template/List/Remove/Update] :

Active template เลือกเทมเพล็ทไฟลใชงาน .prp ทีจ่ ะนําไปใช กับไฟลแบบแปลนจํานวนมาก Edit template ใชตัวเลือกนี้

สําหรับแกไขขอมูลคุณสมบัติของแบบแปลนที่ระบุไวในไฟล เทมเพล็ทจะปรากฏไดอะล็อคดังรู ปที่ 14.61 ใหแก ไขข อมู ล คุณสมบัติตามตองการ แลวใชคําสัง่ File4Save หรือ File4 Save As เพื่ อบั นทึ กลงในไฟล .prp ใหม ในช อ งหน าต าง Comments หากตองการใหโปรแกรมแสดงชื่อไฟล Xref, Fonts และ Images ไมตองแกไขคาที่โปรแกรมกําหนดมาให หากเรา เรี ยกไดอะล็ อคนี้ ออกมาในไฟล แบบแปลนที่ มี แอททริ บิ วต เราก็สามารถสอดแทรกขอมูลแอททริบิวตเขาไปชองหนาตาง Comments ไดดวย List ใชสําหรับแสดงขอมูลคุณสมบัติของ ไฟลแบบแปลนจํานวนมากในคราวเดียว เมื่อใชตัวเลือกนี้ จะ ปรากฏตัวเลือก Current drawing/Other drawings หากเลือก Current drawing โปรแกรมจะแสดงคุณสมบัตทิ บี่ นั ทึกอยูใ นไฟล แบบแปลนใชงาน หากเลือกตัวเลือก Other drawings จะปรากฏ ข อ ความ Enter search directory and drawing name. รูปที่ 14.61 เราสามารถระบุ Path ที่ตอ งการใหมหรือ Q เพื่อใช Path ทีโ่ ปรแกรมกําหนดมาให โปรแกรมจะแสดงคุณสมบัตขิ องไฟลแบบแปลนทีอ่ ยูในโฟลเดอรทกี่ ําหนด ทัง้ หมด ถามีการกําหนดคุณสมบัตขิ องไฟลแบบแปลนไวกอ นแลว Remove ใชสําหรับลบคุณสมบัตทิ กี่ ําหนดไวใน ไฟลแบบแปลนจํานวนมากออกทัง้ หมด ตัวเลือกนีม้ วี ธิ กี ารใชงานเหมือนตัวเลือก List ทุกประการ Update ใชสําหรับ แกไขคุณสมบัตใิ หกบั ไฟลแบบแปลนทัง้ หมด โดยจะใชคา คุณสมบัติทเี่ ราไดบนั ทึกไวในไฟล .prp ผานตัวเลือก Edit Template ตัวเลือกนี้มวี ิธีการใชงานเหมือนตัวเลือก List ทุกประการ

chap-14.PMD

450

13/10/2549, 1:35

451

กลุมคําสั่งของ Express Tools Note

โดยปกติ การกําหนดคุณสมบัติของไฟลแบบแปลน เราจะตองใชคําสั่ง File4Drawing Properties... ในแบบแปลนใชงานซึ่งเราจะสามารถกําหนดคุณสมบัตไิ ฟลไดคราวละ 1 แบบแปลนเทานั้น

Note

คําสั่งนีจ้ ัดวามีประโยชนตอ การใชงาน แตก็มีขอเสียคือรูป Preview ของไฟล .dwg ทุกไฟลจะหายไป จากหนาตางสําหรับเลือกไฟลทกุ ประเภท แตเราสามารถแกไขไดโดยการเปดไฟล .dwg ทัง้ หมดออกมา แลวใชคําสัง่ File4Save ใหม แตถา มีไฟลเปนจํานวนมากๆ หากเราจะเปดไฟลออกมาครัง้ ละไฟล คงจะตองเสียเวลาเปนอยางมาก อยางไรก็ตาม เราสามารถใชโปรแกรม ScriptPro ซึง่ เปนสวนหนึง่ ของ Migration Assistance สรางสคริปทสําหรับเปดไฟลและบันทึกไฟลจํานวนมากๆ โดยอัตโนมัติซึ่ง ดาวนโหลดไดฟรีจากเวบไซต www.autodesk.com หรือที่ http://usa.autodesk.com/adsk/servlet/ item?siteID=123112&id=4091678&linkID=2475161

14.68 Express File tools Save all drawings | SAVEALL 4

4

ใชสําหรับบันทึก(Save)ไฟลแบบแปลนทีก่ ําลังเปดใชงานในหนาตางทัง้ หมด

14.69 Express File tools Close all drawings | CLOSEALL 4

4

ใชสําหรับปดหนาตางไฟลแบบแปลนทัง้ หมดทีก่ าํ ลังเปดใชงานอยู คําสัง่ นีม้ กี ารใชงานเหมือนกับคําสัง่ Windows4 Close All

14.70 Express File tools Quick Exit | QQUIT 4

4

ใชสําหรับออกจากโปรแกรม AutoCAD เหมือนกับคําสัง่ File4Exit

14.71 Express File tools Revert to original | REVERT 4

4

ใชสาํ หรับเรียกขอมูลทีถ่ กู บันทึกดวยคําสัง่ File4Save ก็คอื ปดไฟลและเปดไฟลเดิมออกมาใชงานใหม

หรือ File4Save As ครัง้ ลาสุดกลับมาใชงานหรือพูดงายๆ

14.72 Express Web tools Show URLs | SHOWURLS | 4

4

แสดงรายชือ่ ของไฮเปอรลงิ คทงั้ หมดทีถ่ กู เชือ่ มโยงไปยังวัตถุตา งๆ ในไฟลแบบแปลนใชงาน ดวยคําสัง่ นี้ เรายังสามารถ ทีจ่ ะแกไขหรือแทนทีไ่ ฮเปอรลงิ คทงั้ หมดไดอกี ดวย

14.73 Express Web tools Change URLs | CHURLS 4

4

ใชคําสั่งนี้สําหรับแกไขไฮเปอรลิงคที่เชื่อมโยงไปยัง วัตถุตางๆ เมือ่ ใชคําสั่งนี้ จะปรากฏขอความ Select objects: เราสามารถเลือกวัตถุทงั้ หมดทีม่ กี ารเชือ่ มโยง หรือไมมีก็ได จะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.62 เรา รูปที่ 14.62 สามารถแกไขไฮเปอรลงิ คไดตามตองการ

chap-14.PMD

451

13/10/2549, 1:35

452

14.74 Express Web tools Find and Replace URLs | REPURLS 4

4

2D Drafting

ใชสาํ หรับคนหาและแทนทีไ่ ฮเปอรลงิ ค เมือ่ ใชคาํ สัง่ นี้ จะปรากฏขอความ Select objects: เราสามารถเลือกวัตถุทงั้ หมด ทีม่ กี ารเชือ่ มโยงหรือไมมกี ไ็ ด จะปรากฏไดอะล็อค Replace URL text เราสามารถคนหาและแทนทีไ่ ฮเปอรลงิ คไดตาม ตองการ

14.75 Express Tools Command Alias Editor | ALIASEDIT 4

4

ใชสําหรับสรางและแกไขเพิม่ เติมคําสัง่ ยอ(Keyboard shortcut) เมือ่ ใชคาํ สัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.63 (ซาย) รูปที่ 14.63

Add คลิกบนปุมนี้หากตองการสรางคําสั่งยอใหม จะปรากฏไดอะล็อค New Command Alias ดังรูปที่ 14.63 (ขวา)

พิมพตวั อักษรยอเขาไปใน Alias และพิมพหรือเลือกคําสัง่ ใน AutoCAD Command ไดตามตองการ ในการสรางคําสัง่ ยอ ขึ้นมาใชงานใหม เราจะตองตรวจดูคําสั่งยอใหมไมใหมีชื่อซ้ํากับคําสั่งยอเดิม Remove หากตองการลบคําสั่งยอ ใหคลิกคําสั่ งยอ แลวคลิ กปุ มนี้ Edit หากต องการแก ไขเปลี่ ยนแปลงคําสั่ งยอที่ มี อยู แล ว ให คลิ กบนคําสั่ งยอ แลวคลิกปุม Edit นี้ Note

หากเราไมพอใจกับอักษรยอที่ใชสําหรับเรียกคําสั่งใด เราสามารถคลิกปุม Edit เพื่อแกไขตัวอักษรยอ ของคําสัง่ นัน้ ได แตเราตองแนใจวาตัวอักษรยอทีเ่ ราเลือกใชนนั้ ไมซา้ํ กับตัวอักษรยอในคําสัง่ อืน่ ๆ ซึง่ เรา สามารถใชสครอลบารของหนาตาง AutoCAD Commands entered from shortcut เพื่อเรียกดูตวั อักษร ยอทีใ่ ชไปแลวทัง้ หมดได แตคําสัง่ ของ AutoCAD เพียงคําสัง่ เดียวสามารถมีคําสัง่ ยอหลายๆ คําสัง่ ก็ได

Note

เมื่อแกไขและเพิม่ เติมคําสั่งยอเรียบรอยแลว ใหคลิกบนปุม Apply จะปรากฏไดอะล็อคดังรูปที่ 14.64 แสดงโฟลเดอรและไฟลทจี่ ดั เก็บคําสัง่ ยอ ซึง่ จะตองเปนโฟลเดอรและไฟล C:\Documents and Settings\ User name\Application Data\Autodesk\AutoCAD 2006\R16.2\enu\Support\Acad.pgp เทานั้น เราสามารถใชคําสั่ง File4Open ของไดอะล็อค AutoCAD Alias Editor เปดไฟล Acad.pgp จากโฟลเดอรดงั กลาวออกมา แลวจึงทําการแกไขเพิม่ เติมคําสัง่ ยอไดตามตองการ คลิกบนปุม Yes ปุม OK และปุม Close ตามลําดับ คําสั่งยอจึงจะใชงานไดใน AutoCAD

รูปที่ 14.64

chap-14.PMD

452

13/10/2549, 1:35

453

กลุมคําสั่งของ Express Tools

14.76 Express Tools System Variable Editor | SYSVDLG 4

4

รูปที่ 14.65

ใช คํ า สั่ งนี้ สํ า หรั บ แสดงรายชื่ อตั ว แปร ระบบ(System variables) ที่ มีอยูท งั้ หมดใน AutoCAD เราสามารถตรวจสอบหรือแกไข คาของตัวแปรระบบผานไดอะล็อค System Variables ดังรูปที่ 14.65 ได นอกจากนี้ เรา ยั งสามารถบันทึ ก(Save All...) คาของ ตัวแปรระบบ ทัง้ หมดเก็บไวในไฟลฟอรแมต .svf เพือ่ ทีจ่ ะเรียกกลับ(Read...) มาแทนที่ ตัวแปรระบบทีอ่ ยูใ นไฟล แบบแปลนใชงาน ใดๆ ไดตลอดเวลาทีม่ คี วามตองการ

14.77 Express Tools Make Linetype | MKLTYPE 4

4

ใชคาํ สัง่ นีส้ ําหรับสรางรูปแบบเสน(Linetype)ใหมๆ ขึน้ มาใชงานดวยตนเอง โดยใชคําสัง่ PLINE, LINE, POINT, TEXT และ SHAPE เปนคําสัง่ ในการสรางตนแบบของรูปแบบเสนดังรูปที่ 14.66

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.66

หลังใชคําสั่ง

เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคสําหรับใหเราไดเลือกไฟลฟอรแมต .lin ซึง่ บันทึกรูปแบบเสนตางๆ ไวใน AutoCAD 2006 มีอยู 2 ไฟลคอื Acad.lin (ระบบอังกฤษ)และ Acadiso.lin (ระบบเมตริก) ซึง่ อยูใ นโฟลเดอร C:\Documents and Settings\User name\Application Data\Autodesk\AutoCAD 2006\R16.2\enu\Support เมือ่ เลือกไฟลทจี่ ะบันทึก รูปแบบเสนแลว จะปรากฏขอความดังตอไปนี้ Enter linetype name: Mylinetype1

{ตัง้ ชือ่ รูปแบบเสน Mylinetype1}

{หากชือ่ ทีเ่ ราตัง้ มีอยูแ ลว จะปรากฏขอความบรรทัดนี้ ใหพมิ พ Y เพือ่ กําหนดรูปแบบเสนใหมทบั รูปแบบเสนเดิม} Enter linetype description: ------ -- --- --- ----------- {ใหใชเครือ ่ งหมาย - สรางตัวอยาง คราวๆ ของรูปแบบเสนทีจ่ ะปรากฏเปนตัวอยางบนไดอะล็อคและแถบรายการ Linetype Control} Specify starting point for line definition: {เปดโหมด OSNAP แลวคลิก ตรงจุดเริม่ ตนของรูปแบบเสน} Specify ending point for line definition: {คลิกตรงจุดสิน ้ สุดของรูปแบบเสน} Select objects: Specify opposite corner: 5 found {คลิกบนเสนสวนประกอบทัง้ หมดของ รูปแบบเสนทีต่ อ งการสราง} Select objects: {คลิกขวาหรือ Q} Linetype "MYLINETYPE1" redefined and loaded. {รูปแบบเสนถูกสรางใหมและโหลดเขา ไปใชงานดวยแลว} Line definition already exists. Overwrite it? [Yes/No] : Y

chap-14.PMD

453

13/10/2549, 1:35

454 สีเ่ หลีย่ มจัตรุ สั และวงกลมทีใ่ ชสรางรูปแบบเสนที่ 3 นัน้ จะตองเปน Shape เทานัน้ ไมสามารถใชวงกลม และสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สรางมาจากคําสั่ง CIRCLE และ PLINE หรือ POLYGON ธรรมดา

Note

14.78 Express Tools Make Shape | MKSHAPE 4

2D Drafting

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับสรางเชฟ(Shape) เพือ่ ทีจ่ ะนํา Shape ไปเปนสวนประกอบในการสรางรูปแบบเสน (Linetype)หรือ ลวดลายแฮทช(Hatch pattern)ดังรูปที่ 14.67 กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.67 หลังใชคําสั่ง

เมื่อใชคําสั่งนีจ้ ะปรากฏไดอะล็อคสําหรับใหเราไดเลือกไฟลฟอรแมต .shp ซึง่ บันทึก Shape ตางๆ ไวในไฟลคือ Ltypeshp.shp ซึง่ อยูใ นโฟลเดอร C:\Program Files\AutoCAD 2006\Support เมือ่ เลือกไฟลทจี่ ะบันทึก Shape แลว จะปรากฏขอความดังตอไปนี้ INDUC {ตัง้ ชือ่ Shape} {กําหนดความละเอียดในการสราง Shape ดังรูปที่ 14.68} Specify insertion base point: {คลิกเพือ ่ กําหนดจุดสอดแทรก} Select objects: {เลือกวัตถุทงั้ หมดทีจ ่ ะสราง Shape} Select objects: {คลิกขวาหรือ Q เปนอันเสร็จสิน ้ การสราง Shape ชือ่ INDUC}

Enter the name of the shape: Enter resolution <128>:

รูปที่ 14.68

ตารางกริด

วงกลม ตนแบบ

ความละเอียด

8

16

128

Shape ที่ได ความเร็วสูง

Note

32

คุณภาพสูง

เมือ่ สราง Shape เสร็จเรียบรอยแลว ลองพิมพคําสัง่ SHAPE เพือ่ เรียก Shape นัน้ ออกมาวางบนพืน้ ทีว่ าด ภาพ หากไฟลที่บันทึก Shape ยังไมไดถูกโหลดเขามาใน AutoCAD เราจะตองพิมพคําสั่ง LOAD เพือ่ โหลด Shape ไฟลฟอรแมต .shx เขาสูห นวยความจําเสียกอน เราจึงจะเรียก Shape ทีต่ อ งการออกมา ใชงานดวยคําสั่ง SHAPE ได

14.79 Express Tools Realtime UCS | RTUCS 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับหมุน UCS แบบ Realtime ใน 3 มิติ เมือ่ เรียกคําสัง่ ออกมาใชงานจะปรากฏดังนี้

chap-14.PMD

454

13/10/2549, 1:35

455

กลุมคําสั่งของ Express Tools Command: rtucs

Press TAB key to change axis or [Save/Restore/Delete/Cycle/Angle/Origin/View/World/Undo]

{คลิกและลากเมาสเพือ่ ปรับทิศทางของ UCS ไอคอนหรือกดปุม W เพือ่ เปลีย่ นแกนในการหมุน}

14.80 Express Tools Attach Xdata | XDATA 4

4

ใชสําหรับแนบขอมูลเพิม่ เติม Xdata ยึดติดกับวัตถุ Command: xdata

{คลิกบนวัตถุใดๆ ทีต่ อ งการแนบขอมูล} Enter application name: PROJECT {พิมพชอ ื่ แอพพลิเคชัน่ } Select object:

PROJECT new application. Enter an option [3Real/DIR/DISP/DIST/Hand/Int/LAyer/LOng/Pos/Real/SCale/STr/eXit] <eXit>: {เลือกตัวเลือกประเภทของขอมูลทีต ่ อ งการกําหนดใหกบั วัตถุ}

Note

วัตถุ 1 ชิ้นสามารถที่จะมีแอพพลิเคชั่นไดมากกวา 1 ชื่อและในแตละแอพพลิเคชั่นสามารถเก็บขอมูล ทีแ่ ตกตางกันได

14.81 Express Tools List Object Xdata | XDLIST 4

4

ใชสําหรับแสดงขอมูลทีแ่ นบไปกับวัตถุดว ยคําสัง่ XDATA Command: xdlist

{คลิกบนวัตถุใดๆ ทีผ่ า นการใชคาํ สัง่ XDATA ในการแนบขอมูลมาแลว} {พิมพชอื่ แอพพลิเคชัน่ หรือกดปุม Q เมือ่ ตองการแสดงขอมูล ทัง้ หมดจะปรากฏขอมูลตางๆ ทีย่ ดึ ติดกับวัตถุทถี่ กู เลือก}

Select object:

Enter application name <*>:

14.82 Express Tools Full-Screen AutoCAD | FULLSCREEN 4

4

ใชคาํ สัง่ นีส้ ําหรับขยายจอภาพของ AutoCAD ใหใหญเต็มจอภาพ โดยซอนชือ่ หนาตาง AutoCAD เมนูบารและบรรทัด แสดงสถานะ คําสัง่ นีท้ าํ งานในลักษณะเปด/ปด เมือ่ จอภาพถูกขยายใหใหญขนึ้ แลว หากตองการเรียกใชเมนู ใหเลือ่ น เคอรเซอรไปทีข่ อบดานบนของจอภาพ จนกระทัง่ ปรากฏเมนูบาร เราจึงจะสามารถเรียกคําสัง่ ตางๆ ออกมาใชงาน Note

ในขณะอยูในโหมด Fullscreen เราสามารถแสดงบรรทัดแสดงสถานะได โดยพิมพคําสั่งผานคียบ อรด FULLSCREENOPTIONS แลวคลิกใหปรากฏเครื่องหมาย หนา Show Status Bar

14.83 Express Tools Extended Plan | EXPLAN 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับการปรับระนาบ 3 มิตใิ หแสดงระนาบ XY หรือระนาบดานบน(Top)ของ UCS ใชงานหรือระนาบดาน

chap-14.PMD

455

13/10/2549, 1:35

456

บน XY ของ WCS หรือเปลี่ยนมุมมองไปยัง Top View ของวัตถุที่ถกู เลือกหรือกลับไปยัง Top View ของ World Coordinate System

2D Drafting

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.69

หลังใชคําสั่ง

Command: explan Select objects to zoom to or press <enter> to select everything on screen...

{เลือกวัตถุทตี่ อ งการกําหนดใหอยูต รงกลางพืน้ ทีว่ าดภาพหรือกดปุม Q เพือ่ เลือกวัตถุทงั้ หมด} Select objects: {คลิกขวาหรือกดปุม  Q เพือ่ ออกจากการเลือกวัตถุ} Enter an option [Current ucs/Ucs/World] : {เลือกระนาบ Current UCS ใชงานหรือ Ucs หรือ World} Select objects: 1 found

14.84 Express Tools DWG Editing Time | EDITTIME 4

4

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับจับเวลาการทํางานกับไฟลแบบแปลนใชงาน Command: edittime EditTime settings: Status=ON Timeout=10 min. Active=0.0266 hr. Enter an option [Reset/Timeout/ON/OFF]:

Reset เริ่มจับเวลาใหม Timeout ระบุเวลาทีโ่ ปรแกรมจะหยุดจับเวลาอัตโนมัติ หากมีการหยุดการแกไขแบบแปลน ในเวลาที่กําหนด On เริ่มจับเวลาหรือตอการจับเวลา Off หยุดการจับเวลา

14.85 BLOCK? ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับแสดงรายละเอียดของวัตถุทงั้ หมดทีเ่ ปนสวนประกอบของบล็อค เมือ่ ใชคําสัง่ นีจ้ ะปรากฏขอความ Enter block name : พิมพชอื่ บล็อคหรือคลิกขวา แลวคลิกบนบล็อคทีต่ องการ

14.86 BCOUNT ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับนับจํานวนบล็อคทัง้ หมดทีม่ อี ยูใ นไฟลแบบแปลนใชงาน Command: BCOUNT

{พิมพคําสัง่ ผานคียบ อรด}

Press Enter to select all or... Select objects:

{คลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ เลือกวัตถุทงั้ หมด}

Block.................Count ---------------------------

chap-14.PMD

456

13/10/2549, 1:35

กลุมคําสั่งของ Express Tools

457

{บล็อคชือ่ Circuit Breaker นับได 1} {บล็อคชือ่ Battery นับได 1} Full Wave Bridge......1 {บล็อคชือ ่ Full Wave Bridge นับได 1} Motor.................1 {บล็อคชือ ่ Motor นับได 1} Speaker...............1 {บล็อคชือ ่ Speaker นับได 1} Circuit Breaker.......1

Battery...............1

14.87 EXPRESSMENU ใชสําหรับโหลดและเรียกเมนูคอลัมน Express ไปปรากฏบนเมนูบาร ในกรณีทตี่ ดิ ตัง้ Express Tools แลวไมปรากฏเมนูคอลัมน Express บนเมนูบารหรือเมนูคอลัมน Express หายไปจากเมนูบารไมวา จะสาเหตุใดก็ตาม เราสามารถใชคําสัง่ นีเ้ รียก Express เมนูกลับคืนมาใชงานได

Note

14.88 EXPRESSTOOLS ใชสําหรับโหลดไลบบรารีข่ อง Express Tools และกําหนด Express Tools โฟลเดอรไวใน AutoCAD Search Path และเรียก Express เมนูคอลัมนไปปรากฏบนเมนูบาร

14.89 LSP แสดงรายชือ่ คําสัง่ (Commands) ฟงชัน่ (Functions)และตัวแปร(Variables)ของ AutoLISP ที่ AutoCAD ไดโหลดเขามา ใชงานทัง้ หมดและยังสามารถโหลด(Load)โปรแกรม AutoLISP เขามาใชงานไดดว ย Command: LSP Enter an option [?/Commands/Functions/Variables/Load]:

Functions, Variables หรือ Load ไดตามตองการ}

{เลือกตัวเลือก Commands,

14.90 LSPSURF ใชสาํ หรับอานไฟล AutoLISP และสามารถ เลือกทีจ่ ะแสดงแตละฟงชัน่ ของ AutoLISP ได เมือ่ ใชคําสัง่ จะปรากฏไดอะล็อคดังรูป ที่ 14.70 คนหาไฟล .lsp หรือ .mnl ทีต่ อง การ แลวคลิกบนชื่อไฟลและคลิกบนปุม Read the file เลือกฟงชัน่ ที่ตองการ ให ปรากฏบนชองหนาตางดานขวาจากแถบ รายการ Function คําสั่งนี้อานไดเพียง อยางเดียว ไมสามารถแกไขหรือเปลี่ยน แปลงขอมูลในไฟลได

chap-14.PMD

457

รูปที่ 14.70

13/10/2549, 1:35

458

14.91 SSX

2D Drafting

ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับสราง Selection set หรือกลุม ของวัตถุทถี่ กู เลือก เพือ่ นําไปใชคําสั่งอืน่ ๆ ทีป่ รากฏขอความ Select objects: Command: SSX Select object :

{คลิกบนวัตถุหรือคลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ระบุเงือ่ นไขในการเลือก}

Enter filter option [Block name/Color/Entity/Flag/LAyer/LType/Pick/Style/

{เราสามารถเลือกวัตถุจากชือ่ บล็อค(Block)หรือเลือกจากสี(Color)หรือ ประเภทวัตถุ(Entity)หรือเลเยอร(LAyer)หรือรูปแบบเสน(LType)และอืน่ ๆ}

Thickness/Vector]:

14.92 DUMPSHX ในโฟลเดอร C:\Program Files\AutoCAD 2006\Express มีไฟล dumpshx.exe ซึง่ ใชสาํ หรับถอดรหัสฟอนทไฟล .shx เพือ่ สรางเทกซไฟล .shp ซึง่ สามารถนํามาแกไขเปลีย่ นแปลงได เราจะตองรันไฟลดงั กลาวผาน OS Command Line หรือใชคําสั่ง ð All ProgramsðAccessoriesðCommand Prompt แลวพิมพคําสั่ง dumpshx โดยใชรปู แบบดังนี้ {สรางเทกซไฟล simplex.shp จากฟอนทไฟล Simplex.shx หากไมมกี ารระบุ Path เราจะตองคัดลอกฟอนท simplex.shx มาเก็บไวในโฟลเดอร เดียวกันกับ dumpshx.exe ดวย จึงจะไดไฟล simplex.shp ซึง่ สามารถนําไปแกไขเปลีย่ นแปลงได}

dumpshx -o simplex.shp simplex.shx

14.93 TFRAMES ใชคําสัง่ นีส้ ําหรับเปด/ปดเสนกรอบของไวบเอาทไมใหปรากฏบนพืน้ ทีว่ าดภาพดังรูปที่ 14.71

กอ นใชคําสั่ง

รูปที่ 14.71

หลังใชคําสั่ง

เปนอันวาเราไดศกึ ษาการใชคําสัง่ ทัง้ หมดของ Express Tools ของ AutoCAD 2006 มาเรียบรอยแลว เราจะเห็นไดวา คําสัง่ ตางๆ ในเมนู Express หลายๆ คําสั่งมีประโยชนตองานเขียนแบบเปนอยางมาก เพราะจะชวยใหเราสามารถ ทํางานไดสะดวกและรวดเร็วมากขึน้

*********************************

chap-14.PMD

458

13/10/2549, 1:35

Related Documents

Autocad 2d
June 2020 26
Autocad 2d
August 2019 28
Autocad 2006 2d Chap-14
November 2019 2
Autocad 2006 2d Chap-12
November 2019 4
Autocad 2006 2d Chap-04
November 2019 4
Autocad 2006 2d Chap-18
November 2019 4