Physics I คลื่นและเสียง
1
คลื่นกล •
•
•
คลื่น เกิดขึ้นได้เมื่อ ระบบถูกรบกวนจาก ตำาแหน่ งสมดุล และ การรบกวนนั้นมีการ เดินทางหรือแผ่ไป จากบริเวณหนึ่ งของ ระบบไปยังอีกบริเวณ หนึ่ งได้ คลื่นกล คือ คลื่นที่ต้อง อาศัยตัวกลางส่งผ่าน พลังงาน (การ เคลื่อนที่ของคลื่น) คลื่นกลแบ่งตามการ
2
คลื่นในเส้นเชือก
3
คลื่นนำ้า
4
คลื่นเสียง
5
การอธิบายลักษณะของคลื่น
• ความถี่ (Frequency : f) จำานวนรอบของ การสั่นต่อหนึ่ งหน่ วยเวลา มีหน่ วยเป็ น Hertz (Hz) • 1 Hz = 1 รอบ/วินาที • •
6
การอธิบายลักษณะของคลื่น
• คาบ (Period : T) เวลาที่ตัวกลางของคลื่น สั่นครบ 1 รอบดังนั1้ น T=
f
7
การอธิบายลักษณะของคลื่น
• ความยาวคลื่น (Wavelength : )
8
การอธิบายลักษณะของคลื่น
• อัตราเร็วคลื่น หาได้จากระยะทางที่จุดใดจุด หนึ่ งบนคลื่นเคลื่อนที่ไปในช่วงเวลาหนึ่ ง
9
อัตราเร็วคลื่น
• คลื่นเคลื่อนที่ได้ระยะ ในเวลาเท่ ากับ T • ดังนั้นอัตราเร็วคลื่นหาได้จาก • s = vt • λ = vT • หรือ
λ v= = fλ T
10
อัตราเร็วคลื่น
• ปั จจัยที่กำาหนดอัตราเร็วของคลื่นคือตัวกลาง เช่น ความหนาแน่ น ความยืดหยุ่นของ ตัวกลาง ไม่ใช่ความถี่ หรือความยาวคลื่น
11
อัตราเร็วของคลื่นตามขวาง
v=
F µ
• อัตราเร็วของคลื่นตามขวางบนเชือก ขึ้นอยู่ กับแรงตึงของเชือก F และอัตราส่วน ระหว่างมวลต่อความยาวเชือก •
12
อัตราเร็วคลื่นตามยาว
v=
B ρ
• อัตราเร็วของคลื่นในของไหลขึ้นกับค่าบัลส์ มอดูลส ั และความหนาแน่ นของตัวกลาง
13
การอธิบายลักษณะของคลื่น
• แอมพลิจูด (Amplitude : A)
การกระจัดสูงสุด ของการสั่นของ ตัวกลาง • การเขียนกราฟคลื่น สามารถเขียนได้ 2 แบบคือ
– การกระจัดของ ตัวกลาง (y) กับ
ตำาแหน่ งของ
14
คณิตศาสตร์ของคลื่น 2π y ( x, 0 ) = A sin λ ให้คลื่นเคลื่อนที่ไปทาง อัตราเร็ว
v
x
+x
ด้วย
2π y ( x, t ) = A sin ( x − vt ) λ แต่ถ้าคลื่นเคลื่อนที่ไปทาง อัตราเร็ว
v
-x
ด้วย
2π y ( x, t ) = A sin ( x + vt ) λ
15
คณิตศาสตร์ของคลื่น
• • • • • • • •
คลื่นเคลื่อนที่ได้ระยะทาง ใช้ เวลา T λ v= T
จะได้
x t y ( x, t ) = A sin 2π − λ T
กำาหนดให้เลขคลื่น k = 2π λ 2 π และ ω = T y ( x, t ) = A sin ( kx − ωt ) เขียนเป็ นสมการคลื่น
y ( x, t ) = A sin ( kx + ωt )
16
ยะ
yo
เท่ากับ
3 m m
และระยะ
AE
ก) อัมพลิจูดของคลื่นเท่ากับระยะ ข) จากรูประยะ
AE
ค) อัตราเร็วคลื่น
เป็ น
2
เท่ากับ
4 0 cm
จงหาค่าปริมาณต่อ
y0 = 3 mm
ดังนั้น
= 20 cm
v = f λ = ( 50 ) ( 0.2 ) = 10
m /s 17
ที่ 16 - 2 จากสมการของคลื่นในเส้นเชือกเป็ นดังนี้
π π y = (15cm)cos x− t 5.0cm 12 s อัมพลิจูดของคลื่น ข)
ความยาวคลื่น ค)
ก) อัมพลิจูดของคลื่นเท่ากับ ข) จาก
ค) จาก
2π k= λ
2π ω= T
คาบ ง)
อัตราเร็ว จ)
ทิศทางการเ
15 cm 2π k 2π = = 10 π 5.0 2π 2π T= = = 24 ω π 12
λ=
cm s 18
ง)
อัตราเร็ว
λ v= T 10 = = 0.42 24
cm /s
19
การสะท้อนของคลื่น
การสะท้อนของเชือก ปลายตรึง
การสะท้อนของเชือก ปลายอิสระ
20
การแทรกสอดของคลื่น
21
คลื่นนิ่ ง
(Standing Wave) ปฏิบัพ บัพ
22
โมดการสั่นของเส้นเชือก
ความยาวเชือก
L
เกิดคลื่นนิ่ ง
เกิดคลื่นนิ่ ง
2
lo o p
1
เกิดคลื่นนิ่ ง
2
23
โมดการสั่นของเส้นเชือก
• • • • • • • • •
เมื่อเกิดคลื่นนิ่ งจำานวน n loop λ L=n 2
อัตราเร็วของคลื่นในเส้นเชือกv = v nv จาก f = λ = 2 L n fn = 2L
F µ
F µ
จะได้ เมื่อ n = 1,2, 3,…
24
โมดการสั่นของเส้นเชือก
มีความถี่ f1 เรียกว่า “ฮาร์โมนิ คที่ “ความถี่หลักมูล”
มีความถี่
f2
เรียกว่า “ฮาร์โมนิ คที่
f3
เรียกว่า “ฮาร์โมนิ คที่
“โอเวอร์โทนที่
มีความถี่
“โอเวอร์โทนที่
1”
หรือ
2”
หรือ
3”
หรือ
1”
2”
25
โมดต่าง ๆ ของท่อออร์แกน
A
A
A
1.
ท่อปลายเปิ ดทั้งสองด้าน
nv fn = 2L
n = 1, 2,3,... 26
โมดต่าง ๆ ของท่อออร์แกน N
N
N
2.
ท่อปลายเปิ ดด้านเดียว
nv fn = 4L
n = 1,3,5, 7,... 27
-3
2
ลวดสายกีตาร์ขึงอยู่ระหว่างจุดตรึง
จุด ห่างกัน
ความเร็วของคลื่นในสายลวดเป็ นเท่าไร
40
เซนติเมตร เมื่อดีดให้เสียงห
nv f = 2L ดีดให้เสียงหลัก ดังนั้น
n = 1
และ
v=
L = 0.4 m
ความถี่
512 Hz
2Lf n
= 2 ( 0.4 ) ( 512 ) = 409.6
m/s
28
เสียง]
[
PHYSICS I
29
ความเข้มเสียง
• ความเข้ม (Intensity :I) คืออัตราการส่ง ผ่านพลังงานเฉลี่ยต่อหนึ่ งหน่ วยพื้นที่ ซึ่ง เท่ากับผลคูณระหว่างความดันกับ ความเร็ว p = BkA cos ( kx − ωt ) • • เมื่อ B คือค่าบัลส์มอดูลัส A คื อ อั ม พลิ จ ู ด ของคลื ่ น • k คือเลขคลืv่ น= และ ω A cos ( kx − ωt ) • 2 2 pv = ω BkA cos ( kx − ωt ) • ดังนั้น
30
ความเข้มเสียง
• • • • • • •
คิดเป็ นค่าเฉลี่ยความเข้ม 1 I = ω BkA2 2
เมื่อ ω = vk และ v = และ pmax = BkA จะได้
B ρ
2 pmax I= 2 ρB
31
ความเข้มของเสียง
• ความเข้ม (Intensity : I) มีนิยามว่า พลังงานต่อหนึ่ งหน่ วยพื้นที่ต่อหนึ่ งหน่ วย เวลา หรือ กำาลังต่อหนึ่ งE หน่ / tวยพืP้ นที่ I= = • A A • ความเข้มของคลื่นจะแปรผกผันกับกำาลังสอง ของระยะห่างจากแหล่งกำาเนิ ด
P I= 4π r 2
32
ระดับความเข้มเสียง
• ความเข้มของเสียงที่นอ ้ ยที่สุดที่หูเรา I 0 = 10−12 ยW/m สามารถได้ ินคื2อ • เพื่อความสะดวกเราจึงนิ ยมบอกเป็ นระดับ ความเข้มโดยใช้ logarithmic scale I • β = 10 log I0 • • ระดับความเข้มเสียงมีหน่ วยเป็ นเดซิเบล (dB) 33
ระดับความเข้มเสียง ความเข้มที่ทำาให้เริ่มเจ็บปวดคือ
I = 1 W/m 2 หรือที่ระดับความเข้ม
1 β = 10 log −12 = 120 dB 10
34
4 -4
เสียง ๆ หนึ่ งมีความเข้ม
3.00 x 10-8
W/m2
ระดับความเข้มเสียงนี้ ในหน่ วย
I β = 10 log I0 3.00 × 10−8 = 10 log −12 10 = 10 log ( 3 ×104 ) = 10 log ( 3) + 4 log ( 10 )
= 44.8
dB 35
dB
บีตส์
• ปรากฏการณ์แทรกสอดของคลื่นที่มีความถี่ ต่างกัน f B = f1 − f 2 • • •
36
ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์
(Doppler Effect) • ถ้าแหล่งกำาเนิ ดและ
ผู้ฟังหยุดนิ่ งจะ ได้ยน ิ เสีvยงความถี่ f = เดียวกันλ
v + vo ) ( f′=
• ผู้ฟังเคลื่อนที λ ่ เข้าหา ความถี่ท่ีผู้ฟังได้ยินจะมีค่าเพิ่มมากขึ้น
•
• แต่
ถ้าผ้ฟ ู ั งเคลื่อนที่ออกจากแหล่งกำาเนิ ดเสียง เสียงที่ได้ยินจะมีความถี่นอ ้ ยลง
• •
v + vo f′= f v งนั v=f ดั ้น v − vo f′= f v
37
ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์
(Doppler Effect) • ถ้าให้ผู้ฟังหยุดนิ่ ง
และแหล่งกำาเนิ ด คลื่นเคลื่อนที่ เข้าหาผู้ฟvั ง f′= λ′ ความยาวคลื ่น เสียงที่ได้ยินจะสั้น v−v ′ λ = ลง f s
• ถ้าเคลื่อนที่ออกจากผู้ฟัง
• ความยาวคลื่น
v ′ f = f v + v s
•
v ′ f = f v − v s
38
ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์
(Doppler Effect)
• แหล่งกำาเนิ ดเสียงและผู้ฟังเคลื่อนเข้าหากัน • v + vo f′= f v − v s • • แหล่งกำาเนิ ดเสียงและผู้ฟังเคลื่อนออกจาก กัน v − vo f′= f • v + v s • 39
500 Hz
ก)
ถ้าอัตราเร็วของเสียงในอากาศเท่ากับ
340
m/s
ความถี่ปร
ก) เมื่อผู้ฟังเคลื่อนที่เข้าหาแหล่งกำาเนิ ดเสียง
v + vo ′ f = f v 340 + 30 = ( 500 ) = 544.1 340
Hz
ข) เมื่อผ้ฟ ู ั งเคลื่อนที่ออกจากแหล่งกำาเนิ ดเสียง
340 − 30 v − vo f′= ( 500 ) = 455.9 f = 340 v
Hz 40
คลื่นกระแทก
(Shock Wave)
• คลื่นกระแทกเกิดขึน ้
เมื่อ แหล่งกำาเนิ ด คลื่นเคลื่อนที่ได้ เร็วกว่า อัตราเร็ว ของคลื่นใน ตัวกลางนั้น
41
T H E E N D O F S L ID E
42
เสียงฟ้ าร้อง
43