03/06/51
y การศึกษาการเคลื่อนทีเ่ ราอธิบายการเคลือ่ นทีแ่ บบเชิงเส้นด้วยปริมาณดังต่อไปนี้ y การกระจัด (Displacement) เป็ นปริมาณเวกเตอร์ใช้บอกตําแหน่ งของวัตถุเทียบกับจุด กําเนิด y เวลา (Time) ปรมาณตางๆ ปริมาณต่างๆ มกขนกบเวลา มักขึน้ กับเวลา เมอเวลาเปลยนไป เมือ่ เวลาเปลีย่ นไป การเคลอนทกเปลยนไป การเคลือ่ นทีก่ เ็ ปลีย่ นไป
[ บทท บทที่ 2 การเคลอนทแบบหนงมต การเคลือ่ นทีแ่ บบหนึ่งมิติ ]
y ความเร็ว (Velocity) y ความเร่ง (Acceleration)
2
ตัวอย่างที่ 2-1 ถ้าอนุภาคเคลือ่ นทีโ่ ดยเขียนเป็ นเวกเตอร์การกระจัดของ การเคลือ่ นทีไ่ ด้ดงั นี้ y การกระจัดเป็ นปริมาณเวกเตอร์บอกตําแหน่ งเมื่อเทียบกับจุดอ้างอิง มีหน่ วยเป็ น เมตร
O x1
P1
x(t ) = t 3 + 2t + 1 จงหาการกระจัดของอนุุ ภาคนี้ทเ่ี วลา 1 วินาที และ 3 วินาที
P2 Δx = x2 − x1
x2
y เมือ่ เวลา t1 รถอยูท่ แ่ี หน่ ง P1 ซึง่ มีการกระจัดเป็ น x1 และเมื่อเวลาผ่านไปจนเท่ากับ t2 รถคันนี้อยูต่ าํ แหน่ ง P2 ซึง่ มีการกระจัดเท่ากับ P2 3
4
การกระจัดของอนุภาคขึน้ กับเวลาตามสมการ
x(t ) = t 3 + 2t + 1
y ความเร็วเฉลี่ย (Average Velocity) หมายถึง อัตราการเปลีย่ นตําแหน่ งหรือ การกระจัดทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปในช่วงเวลา หนึนง่ง
ดังนัน้ การกระจัดของอนุภาคทีเ่ วลา t = 1 วินาที x(t = 1) = (1) + 2(1) + 1 = 1+ 2 +1 เมตร =4 และการกระจัดของอนุภาคทีเ่ วลา t = 3 วินาที 3
v av =
x(t = 3) = (3) + 2(3) + 1 = 27 + 6 + 1 เมตร = 34 3
5
Δx x2 − x1 = Δt t 2 − t1
y ความเร็วขณะหนึ่ ง (instantaneous velocity) คือความเร็วของวัตถุขณะ เวลาใดๆ ซึง่ หาได้จากการเปลีย่ น ตําแแหน่นงงของวั งวตถุถในช่ ใน วงเวล วงเวลาทีสสนม ่ นั ้ มากๆๆ จนเข้าสู่ศนู ย์
v = lim
Δt → 0
Δx dx = Δt dt
6
1
03/06/51
x(m) P2
x2
อัตราเร็ว (speed)
ความเร็ว (velocity)
y อัตราเร็ว คือ อัตราส่วนระหว่างระยะทางทีว่ ตั ถุ
y ความเร็ว คือ อัตราส่วนระหว่างตําแหน่งที่
เคลื่อนทีไ่ ด้กบั ช่วงเวลาทีใ่ ช้ในการเคลื่อนที่ y อัตราเร็วเป็ นปริมาณสเกลาร์
เปลีย่ นแปลงไปกับเวลาทีใ่ ช้ในการเปลีย่ น ตําแหน่ง y ความเร็วเป็ นปริมาณเวกเตอร์
Δx = x2 − x1
x1
ปุจฉา อัตราเร็วเฉลีย่ และความเร็วเฉลีย่ จาก P1 ไป P5 เท่ากันหรือไม่ ?
P1 Δt = t 2 − t1
t1
t2
P1
t(s)
P2
P4
เฉลย
P3
P5 7
ตัวอย่างที่ 2-2 จากตัวอย่างที่ 2-1 จงหาความเร็วเฉลีย่ ของอนุภาค ระหว่างเวลา t = 1 และ t = 3 วินาที และความเร็วของอนุภาคทีเ่ วลา t = 1 วินาที จาก
v av =
ความเร็วทีเ่ วลา t = 1 s เป็ นความเร็วขณะเวลาหนึ่งจึงต้องหาจาก
v = lim
Δt → 0
Δx x2 − x1 = Δt t 2 − t1
Δx dx = Δt dt
x(t ) = t 3 + 2t + 1
จากสมการการกระจัดของอนุภาค
เมือ่ื x1 คือื การกระจัดั ของอนุภาคทีเ่ี วลา t = 1 s และ x2 คือื การกระจัดั ของ อนุภาคทีเ่ วลา t = 3 s (ซึง่ ได้จากตัวอย่างที่ 2-1) ดังนัน้
8
จะได้
Δx 34 − 4 30 = = vav = 3 −1 2 Δt = 15 เมตร/วินาที
v=
(
)
dx d 3 = t + 2t + 1 = 2t 2 + 2 dt dt
ดังนัน้ ความเร็วของอนุภาคทีเ่ วลา t = 1 s คือ
v(t = 1) = 2(1) + 2 = 4 2
9
y ความเร่งเฉลีย่ (average acceleration) คืออัตราการเปลีย่ นแปลงความเร็วใน ช่วงเวลาหนึ่ง
Δv v2 − v1 aav = = Δt t 2 − t1
a = lim
Δt → 0
10
v(m/s)
y ความเร่งขณะหนี ขณะหนี่ง (instantaneous acceleration) คือการเปลีย่ นแปลง ความเร็วทีข่ ณะเวลาใด ๆ หรือในช่วง เวลาสัสนๆ เวล น้ ๆ จนเข้ จนเ าสูส่ศนนย์ ู
เมตร/วินาที
P2
v2
Δv = v2 − v1
Δv dv d x = = Δt dt dt 2 2
v1
P1 Δt = t 2 − t1
t1
11
t2
t(s)
12
2
03/06/51
เครื่องหมายความเร็ว เครื่องหมายความเร่ ง
การเคลือ่ นที่
+
วัตถุกาํ ลังเคลื่อนที่ไปในทิศการกระจัดเป็ น + ด้วยความเร็วเป็ น + มากยิง่ ขึ้น
+
-
วตถุ วัตถกํกาลงเคลอนทไปในทศการกระจดทเปน าลังเคลื่อนที่ไปในทิศการกระจัดที่เป็ น + แต่ความเร็ วในทิศทางนั้นมีค่าลดลง
-
+
วัตถุกาํ ลังเคลื่อนที่ไปในทิศการกระจัดที่เป็ น แต่ความเร็ วของวัตถุเป็ นลบน้อยลง
-
-
วัตถุเคลื่อนที่ไปในทิศการกระจัดเป็ น - ด้วย ความเร็วที่เป็ นลบมากยิง่ ขึ้น
+
เครือ่ งหมายของความเร่ง วัตถุจะเคลือ่ นทีช่ า้ ลงเมื่อ ทิศทางของ ความเร่งตรงกันข้ามกับทิศของการ เคลือ่ื นที่ี
13
ตัวอย่างที่ 2-3 สมมติว่าความเร็วของรถยนต์ ทีเ่ วลา t ใดๆ มีค่าเป็ นไป ตามสมการ
14
(1) จากสมการ
v = 60 + 0.5t 2
aav =
Δv v2 − v1 = Δt t 2 − t1
เมือ่ v1 คือความเร็วรถยนต์ทเ่ี วลา t = 1.0 s และ v2 คือความเร็วของรถยนต์ท่ี เวลา t = 3.0 s v(t = 1.0 ) = 60 + 0.5(1.0 ) = 60.5
เมตร/วินาที
v(t = 3.0 ) = 60 + 0.5(3.0 ) = 64.5
เมตร/วินาที
2
จงหา (1) ความเร่งเฉลีย่ ของรถยนต์ในระหว่าง t1 = 1.0 s และ t2 = 3.0 s (2) ความเร่ง่ ที่ี t = 1.0 s และ t = 3.0 s
2
เฉลย
ดังนัน้
aav =
Δv 64.5 − 60.5 4.0 = = = 2.0 เมตร/วินาที2 Δt 3. 0 − 1. 0 2. 0
15
dv dt ดังนัน้ จากสมการความเร็วของรถยนต์ ความเร่งของรถยนต์ทเ่ี วลาใดๆ หาได้จาก
(2) จากนิยามความเร่งขณะหนึ่ง
16
a=
(
y การเคลือ่ นทีอ่ ย่างง่ายทีส่ ดุ คือ การเคลือ่ นทีใ่ นแนวเส้นตรงด้วยความเร่งคงตัว ในกรณี นี้ความเร็วเปลีย่ นด้วยอัตราเดียวตลอด
)
dv d a= = 60 + 0.5t 2 = 1.0t dt dt
y เราสามารถหาสมการการเคลื่อนทีส่ าํ หรับตําแหน่ ง x และความเร็ว v เมือ่ วัตถุเคลือ่ นที่ ดวยความเรงคงตวไดจากสมการความเรงเฉลย ด้วยความเร่งคงตัวได้จากสมการความเร่งเฉลีย่
ความเร่งทีเ่ วลา t = 1.0 s คือ
a (t = 1.0 ) = 1.0(1.0 ) = 1.0
v2 − v1 t 2 − t1 y ให้ t1 = 0 s และให้ t2 เป็ นเวลา t ใดๆ ให้ u เป็ นความเร็วเริม่ ต้นทีเ่ วลา t1 = 0 s และ v เป็ นเวลาขณะเวลา ใดๆ จะได้ aav =
เมตร/วินาที2
ความเร่งทีเ่ วลา t = 3.0 s คือ
a (t = 3.0 ) = 1.0(3.0 ) = 3.0
เมตร/วินาที2
a= 17
v−u t −0
v = u + at 18
3
03/06/51
y เราสามารถหาสมการสําหรับตําแหน่ ง x สําหรับวัตถุทเ่ี คลื่อนทีด่ ว้ ยความเร่งคงตัวโดย พิจารณาจากความเร็วเฉลีย่ x −x vav = 2 1 t 2 − t1
y แต่จาก
1 vav = u + at 2 y และจากนิยามของความเร็วเฉลีย่ vav = x − x0 t −0
y ให้เวลาเริม่ ต้น t = 0 วัตถุอยู่ทต่ี าํ แหน่ ง x0 จากนัน้ เมือ่ เวลาผ่านไปทีเ่ วลา t ใดๆ วัตถุ อยูท่ ต่ี าํ แหน่ ง x จะได้ x − x0 vav = t −0
y จะได้สมการ
y ความเร็วทีเ่ ปลีย่ นด้วยอัตราคงตัว ในกรณีน้ีความเร็วเฉลีย่ ในช่วงเวลาใดๆ มีคา่ เท่ากับ ค่าเฉลีย่ เลขคณิตของความเร็วทีต่ อนต้นและตอนปลายของช่วงเวลานัน้ สําหรับกรณี ช่วงเวลาตัง้ แต่ t = 0 ถึงเวลา t ใดๆ
vav =
v = u + at เมือ่ แทนลงในสมการความเร็วเฉลีย่ จะได้
1 x = x0 + ut + at 2 2
y กรณีทพ่ี จิ ารณาปญั หาทีไ่ ม่มเี วลามาเกีย่ วข้อง เราจะใช้ความสัมพันธ์ระหว่าง ตําแหน่ ง ความเร็ว และความเร่ง จากสมการ t = v − u เมือ่ แทนค่าลงในสมการการกระจัด a ด้านบนจะได้
v+u 2
v 2 = u 2 + 2a( x − x0 )
19
20
ตัวอย่างที่ 2-4 จงหาเวลาทีใ่ ช้ของรถยนต์ในการเคลือ่ นทีใ่ ห้ได้ระยะทาง 30 เมตรจากหยุดนิ่งโดยทีร่ ถคันนี้มอี ตั ราเร่ง 2.0 m/s2 y การตกอย่างอิสระ เป็ นการเคลือ่ นทีใ่ นแนวดิง่ ด้วยความเร่งคงที่
สิง่ ทีเ่ ราได้จากโจทย์คอื ระยะทางเริม่ ต้น x0 = 0 รถเริม่ เคลือ่ นจากหยุดนิ่งดังนัน้ ความเร็วเริม่ ต้น u = 0 อัตราเร่งคงที่ a = 2.0 m/s2 ระยะทางทีเ่ คลือ่ นทีไ่ ด้ x = 30 m ต้องการหาเวลา t = ? ซึง่ แทนค่าลงในสมการการเคลือ่ นทีด่ ว้ ยความเร่งคงที่
y เมือ่ เราปล่อยวัตถุให้ตกจากทีส่ งู ความเร็วของวัตถุจะเปลีย่ นแปลงด้วยอัตราคงทีค่ อื ค่า ความเร่งโน้มถ่วงของโลก (g = 9.8 m/s2) y ซงสามารถใชสมการการเคลอนทดวยความเรงคงทอธบายได ซึง่ สามารถใช้สมการการเคลือ่ นทีด่ ว้ ยความเร่งคงทีอ่ ธิบายได้
1 x = x0 + ut + at 2 2 1 30 = 0 + 0 + (2.0 )t 2 2
ดังนัน้ จะได้
t = 30 = 5.5
ปุจฉา วัตถุทม่ี มี วลมากกับวัตถุทม่ี มี วลน้อย ถ้าปล่อย ให้ตกอย่างอิสระ แบบใดตกถึงพืน้ ก่อนกัน ? เฉลย วินาที 21
ตัวอย่างที่ 2-5 โยนลูกบอลขึน้ จากพืน้ ไปในแนวดิง่ ด้วยความเร็วต้น 25 m/s จงหา 1) ต้องใช้เวลานานเท่าใดลูกบอลจึงขึน้ ไปอยู่ ณ จุดสูงสุด 2) ความสูงทีต่ าํ แหน่งสูงทีส่ ดุ เป็ นเท่าไร 3) ความเร็วของลูกบอลเมือ่ กลับมาถึงพืน้ อีกครัง้ 4) เวลาทีใ่ี ช้ใ้ นการเคลือ่ื นทีท่ี งั ้ หมด
23
22
1) เมือ่ ลูกบอลเคลือ่ นทีข่ น้ึ ทิศของความเร็วในการเคลือ่ นทีส่ วนทางกับทิศของ ความเร่ง (a = -g) ทําให้ความเร็วลดลง เมือ่ ไปถึงจุดสูงสุด ความเร็วของลูก บอลจะมีคา่ เป็ นศูนย์ ดังนัน้ ทีจ่ ุดสูงสุด v = 0 จากสมการ
v = u + at
จะได้
v = u − gt u 25 t= = = 2.55 g 9.8
วินาที
24
4
03/06/51
2) ระยะทางจากพืน้ ไปถึงจุดสูงสุดหาได้จากสมการ
y = y0 + ut −
3) เมือ่ ลูกบอลกลับมาถึงพืน้ แสดงว่าตําแหน่งเริม่ ต้นกับตําแหน่งปลายเป็ น ตําแหน่งเดียวกันดังนัน้ Δy = y - y0 = 0
1 2 gt 2
จากสมการ
กําหนดให้ตาํ แหน่งเริม่ ต้น y0 = 0
y = 0 + (25)(2.55) −
1 (9.8)(2.55)2 2
= 31.9
จะได จะได้
v 2 = u 2 − 2 g ( y − y0 )
v2 = u 2 v = ±u = 25
เมตร
เมตร/วินาที
25
26
4) เวลาทัง้ หมดทีใ่ ช้ในการเคลือ่ นทีข่ องลูกบอล 1 y − y0 = ut − gt 2 2 1 0 = ut − gt 2 2 ⎛1 ⎞ t ⎜ gt − u ⎟ = 0 ⎠ ⎝2
y การบอกตําแหน่งและความเร็วเป็ นปริมาณ
y
y
จะได้วา่ การกระจัด y - y0 มีคา่ เป็ น 0 ทีเ่ วลา t = 0 ซึง่ เป็ นเวลาเริม่ ต้น และทีเ่ วลา ลูกบอลเคลือ่ นทีจ่ นกระทัง้ กลับมาทีพ่ น้ื อีกครัง้ หนึ่งคือ 2u 2(25) t= = = 5.1 g 9.8
y
วินาที
y 27
สัมพัทธ์ เนื่องจากปริมาณเหล่านี้เป็ น ปริมาณทีข่ น้ึ กับตําแหน่งอ้างอิง จากรูป ให้ผชู้ ายทีเ่ ดินบนพืน้ เลื่อนมี ความเร็วเป็ น v สัมพัทธ์กบั พืน้ นิ่ง (วัดได้ โดยผูห้ ญิงทีย่ นื อยู่บนพืน้ นิ่ง) และผูช้ ายมีความเร็วเป็ น v’ สัมพัทธ์กบั พืน้ เลื่อน (วัดได้โดยผูห้ ญิงทีย่ นื อยู่บนพืน้ เลื่อน และให้พน้ื เลื่อนมีความเร็วเป็ น V สัมพัทธ์ กับพืน้ นิ่ง ความเร็วทัง้ สามสัมพันธ์กนั ตามสมการ
v = v′ + V 28
ตัวอย่างที่ 2-6 นักซิง่ ผูห้ นึ่งขับรถด้วยความเร็ว 65 Km⋅hr-1 บนถนนทีจ่ าํ กัด ความเร็วไว้ท่ี 40 Km⋅hr-1 จราจรเรียกให้หยุด แต่นกั ซิง่ ไม่ยอมหยุด จราจร จึงขีม่ อเตอร์ไซด์ไล่ตามด้วยความเร็ว 80 Km⋅hr-1 นักซิง่ เห็นจราจรเคลือ่ นที่ ด้วยความเร็วเท่าไร จากโจทย์ ให้ความเร็วของกรอบอ้างอิงทีเ่ คลือ่ นที่ (ความเร็วของนักซิง่ ทีส่ มั พัทธ์กบั พืน้ นิ่ง) V = 65 Km/hr ความเร็วของวัตถุทส่ี งั เกตสัมพัทธ์กบั พืน้ นิ่ง (ความเร็วของจราจร) v = 80 Km/hr ต้องการหาความเร็วของจราจรสัมพัทธ์กบั นักซิง่ (v’ = ?)
v′ = v − V = 80 − 65 = 15
Km/hr
29
30
5
03/06/51
วิ สชั นา
วิ สชั นา
การตกเมื่อไม่คดิ แรงต้านอากาศ
ไม่เท่ากันเนื่องจากความเร็วเฉลีย่ คืออัตราการเปลีย่ นตําแหน่งในช่วงเวลาหนึ่ง ดังนัน้ จากรูป ตําแหน่ง P1 และ P5 คือตําแหน่งเดียวกันดังนัน้ ความเร็วเฉลีย่ จึงเท่ากับศูนย์
P1
P2
P4
P3
จากสมการ
y = y0 + ut +
P5 แต่อตั ราเร็วเฉลีย่ คืออัตราส่วนระหว่าง ระยะทางทีว่ ตั ถุเคลือ่ นทีไ่ ด้ตอ่ ช่วงเวลา ทีใ่ ช้ในการเคลือ่ นที่ ดังนัน้ การหาอัตราเร็วเฉลีย่ จากรูปต้องวัดระยะทางในการ เคลือ่ นทีจ่ าก ตําแหน่ง P1 จนกระทัง้ กลับมายัง P5 แล้วหารด้วยเวลาทีใ่ ช้ อัตราเร็วเฉลีย่ จึงไม่เท่ากับศูนย์
การตกเมื่อคิดแรง ต้านอากาศ
1 2 gt 2
2y
เมือ่ ปล่อยวัตถุจากทีส่ งู u = 0 เวลาในการเคลือ่ นทีจ่ ะหาได้จาก t = g ซึง่ ไม่มมี วลเข้ามาเกีย่ วข้องดังนัน้ วัตถุทงั ้ สองจะตกถึงพืน้ พร้อมกัน แต่สาเหตุทเ่ี มือ่ ขนาดของวัตถุตา่ งกันแล้วทําให้ตกถึงพืน้ ไม่พร้อมกันนัน้ เนื่องมาจากผลจากแรงต้านอากาศ 2
31
32
6