Ais Ch3

3 เริ่มตนใชงาน

ในบทนี้เปนการสราง Parts แรกดวยโปรแกรม Inventor ดวยชิน้ สวนงายๆ ตามรูป

รูป - การสราง Sketch เพื่อใชเปน Base Feature - การเพิ่มชิน้ สวน (Join Feature) เขามาบน Base Feature - การตัดชิ้นสวน (Cut Feature) ออกจาก Base Feature - การแกไข (Edit Sketch, Edit Feature) - การมนคม (Fillet) การลบคม (Chamfer) การทํา Shell เริ่มตนใชงาน Autodesk Inventor 1. คลิกที่ Start บน Taskbar ของ Windows 2. คลิกที่ Programs คลิก Inventor และคลิกที่ Autodesk Inventor หรือจะคลิกที่ไอคอน Autodesk Inventor ที่ อยูบนหนาจอของ Windows จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซของโปรแกรม Autodesk Inventor ขึ้นมา ภายใต What would you like to do? ใหคลิกเลือกทีป่ ุมเรดิโอหนา Run Autodesk Inventor คลิกที่ Next หมายเหตุ : ถาคุณไดทําการ Register โปรแกรม Inventor แลว จะไมมีไดอะล็อกบ็อกซนี้ปรากฏขึ้นมาแสดงอีก

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

15

สราง Parts ขึ้นมาใหม 1. การสราง Parts ใหมนนั้ ใหคุณคลิกที่ไอคอน New ที่อยูบนแถบเครื่องมือมาตรฐานของโปรแกรม หรือคลิกที่ เมนู File > New บนเมนูบาร จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ Open ขึ้นมา

2. คลิกที่ไอคอน New ที่อยูใ นกรอบของ What To Do? คลิกที่แท็ป Metric คลิกเลือกที่ ไอคอน Standard (mm).ipt 3. คลิก OK เริ่มเขียนสี่เหลีย่ ม 2 มิติ กอนสี่เหลี่ยมจะเปน Feature แรกที่ถูกสรางขึ้นมา ซึ่งไดมาจากการเขียนรูปสี่เหลี่ยม 2 มิติ ที่มีเพียงความกวาง และความยาว ตามที่ตองการ สวนความสูงของรูปสี่เหลีย่ มนัน้ ไดมาจากคําสัง่ Extrude เพื่อใชยดื วัตถุหรือสิ่งที่ คุณเขียนขึ้นมาใหมีขนาดความสูงตามตองการ 1. เมื่อคุณคลิก OK จากการเลือก Template แลว โปรแกรม Inventor จะเขามาสูโหมดของการ Sketch ใหโดย อัตโนมัติ โดยใชระนาบ XY เปนระนาบที่ใชในการเขียนหรือ Sketch (สังเกตไดจากที่ Browser Bar ภายใต Origin จะมีไอคอน Sketch1 เปนแถบสีขาวอยูแสดงวาอยูในโหมดของ Sketch และที่ดานบนของ Browser Bar จะมีแถบเครื่องมือของ 2D Sketch Panel ซึ่งมีเครื่องมือสําหรับเขียนรูป 2 มิติตางๆ ใหเลือกใชงานแสดงขึ้นมา ใหเห็น)

16

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

2. คลิกที่คําสัง่ Two point rectangle บน 2D Sketch Panel เพื่อเขียนรูปสี่เหลีย่ ม 3. วางเมาสทจี่ ุดตัดของเสนสีดําที่ตัดกัน ที่กลางจอซึง่ เปนจุด Origin หรือจุด 0, 0 (คุณสามารถสังเกตไดวาเมื่อ วางเมาสที่จุดดังกลาวแลว แถบสถานะมุมลางสุดขวามือ จะแสดงตัวเลข 0.00 mm, 0.00 mm ขึ้นมาใหเห็น) คลิกเมาสปุมซายเพื่อวางมุมแรกของสี่เหลี่ยมบนจุด 0, 0 จากนั้น เลื่อนเมาสขึ้นไปทางดานขวามือดานบน (คา ของความกวาง ความยาวของสี่เหลีย่ มจะปรากฏขึ้นมาที่แถบสถานะ) เมื่อไดระยะพอเหมาะแลว ใหคลิกเมาส ปุมซายมืออีกครั้ง เพื่อวางจุดที่สองของสี่เหลี่ยม เสร็จแลวคลิกเมาสปมุ ขวามือ เลือก Done หรือกด Esc เพื่อจบ คําสั่งการเขียนรูปสี่เหลีย่ ม

4. คุณสามารถกําหนดความสัมพันธของเสนของรูป Sketch ให Fix กับจุด origin โดยจะกําหนดใหมุมที่อยูบน จุด Origin ให Fix อยูกับที่ โดยที่จุดดังกลาวนี้จะไมสามารถยายหรือเคลื่อนที่ไปไหนได สวนจุดทีเ่ หลือบนมุม 3 จุดกับอีก 2 ดาน สามารถทีย่ ายตําแหนงได คลิกที่เครื่องหมาย ที่คําสัง่ Perpendicular จะปรากฏเมนูยอยขึ้นมาใหคลิกเลือกที่ Fix เลื่อนเมาสไปคลิกที่มุมของสี่เหลี่ยมดานที่อยูบนจุด Origin จะปรากฏจุดสีแดงเล็ก ๆ ขึ้นมา เมื่อคลิกเรียบรอย แลวเสนที่อยูดา นบนและดานลางจะเปนสีเทาดํา การกําหนดขนาด General Dimension ในสวนนี้เปนการกําหนดขนาดของรูปสี่เหลี่ยมที่ไดเขียนขึ้นมา ใหไดความกวาง ความยาวตามที่ตองการ 1. คลิกที่ไอคอน General Dimension 2. เมื่อคุณวางเมาสลงบนเสนที่คุณตองการจะบอกขนาด ในทีน่ ี้ใหเลือกที่เสนดานบน เสนดังกลาวจะแสดงเปนสี แดง และจะมีสัญลักษณ ปรากฏใหเห็น จากนั้นใหคลิกที่เสนดานบนที่เปนสีแดง เสนดังกลาวจะเปลี่ยนเปนสี ฟาและเมื่อเลือ่ นเมาสขนึ้ ดานบนจะมีเสนบอกขนาดขึ้นมา ตําแหนงของตัวเลขบอกขนาดจะติดอยูกับตัวชี้ของ เมาสตลอดเวลาเมื่อเลื่อนเมาสขึ้นลง คลิกเลือกตําแหนงที่ตองการวางเสนบอกขนาด จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ Edit Dimension ขึ้นมาเพื่อใหคุณแกไขคาตัวเลขบอกขนาด เปลี่ยนคาตัวเลขบอกขนาดเปน 45 แลวคลิก เครื่องหมายถูก (3)สีเขียวที่อยูดานขาง เพื่อยอมรับ คาที่ปอนเขาไปใหม หรือกด Enter ก็ไดเชนกัน

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

17

หมายเหตุ : คุณสามารถที่จะกําหนดไดวา เมื่อมีการวางเสนบอกขนาดแลวใหแสดงไดอะล็อกบ็อกซ Edit Dimension ขึ้นมาเพื่อแกไขตัวเลขบอกขนาด หรือไมตองการใหแสดงไดอะล็อกบ็อกซ Edit Dimension แตจะ แสดงขึ้นมาเมือ่ คุณคลิกที่ตัวเลขบอกขนาด ใหไปกําหนดที่ เมนู Tool > Application Options…. จะปรากฏ ไดอะล็อกซบ็อกซ Option ขึ้นมา คลิกที่แท็ป Sketch ใหเช็คที่ Edit dimension when created วามีเครื่องหมาย ถูกอยูห รือไม ถามีเครื่องหมายถูกอยู จะมีการแสดงไดอะล็อกบ็อกซ Edit Dimensionขึ้นมา ถาไมจะไมแสดง ไดอะล็อกบ็อกซดังกลาว หรืออีกวิธีหนึง่ คือ เมื่ออยูในคําสั่ง General Dimension ใหคลิกเมาสขวาเลือก Edit Dimension ถามีเครื่องหมายถูกอยูห นา Edit Dimension จะมีการแสดงไดอะล็อกบ็อกซ Edit Dimensionขึ้นมา ถาไมมีจะไมแสดงเมื่อมีการวางเสนบอกขนาด 3. คลิกที่ขอบดานขวาของสีเ่ หลี่ยม แลวคลิกเลือกตําแหนงที่จะวางเสนบอกขนาด เปลี่ยนตัวเลขบอกขนาดให เปน 32 จากนัน้ คลิกเมาสขวาเลือก Done เพื่อจบคําสัง่ การบอกขนาด

4. คลิกเมาสปมุ ขวาอีกครั้ง เลือก Finish Sketch เพื่อจบขึ้นตอนของการ Sketch (เมื่อคุณคลิกที่ Finish Sketch แลว จะสังเกตไดวา เสนตารางที่อยูในโหมดของ Sketch จะหายไป เมนูของ 2D Sketch Panel จะถูกเปลี่ยนไป เปน Part Features เพื่อเขาสูโหมดของการสราง Parts) 5. คลิกเมาสปมุ ขวา เลือก Isometric View หรือกดคียลัด F6 มุมมองของรูปสี่เหลี่ยม จะถูกเปลี่ยนใหเปน มุมมองของ Isometric View

18

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

กําหนดความสูงของรูปสี่เหลี่ยม 1. คลิกที่ไอคอน Extrude ที่อยูบน Part Features จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ Extrude ขึ้นมา รูปสี่เหลี่ยมจะถูก เลือกใหเปน Profile โดยอัตโนมัติ ที่ในกรอบของ Out put ไอคอน โซลิด และไอคอน Join จะถูกเลือกดวย คุณ สามารถกําหนดลักษณะของการ Extrude ไดที่ในกรอบของ Extents ในทีน่ ี้ถูกกําหนดใหเปนแบบ Distance เพื่อกําหนดความสูงของสี่เหลี่ยมในชองถัดลงมา สวนไอคอนที่เปนรูป ลูกศรชี้ตางๆ จะแสดงทิศทางของการ Extrude วามีทศิ ทางไปดานไหน กําหนดคาความสูงเปน 25 คลิกที่แท็ป More เพื่อกําหนดมุมเอียงกับรูปสี่เหลี่ยมนี้ เทากับ -2° กด OK เพื่อยอมรับคาตางๆ ที่ไดกําหนดไป และสราง Feature ใหม

หมายเหตุ : ถาคามุมเอียงเปนบวกมุมที่ไดจะเปนมุมปาน ถามุมเอียงเปนลบจะไดเปนมุมแหลม 2. ถาตองการปรับมุมมองตางๆ ของรูป โซลิด ใหใชแถบเครื่องมือเหลานี้ 3. ลองไปที่ Browser Bar คลิกที่เครื่องหมายบวก (+) หนา Extrusion1 จะเห็นวา Sketch1 ที่ถูกใชเพื่อทํา Extrude Feature จะอยูภายใต Feature ของ Extrusion1

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

19

มนคม(Fillet) ขอบใหกับรูป โซลิด เปนการมนคมขอบ(Fillet) ใหกับรูปโซลิด โดยสามารถเลือกโหมดของการ Fillet ได 3 แบบ คือ Edge, Loop, Feature Edge = เลือกขอบทีต่ องการจะ Fillet Loop = เลือกผิวหนาที่ตองการ โดยขอบที่อยูบนผิวที่ถกู เลือกจะถูก Fillet Feature = เลือก Feature ทีต่ องการ โดยขอบที่อยูบน Feature ทีเ่ ลือกจะถูก Fillet 1. คลิกที่คาํ สัง่ Fillet หรือกดคียลัด Shift ตามดวย F จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ Fillet ขึ้นมา ที่ในกรอบของ Select mode ใหเลือกเปนแบบ Edge เพื่อเลือกขอบที่ ตองการ ในทีน่ ี้ใหเลือกไปทีข่ อบเอียงทัง้ 4 ขอบ โดยใชเมาสคลิกเลือกที่ละขอบ จากนั้นกําหนดรัศมีที่จะใหกับ ขอบทั้ง 4 ขอบ เทากับ 5 mm. ใหคลิกที่ตัวเลขที่อยูในชอง Radius ใสคารัศมีใหมลงไปเทากับ 5 ทีใ่ นชอง Edge จะแสดงจํานวนขอบที่ถกู เลือก จากนัน้ คลิกไปที่รูปดินสอ หนาชอง Edge เพื่อยอมรับคาที่ไดแกไขลงไป เมื่อคลิก แลวรูปดินสอจะเปลี่ยนเปนลูกศรชี้สีขาวแทน เพื่อใหคุณเลือกขอบที่ตอ งการตอไป 2. คุณสามารถที่จะเพิ่มคารัศมีที่แตกตางกันใหกับขอบใหม โดยใหคลิกที่ Click to add เพื่อเพิ่มคารัศมีใหเขาไป เทากับ 2 คลิกที่รูปดินสอเมือ่ กําหนดคาใหมเรียบรอยแลว จากนั้น เลือกในสวนของ Select mode เปนแบบ Loop แลวคลิกเลือกที่ผวิ หนาดานบนสุดของรูป โซลิด ในไดอะล็อกบ็อกซที่ในชอง Edge จะแสดงขอบที่ถกู เลือก ทั้งหมด 4 ขอบ คลิก OK

ขอบและผิวหนาที่ถูกเลือกจะถูก Fillet ตามคาของรัศมีที่ถูกกําหนดเขาไป ทีB่ rowser จะมีไอคอน Fillet1 เพิ่ม เขามาดวย

20

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

การแกไขสวนที่ตองการทัง้ ใน Feature และ Sketch คุณสามารถทีจ่ ะเขาไปแกไข Feature ตางๆ ได โดยใหคลิกเลือกไปที่ Feature ที่ตองการจะแกไข ตองการเขาไปแกไขความสูงของรูป โซลิด ที่อยูใน Feature1 จาก 25 ไปเปน 20 1. คลิกเมาสปมุ ขวาที่บน Feature1 ที่อยูใ น Browser Bar เลือก Edit Feature จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซของ Feature: Extrusion1 ขึ้นมา เปลี่ยนคาตัวเลขจากเดิม 25 ไปเปน 20

2. กด OK เมือ่ แกไขเรียบรอยแลว โปรแกรมจะทําการ Update รูป โซลิด ของคุณใหเทากับความสูงที่ไดแกไขไป และคุณสามารถที่จะเขาไปแกไขเปลี่ยนแปลง Sketch ไดเชนเดียวกัน ในทีน่ ี้จะเขาไปแกไขคาความยาวของ สี่เหลี่ยมจาก 45 เปน 50 1. คลิกเมาสปมุ ขวาที่บน Feature1 ที่อยูใ น Browser Bar เลือก Edit Sketch รูปสี่เหลี่ยมที่เขียนจะแสดงขึน้ มาเพื่อใหคณ ุ เลือกที่จะแกไขในสวนตาง

2. ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลขบอกขนาด 45 จะมีไดอะล็อกบ็อกซของ Edit Dimension ขึ้นมา พิมพคาตัวเลขใหมลงไป เทากับ 50 คลิกเครื่องหมายถูกที่อยูดานขาง เพื่อยอมรับคาที่แกไขไปรูปสี่เหลี่ยมของคุณจะถูกแกไขความยาว ตามคาทีป่ อนเขาไป

3. คลิกเมาสขวาเลือก Finish Sketch เพื่อจบขั้นตอนการแกไข โปรแกรมจะทําการ Update รูป โซลิด ของคุณ บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

21

ทํา Shell บนชิน้ สวน โซลิด ตอไป ตองการที่จะขุดเอาผิวเนื้อที่ดานในของรูปโซลิดนีอ้ อก โดยใหมคี วามหนาของทุกผิวเทากันตามทีก่ ําหนด และเปดผิวหนาดานลางของรูปนี้ออกดวย เพื่อทําเปนฝาครอบ 1. คลิกที่คาํ สัง่ Rotate หมุนรูปโซลิดใหเห็นผิวหนาดานลาง

2. คลิกที่คาํ สัง่ Shell ที่อยูบน Part Feature ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ Shell ขึ้นมา ในชองของ Thickness ใสคา ของความหนาทุกผิวเทากับ 1.5 และมี Option ใหเลือก 3 แบบ คือ Inside = ขุดเอาผิวเนือ้ ที่อยูดานในออก โดยกําหนดใหทุกผิวมีความหนาเทากัน Outside = เพิ่มความหนาออกไปทุกดานเทากัน Both = เพิ่มความหนาออกไปทั้ง 2 ดานเทาๆกนั หรือคุณสามารถเลือกกําหนดใหผิวดานอืน่ มีความหนาเพิ่มหรือนอยลงกวาผิวดานอืน่ ไดเชนกัน โดยใหคลิกที่ไอ คอน ที่อยูดานลาง เลือกใสคา ความหนาใหมในชองของ Thickness แลวคลิกที่รูปดินสอ เพื่อไปเลือกผิวดานที่ ตองการใหมีความหนาตางจากผิวอืน่ 3. เลือก Option ใหเปนแบบ Inside และใชเมาสคลิกทีป่ ุม Remove Face เพื่อเลือกในสวนที่ตองการจะเปด ผิวหนาออก โดยใหเลือกที่ผวิ หนาดานลางที่หมุนขึ้นมา ผิวที่ถกู เลือกจะแสดงเปนสีฟา

22

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

4. คลิกปุม OK เพื่อยอมรับคาที่ไดกําหนดเขาไป คุณสามารถหมุนดูรูปโซลิดในทุกๆดานได โดยใชคําสั่ง Rotate

สราง Work Plane สราง Work Plane ขึ้นมาเพือ่ ใชในการเขียนในสวนของชองสําหรับใสสายโทรศัพทและชองสําหรับใสหัว สายโทรศัพท โดยกําหนดให Work Plane ตั้งอยูบนเสนขอบนอกสุดและตั้งฉากกับระนาบของ XY Plane 1. คลิกเมาสปมุ ขวา เลือก Isometric View หรือกดคียลัด F6 มุมมองของรูปโซลิด จะเปลี่ยนใหเปนมุมมองของ Isometric View 2. คลิกที่คําสัง่ Work Plane หรือกดคียลัด] 3. คลิกทีเ่ ครื่องหมายบวก (+)หนา Origin คลิกเลือกตําแหนงที่ตอ งการวาง Work Plane ใหเลือกที่เสนขอบนอก สุดของรูปโซลิด

ขอบที่ตองเลือก คลิกเลือกไปที่ XY Plane จะปรากฏกรอบสี่เหลี่ยมของ XY Plane ขึ้นมา จะปรากฏเสนกรอบของ Work Plane ใหมขึ้นมาเปนสีเทาจางๆ และมีไดอะล็อกบ็อกซ Angle ขึ้นมา ใหใสคา มุม ลงไป เทากับ 90 องศา และคลิกเครื่องหมายถูก (3) ทีอ่ ยูดานขางเพือ่ ยอมรับคาที่ไดปอนเขาไป จะได Work Plane ใหมอยูบ นเสนขอบที่เลือกและตั้งฉากกับระนาบ XY หรือ XY Plane ตามทีก่ ําหนด Work Plane

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

23

สราง Sketch ใหมลงบน Work Plane ใหมที่สรางขึ้นมา เพื่อใชสําหรับเขียนในสวนของชองสําหรับใสสายโทรศัพทและชองสําหรับใสหัวสายโทรศัพท 1. คลิกที่ไอคอน Sketch เมาสจะเปลี่ยนเปนรูป 2. คลิกทีบ่ น Work Plane 1 ที่อยูใน Browser Bar หรือจะคลิกเลือก Work Plane ที่อยูในสวนของรูปโซลิดก็ได เมื่อเลื่อนเมาสไปใกลกับ Work Plane แลวเสนขอบของ Work Plane จะเปนสีแดง จากนั้นใหคลิกเมาสปมุ ซาย เพื่อเลือก เลือก Work Plane

จะปรากฏเสนกรดและตารางขึ้นอยูบน Work Plane ที่ถกู เลือก แสดงวาไดเขามาอยูในโหมดของ Sketch แลว แถบเครื่องมือของ Part Feature จะถูกเปลี่ยนไปเปน 2D Sketch Panel

3. คลิกที่ไอคอน Look At เพื่อเปลี่ยนใหดานที่เปน Sketch หันหนาเขามาหาตัวคุณ คลิกเลือกไปที่ Sketch2ที่อยูใ น Browser Bar

24

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

คุณสามารถทีจ่ ะดึงเสนขอบตางๆ ที่อยูบนรูปโซลิด มาใชงานเพื่อใชเปนเสนอางอิงในการกําหนดขนาดหรือ นํามาสรางเปน Sketch ได โดยใชคําสั่ง Project Geometry 4. คลิกที่คําสัง่ Project Geometry จากนัน้ ใหคลิกเลือกไปที่เสนขอบดานบน และเสนขอบดานลางของรูปโซลิด เมื่อคลิกไดแลวจะมีเสนสีดําขึ้นมาอยูในแนวเดียวกับเสนขอบที่ถกู เลือก

เสนขอบที่เลือก

5. คลิกที่คาํ สัง่ Line หรือกดคียลัด L จากนัน้ เขียนเสนโดยเริ่มจุดกึ่งกลางของเสนดานบนที่ได Project เขามา ลากลงมาที่จดุ กึ่งกลางของเสนดานลาง (เมื่อวางเมาสไปโดนที่จุดกึ่งกลางของเสน จะมีจุดวงกลมสีเขียวแสดง ใหเห็น) คลิกเมาสปุมขวาเลือก Done เพื่อจบคําสั่ง 6. เปลี่ยนเสนที่เขียนขึ้นมาที่เปนแบบ Normal ใหเปนแบบ Construction คลิกเลือกไปทีเ่ สนดังกลาว เมื่อเสนถูกเลือกเสนจะเปลี่ยนสีเปนสีฟา จากนัน้ เลือกเมาสที่ไปแถบเครื่องมือ ดานบนที่ Normal เลือกเปลีย่ นใหเปน Construction เมื่อเสนดังกลาวถูกเลือกแลวสีของเสนจะเปลี่ยนเปนสี เหลืองออน เสน Construction

7. คลิกที่คาํ สัง่ Two point rectangle (กอนเขียนเสนอยาลืมเปลี่ยนชนิดของเสนใหเปนแบบ Normal) เขียนสี่เหลี่ยมขึ้นมาใกลๆกับเสนขอบดานบน 8. เขียนรูปสี่เหลี่ยมเล็กขึ้นมาอีกหนึง่ รูป โดยใหจุดเริ่มตนของสี่เหลีย่ มอยูบนเสนของขอบดานลาง คลิกเมาสปุมขวาเลือก Done เพื่อจบคําสั่ง

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

25

9. คลิกที่คําสัง่ General Dimension คลิกเลือกที่เสนขอบของสี่เหลี่ยมและเสนที่ถูกกําหนดใหเปน Construction เพื่อกําหนดขนาดใหกับรูปสี่เหลี่ยม ดานบน 10. คลิกเลือกที่เสนขอบของสี่เหลีย่ มและเสนที่ถูกกําหนดใหเปน Construction เพือ่ กําหนดขนาดใหกับรูป สี่เหลี่ยมดานดานลาง คลิกเมาสปุมขวาเลือก Done เพื่อจบคําสั่ง

11. เมื่อกําหนดขนาดใหกับรูปSketch ครบแลว คลิกเมาสปุมขวา เลือก Isometric View หรือกดคียลัด F6 มุมมองของรูปสี่เหลี่ยม จะถูกเปลี่ยนใหเปนมุมมองของ Isometric View 12. คลิกเมาสปุมขวาอีกครั้งเลือก Finish Sketch

เลือกตัดชองนีอ้ อกกอน

ตัดชองสําหรับเสียบหัวสายโทรศัพทออกกอน 1.คลิกที่คําสัง่ Extrude เมื่อเลือกใชคําสั่ง Extrude ปุม Profile ที่อยูบนไดอะล็อกบ็อกซของ Extrude จะยุบตัว ลงเพื่อใหคุณเลือก Profile ที่ตองการใชงาน โดยใชเมาสคลิกไปที่รูปสี่เหลี่ยมใหญ ดานบน เลือกทีป่ ุม Cut

26

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

ที่กรอบของ Extents เลือกลักษณะการตัดเปนแบบ From To โดยมีลกั ษณะการใชงานคือ เลือกผิวหนาแรกที่ ตองการจะตัดและเลือกผิวเหนาที่จะตัดไปถึง 2. คลิกเลือกทีผ่ ิวเอียงดานหนาที่ใกลๆ กับWork Plane เมื่อเลือกผิวแรกไดแลวใหเลือกผิวตอไป คลิกเลือกที่ผวิ นี้

3. หมุนชิน้ งานใหเห็นผิวหนาดานใน และคลิกเลือกผิวดานในถัดไป เมือ่ เลือกไดทั้ง 2 ผิวแลวจะมีลกู ศรแสดง ทิศทางในการตัดขึ้นมา คลิก OK คลิกเลือกที่ผวิ นี้

จะไดชองสําหรับเสียบหัวสายของโทรศัพท และรูป Sketch ทั้งหมดจะหายไปดวย

คุณสามารถทีจ่ ะนํา Sketch เดิมทีถ่ ูกใชงานไปแลว กลับมาใชงานไดอกี โดยใชคําสัง่ Share Sketch 1. คลิกที่เครื่องหมายบวก (+) หนา Extrude2 ที่อยูใน Browser คลิกเมาสปุมขวาที่ Sketch2 เลือก Share Sketch สวนของ Sketch2 จะปรากฏใหใชงานไดอีกครั้ง และที่ Browser ขางบน Extrude2 จะมีสญ ั ลักษณรูป มือของ Sketch2 แสดงใหเห็นดวย

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

27

2. ใชคําสั่ง Extrude อีกครั้ง เลือกที่สี่เหลี่ยมรูปเล็กที่อยูดา นลาง คลิกเลือก Cut

คลิกเลือกที่รูปสี่เหลี่ยมรูปเล็ก

เลือก From To จากกรอบของ Extents หมุนชิ้นสวนขึน้ มาตามรูป และคลิกเลือกทีผ่ ิวหนาดานใน

คลิกเลือกที่ผวิ หนาดานใน หมุนชิ้นสวนขึน้ มาตามรูป และคลิกเลือกทีผ่ ิวหนาดานนอกสุด คลิก OK คลิกเลือกที่ผวิ หนาดานนอก

จะไดชองสําหรับใสสายโทรศัพทขึ้นมาอีก 1 ชอง ซึ่งอยูต รงขามกับชองแรก

28

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

3. คลิกเมาสปมุ ขวาที่ Sketch2 เลือก Visibility เพื่อซอนไมให Sketch2 นั้นแสดงขึ้นมา 4. คลิกเมาสปมุ ขวาที่ Work Plane1 เลือก Visibility เพื่อซอนไมให Work Plane1 นั้นแสดงขึ้นมา

ลบคม(Chamfer) ขอบดานลาง มีลักษณะการใชงานอยู 3 ตัวเลือก คือ Distance = ลบคมโดยกําหนดใหมีระยะหางเทากับทัง้ 2 ขอบ Distance Angle = ลบคมโดยกําหนดระยะหางกับคามุมองศาที่ตองการ 2 Distance = ลบคมโดยกําหนดใหระยะของขอบ 2 ขอบตางกัน 1. ใชคําสั่ง Rotate หมุนเอาสวนที่ตองการลบคมหันเขามา 2. คลิกที่คาํ สัง่ Chamfer หรือกดคียลัด Shift+K เลือกการลบคมแบบ Distance พิมพคา ระยะที่ตองการลบคมที่ชองของ Distance เทากับ 1.5

เลือกที่ขอบนี้

3. คลิกเลือกทีข่ อบดานใน เลือกไดแลว คลิก OK ขอบที่ถูกเลือกจะถูกลบคมตามคาที่ไดกาํ หนดไป

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

29

มนคม(Fillet) ขอบของชองใสสายโทรศัพท 1. ใชคําสั่ง Rotate หมุนเอาสวนที่ตองการมนคมหันเขามาใหเลือกไดงาย 2. คลิกที่คาํ สัง่ Fillet กําหนดคาตางๆดังนี้ Radius = 2 Select, Mode = Edge คลิกเลือกขอบทั้ง 4 คลิก OK เลือกที่ขอบ 4 ขอบ

ขอบทั้ง 4 จะถูกมนคมดวยรัศมี 2

เขียนตัวชนที่ขอบดานใน 1. ใชคําสั่ง Rotate หมุนรูปโซลิดใหเห็นผิวที่อยูดา นใน 2. คลิกคําสัง่ Sketch เลือกลงไปที่บนผิวที่อยูดานใน คลิกเลือกที่ผวิ นี้

30

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

3. คลิกที่คาํ สัง่ Look at จากนัน้ เลือกที่ผวิ Sketch

เมื่อคลิก Look at แลว จะเห็นวา Sketch 3 ที่อยูดานในนัน้ ถูกบังอยูจ นมองไมเห็น โปรแกรม Inventor มีคําสั่งที่ ชวยแสดงในสวนของ Sketch 3 ที่ถกู บังอยูใหเห็นไดอยางจัดเจน 4. คลิกเมาสปมุ ขวาเลือก Slice Graphics สวนของ Sketch 3 ที่ถกู บังอยูจะเปดขึ้นมาใหเห็นไดอยางจัดเจน

5. ใชคาํ สั่ง Line เขียนเสนขึ้นมาโดยเริ่มทีจ่ ุดกึ่งกลางของเสนขอบดวนบน แลวลากลงมาดานลาง พอประมาณ เพื่อใชเปนเสนอางอิงสําหรับการบอกขนาด คลิกเมาสปุมขวาเลือก Done เพื่อจบคําสั่ง เขียนเสนนี้ขนึ้ มา

6. ใชคําสั่ง Line เขียนเสนตรง โดยใหจุดเริ่มตนสัมผัสกับเสนขอบดานบนใหยาวลงมาดานลางประมาณ 7 mm (เมื่อจุดเริ่มตนของเสนที่เราจะเขียนนั้นสัมผัสกับเสนขอบแลวจะปรากฏตัวชี้ ขึ้นมาใหเห็น) ใชเมาสชี้ที่จุดปลาย ของเสนที่เขียนขึ้นมา (ยังอยูในคําสัง่ เขียนเสน) จนตัวชีเ้ มาสเปลี่ยนเปนวงกลมสีเทา จากนั้นกดเมาสปุมซายมือ คางไว เลือนเมาสลงมาดานลางและคอยๆ เลื่อนเมาสไปทางขวามือ จะปรากฏสวนโคงขึน้ มา ทําการปลอยเมาส แลวลากจุดปลายของสวนโคงใหเสมอกับจุดปลายของเสนตรง (จะมีจดุ ไขปลาสีเขียวขึ้นมาเมื่อจุดดังกลาวอยูใน แนวเดียวกัน) คลิกเมาสปุมซายหนึง่ ครั้งเพื่อวางจุดปลายของสวนโคง แลวใชเมาสลากเสนตอไปจนชนเสนขอบ

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

31

7. เขียนเสนในลักษณะเดียวกัน ลงบนอีกดานหนึง่ คลิกเมาสปุมขวาเลือก Done เพื่อจบคําสั่ง

8.กําหนดขนาด โดยใชคําสั่ง General Dimension คลิกเมาสปุมขวาเลือก Done เพื่อจบคําสั่ง

9. เมื่อกําหนดขนาดใหกบั รูปSketch ครบแลว คลิกเมาสปุมขวา เลือก Isometric View หรือกดคียลัด F6 มุมมองของรูปโซลิด จะถูกเปลี่ยนใหเปนมุมมองของ Isometric View 11. คลิกเมาสปุมขวาอีกครั้งเลือก Finish Sketch สวนทีค่ ุณทํา Slice Graphics ไวจะถูกนํากลับมาตามเดิม

32

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6

12. คลิกที่คาํ สั่ง Extrude เลือกไปที่รูป Sketch ที่ไดเขียนขึ้นมา ทั้ง 2 รูป เลือก Join ในกรอบของ Extents เลือกเปน Distance กําหนดคาความหนาของรูปทั้ง 2 เทากับ .5 คลิก OK คลิกเลือกทีน่ ี่

จะไดตัวชนที่ขอบดานในตามรูปศรชี้

สราง Work plane ขึ้นมาที่กงึ่ กลางของชิน้ สวนโซลิด 1. คลิกที่คาํ สัง่ Work plane เลื่อนเมาสไปใกลบริเวณขอบนอกของที่เสียบโทรศัพทดา นบน เมื่อเมาสใกลจุดกึง่ กลางจะเห็นสัญลักษณขึ้นมา ใหคลิกเพื่อเลือก จากนัน้ ทําวิธีเดียวกันแตเลื่อนมาคลิกที่ขอบขางลางดานลางของทีเ่ สียบโทรศัพท จะปรากฏ Work plane ขึ้นมาบนจุดกึง่ กลางที่ไดทําการเลือกไป คลิกเลือกที่ 2 จุดนี้

บทที่ 3 เริ่มตนใชงาน

Work plane

33

2. ใชคําสั่ง Mirror Feature เพื่อที่จะทํา Mirror ตัวชนนี้ใหไปอยูฝงดานตรงขาม จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ Mirror Patten ขึ้นมา ปุมของ Feature จะยุบตัวลงเพื่อใหเลือก Feature ที่ตองการ Mirror ใหเลือกไปที่ Extrude4 ที่อยูใน Browser bar Feature ที่ถูกเลือกจะแสดงเปนเสนประสีแดงใหเห็น เมื่อเลือกครบแลวใหคลิกที่ปมุ Mirror Plane เลือกไปที่ Work plane ที่ไดสรางขึ้นมา กด OK

Feature ที่ถูกเลือกจะถูกคัดลอกไปอยูบนดานตรงขามตามรูป Feature ที่ถูกเลือกจะถูกคัดลอก

3. ซอน Work plane ใหคลิกเมาสขวาที่ Work plane 2 เลือก Visibility 4. บันทึกไฟล ในชื่อของ Cover Phone Up

34

Autodesk Inventor Serial

บริษัท เอ็น อาร ออโตเมชั่น ซิสเต็มส จํากัด

Tel 0-2726-7225-6